ตอนที่ 14
ตอนที่ 14
ถึงอย่างนั้นยังมีก็อบลินอีกสองตัวที่กระโดดหลบเด็กหนุ่มทั้งสองได้อย่างว่องไวพร้อมกวัดแกว่งมีดใส่ เด็กสาวสองคนที่ได้ร่ายเวทย์ด้วย
“อ๊ายยยย!?”
“มากิโนะ !? ฟุบิโอะ !?”
เด็กสาวทั้งสองกรีดร้องออกมา เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านหลังตะโกนเรียกชื่อของทั้งสอง และตั้งใจดึงความสนใจก็อบลินให้มาโจมตีในฐานะที่เขาเป็นตัวแท๊ง
“ขะ-ขอโทษด้วยค่ะ …”
“ทะ-ไม่เป็นไร …”
นักเรียนชายก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ
ผมว่าเรื่องแบบนี้ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้
นักเรียนกลุ่มนี้สู้แต่ในสถานการณ์ที่ฝ่ายตนได้เปรียบ
ถึงลูกน้องผมที่พวกนี้ได้เจอมา ก็ได้เจอจำนวนมากที่สุดก็หนูสี่ตัวนั่นแหละ
เจ้านักเรียนกลุ่มนี้ก็ยังคงเอาแต่เอาชนะศัตรูด้วยพลังของกลุ่มหรือที่เรียกว่า จำนวนก็ได้
หากอยู่ๆจะดึงพวกนั้นให้มาสู้ตัวต่อตัว แบบนี้หรือเป็นการต่อสู้ครั้งแรกที่อีกฝ่ายมีอาวุธก็ยิ่งแล้ว
พอผมตั้งใจดูไล้ฟ์สดการต่อสู้ เฝ้าสังเกตด้วยจิตใจที่สงบก็ได้เห็นขาของเด็กหนุ่มคนที่ได้รับความไว้ใจให้อยู่ในฐานะของแท๊ง กลับสั่นจนไม่อาจขยับไปเผชิญหน้ากับก็อบลินทั้งหลายได้
แถมก็อบลินเองก็มีนิสัยที่จะโจมตีใส่คนที่ดูจะเหนื่อยล้าหรืออ่อนแอมากที่สุดก่อน คนที่แข็งแกร่งด้วย
ขณะที่ผมตั้งใจวิเคราะห์การต่อสู้อย่างใจเย็น สถานการณ์ก็กลับพลิกผัน
ก็อบลินตัวที่โดยเวทย์ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้สลายไป
เด็กสาวคนหนึ่งที่ยิงเวทย์ก็ใกล้จะตาย นักเรียนคนอื่นๆก็ตื่นตระหนก
ตอนนี้สนามรบก็เริ่มวุ่นวายแล้ว
สุดท้ายก็มีนักเรียนสองคนต้องตายภายใต้คมมีดของก็อบลิน
“สุสุกิ …ทานากะ …”
“โลกนี้มันผิดปกติ ! มันผิดปกติแล้ว !!”
นักเรียนที่เหลือเก้าคนกลับไม่ดีใจกับชัยชนะ หากแต่กำลังร้องไห้ใจสลายตรงหน้ากล่องสมบัติ
“ต่อจากนี้…เรามาเปิดกล่องสมบัติเถอะ”
“…พูดถูก ”
เหล่านักเรียนเปิดกล่องสมบัติออกมา
“…ดาบเหรอ?”
“ส่งมาให้ผมดูหน่อย … ดาบเหล็กดำ ? —!? แร๊ง D!?”
นายแว่นสำรวจดาบที่อยู่ในหีบ
“มันสุดยอดขนาดนั้นเลยเหรอ ?”
“มันยิ่งกว่าสุดยอดอีก … ก็ดาบเหล็กที่บอกในเน็ตก็แค่แร๊ง E”
“หรือพูดอีกอย่างก็คือ ?”
“จากที่ผมรู้มา นี่เป็นอาวุธที่ทรงพลังมากที่สุดแล้ว !”
พวกนักเรียนต่างยินดีกันมากๆกับของที่ได้อย่างไม่คาดฝันจากหีบสมบัติ
หา อาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดเลยเหรอ …? ตามปกติแล้วต้องเป็นดาบเหล็กธรรมดาก็พอใจแล้วเหรอ ?
ผมแอบรู้สึกเสียใจกับตัวเองที่ดันโยนเหยื่อล่อที่ราคาแพงเกินไป
◆
หลังจากนั้น พวกนักเรียนก็เริ่มเถียงกันว่า สมควรจะไปต่อหรือกลับ
กลับเถอะ … แล้วไปประกาศข่าวให้คนอื่นรู้ว่า โดเมนของผมมันความยากไม่มากเท่าไหร่
ผมภาวนาไม่หยุด
ไม่มีประโยชน์หรอก หากทะเล่อทะล่าบุกเข้ามาแล้วตายกันหมดน่ะ
ผมพยายามส่งกระแสความคิดที่ว่า 『กลับไปเถอะ ! กลับไปเถอะ !』 ให้มันไปถึงพวกเขา
“ก็ในเมื่อพวกเราได้อาวุธดีๆมาแล้ว เราจะไปต่ออีกหน่อยจะเป็นไรไป ?”
