Chapter 1266 ศิษย์น้อง พวกเรามาแล้ว
จังหวัดหนานไห่ถู.
ราชาสัตว์จื่อหลินที่ยังคงสวมเสื้อผ้า ยืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง ร่างกายที่แผ่กลิ่นอายที่ดูแคลนโลกหล้า.
นี่คือคุนแปลงเต๋าที่กล้าขโมยไข่มังกรและหนีลงมายังพิภพเบื้องล่าง แม้นว่าจะไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุด ทว่ากลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้นน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.
ที่ด้านหน้าของเขา
เป็นกลุ่มของชายชราเจ็ดคนที่สวมชุดเหมือนกัน.
พวกเขาคือไท่จางเหล่าของตำหนักเจ็ดดารา ความแข็งแกร่งระดับปราชญ์ยุทธ์ทั้งหมด.
สำหรับตำหนักเจ็ดดารานั้น ถือว่าเป็นนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดในจังหวัดหนานไห่ถูก สถานะเทียบเท่ากับนิกายไท่เสวียนเซิ่งทวีปหลักทีเดียว.
“คนเดียว? หรือจะเข้ามาทั้งหมด?”ราชาสัตว์จื่อหลินที่กล่าวอย่างภาคภูมิ ให้เข้ามาทั้งหมดแน่นอนว่าเขามีความแข็งแกร่งเพียงพอนั่นเอง.
ไท่จางเหล่าทั้งเจ็ดที่ใบหน้าบิดเบี้ยวมืดครึ้ม.
พวกเขาที่เก็บตัวบำเพ็ญมาเป็นเวลานาน ไม่คิดจะสนใจธุระของปุถุชน.
ทว่าก่อนหน้านี้กับปรากฏกลุ่มคนเหล่านี้ ที่กำลังทำลายนิกายของพวกเขา ดังนั้นจึงต้องออกมาจากการปิดด่าน.
คำพูดเหล่านั้นนับว่าโอหังเป็นอย่างมาก!
“เจ้าหนู.”
ไท่จางเหล่าคนหนึ่งเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“พวกเราตำหนักเจ็ดดาราเชี่ยวชาญด้านค่ายกลผสาน เจ้าต้องการต่อสู้กับพวกเราพร้อมกันเลยรึ?!”
“ชิ.”
ราชาสัตว์จื่อหลินเอ่ย “เข้ามาพร้อมกันให้หมด จะได้ไม่มีข้อแก้ตัว.”
“......”
ทั้งเจ็ดที่โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.
“มา เข้ามา.”
ราชาสัตว์จื่อหลินเอ่ยเรียก “เข้ามาพร้อมกันเลย.”
ไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย เพราะว่านับตั้งแต่อยู่ในทวีปชิงหยุน เขาก็ต่อสู้กับคนหมู่มากมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าร่วมนิกายนิรันดร เวลานี้เขาแข็งแกร่งขึ้นมาก.
ไม่ว่าอย่างไร.
การจะมีคนรับมือกับถางจู่จื่อได้ก็มีไม่มาก.
ยิ่งสู้ตัวต่อตัว เกรงว่าฝ่ายตรงข้ามไม่มีทางรับมือไหว.
เจ็ดไท่จางเหล่าที่ไม่เคยเห็นคนอหังการขนาดนี้ เวลานี้กำลังโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก จ้องมองกันและกัน พร้อมกับพุ่งออกไปพร้อมกัน.
แน่นอนว่าพวกเขานั้นได้ผสานค่ายกลกัน.
ถางจู่จื่อที่มุมปากยกยิ้มเหยียดหยัน แม้แต่รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก.
ก่อนหน้านี้ เขาที่ต้องปะทะกับศิษย์ที่ใช้ค่ายกลฟ้าดินสี่ลักษณ์ประลองที่นิกายนิรันดร แม้นว่าจะไม่ได้พ่ายแพ้ราบคาบ ทว่าก็มีประสบการณ์ในการรับมือค่ายกลมนุษย์เป็นอย่างมาก.
