Chapter 1288 นิกายระดับหนึ่ง ศักดิสิทธิ์นิรันดร
บนเชิงเขา พื้นที่ถ่ายทอดสด เป็นสนามต่อสู้ที่มีขนาดใหญ่ รอบ ๆ มีผู้คนจากแผ่นดินใหญ่แม้แต่สามจังหวัด มารอคอยชุมนุมที่จัดโดยนิกายนิรันดรโดยกระวนกระวาย.
“มาแล้ว!”
“เจ้านิกายจุนมาแล้ว!”
ในเวลานั้น เสียงของใครบางคนที่ดังขึ้นทันที.
เหล่าผู้คนนับแสนที่ก้าวเข้ามา จิตสัมผัสของพวกเขาที่จับจ้องมอง ราวกับนักแสดงดัง คนของนิกายนิรันดรทั้งสูงและต่ำ นำมาโดยจุนซ่างเซียว.
พวกเขาที่เงยหน้ายืดอก.
เปี่ยมล้นไปด้วยความกล้าหาญ!
“สง่างามยิ่งนัก.”
บนที่นั่งซีจิงเสวียนที่เผยยิ้มออกมา.
จางซุนฟางฮัวและเหลิงซิงเย่ที่ครุ่นคิดอย่างดี ก่อนแจ้งเจ้าวังที่ปิดด่าน เกี่ยวกับงานชุมนุมยุทธ์โลก หลังจากนางได้รับข่าวก็เดินทางมาในทันที.
ไม่ได้เห็นนาน สตรีผู้นี้ยังสวมแว่นตา ดูงดงามเหมือนเมื่อก่อน พลังบ่มเพาะเองก็ยกระดับขึ้นหลายขั้นเช่นกัน.
“ซินเหยา.”
เจิ้นเต๋อจวินเอ่ยออกมาในทันที.
ซ่างกวนซินเหยาพยักหน้า ก่อนที่จะกระตุ้นค่ายกล สะท้อนให้เชื่อมกับค่ายกลสะท้อนอื่น ๆ.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
ในเวลาเดียวกัน ทั่วทวีปชิงหยุนแต่ละเมืองที่ปรากฏค่ายกลสะท้อนเชื่อมต่อกันในทันที.
ในเวลานั้นพวกเขากำลังมองเห็นจุนซ่างเซียวที่นำศิษย์เข้ามาในสถานที่ชุมนุม.
“เริ่มแล้ว!”
“ท้ายที่สุดก็เริ่ม!”
คนทั่วไป เหล่าชาวยุทธ์ที่มาเฝ้ารอก่อนเวลาตอนนี้ส่งเสียงดังอื้ออึงขึ้นแล้ว.
“กึก!”
ภายใต้สายตาของทุกคน จุนซ่างเซียวที่อยู่กลางพื้นที่ถ่ายทอดสด พร้อมกับกล่าวบนไมโครโฟน ที่เตรียมไว้ก่อนหน้า กล่าวเสียงดัง“ยินดีต้อนรับมิตรสหายจากทั่วทุกมุมโลก เข้าร่วมงามชุมนุมของนิกายนิรันดร ในชื่อชุมนุมพันธมิตรผู้ฝึกยุทธ.”
“......”
เหล่าผู้คนทั่วแผ่นดินที่มุมปากกระตุก.
คำพูดเปิดช่างดูคุ้น ๆ หรือว่ากำลังโฆษณากัน?
ตัวแทนศิษย์หนึ่งหมื่นคนที่ยืนเป็นทิวแถว จุนซ่างเซียวที่ไม่รอช้า เอ่ยกล่าวอย่างจริงจัง“ก่อนการชุมนุมพันธมิตรโลกจะเริ่ม ข้าใคร่ขอให้ทุกคนในที่นี่เป็นพยานการทดสอบ.”
“พยานอย่างงั้นรึ?”
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.
ในเวลานั้น เหล่าคนระดับสูงและศิษย์ที่กำลังเตรียมตัว.