การส่งจิตของผมไปไม่ถึงพวกเขา ดูเหมือนพวกกลุ่มนักเรียนตั้งใจจะมุ่งหน้าไปต่อแทน
“จะไม่เป็นอะไรแน่เหรอ ?”
“มันคงไม่มีศัตรูประหลาดๆโผล่ออกมาอีกแล้วใช่ไหม ?”
“ก็ถ้าก็อบลินหลายๆตัวโผล่มาอีกก็หนีเลย ”
“หนีเหรอ …?”
“อิกุจิคุง ไม่พอใจกับแผนเหรอ ?”
“ยิ่งกว่าไม่พอใจเสียอีก เลเวลของผมเพิ่งขึ้นเลยนะเมื่อกี้นะ
แถมเรายังมีดาบนี่แล้วใช่ไหมล่ะ ?
ตอนนี้เราสามารถเอาชนะก็อบลินหลายตัวได้สบายๆ …”
อิกุจิคุง — นักเรียนชายที่เคยเหวี่ยงไม้เบสบอลไปมาอยู่ตลอด มาตอนนี้เขาถือดาบเหล็กดำไว้กับตัวเอง
“ก็ถ้าเป็นเรื่องเลเวล ฉันก็เลเวล 2 เหมือนกันเพียงแต่ …”
หลังจากคุยกันไป พวกเขาก็พบว่า ทุกคนในกลุ่มต่างเลเวล 2
“เอาล่ะ ถ้าหากรู้สึกว่า อันตรายขึ้นมาเมื่อไหร่ก็กลับเลยนะ อิกุจิคุง โอเคไหม ?”
“เอ้อ…เข้าใจละ” (อิกุจิคุง)
สุดท้ายแล้ว พวกนักเรียนก็เดินหน้าไปต่อ
◆
ต่อจากลูกน้องชุดนั้น ก็จะเป็นระดับสูงกว่าสไลม์อย่างพวกหมาป่าและค้างคาว ที่ขวางทางพวกนักเรียน
อย่างไรก็ดี ไม่มีใครในหมู่พวกนั้นหยุดนักเรียนได้เลย
มีเหตุผลหลักๆมาจากสองอย่าง
อย่างแรกเลยก็คือ ดาบเหล็กดำนั้นแข็งแกร่งกว่าที่ผมคิดไว้เยอะมาก
ลูกน้องผมโดนฆ่าอย่างอนาถ จนผมต้องบ่นครางออกมาว่า
“อะไรมันจะเสริมพลังโจมตีกันได้ถึงขนาดนี้ฟะเนี่ย !?”
อย่างที่สองคือ การที่ผมเฉยๆไม่สั่งการ
หากพวกนั้นเผชิญกับหมาป่า 20 ตัวในทันที ก็น่าจะลดจำนวนคนในกลุ่มของพวกนั้นไปได้
แต่ …หากเจ้าพวกนั้นโดนฆ่าตายกันหมดก็ไม่มีประโยชน์เหมือนกัน
ก่อนอื่น ผมต้องหาวิธีจัดการกับดาบเหล็กดำ นายอิงุจิคุงให้ลงจากเวทีไปเสียก่อน
ผมถ่ายทอดคำสั่งให้กับก็อบลิน
พวกนักเรียนก็ยังคงเดินหน้าไปเรื่อยๆ พวกนั้นรุกมาจนถึงช่วงกลางของโดเมนผมแล้ว
พอมาถึงจุดครึ่งทาง ก็จะมีหินนับไม่ถ้วนติดตั้งไว้เหนือลานกว้าง
มีก็อบลิน 20 ตัวหลบอยู่หลังหิน โดยมีก็อบลิน 19 ตัว ถือธนูไม้ในมือ และมี ก็อบลินโกง หนึ่งตัว
ตอนที่พวกนักเรียนกำลังเหน็ดเหนื่อยอ่อนกำลังลงหลังจากรุดหน้าบุกเข้ามาต่อเนื่อง พอมาเหยียบถึงกลางทางปุ๊บ ก็มีค้างคาวนับไม่ถ้วนปล่อยคลื่นอัลตร้าโซนิกออกมา จากเพดาน , ทำร้ายสมองของพวกนักเรียน
ต่อจากนั้นฝนธนูไม้ก็ระดมยิงมาจากด้านหลังหิน
จำนวนมากมายนั้น มีเพียงดอกเดียว ดอกเดียวเท่านั้นที่ตั้งใจยิงเพื่อหมายสังหาร — ลูกธนูบ้าคลั่ง ที่ยิงออกมาโดยก็อบลินโกง นั่นเองที่ทะลวงอกของนักเรียนชายที่ชื่อ อิกุจิคุง
ลูกธนูบ้าคลั่ง(Lunatic Arrow) เป็นอาวุธแร๊ง A ชิ้นเดียวที่ผมสามารถสร้างขึ้นมาได้
หากเทียบกับการใช้ลูกธนูไม้ที่ราคา1CP จำนวน 100 อัน และลูกธนูเหล็ก ราคา 10CP จำนวน 10 อัน
ข้อมูลมันก็บอกว่า ลูกธนูบ้าคลั่งนั้นมีประสิทธิภาพเหนือกว่าอย่างมหาศาล แต่ก็แลกกับราคา 100 CP สำหรับลูกธนูดอกเดียว
“กรี๊ดดดด !?”
