การหวนคืนของอัศวินมังกรไร้พลัง ตอนที่ 19 ผู้อาวุโสสูงสุดเผ่าพันธุ์มนุษย์
ตอนที่ 19 ผู้อาวุโสสูงสุดเผ่าพันธุ์มนุษย์
หยางตงไม่แปลกใจว่าทำไมมีคนรู้ว่าเขามีชิ้นส่วนเห็ดบ่มเพาะธาตุสายฟ้า 2 ชิ้น เพราะพวกระดับสูงๆ สามารถตรวจได้ว่าบนตัวของเขามีอะไรอยู่บ้างหลายวิธี แล้วถ้าไม่โง่ ใครๆ ก็รู้ว่าบนตัวของหยางตงมีชิ้นส่วนเห็ดบ่มเพาะธาตุสายฟ้าอยู่เพราะเสือตัวใหญ่และช้างตัวใหญ่ไล่ตามเขา
“ผมให้เงินแทนได้ 100 ล้านเหรียญทอง พอไหม?”
หยางตงเสนอเป็นเงินแทน ถ้าให้เลือกระหว่างความแข็งแกร่งกับเงิน เขาเลือกความแข็งแกร่งเพราะถ้าแข็งแกร่งก็หาเงินง่ายๆ
“100 ล้านเหรียญทอง!?”
ผู้ชายสวมเกราะหนักสีดำรู้สึกตกใจ ต้องรู้ก่อนว่าคนที่สามารถใช้เงิน 100 ล้านเหรียญทอง ได้เลยแบบนี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนมีภูมิหลังน่ากลัว แล้วหยางตงก็มีมังกรน้ำแข็งด้วยทำให้เขารู้สึกกลัวหน่อยๆ
“ใช่!”
หยางตงพยักหน้า จากนั้นก็พูดอีกว่า
“คุณน่าจะรู้แล้วว่าสิ่งมีชีวิตที่ลอยอยู่ข้างๆ ผมก็คือมังกร มันระดับ 12 ก็มีพลังทั้งสามมากกว่ามนุษย์ระดับ 50 แล้ว การเพิ่มระดับของมันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ในอนาคตตัวผมต้องใช้เงินจำนวนมาก ผมคิดว่าราคา 100 ล้านเหรียญทอง คือราคาที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว”
“นั่น… นั่นมันก็จริง”
ผู้ชายสวมชุดเกราะหนักสีดำพูดออกมาแบบเกรงๆ เขารู้ดีว่าสิ่งที่หยางตงพูดออกมาคือคำขู่หน่อยๆ ถ้าระดับ 12 มีพลังมากกว่ามนุษย์ระดับ 50 ในอนาคตมังกรตัวนี้ระดับ 50 พลังของมันจะขนาดไหน แล้วถ้าเขาเป็นศัตรูกับคนควบคุมมังกรแค่ลองคิดเขาก็รู้สึกกลัวแล้ว
“งั้นก็ส่งเลขบัญชีมา”
หยางตงขอเลขบัญชี
“ตกลง”
ผู้ชายสวมชุดเกราะหนักสีดำพยักหน้า จากนั้นเขาก็ส่งเลขบัญชีของตัวเองให้หยางตง
การโอนเงิน 100 ล้านเหรียญทอง เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว เมื่อได้เงินแล้วผู้ชายสวมชุดเกราะสีดำก็เดินจากไป
หยางตงไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องเงิน 100 ล้านเหรียญทอง ครั้งนี้ ครั้งนี้ตัวเขาผิดจริงๆ ถ้าเขาไม่มาที่เมืองแห่งนี้สัตว์อสูรก็คงไม่มาที่เมืองแห่งนี้ เขารู้ตัวว่านี้คือความผิดของตัวเองเขาเลยยอมจ่ายเงิน 100 ล้านเหรียญทอง ให้ผู้ชายสวมชุดเกราะหนักสีดำ
เขาไม่กลัวว่าผู้ชายสวมชุดเกราะดำจะปลอมตัวเป็นคนของเจ้าเมืองด้วย เพราะที่นี่มีทหารจำนวนมาก และมีทหารหลายคนได้ยินการพูดคุยระหว่างพวกเขาทั้งสอง ถ้าผู้ชายสวมชุดเกราะหนักสีดำโกหกก็ต้องมีทหารสักคนเดินเข้ามาหยุดการพูดคุยระหว่างพวกเขา
ไม่นานนักก็ถึงคิวของหยางตง
เป้าหมายของหยางตงก็คือประตูมิติเมืองหลวง ประตูมิติตามเมืองธรรมดาพวกนี้ไม่สามารถเดินทางไปที่ประตูมิติมหาวิทยาลัยเมืองหลวงได้ เขาเลยต้องกำหนดเป้าหมายเป็นประตูมิติเมืองหลวง
….