จุนซ่างเซียวที่ยกไมโครโฟนขึ้นเอ่ยเสียงดัง “ขอให้ทุกท่านเป็นสักขีพยานในการขึ้นสู่นิกายระดับหนึ่งนิกายนิรันดรในวันนี้.”
“อะไรนะ?”
“นิกายนิรันดรยกระดับเป็นนิกายชั้นหนึ่ง?!”
“เพิ่งเป็นนิกายชั้นสองเมื่อไม่นานนี้เองไม่ใช่รึ?!”
ขณะโกวเซิ่งประกาศออกไปบนหน้าจอถ่ายทอดไปทั่วทวีปชิงหยุน ผู้คนมากมายที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต ยากจะเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้น!
ในภาพ ในเวลานี้เจ้าเมืองหานและคนอื่น ๆ ไม่ได้ประหลาดใจ ต้องไม่ลืมว่า ในความเห็นของพวกเขานั้น ความแข็งแกร่งของนิกายนิรันดรนั้นเหนือกว่านิกายชั้นหนึ่งด้วยซ้ำ.
จุนซ่างเซียวที่หันหลัง ยกมือขึ้น“ขอบคุณเจ้าเมืองเซี่ย ประมุขอ้าย เจ้าเมืองหาน นิกายเซิ่งชวน นิกายไป่เหอเซิ่ง หอเทพสังหาร นิกายโม่ซาและเพื่อนสหายทั้งหลาย หากไม่มีพวกท่านคอยสนับสนุนยั่วยุ คงไม่ทำให้นิกายนิรันดร เติบโตและแข็งแกร่งขึ้นเช่นนี้ได้.”
ใบหน้าของเซี่ยกวนคุนและอ้ายซ่างหนี่ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เพราะว่าพวกเขาเป็นมิตรกับนิกายนิรันดร เป็นพยานกับการเติบโตของอีกฝ่ายได้.
หอเทพสังหาร นิกายโม่ซาและอีกหลายคนที่เผยใบหน้าละอาย เพราะว่าพวกเขาและจุนซ่างเซียวที่เป็นศัตรูกัน คอยหาเรื่องนิกายนิรันดรจนทำให้อีกฝ่ายแข็งแกร่งขึ้นนั่นเอง.
“แน่นอน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ต้องขอบคุณนิกายเขาซ่างซาน ขอบคุณวังเมี่ยวฮัว ที่ยอมเป็นพันธมิตรกับนิกายนิรันดรเมื่อครั้งยังอ่อนจ้อยกระจิดริดอยู่เท่านั้น.”
ซีจิงเสวียนที่ใบหน้าแดงเล็กน้อย เพราะว่าเจ้านิกายจุนจ้องมองมายังนาง ทำให้ทุกคนจ้องมองตามเขา ทำให้นางเขินอายอย่างช่วยไม่ได้.
เจ้านิกายเขาซ่างซานที่ใบหน้าแดงเช่นกัน ทว่าไม่ได้อาย ทว่ารู้สึกกระดากใจ เพราะว่าเขาที่เป็นพันธมิตรกับนิกายนิรันดร จนถึงตอนแรกแม้นว่าจะเป็นความจริง ทว่าตอนนี้กับถูกอีกฝ่ายยกระดับ ทิ้งห่างจนไม่เห็นฝุ่น.
ใช่แล้ว.
นิกายนิรันดรในเวลานี้ นิกายระดับสี่และห้านั้น แม้แต่ระดับสอง ไม่ควรค่าให้จุนซ่างเซียวต้องกล่าวถึงด้วยซ้ำ. ทว่าก็ต้องขอบคุณจุนซ่างเซียว เพราะว่าพวกเขานั้นเป็นมิตรสหายที่ดีต่อกันนั่นเอง!
“และขอบคุณผู้มีพระคุณอีกมากมาย.”
จุนซ่างเซียวเอ่ยถึง “ที่จุนโหมวไม่ได้เอ่ยถึง.”