“อ๊ากกกก !?”
“…เอ๋ ? …ดะเดี๋ยว-…อะ-อะไร—”
เสียงกรีดร้องของนักเรียนดังลั่นในห้องที่กว้าง ส่วนอิกุจิคุงก็หลับตาลงหลังจากที่ธนูประกายนั้นปักเข้าอกเขา
“หนะ-หนีเลยยย !”
“อ๊ากกกกกกก!?”
นักเรียนทั้งหลายต่างวิ่งกลับไปยังทางที่มาพร้อมกับกรีดร้อง
“ดะ-เดี๋ยวก่อน ! แล้วอิกุจิคุงล่ะ !?”
มีเพียงเด็กสาวผู้ตื่นตระหนกเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สังเกตว่าเด็กหนุ่มคนนั้นล้มลง
“ซา-ซายามะ … เธอ หนี ปะ…ไป…ด้วย ฉันน่ะ…จะ…จบ ……แล้ว” (อิกุจิIguchi)
“ไม่นะ !?”
แล้วก็ส่งดาบให้กับนักเรียนหญิงคนนั้น … อิกุจิคุงยื่นแขนออกมาตรงหน้า
“ไป! ไปซะ !!” (อิกุจิ)
อิกุจิตะโกนพร้อมกับผลักเด็กสาว ที่ตอนนี้ร้องไห้
เด็กสาวถือดาบไว้ทั้งที่ยังเปียกด้วยน้ำตาบนหน้าโดยวิ่งกลับไปยังเส้นทางที่มา
และจำนวนนักเรียนที่เข้ามาตอนแรกมีจำนวน12 คน ก็ลดเหลือ 9 จากนั้นพวกเขาก็ออกจากโดเมนของผมไป
◆
6 ชั่วโมงต่อมา
โดเมนผมก็โดนบุกเข้ามาอีกสามครั้ง โดยกลุ่มนักเรียนกลุ่มอื่น
อย่างไรก็ดี เจ้าสามกลุ่มนั้นก็หนีไปทันทีหลังจากกำจัดสไลม์และหนูแถวๆปากทางเข้าได้แล้ว
และต่อจากนี้ก็ได้เวลา ตรวจสอบความคืบหน้าของแผนผมแล้ว การโฆษณาโดเมนของผมเป็นไปอย่างราบรื่นเลยล่ะ
ผมเปิดเน็ตดู――!?
เจอแล้วๆ ! สมแล้วที่เป็นพวกเรียจู !
หนึ่งในนักเรียนกลุ่มนั้นก็ใช้ SNS*ไปอวดว่า ได้รับอาวุธ แร๊ง D
แถมยังโอ่ด้วยว่า ขึ้นเลเวล 2 แล้ว
ในตอนที่แรกโดนล้อเลียนว่า 『 เจอคนตอแหลล่ะ lol』
แต่เนื่องจากผู้บุกรุกคนอื่น ที่หนีไปทันทีหลังจากพอใจกับการกำจัดลูกน้องแถวๆปากทางของผมแล้ว
— ก็ต่างออกไปป่าวประกาศว่า สามารถล่ามอนสเตอร์ในดันเจี้ยนของผมอย่างปลอดภัยได้จริง
ยิ่งไปกว่านั้น นักเรียนหญิงคนที่ถือดาบเหล็กดำ
,ก็ยังมาบอกเล่าเหมือนเป็นรายงานพร้อมแนบภาพประกอบ แถมยังมีช่องข่าวไปสัมภาษณ์กับเธอด้วย
ทำให้ข่าวนั้นกระจายไปแทบจะในทันที
และต่อจากนั้น 『การแจ้งเตือนผู้บุกรุก 』 ก็ยังคงร้องดัง
---
*เรียจู
คำเรียกของนักเรียนมืดมนที่ใช้เรียก พวกนักเรียนที่สดใส ร่าเริง เรียนเก่ง เป็นที่รักของเพื่อนๆ มีแฟน มีชีวิตดี๊ดีจนน่าหมั่นไส้
*SNS (Social Network Service)
เป็นคำเรียกของ โซเชี่ยลมีเดียในญี่ปุ่น