ค่ายกลผสานจะแข็งแกร่งขนาดใหนกัน?
จะแข็งแกร่งกว่าค่ายกลนิรันดรของข้าเลยรึ?
แม้นว่าถางจู่จื่อจะบอกตัวเองเสมอ ว่าตัวเองเข้าร่วมนิกายเพราะถูกจุนซ่างเซียวบังคับ แต่ภายในใจก็รู้สึกยอมรับ.....แม้แต่บอกกับตัวเองว่าเพราะไม่สามารถจากไปได้เพราะอาหารของหลิวหว่านซีต่างหากเล่า.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
เจ็ดไท่จางเหล่าที่บุกเข้ามา ล้อมรอบราชาสัตว์จื่อหลิน พร้อมกับโคจรพลังค่ายกล ก่อรูปเป็นม่านพลังผสานกันทันที.
“ฟู่ ฟู่!”
พื้นที่รอบ ๆ ที่ก่อเกิดพายุที่รุนแรง พลังวิญญาณที่ปกคลุมหนาแน่นไปทั่วอากาศ.
ราชาสัตว์จื่อหลินที่ไม่ขยับแม้แต่น้อย จนกระทั่งค่ายกลได้กักขังเขาไว้แล้ว เขาที่ถอดเสื้อผ้าออกช้า ๆ พร้อมกับนำอาวุธเทวะออกมา นวมนรกแห่งความบ้าคลั่ง สวมเข้าเข้าไป.
ด้วยความแข็งแกร่งของเขาเวลานี้ รับมือกับเจ็ดปราชญ์ยุทธ์ไม่มีปัญหา ทว่าในเมื่ออีกฝ่ายตั้งค่ายกล ก็ต้องเอาจริงหน่อย.
เจ็ดไท่จางเหล่าแทบทรุดไปเหมือนกัน.
เจ้านี่ถอดเสื้อผ้าต่อสู้ก็ยังพอทนได้ แต่สวมกางเกงแดง พร้อมถุงมือสีชมพูสดนี้ ทนไม่ไหวจริง ๆ.
พวกเขาที่เป็นยอดฝีมือทั้งเจ็ด เดิมทีเป็นคนที่เอาจริงเอาจัง เวลานี้ขุ่นข้องใจถึงกับตะโกนลั่น“เจ้าโรคจิต!”
“ตูมมมมม!”
ในเวลานั้น ราชาสัตว์จื่อหลินที่ต่อยออกไปทันที ม่านพลังที่สั่นไปมาอย่างรุนแรง.
“ใช่แล้ว.”
“ข้ามันโรคจิต.”
ถางจู่จื่อไม่ใช่มนุษย์ เขาย่อมไม่สนใจสายตาคนอื่น ๆ ดังนั้นการเผยร่างกาย แม้แต่นวมสีชมพู ย่อมไม่คิดอะไรมาก หากเป็นโกวเซิ่งที่เป็นห่วงหน้าตาคงไม่กล้าทำอย่างแน่นอน.
เจ็ดไท่จางเหล่าที่ตื่นตกใจ.
ฝ่ายตรงข้ามที่ต่อยธรรมดาทั่วไป กับทำให้ม่านพลังค่ายกลที่ร่วมมือกันของพวกเขาสั่นไปมา เอ่ยได้ว่าหมัดของอีกฝ่ายนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก!
“ทุกท่าน!”
ไท่จางเหล่าคนหนึ่งที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ลงมือ!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมม!”
“ฟู่ ฟู่ ฟู่ ฟู่!”
ในเวลานั้น ภายในม่านพลังค่ายกล ที่ส่องประกายแสงปรากฏร่างมายาที่น่าเกรงขามปรากฏขึ้น.
“เข้ามา!”
ราชาสัตว์จื่อหลินคำรามลั่น“สู้!”
