การหวนคืนของอัศวินมังกรไร้พลัง ตอนที่ 34 เวลาหนึ่งนาทีสร้างปัญหาใหญ่
ตอนที่ 34 เวลาหนึ่งนาทีสร้างปัญหาใหญ่
ณ สถานที่ีรวมตัวของนักศึกษาใหม่มหาวิทยาลัยเมืองหลวง
สถานที่ที่นักศึกษาใหม่กำลังรวมตัวกันอยู่ตอนนี้ก็คือห้องประชุมของมหาวิทยาลัยเมืองหลวง ห้องประชุมเป็นห้องที่ใหญ่มาก นักศึกษาใหม่หลายร้อยคนกำลังนั่งอยู่ในห้องประชุมและด้านหน้าของห้องประชุมก็มีเวทีขนาดใหญ่อยู่ บนเวทีมีอาจารย์สวมชุดสูทสีดำกำลังพูดเรื่องกฎของมหาวิทยาลัย
วันเปิดเรียนคือวันที่นักศึกษาจะเริ่มเรียนกันแบบจริงจัง เมื่อประชุมเสร็จแล้วก็จะไปเลือกวิชาเรียนกัน
วันนี้เลยเป็นวันที่ต้องพูดเรื่องกฎมหาวิทยาลัยเมืองหลวง
หยางตงเองก็นั่งอยู่ในห้องประชุมเช่นกัน ตอนนี้เขากำลังนั่งมองอาจารย์บนเวทีด้วยท่าทางของคนปกติ มังกรน้ำแข็งนั่งบนเก้าอี้ด้านขวาของเขา ส่วนมังกรศักดิ์สิทธิ์นั่งเก้าอี้ด้านซ้ายของเขา ไม่สิ! เรียกว่านั่งไม่ได้เพราะตอนนี้พวกมันกำลังนอนบนเก้าอี้แล้วหลับตากันอยู่
พวกมันบอกว่าพวกมันเบื่อ ห้องประชุมนี้ไม่มีอะไรสนุกเลยก็เลยนอนกัน ตอนนี้มังกรน้ำแข็งและมังกรศักดิ์สิทธิ์ลดขนาดตัวของพวกมันเหลือใหญ่แค่เท่าแมวธรรมดา
แต่หยางตงรู้สึกแตกต่างจากมังกรของเขา เพราะตอนนี้เขาเห็นนักศึกษาใหม่หลายคนกำลังแอบมองเขาอยู่ พอเขาหันไปมองก็หลบสายตาของเขา
“พวกนี้ต้องวางแผนอะไรเอาไว้แน่ๆ”
หยางตงคิดในใจ สัญชาตญาณของเขากำลังบอกว่านักศึกษาใหม่หลายคนกำลังวางแผนอะไรบางอย่าง
“หยางตงขึ้นมาบนเวที”
อาจารย์สวมชุดสูทสีดำที่ยืนอยู่บนเวทีเรียกหยางตง
หยางตงลุกขึ้นทันที เมื่อหยางตงลุกขึ้นมังกรน้ำแข็งและมังกรศักดิ์สิทธิ์ที่นอนหลับอยู่ก็ลืมตาแล้วลอยขึ้นบนอากาศ
พวกมันไม่ขยับปีกทั้งสองของพวกมันก็ลอยได้ ตอนนี้พวกมันกำลังใช้เวทย์เพื่อทำให้ร่างกายของพวกมันลอย
แปะ!!! แปะ!!! แปะ!!!