พื้นที่ประตูมิติเมืองหลวง
เมื่อหยางตงเดินออกจากประตูมิติเมืองหลวง เขาก็เห็นตำรวจหลายร้อยคนกำลังล้อมประตูมิติเมืองหลวงเอาไว้ และตำรวจแต่ละคนก็อาวุธครบมือ ดาบ หอก โล่ ธนู พวกตำรวจเตรียมพร้อมสู้ราวกับว่ากำลังจะไปทำสงครามกับสัตว์อสูร
“สัตว์อสูรบุกเมืองหลวงเหรอ???”
หยางตงคิดระหว่างมองพวกตำรวจพร้อมรบ แต่เขารู้ดีว่าสิ่งที่เขาคิดมันไม่ถูกต้อง เมืองหลวงถูกป้องกันหลายชั้นสัตว์อสูรมาไม่ถึงเมืองหลวงเผ่าพันธุ์มนุษย์แน่นอน
“นั่นเขา”
ตำรวจผู้ชายถือดาบขนาดใหญ่ชี้มาทางหยางตงแล้วพูดออกมา
จากนั้น ตำรวจถือโล่จำนวนมากก็วิ่งออกมาด้านหน้าแล้วตั้งโล่ข้างหน้าหยางตง
“นี่มันอะไร พวกคุณกำลังทำอะไร”
หยางตงถาม เขามองไปทางตำรวจถือดาบขนาดใหญ่ที่ชี้มาทางตัวเอง
“หยางตงนายต้องไปกับพวกเรา”
ตำรวจถือดาบขนาดใหญ่พูดออกมา
“ผมทำอะไรผิด?”
หยางตงถาม
“นายจะรู้ตอนที่นายเดินทางไปกับพวกเรา ถ้ายังอยากมีชีวิตยอมไปกับพวกเราดีๆ”
ตำรวจถือดาบขนาดใหญ่พูดออกมา
“ใครอยากตายก็พาเขาไปด้วย”
ระหว่างที่หยางตงกำลังคุยกับตำรวจถือดาบใหญ่ เสียงผู้ชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นจากบนฟ้า
เมื่อหยางตงเงยหน้าขึ้นฟ้าก็เห็นผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยเมืองหลวงกำลังลอยอยู่บนฟ้า เขาคือคนที่ให้ภารกิจหยางตง ภารกิจคือทำให้ตัวเองกลายเป็นระดับ 20 ก่อน มหาวิทยาลัยเมืองหลวงเปิด
“ท่านหยินเทียนเป่า นี่คือคำสั่งของผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์มนุษย์ท่านต้องการต่อต้านคำสั่งเหรอ”
ตำรวจถือดาบขนาดใหญ่มองขึ้นฟ้าแล้วพูดออกมา
ชื่อของผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยเมืองหลวงก็คือ หยินเทียนเป่า แล้วตอนนี้เขาก็คือมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด ทว่า ไม่ใช่มนุษย์ที่มีอำนาจสูงสุด
“ฉันเองก็เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์มนุษย์เช่นกัน ถ้าคนที่ออกคำสั่งมีปัญหาก็ให้มาคุยกับฉัน”
หยินเทียนเป่าพูดออกมาอีกครั้ง
ผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็คือกลุ่มมนุษย์ที่มีอำนาจสูงสุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์ พวกเขาคือกลุ่มคนที่ควบคุมรัฐบาลกลางเผ่าพันธุ์มนุษย์ และจำนวนผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็คือ 99 คน ไม่มีมากกว่านี้ ถ้ามนุษย์คนไหนต้องการกลายเป็นผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์มนุษย์คนใหม่ต้องรอให้คนเก่าตายก่อนเท่านั้น จำนวนผู้อาวุโสเผ่าพันธฺุ์มนุษย์จะมีแค่ 99 คน