“จากนี้โปรดปรบมือต้อนรับเจ้าสมาคมอี้ ขึ้นมาประเมินนิกายนิรันดรเป็นนิกายระดับหนึ่ง!”
ภายในสนามชุมนุมที่กลายเป็นเงียบ ต้องไม่ลืมว่านี่ไม่ใช่งานมอบรางวัล ไม่ใช่งานคอนเสิร์ต จะต้องปรบมือไปทำบ้าอะไร!
สถานการณ์ที่ดูอักอ่วน อี้เทียนเจียนที่ก้าวขึ้นเวที ก่อนที่จะรับไมโครโฟนและเอ่ยกล่าวออกมาไม่กี่คำ “เริ่มประเมิน!”
นิกายระดับหนึ่งนั้นเงื่อนไขต่ำสุดคือมีศิษย์จำนวน 100,000 คน จากนั้น....ทว่ายังไม่ได้เอ่ยอะไร เหล่าคนระดับต่ำสูงและศิษย์ที่เก็บพลังบ่มเพาะปลดปล่อยพลังออกมาทั้งหมดทันที!
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมมมม!”
ในเวลานั้น ทั่วทั้งสนามชุมนุม ที่ปกคลุมด้วยกลิ่นอายพลัง เหล่าประมุขนิกายต่าง ๆ ที่เผยความประหลาดใจออกมา ไม่เว้นแม้แต่เก้าราชันย์ยุทธ์!
“โอ้ว สวรรค์!”
ราชันย์หลิงที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อ “หนึ่งหมื่นคน พลังบ่มเพาะขั้นต่ำอยู่ในระดับกษัตริย์ยุทธ์!”
ใช่แล้ว.
ศิษย์ทุกคนที่จุนซ่างเซียวนำมาทั้งหมดล้วนแต่มีระดับกษัตริย์ยุทธ์เป็นอย่างต่ำ.
ขณะที่กลิ่นอายของทุกคนถูกปลดปล่อย เหล่าผู้ชุมนุมพันธมิตรยุทธ์ที่ส่งเสียงอุทานดังอื้ออึง.
บนจอภาพหน้าจอสะท้อนที่กระจายไปทั่วทวีปชิงหยุน เหล่าผู้ฝึกยุทธ์สำนักนิกายต่าง ๆ แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ไร้สังกัด ไม่ง่ายเลยที่จะรวมระดับกษัตริย์ยุทธ์ครบ 10,000 คน.
หากแต่เพียงนิกายนิรันดร์นิกายเดียว กับมีมากมายเช่นนี้ ย่อมทำให้พวกเขาตื่นตะลึงไปตาม ๆ กัน!
“เกินกว่าระดับกษัตริย์ยุทธ์.”
ราชันย์จิงเอ่ย “ห้าร้อยจักรพรรดิยุทธ์ ห้าสิบครึ่งก้าวปราชญ์....”
เขาแทบไม่สามารถเอ่ยต่อไป ความแข็งแกร่งศิษย์นิกายนิรันดรนั้น ทำให้พวกเขาพูดไม่ออก.
“ฝึกฝนอย่างไร!”
“เหลื่อเชื่อ เหลื่อเชื่อเกินไปแล้ว!”
ราชันย์คนอื่น ๆ ที่มุมปากกระตุกไปมา.
ในเวลาเดียวกัน ภาพที่จับมายังเก้าราชันย์ที่ตื่นตะลึง ทำให้พวกเขาอ้าปากค้างไปตาม ๆ กัน.
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมม!”
ศิษย์นิกายนิรันดยังคงแผ่กลิ่นอายที่หนักหน่วงออกมา.
แต่ละคนที่เชิดหน้ายืนอก ดูอหังการโดดเด่นเป็นอย่างมาก.
ใบหน้าของจุนซ่างเซียวที่เผยยิ้ม.