เสียงปรบมือดังขึ้นทันทีเมื่อหยางตงยืนขึ้น และในระหว่างเสียงปรบมือดังขึ้นหยางตงก็สังเกตเห็นว่านักศึกษาใหม่กลุ่มหนึ่งไม่ปรบมือ พวกนักศึกษาใหม่ที่ไม่ปรบมือคือนักศึกษาใหม่ระดับสูงเมื่อเทียบกับนักศึกษาใหม่ในห้องประชุม พวกเขาระดับอยู่ที่ระดับ 18 - 20
หยางตงเดินขึ้นเวที
“พูดได้เลยตอนนี้เวทย์ขยายเสียงทำงานอยู่”
อาจารย์สวมชุดสูทสีดำพูดกับหยางตง
“ครับ”
หยางตงพยักหน้าให้อาจารย์สวมชุดสูทสีดำ จากนั้นเขาก็มองไปทางนักศึกษาใหม่ที่นั่งอยู่ด้านหน้าของเขา แล้วก็พูดขึ้นว่า
“ย้อนกลับไปในตอนที่ดาวดวงนี้เป็นของมนุษย์ ในช่วงเวลานั้นมนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่อยู่สูงที่สุดในห่วงโซ่อาหาร ไม่ว่าจะเป็นสัตว์บกหรือสัตว์น้ำ เมื่อพวกมันเจอกับมนุษย์พวกมันก็แพ้หมด เสือมีกรงเล็บมนุษย์มีปืน ช้างตัวใหญ่มนุษย์มีปืนใหญ่ ปลาฉลามมีฟันแหลมคมมนุษย์ก็มีอาวุธฆ่ามัน มนุษย์มีอาวุธที่สามารถฆ่าสัตว์ได้ทุกชนิด สัตว์ตัวใหญ่หรือตัวเล็กมนุษย์ก็สามารถฆ่าได้ สัตว์อยู่บนฟ้าอยู่บนบกหรืออยู่ในน้ำ มนุษย์ก็สามารถฆ่าพวกมันได้หมด”
หยางตงเว้นช่วงสักพัก จากนั้นก็พูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นว่า
“แต่ว่า วันที่มนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารของดาวดวงนี้ก็มาถึง สัตว์อสูรมากมายปรากฎตัวขึ้น ปีศาจมากมายปรากฎตัวขึ้น ตอนที่พวกมันปรากฎตัวขึ้นมนุษย์ทำอะไรพวกมันไม่ได้เลย มนุษย์ต้องอยู่ในยุคมืดนานหลายปีประชากรลดลงจำนวนมาก ในช่วงเวลานั้น ทหารต้องออกไปตายทุกวันพวกเขารู้ว่าถ้าพวกเขาออกไปสู้พวกเขาต้องตาย แต่พวกเขาก็ออกไป ออกไปต่อสู้กับพวกสัตว์อสูรและปีศาจเพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์เอาไว้ แต่ในโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่ เพราะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมนุษย์ก็รวมกันเป็นหนึ่ง ไม่มีอาณาจักร ไม่มีจักรวรรดิ ไม่สนว่านับถือศาสนาอะไร มนุษย์ทั้งดาวรวมกันเป็นหนึ่งและช่วยกันสู้กับสัตว์อสูรและปีศาจ”
หยางตงเว้นช่วงอีกครั้ง แล้วเขาก็หลับตาลงและพูดว่า
“พวกเราทั้งหมดลุกขึ้นหลับตา 1 นาที เพื่อทำความเคารพบรรพบุรุษที่ต่อสู้ในยุคมืดกันเถอะ”
??? อาจารย์สวมชุดสูทสีดำ
??? อาจารย์คนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องประชุม
??? นักศึกษาใหม่ทุกคน
ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมต่างก็สงสัยว่าหยางตงกำลังพูดเรื่องอะไร ทำไมต้องพูดเรื่องยุคมืด แล้วทำไมอยู่ๆ ถึงชวนคนอื่นยืนหลับตาทำความเคารพบรรพบุรุษที่ต่อสู้ช่วงยุคมืดของมนุษย์
