การหวนคืนของอัศวินมังกรไร้พลัง ตอนที่ 31 สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิจำนวนมาก
ตอนที่ 31 สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิจำนวนมาก
มังกรศักดิ์สิทธิ์เข้าใกล้โครงกระดูกมังกรได้ง่ายๆ มันไม่ต้องเรียนแบบพลังเวทย์แบบหยางตงเลย
เมื่อมังกรศักดิ์สิทธิ์บินถึงข้างหน้าโครงกระดูกมังกร โครงกระดูกมังกรก็เรืองแสงสีทองออกมา แล้วแสงสีทองจากโครงกระดูกมังกรก็ลอยเข้าร่างของมังกรศักดิ์สิทธิ์ แสงสีทองจำนวนมากกำลังลอยเข้าร่างมังกรศักดิ์สิทธิ์
ระดับ 26!
ระดับ 27!
ระดับ 28!
ระดับของหยางตง ระดับของมังกรน้ำแข็ง ระดับของมังกรศักดิ์สิทธิ์ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แสงที่ออกมาจากร่างกายของโครงกระดูกมังกรกำลังทำให้พวกเขาเลื่อนระดับ
ระดับ 29!
ระดับ 30!
การเพิ่มระดับหยุดที่ระดับ 30
เมื่อการเพิ่มระดับหยุดลงแสงสีทองที่ไหลออกมาจากโครงกระดูกมังกรก็ค่อยๆ หายไป
หยางตงรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้นมาก
จากนั้น มังกรน้ำแข็งก็บินกลับไปหาหยางตงแล้วพูดว่า
“ข้าต้องการสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ พวกมันจะช่วยเพิ่มพลังอีก”
“ต้องการหมายถึงกินพวกมันเหรอ”
หยางตงถาม
“มนุษย์เรียกว่ากินแต่มังกรแบบเราเรียกว่ากลับสู่ร่างเดิม”
มังกรศักดิ์สิทธิ์ตอบ
หยางตงพยักหน้า เขาไม่ใส่ใจเรื่องคำเรียกของมังกรมากนักเพราะเขารู้ว่าคำเรียกของมังกรและมนุษย์บางอย่างก็ต่างกันโคตรๆ เช่น มนุษย์เรียกว่าตายแต่มังกรเรียกกว่าหลับใหลชั่วนิรันดร์
เมื่อรู้แล้วว่ามังกรศักดิ์สิทธิ์ต้องการอะไร หยางตงก็เริ่มออกตามหาสัตว์อสูรแสงศักดิ์สิทธิ์
1 วันผ่านไป
เมื่อกินสัตว์อสูรแสงศักดิ์สิทธิ์ไปประมาณ 100,000 ตัว ขนาดตัวของมังกรศักดิ์สิทธิ์ตอนขยายร่างเต็มที่ก็ไม่ต่างจากมังกรน้ำแข็งเลย ทว่า กินไป 100,000 ตัว แล้วระดับก็ยังไม่เพิ่มขึ้นเลย
ตอนนี้หยางตงเริ่มคิดหนักเรื่องพัฒนาระดับของตัวเองและมังกรของเขาแล้ว มีมังกรเยอะระดับของเขาก็ขึ้นยากตาม ถ้าเขาทำสัญญากับมังกร 10 ตัว 100 ตัว ระดับของเขามันจะขึ้นยากขนาดไหน แค่คิดก็รู้สึกปวดหัว
โชคดียังมีเรื่องให้เขาทดลองอยู่ ถ้าเขาทำสัญญากับมังกรที่เป็นตัวแล้วระดับของเขาเพิ่มเท่าระดับมังกรที่เป็นตัวที่เขาทำสัญญาด้วย เขาก็ไม่ต้องปวดหัวเรื่องเพิ่มระดับ ทว่า เขาคิดว่าเรื่องที่ระดับของเขาจะเพิ่มขึ้นเท่าระดับของมังกรเป็นตัวที่เขาทำสัญญาด้วยคงยากเพราะถ้าระดับเพิ่มต้องมีพลังทำให้ระดับเพิ่ม อยู่ๆ ระดับเพิ่มขึ้นคงไม่ถูก
2 วันผ่านไป
หยางตงยังพามังกรศักดิ์สิทธิ์ไล่กินพวกสัตว์อสูรแสงศักดิ์สิทธิ์ต่อไป
3 วันผ่านไป
มังกรศักดิ์สิทธิ์ก็ยังกินสัตว์อสูรแสงศักดิ์สิทธิ์ต่อไป เมื่อถึงวันที่ 3 พวกเขาไม่ต้องบินหาพวกสัตว์อสูรแสงศักดิ์สิทธิ์แล้วเพราะมังกรแสงศักดิ์สิทธิ์บอกว่ามันสามารถตรวจได้ว่าพวกสัตว์อสูรแสงศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงไหนบ้าง และวันนี้ระดับของมังกรศักดิ์สิทธิ์ก็เพิ่มเป็น 31
ระดับของหยางตงและระดับของมังกรน้ำแข็งก็เพิ่มขึ้นตามเช่นกัน พวกเขาระดับ 31 แล้ว
…
…
….