“ครับ…”
ตำรวจถือดาบขนาดใหญ่พยักหน้า จากนั้นก็พูดว่า
“กลับ ปล่อยเด็กนั่นไป”
เมื่อได้ยินคำสั่งพวกตำรวจก็ถอยห่างออกจากหยางตง เมื่อพวกตำรวจไปแล้วหยินเทียนเป่าก็ใช้พลังเวทย์ของตัวเองยกร่างของหยางตงเข้าหาตัวเอง จากนั้นเขาก็พูดว่า
“ระหว่างที่พวกเราลอยกลับไปที่มหาวิทยาลัยเมืองหลวง ฉันจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง”
“ครับ”
หยางตงพยักหน้า เขาก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ระหว่างที่หยินเทียนเป่า หยางตง และมังกรน้ำแข็ง กำลังบินกลับไปที่มหาวิทยาลัยเมืองหลวง หยินเทียนเป่าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้หยางตงฟัง
เมื่อได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นหยางตงก็เข้าใจเรื่องทั้งหมด เข้าใจว่าทำไมพวกตำรวจถึงกล้าจับตัวเองแบบไม่พูดว่าเขาทำผิดอะไร
เรื่องที่เกิดขึ้นก็คือ หลานชายของผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์มนุษย์คนหนึ่งตายไปในการต่อสู้ค่ายป่ายักษ์ ผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์มนุษย์คนนั้นโกรธมากเลยออกคำสั่งให้จับคนที่อยู่ในค่ายป่ายักษ์ตอนที่ค่ายป่ายักษ์โดนโจมตีทั้งหมด และให้รับโทษสูงสุด โทษสูงสุดก็คือประหารชีวิต
นักศึกษาหลายคนโดนจับไปแล้วโดนฆ่าแล้ว เมื่อหยินเทียนเป่ารู้เรื่องนี้ก็ออกตัวปกป้องนักศึกษาและอาจารย์ที่อยู่ในค่ายป่ายักษ์ตอนที่ค่ายป่ายักษ์โดนโจมตี ทว่า ถึงเขาจะแข็งแกร่งที่สุดก็ไม่ใช่คนที่มีอำนาจสูงสุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์ ถึงเขาจะออกตัวปกป้องคำสั่งจับตัวก็ยังไม่ถูกยกเลิก
“ถ้าคุยกันดีๆ ไม่รู้เรื่องก็คงต้องคุยกันด้วยกำลัง”
หยินเทียนเป่าพูดออกมาด้วยใบหน้าจริงจัง เขาไม่ได้พูดกับหยางตงเขากำลังพูดคนเดียว
…
….
…..
ไม่นานนัก หยางตง หยินเทียนเป่า และมังกรน้ำแข็ง ก็ถึงมหาวิทยาลัยเมืองหลวง
พวกเขาแยกกันทันที หยางตงและมังกรน้ำแข็งเข้าไปในมหาวิทยาลัยเมือืงหลวง
ส่วนหยินเทียนเป่าเขาบินไปทาง ‘ฐานทัพสูงสุดของรัฐบาลกลางเผ่าพันธุ์มนุษย์’
อย่างที่เขาพูดเอาไว้ถ้าพูดดีๆ ไม่รู้เรื่องก็ต้องพูดด้วยกำลัง เขาออกตัวปกป้องขนาดนี้แล้วผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์มนุษย์ยังไม่ยกเลิกคำสั่งจับตัวก็แปลว่าคุยกันดีๆ ไม่รู้เรื่องแล้ว ต้องทำให้รู้ว่า มนุษย์ที่ถูกเรียกว่ามนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์น่ากลัวขนาดไหน
ถ้าเสือไม่โหดร้าย สัตว์ตัวอื่นก็จะคิดว่าเสือป่วย