Chapter 1295 ข้าต้องการให้พวกเขาประหลาดใจ
จุนซ่างเซียวปะทะกับพยัคฆ์สามครั้งที่สอง ครั้งนี้สามารถจัดการอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย.
หากไว้หน้าอีกฝ่าย เพื่อหาข้อแก้ตัว บางทีคงเป็นเพราะอีกฝ่ายบาดเจ็บ ไม่อยู่ในจุดสุดยอด ทว่า....ถึงกระนั้นก็ไม่มีค่าให้พูดถึง.
“เจ้าดำโง่!”
ยักษ์ขาวที่ตื่นตะลึง “น้องเล็กแข็งแกร่งมาก!”
ยักษ์ดำที่ขมวดคิ้วแน่น เขาที่นึกถึงจุนซ่างเซียวที่ปลดปล่อยพลัง จากนั้นก็กล่าวออกมาอย่างจริงจัง “ด้วยความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้ สามารถที่จะขึ้นสู่พิภพเบื้องบนได้อย่างแน่นอน!”
ทั้งสองที่สามารถเป็นพยานได้ว่า จุนซ่างเซียวเวลานี้มีพลังมากมายมหาศาล.
ในอดีตพวกเขาวิ่งเข้ามาพบกับอีกฝ่าย แม้นว่าอีกฝ่ายจะทรงพลังมาก ทว่ากับเป็นพลังของรูปปั้นศิลา ทว่าเวลานี้อีกฝ่ายกับมีระดับถึงสะบั้นมิติขั้นกลางแล้ว.
เป็นการเติบโตที่เร็วมาก!
“สบาย!”
จุนซ่างเซียวที่ลอยอยู่บนพิภพรกร้างที่พังทลาย มุมปากกระตุกยกยิ้มอย่างพึงพอใจ.
สามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย ทำให้เขามีความสุขเป็นอย่างมาก การจะไปจัดการป้อมปราการซิงกงดูจะไม่ยากแล้ว.
“ใจเย็น ใจเย็นก่อน.”
จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดในใจ“ยังมีอีก 11 คน จัดการได้คนเดียว และยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าป้อมปราการนั้นแข็งแกร่งเท่าใด.”
“ชนะไม่เย่อหยิ่ง แพ้ไม่ท้อถอย(การแข่งขันย่อมมีแพ้ชนะ ผู้ชนะไม่ควรถากถางผู้แพ้ ผู้แพ้ก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้.)”ระบบที่กล่าวเป่าหู “โฮสน์ควรปลอมตัวเป็นเจ้านี่เข้าไปในป้อมปราการ!”
[ 胜不骄 败不馁= ชนะไม่เย่อหยิ่ง แพ้ไม่ท้อถอย(การแข่งขันย่อมีแพ้ชนะ ผู้ชนะไม่ควรถากถางผู้แพ้ ผู้แพ้ก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ).]
“......”
จุนซ่างเซียวที่เหลือกตามองบน ก่อนที่จะโบกมือนำพยัคฆ์สามเข้าไปในหอคอยสะกดวิญญาณเทียนหยวน.
เอาชนะเขาที่ป้อมปราการซิงกงครั้งก่อนได้ อีกฝ่ายก็ถูกเคลื่อนย้ายจากไป ยังไม่ได้ดูแลกันเลย ตอนนี้.....เวลานี้ต้องดูแลสักหน่อย.
“ชอบตัดสินความผิดคนอื่นดีนัก ลองใช้ชีวิตเป็นนักโทษสิ จะรู้สึกอย่างไร.”จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดในใจ.
เขามีความคิดที่อหังการเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่ระเบิดป้อมปราการซิงกงเท่านั้น เขาที่จับแม่ทัพลาดตะเวนและเจ้าป้อม ทั้งหมดมาขังไว้ในคุกของเขา.
ดูสิว่า จะยังมีใครกล้าขัดขวางเขาอีก.
......
หอคอยคุกสะกดวิญญาณ.
คุกเก้าชั้น.
พยัคฆ์สามที่หมดสติเวลานี้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เขาที่เจ็บปวดไปทั่งร่างกาย ใบหน้าฟกช้ำดำเขียว.