30 วันผ่านไป
มังกรศักดิ์สิทธิ์กินพวกสัตว์อสูรแสงศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้มันระดับ 35 แล้ว หยางตงและมังกรน้ำแข็งก็ระดับ 35 เช่นกัน และในวันนี้มังกรศักดิ์สิทธิ์ก็บอกหยางตงว่าไม่เหลือพวกสัตว์อสูรแสงศักดิ์สิทธิ์แล้ว
ใช่แล้ว! ตอนนี้สัตว์อสูรแสงศักดิ์สิทธิ์ที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในมิติลับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ไม่เหลือเลยสักตัว พวกมันถูกมังกรน้ำแข็งกินหมดแล้ว จำนวนที่มังกรน้ำแข็งกินเข้าไปมีประมาณ 100 ล้านตัว
เมื่อไม่มีสัตว์อสูรแสงศักดิ์สิทธิ์เหลือแล้วสมดุลของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็พังทลาย สัตว์อสูรจำนวนมากเริ่มขยายอาณาเขตของตัวเองและในช่วงหลายวันที่ผ่านมาก็มีสัตว์อสูรกลายเป็นสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิจำนวนมาก
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้แตกต่างจากป่ายักษ์ ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิจำนวนมากอยู่แล้ว มีเพิ่มก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะค่ายดินแดนศักดิ์สิทธิ์ถูกออกแบบโครงสร้างมาให้ต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิ
มีอาจารย์ระดับสูงๆ จำนวนมากอยู่ในค่ายดินแดนศักดิ์สิทธิ์ โดนสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิโจมตีพวกเขาก็สู้ได้
แต่ว่า ตอนนี้หยางตงไม่รู้ว่ามิติลับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในตอนนี้ ถูกจัดว่าเป็นมิติลับอันตรายสูงสุดเพราะมีสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิจำนวนมาก มนุษย์ที่ระดับต่ำกว่า 50 เข้ามิติลับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ ต้องระดับ 50 หรือมากกว่าถึงสามารถเข้าได้
ต้องรู้ด้วยว่า แนะนำให้เข้ากับกำหนดระดับต่างกันมาก
ตอนที่หยางตงเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ครั้งแรก ระดับแนะนำให้เข้าคือระดับ 50 คำว่าแนะนำคือระดับต่ำกว่าระดับ 50 ก็สามารถเข้าได้ มันก็แค่การแนะนำ แต่ตอนนี้คือการกำหนดชัดเจนถ้าระดับไม่ถึงระดับ 50 ไม่สามารถเข้าได้ และในตอนนี้มหาวิทยาลัยเมืองหลวงก็เตรียมเปิดให้คนนอกเข้ามาจัดการสัตว์อสูรที่อยู่ภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว
การที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิจำนวนมาก ก็เป็นผลดีต่อทางมหาวิทยาลัยเมืองหลวงเพราะเมื่อมีสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิจำนวนมาก มนุษย์ที่แข็งแกร่งก็อยากเข้าเพราะต้องการเพิ่มระดับของตัวเอง
เมื่อมหาวิทยาลัยเมืองหลวงเปิดให้คนนอกที่ไม่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยเมือหลวงเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ก็จะสามารถเก็บค่าเข้าได้ ค่าเข้า 1 คน 10 เหรียญทอง หรือ ค่าเข้า 1 คน 100 เหรียญทอง ก็ว่าไปตามสถานการณ์ แล้วทางมหาวิทยาลัยเมืองหลวงยังสามารถกำหนดได้อีกว่าถ้าฆ่าสัตว์อสูรแล้วคนนอกต้องแบ่งให้ทางมหาวิทยาลัยเมืองหลวงเท่าไหร่ กำหนดเป็นส่วนๆ เช่น 70:30 หรือ 60:40
แต่ตอนนี้มหาวิทยาลัยเมืองหลวงแค่เตรียมเปิดให้คนนอกเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ยังไม่ให้เข้า
ส่วนเหตุผลที่ยังไม่ให้เข้าก็เพราะหยางตงยังอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ค่าหัวของหยางตงคือ 1,000 ล้านเหรียญทอง ถ้าปล่อยให้คนนอกเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตอนที่หยางตงอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ต้องมีคนจำนวนมากพยายามฆ่าหยางตงแน่ ทางมหาวิทยาลัยเมืองหลวงเลยยังไม่ให้คนนอกเข้า
หยางตงไม่รู้ว่าตอนนี้สถานการณ์ข้างนอกดินแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นยังไง ไม่รู้ว่าตอนนี้มหาวิทยาลัยเมืองหลวงโดนกลุ่มอำนาจกดดันขนาดไหน แต่เขารู้ว่าตอนนี้ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิจำนวนมาก และที่นี่ตัวตนของมังกรศักดิ์สิทธิ์ก็เหมือนกับราชา
เมื่อสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิเจอกับมังกรศักดิ์สิทธิ์พวกมันจะเลือกหนีทันที ไม่กล้าแสดงท่าทางข่มขู่ ไม่กล้าโจมตี มังกรศักดิ์สิทธิ์ระดับน้อยกว่าพวกมันมากพวกมันก็เลือกหนี หยางตงเลยว่าแผนว่าจะลองสู้กับสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิที่พึ่งกลายเป็นสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิ เขาคิดว่าถ้ามังกรน้ำแข็งและมังกรศักดิ์สิทธิ์ช่วยกันสู้น่าจะฆ่าได้
“หยางตง”
ในระหว่างที่หยางตงกำลังจะสั่งให้มังกรของเขาบินหาสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิ เสียงคุ้นเคยก็ดังจากทางด้านหลังของเขา เสียงคุ้นเคยคือเสียงของอาจารย์ดูแลค่ายป่าศักดิ์สิทธิ์ เธอคือคนที่หยุดการพูดคุยระหว่างหยางตงและถังห่าวในตอนนั้น ตอนนี้เธอกำลังลอยเข้าหาหยางตงด้วยความเร็ว