ปกตินักศึกษาใหม่ที่เป็นตัวแทนนักศึกษาใหม่จะพูดประมาณว่า
‘ผมดีใจมากที่ตัวเองเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเมืองหลวงแห่งนี้ได้’ พูดอะไรประมาณนี้ออกมา หรือไม่ก็พูดชมนักศึกษาใหม่คนอื่นๆ พูดชมอาจารย์ พูดชมมหาวิทยาลัยเมืองหลวง
ถึงจะยังงงๆ ว่าหยางตงพูดเรื่องนี้ทำไม อาจารย์ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมก็ยืนขึ้นแล้วหลับตาตามหยางตงพวกเขาคิดว่าสิ่งที่หยางตงพูดออกมามันก็ไม่ผิดอะไร แล้วแค่ยืนหลับตาแค่หนึ่งนาทีก็ไม่เสียหายอะไรเลย
นักศึกษาใหม่หลายคนก็ยืนขึ้นแล้วหลับตาตามหยางตง พวกเขาเห็นอาจารย์ทำพวกเขาก็ทำตาม
“เจียงจานพวกเราต้องทำตามไหม”
นักศึกษาใหม่ผู้ชายถามเจียงจาน เขาคือนักศึกษาที่ต้องการสร้างปัญหาให้หยางตง
“ไม่ต้องนี่แหละโอกาสของเรา เราไม่ยืนเราก็เท่ากับว่าเราสร้างปัญหาให้มัน พอมันลืมตาพวกเราก็ยืนพร้อมกันแล้วก็บอกว่าพวกเราไม่ยอมรับหยางตงเป็นตัวแทนนักศึกษาใหม่ แล้วก็เดินออกจากห้องประชุมทันที”
เจียงจานพูดออกมา
แผนนี้เจียงจานไม่ได้คิดเอง แต่เป็นคนตระกูลถังคิดให้ แผนที่วางเอาไว้คือในระหว่างที่หยางตงกำลังพูดพวกเขานักศึกษาที่ต้องการสร้างปัญหาให้หยางตงจะลุกขึ้นพร้อมกัน แล้วบอกว่าพวกเขาไม่ยอมรับเรื่องที่หยางตงเป็นตัวแทนนักศึกษาใหม่ แล้วเดินออกจากห้องประชุมพร้อมกัน
เมื่อครบเวลา 1 นาที หยางตงก็ลืมตาขึ้นแล้วชี้ไปทางกลุ่มของเจียงจานที่ไม่ยอมลุกขึ้น จากนั้นเขาก็พูดว่า
“อาจารย์ คนพวกนั้นไม่ลุกขึ้นเคารพบรรพบุรุษที่ตายไปในการต่อสู้ ถ้าคนอื่นรู้ว่าในมหาวิทยาลัยเมืองหลวงมีคนแบบคนพวกนั้นอยู่ พวกเราคนของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ใครจะให้เกียรติพวกเรามหาวิทยาลัยเมืองหลวง ถ้ามหาวิทยาลัยเมืองหลวงไม่ไล่พวกนั้นออกตัวผมจะออกเอง”
O_O เจียงจาน
O_O นักศึกษาใหม่ที่ต้องการสร้างปัญหาให้หยางตง
O_O อาจารย์มหาวิทยาลัยเมืองหลวง
สถานการณ์นี้ทุกคนไม่รู้ว่าตัวเองต้องพูดอะไร สถานการณ์นี้ทำให้ทุกคนตกใจ
คนที่ตกใจที่สุดก็คือเจียงจาน เขาไม่คิดว่าหยางตงจะเริ่มโจมตีเขาก่อน เขาไม่คิดว่าหยางตงจะยื่นคำขาดแบบนี้ แล้วเจียงจานก็ไม่โง่ เขารู้ดีว่ามหาวิทยาลัยเมืองหลวงจะเลือกใคร ถึงพวกเขาจะมีหลายสิบคนและเป็นคนที่ติดอันดับ 100 อันดับแรกของนักศึกษาใหม่ปีนี้
แต่ว่า เมื่อพวกเขาเทียบกับหยางตงผู้ที่สามารถควบคุมมังกรได้ มหาวิทยาลัยเมืองหลวงต้องเลือกหยางตงแน่นอนแล้วก็ไล่พวกเขาออกจากมหาวิทยาลัยเมืองหลวงแบบที่หยางตงต้องการ
“ซะ ซวยแล้ว”
เจียงจานคิดในใจ