ในเวลานั้น เขาที่พยุงกายลุกขึ้นอย่างยากลำบาก จ้องมองพื้นที่รอบ ๆ ที่แปลกประหลาด ก่อนเอ่ยกลับตัวเอง “ที่นี่....มันที่ใหน?”
“แปะ!”
ในเวลาต่อมา แสงสว่างที่เจิดจ้า ส่องสว่างไปทั่วบริเวณ.
จุนซ่างเซียวที่นั่งไขว่ห้าง ท่ามกลางแสงไฟที่สาดส่อง “ที่นี่คือคุกส่วนตัวของข้า.”
พยัคฆ์สามที่ระงับอาการบาดเจ็บ ตะโกนลั่นด้วยความโกรธ “คุกส่วนตัว นี่คือความผิดร้ายแรง!”
“คุกส่วนตัว?”
จุนซ่างเซียวที่วางแขนบนต้นขา ลูบไปมา เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุกนรกเก้าชั้นในป้อมปราการซิงกงไม่มีความผิดอย่างงั้นรึ?”
“คุกนรกเก้าชั้น โถงพิภพ พิภพเบื้องบนเป็นคนสร้าง มีความผิดตรงใหนกัน?”พยัคฆ์สามกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
“เป็นความจริง.”
จุนซ่างเซียวที่นำหมอนออกมาวางบนต้นขา เอ่ยออกมาว่า“เบื้องหลังของป้อมปราการคือโถงพิภพสินะ.”
ก่อนหน้านี้เขาได้รับคันศรพิพากษาของแม่ทัพคุมกฎ ยักษ์ดำและยักษ์ขาวเอ่ยว่าสิ่งนี้มาจากโถงพิภพ ตอนนี้ได้ยินคำพูดของแม่ทัพลาดตระเวนสามารถยืนยันว่านี่คือความจริงว่าพวกเขามีส่วนเชื่อมโยงกัน.
เป็นความจริง.
คุกนรกเก้าชั้นเป็นโถงพิภพเป็นคนสร้าง เป้าหมายคือการกักขังสิ่งมีชีวิตที่เป็นภัยพิบัติของปุถุชนเบื้องล่าง.
อย่างไรก็ตามกฎเกณฑ์ความผิดนั้นเป็นโถงพิภพเป็นผู้ตั้งขึ้น หลังจากนั้นก็เริ่มมีการจับกุมสิ่งมีชีวิตทั่วจักรวาลเบื้องล่าง.
กล่าวให้ถูกต้อง โถงพิภพเป็นผู้สร้างคุกเอาไว้ในพิภพเบื้องล่าง หลังจากนั้นก็ส่งเจ้าป้อมปราการที่แข็งแกร่งมาดูแล รักษากฎ.
และคนของคุกป้อมปราการซิงกง พวกเขาที่แต่งตั้งตัวเองเป็นผู้คุมกฎของทุกคนในจักรวาลเบื้องล่าง และแสดงว่าตัวเองเป็นผู้ชอบธรรมควบคุมทุกอย่างเอาไว้ในมือ.
“เจ้าหนู!”
พยัคฆ์สามที่โกรธเกรี้ยว “เจ้าได้ทำความผิดร้ายแรง จงรีบจำนนซะ อย่าได้ขัดขืน!”
“ตูมมมม---”
สิ้นเสียง หมัดของจุนซ่างเซียวที่ต่อยไปยังท้องอีกฝ่าย เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“อย่าว่าแต่กฎป้อมปราการซิงกงเลย ถึงจะเป็นโถงพิภพ พิภพเบื้องบน บิดาก็จะขยี้มันให้เละ!”
“เจ้า......”
พยัคฆ์สามที่ทรุดลงบนพื้น เอ่ย “เจ้า....โอหัง!”
กล้าบอกว่าจะขยี้กฎโถงพิภพ คำพูดนี้บ้าคลั่ง บ้าคลั่งเกินไปแล้ว!
“อ้ายยา!”
จุนซ่างเซียวตะโกนเสียงดัง “เอาไปฝึกให้ข้า!”