เพราะว่ามีทักษะ【คำรามสะกด】ด้วยเสียงคำรามของเขา ร่างมายาหลายสิบร่างที่ชะงักงันสลายหายไปในทันที.
เจ็ดไท่จางเหล่าที่ตื่นตะลึงไปตาม ๆ กัน.
เสียงคำรามที่มีพลังป้องกัน และหมัดอันทรงพลัง!
“ตูมมมม!”
“ตูมมมม!”
“ตูมมมม!”
ภายในค่ายกล ราชาสัตว์จื่อหลินที่กำลังใช้พลังเต็มที่ ย้ายมายังอีกฝ่ายที่อยู่ไกลออกมา พื้นที่ฝุ่นควันที่คละคลุ้งไปทั่ว เกิดเป็นหลุมขึ้นหลายแห่ง.
“ตูมมม! ตูมมม! ตูมมม!”
คลื่นพลังความร้อนที่สาดซัดไปทั่วจากแรงระเบิด คลื่นพลังกวาดออกไปอย่างบ้าคลั่ง พื้นที่รอบ ๆ ที่สับสนวุ่นวายไปหมด.
เหล่ายอดฝีมือระดับจักรพรรดิยุทธ์และครึ่งก้าวปราชย์ยุทธ์ ที่ยืนอยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ เวลานี้เข้าโจมตีโรมรันกันไปทั่ว.
“ฟู่ ฟู่!”
สายลมที่โบกพัด ฝุ่นควันที่ลอยกระจายไปทั่วทุกสารทิศ แสงสีทองที่แผ่รัศมี สร้างม่านพลังปกคลุมป้องกัน.
เป็นพลังโล่ของเซียวจุ้ยจื่อนั่นเอง.
ในเวลานี้ เขาที่ยืนเด่นอหังการ.
มีเย่ซิงฉินและเหออู๋ตี้ สองคนที่กอดอกอยู่ด้านข้าง เผยแววตาดูแคลน ใบหน้ายังคงสงบ.
ผู้ฝึกยุทธ์หลายสิบคนที่เผยใบหน้างงงันไปตาม ๆ กัน.
พวกเขาทุกคนที่ร่วมมือกันโจมตีระยะไกลร่วมกัน ทว่ากับไม่สามารถผ่านม่านพลังวิญญาณของฝ่ายตรงข้ามเลย ทั้งที่พวกเขามั่นใจในพลังโจมตีของตัวเองเป็นอย่างมาก.
“ศิษย์น้องทั้งสอง.”
เซียวจุ้ยจื่อเอ่ย “ข้าจะรับมือคนเหล่านี้เอง พวกเจ้าไปช่วยอาวุโสเจียงเถอะ.”
“ไม่จำเป็น.”
เย่ซิงเฉินที่ก้าวออกไปจากโซนป้องกัน พร้อมกับนำน้ำเต้าออกมา กล่าวอย่างไม่แยแส “ขยะเหล่านี้มอบให้ข้า.”
“ตกลง ศิษย์น้อง.”
เซียวจุ้ยจื่อเอ่ย และบินออกไปกับเหออู๋ตี้ ม่านพลังป้องกันหายไป ทิ้งอาหนิวเอาไว้ด้านหลัง.
!
พวกนั้นกำลังหนี!
“บุก!”
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
ผู้ฝึกยุทธ์หลายสิบคนที่โจมตีออกไป.
“อาลัย!”
เย่ซิงเฉินที่โบกมือส่งน้ำเต้าสุราลอยออกไป พร้อมกับตะโกน“สังเวยสวรรค์!”
“ฟู่ ฟู่!”
น้ำเต้าหยกเงินที่เปล่งประกายแสง ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว ที่ปากน้ำเต้าปรากฏหลุมดำ ดูดทุกพลังโจมตีเข้าไป.
“นี่มัน....”
ชาวยุทธ์หลายสิบคนที่ตื่นตกใจขึ้นมาในทันที.
“ฟู่ ฟู่!”