หลายปีที่ยกระดับพัฒนามาอย่างจริงจัง ก้าวแล้วก้าวเล่าที่เดินผ่านมาจากระดับลูกเจี๊ยบ ในเวลานี้เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วหล้าต้องอุทานเสียงดัง ตะลึงกับความแข็งแกร่งของนิกายนิรันดรของข้า.
ไม่มีใครเทียบได้ แม้แต่หลังจากนี้ก็ตาม.
เพราะว่า ไม่มีทางที่จะสร้างกษัตริย์ยุทธ์ได้มากมายเช่นนี้ แม้แต่ในอดีต หากไม่เพราะระบบโกงสำหรับเขาก็ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยเช่นกัน.
อี้เทียนเจียนถือไมโครโฟน “ข้าวางแผนที่จะประเมินปรกติ ทว่าตอนนี้....”เขาหยุดและยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ดูเหมือนว่าจะไม่จำเป็นแล้ว.”
“ชั้นหนึ่ง!”
“ชั้นหนึ่ง!”
เหล่าชาวยุทธ์รอบ ๆ ที่ตะโกนดังล่าว เห็นชัดเจนว่าพวกเขาต่างก็เห็นด้วย.
“เจ้านิกายจุน.”
อี้เทียนเจียนที่นำตราประทับชั้นหนึ่งออกมา พร้อมกับส่งมอบให้เขาต่อหน้าชาวยุทธ์ทั้งแผ่นดิน พร้อมกับกล่าวอย่างจริงจัง “ยินดีกับนิกายของท่านที่ยกระดับเป็นชั้นหนึ่งแล้ว.”
“ขอบคุณ.”
จุนซ่างเซียวที่รับตราประทับมา.
“ชั้นหนึ่งแล้ว!”
“นิกายนิรันดรของพวกเราขึ้นสู่ชั้นหนึ่งแล้ว!”
เหล่าศิษย์นิกายนิรันดรที่จ้องมองจอภาพ พร้อมกับตะโกนดังกึกก้อง.
“สหายผู้ล่วงลับ.”
เหล่าเหว่ยที่นั่งอยู่ศาลาดื่มชา ถือถ้วยชามือสั่น จ้องมองไปบนท้องฟ้า ดวงตาที่ชื้นด้วยน้ำตา “เรื่องที่ช่วยเจ้าไม่สำเร็จ ข้าช่วยคนอื่นทำสำเร็จแล้ว!”
ในเวลานั้น หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและคนอื่น ๆ ต่างก็จ้องมองเผยแววตาภาคภูมิ เพราะว่าพวกเขาที่เข้าร่วมนิกายที่เริ่มต้นจากระดับต่ำสุด ก้าวไปทีละขั้นตามเจ้านิกาย ได้พบเห็นเรื่องทุกอย่างด้วยตาของพวกเขาเอง!
“ติ๊ง!”
เสียงแจ้งเตือนที่ดังขึ้นในหู.
นิกายระดับสองบนคอนโซนระบบ เปลี่ยนเป็นระดับหนึ่งอย่างเป็นทางการ.
จุนว่างเซียวที่ก้อมหน้าลงเล็กน้อย เขาที่รู้สึกตื่นเต้นจนมองไม่ออก ลอบมีน้ำตารื้นบนขอบตา.
“โฮสน์.”
ระบบเอ่ย “ยินดีด้วยที่ทำสำเร็จ.”
คำพูดที่จริงจัง ไม่ได้กล่าวล้อ หรือบ่น แต่เป็นการยินดีจากใจ.
“ฟู่!”
จุนซ่างเซียวที่พ่นลมหายใจยาว ก่อนที่จะรับไมโครโฟนมา พร้อมกับกล่าวเสียงดัง“งานชุมนุมพันธมิตรยุทธ์โลกเริ่ม นิกายนิรันดรของข้าจะของเป็นผู้นำของทุกคน ข้าจุนซ่างเซียวของเสนอตัวเป็นผู้นำพันธมิตร มีใครยอมรับหรือโต้แย้ง!”