“ได้เลย จู่เหริน!”
อ้ายยาที่ปรากฏขึ้นด้านข้าง พร้อมกับเสียงที่มืดมน “ได้เวลาสนุกแล้ว.”
“......”
จิตสำนึกของพยัคฆ์สามที่ส่ายไปมาทันที.
“เผลี๊ยะ! เผลี๊ยะ! เผลี๊ยะ!”
“อ๊ากกกก ------”
เดิมทีก็บาดเจ็บอยู่แล้ว ภายใต้แส้กำราบวิญญาณ ในเวลานี้เขาได้แต่ร้องโอดโอยโหยหวน เสียงที่ก้องไปทั่วคุก แม้แต่ดวงตาแห่งความว่างเปล่ายังสั่นสะท้านหลบอยู่ที่มุม.
หลังจากฝึกไปหลายชั่วยาม แม่ทัพสามที่เวลานี้ถูกมัดลอยอยู่กลางอากาศ ทั่วร่างกายที่ไม่มีบาดแผล แต่กับเจ็บปวดจนถึงขีดสุด.
ภายใต้ความยุติธรม เขาที่จับกุมนักโทษมากมาย ตอนนี้กลายเป็นนักโทษซะเอง แม้แต่ถูกทรมานอย่างเจ็บสาหัส.
“พูดธุระมา.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้ามาที่นี่เพื่อสืบเรื่องที่แม่ทัพคุมกฎถูกข้าสังหารไปอย่างงั้นรึ?”
“เป็นความจริง....แท้จริงแล้วเจ้า...เป็นคนสังหาร!”ร่างกายและวิญญาณที่บาดเจ็บหนัก ทว่าแม่ทัพสามยังคงไม่ยอมจำนน.
“เฮ้อ.”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา “ข้าไม่มีความคิดที่จะหาเรื่องกับป้อมปราการซิงกง ทว่าพวกเจ้ากับส่งคนมาหาเรื่องข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่าได้โทษข้า....”เขาที่เอ่ยออกมาอย่างเย็นชา“ที่ข้าโหดเหี้ยม.”
จากนั้นเขาก็เปลี่ยนร่างเปลี่ยนสีเป็นพยัคฆ์สาม กล้ามเนื้อที่ปูดออกมา.
“เจ้า....”เห็นอีกฝ่ายปลอมตัวเป็นเขา พยัคฆ์สามก็ตระหนักได้ถึงบางอย่าง ดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นโลหิต“เจ้าต้องการ....ปลอมตัวเป็นข้า!”
จุนซ่างเซียวยักไหล่ กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องคาดเดา ยังมีอีก 11 คนที่กำลังหาข้าอยู่ ข้าว่าจะไปทักทายพวกเขาให้ประหลาดใจสักหน่อย.”
หลังจากจัดการแม่ทัพคนหนึ่งไป ทำให้เขามั่นใจเป็นอย่างมาก จึงคิดที่จะไปหาอีกฝ่ายด้วยตัวเอง จัดการไปทีละคน ๆ พร้อมกับจับมาขังในคุกกำราบวิญญาณซะ.
“......”
พยัคฆ์สามที่โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.
เขาที่เห็นอีกฝ่ายปลอมตัวเป็นเขา เหมือนทั้งรูปร่างและเสียง หากว่าพี่ใหญ่และคนอื่น ๆ ไม่ระวัง เกรงว่าคงถูกลอบโจมตีง่าย ๆ เลย.
“อ้ายยา.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ฝึกเขาให้หนัก.”
“ได้เลย จู่เหริน!”
“อย่าลืมฝึกเจ้านั่นให้เป็นชายชาตรีด้วย ข้าไม่ชอบคนแบบนั้น!”
“ได้เลย จู่เหริน!”
......
นิกายนิรันดร.
จุนซ่างเซียวที่จัดการธุรภายในนิกาย ก่อนที่จะขึ้นเรือเหาะของอีกฝ่ายมุ่งตรงสู่อวกาศที่กว้างใหญ่.
“สิบแม่ทัพ เปิ่นจั้วมาแล้ว!”