ในเวลานั้น น้ำเต้ายักษ์ที่กำลังขับเคลื่อนพร้อมกับโคจรพ่นพลังโจมตีก่อนหน้านี้ออกไป!
“แย่แล้ว!”
“หลบเร็วเข้า!”
“ตูมมม! ตูมมม! ตูมมม!”
แม้นว่าชาวยุทธ์ทั้งสิบจะตอบสนองอย่างรวดเร็ว ทว่าก็ไม่มีเวลาให้หลบแล้ว พลังโจมตีของพวกเขาก่อนหน้านี้ กระแทกร่างพวกเขากระเด็นลอยออกไป.
“ขยะ.”
เย่ซิงเฉินเอ่ยออกมาเล็กน้อย.
อาวุเทวะอาลัยสังเวยสวรรค์ รูปร่างก่อนหน้านี้เป็นไหสุรา มีพลังในการสะบั้นศีรษะ เวลานี้เป็นน้ำเต้าสามารถดูดซับพลังทุกอย่าง พร้อมกับปล่อยคืนกลับไป.
“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
ในเวลาเดียวกัน เหล่ากำลังเสริมของคนของนิกายของจังหวัดหนานไห่ถูที่มาถึง จากพื้นที่ไกลออกไป และระหว่างทางไกลออกไปนับหมื่นคนที่ยังมาไม่ถึง.
ไม่รู้ว่ากลุ่มของราชันย์สัตว์จื่อหลินไปทำสิ่งใด กับมีผู้คนมากมายมหาศาลบุกมาเช่นนี้.
“บุก!”
เหล่าคนระดับสูงนิกายแห่งหนึ่งที่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ.
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
เหล่ายอดฝีมือระดับจักรพรรดิยุทธ์ของนิกายจังหวัดหนานไห่ถูมากมายที่บินเต็มท้องฟ้า เวลานี้กำลังล้อมวงเย่ซิงเฉิน.
ด้วยจำนวนที่ปรากฏนี้ ดูน่าเกรงขามไม่น้อย.
แม้นว่าเย่ซิงเฉินจะอหังการ ทว่ากับจำนวนมากขนาดนี้ก็ทำให้เขาหวาดหวั่นเช่นกัน.
“ศิษย์น้อง!”
ในเวลานั้น จากพื้นที่ไกลออกไป บนขอบฟ้า “พวกเรามาแล้ว!”
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
ศิษย์หลักนิกายนิรันดรนำมาโดยหลี่ชิงหยาง ริ้วแสงมากมายที่พุ่งตัดผ่านท้องฟ้า มืดฟ้ามัวดินทีเดียว!
“ศิษย์น้อง!”
“พวกเรามาแล้ว!”
ซูเซียวโม่ ลี่เฟย เถียนซีและคนอื่น ๆ ตะโกนดัง จนทำให้ผืนปฐพีสั่นไปมา.
เย่ซิงเฉินที่จ้องมองด้วยความตกใจ.
เมื่อพบเข้ากับอันตราย กลุ่มพวกพ้องที่มาช่วยเหลือ ความรู้สึกนี้....ที่จริงก็ไม่เลวเหมือนกัน.
ทีละน้อย ๆ.
ราชันย์รันติกาลที่ค่อย ๆ ยกยิ้มขึ้นมา.
“ฟู่ ฟู่!”
พลังที่มากล้นที่แผ่ขยายปกคลุมร่างของเขา ก่อเกิดเป็นพลังที่น่าเกรงขามที่พุ่งทะยานฟ้า เขาที่ตะโกนลั่น “ข้าไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้ว!”
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
ในเวลานั้นริ้วแสงเจ็ดสีทำลายล้างที่โจมตีออกไป ยังเหล่าศัตรูที่ลอยอยู่ทันที.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
หลี่ชิงหยาง ซูเซียวโม่และคนอื่น ๆ ที่บินมาร่อนลงที่ด้านหลังอาหนิว พร้อมกับปลดปล่อยพลัง โจมตีออกไปพร้อม ๆ กัน!