Chapter 1265 วางแผนหนีจากคุก
จุนซ่างเซียวที่ตระหนี่อย่างหนัก ศิลาวิญญาณนั้นเป็นดั่งสมบัติ.
ดังนั้น การที่เขายินดีเอาหนี้หนึ่งล้านศิลาวิญญาณกับพยัคฆ์สามมาเดิมพัน อธิบายได้ว่าเขาเอาจริง!
แม่ทัพหนึ่งที่กลายเป็นเงียบไปในทันที.
เจ้านั่นมั่นใจว่าจะทะลวงค่ายกลได้อย่างงั้นรึ?
“พี่ใหญ่!”
แม่ทัพสองเอ่ย “เดิมพันกับเขา!”
จุนซ่างเซียวที่โอหังเป็นอย่างมาก ทำให้เขาไม่พอใจจริง ๆ.
“ชิ.”
แม่ทัพสี่ที่เผยยิ้มเย็นชา“เจ้าคนโอหังนี้ ก็แค่ตัวตนล้มเหลวเท่านั้น จะไปทำอะไรได้.”
หลังจากแม่ทัพหนึ่งกำลังครุ่นคิดไปมา พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า“เจ้าสามารถพยายามทะลวงค่ายกลระหว่างชั้นได้ ทว่าหากกล้าวางแผนหนีจากคุกล่ะก็ เจ้าจะต้องได้รับโทษหนัก.”
“วางใจได้.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ที่นี่มีคนมีความสามารถยิ่งกว่าข้า แล้วจะหนีออกจากที่นี่ได้ง่ายอย่างงั้นรึ?”
แม่ทัพหนึ่งที่ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อไป ก่อนลุกขึ้นและเตรียมจากไป.
อย่างไรก็ตาม ขณะจะออกไป เขาได้สั่งคนอื่น ๆ ให้จับตามองจุนซ่างเซียวตลอดเวลา ว่ามีการทำอะไรเกินเลยหรือไม่ อีกฝ่ายพยายามที่จะทำอะไรนอกเหนือจากทะลวงค่ายกลระหว่างชั้นหรือไม่?
ทำไมเขาถึงเห็นด้วยกับการเดิมพัน ให้อีกฝ่ายทะลวงค่ายกลระหว่างชั้นอย่างงั้นรึ?
ตั้งแต่ชั้นหนึ่งถึงชั้นที่เก้า เจ้านั่นมีจิตวิญญาณสองตน ถือว่ามีความสามารถ แม่ทัพหนึ่งย่อมต้องการเห็น ว่าเจ้านั่นทำอะไรได้อีก.
อีกอย่าง.
กล่าวตามตรง แม้นว่าจุนซ่างเซียวจะเป็นนักโทษร้ายแรงชั้นเก้า ทว่าก็ทำผิดไม่ได้รายแรง การขังไว้ชั้นเก้าดูจะเป็นข้อหาเกินจริงไปหน่อย เพราะเขาถูกขังที่นี่เพียงแค่ต่อสู้กันในเมืองเท่านั้น ไม่แม้แต่ถูกจัดระดับความอันตรายด้วยซ้ำ.
การถูกจัดเป็นนักโทษร้ายแรงชั้นเก้า เพราะว่าโกวเซิ่งเพียงแค่ต้องการท้าทายประลองกับนักโทษคนอื่น ๆ ดังนั้นแล้วจึงกล่าวได้ว่าเป็นนักโทษชั้นแรกที่ถูกยกระดับให้ร้ายแรงด้วยการประลองเท่านั้น.
......
“แล้วจะทะลวงค่ายกลอย่างไร?”
จุนซ่างเซียวที่นั่งสมาธิ เริ่มครุ่นคิดอย่างจริงจัง.
เพราะว่าถูกจับตาอยู่ เป็นไปไม่ได้ที่จะนำแมลงกาลอากาศออกมา ดังนั้นการทะลวงค่ายกล มีเพียงต้องใช้สมองของตัวเองเท่านั้น!
“เหล่าเจิ้นไม่ได้บอกไว้ก่อนรึ?”
จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ“ค่ายกลใด ๆ ล้วนแต่มีลวดลายที่สร้างขึ้นเป็นฐาน ไม่มีอะไรที่จะสมบูรณ์แบบ ขอเพียงข้าหาพบ ย่อมต้องทะลวงได้ง่าย ๆ.”
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้น เขาที่ลุกขึ้น.
ถึงเขาจะเป็นยอดฝีมือสองวิถียุทธ์และกระบี่ ทว่าก็เข้าใจค่ายกลได้อย่างลึกซึ้ง หากไม่ขี้เกียจล่ะก็ อาจเป็นยอดฝีมือสามวิถีได้เลยด้วยซ้ำ.
“กึก!”
จุนซ่างเซียวที่ไปหยุดที่ใจกลางคุกนรกชั้นเก้า เป็นพื้นที่ที่ดวงตาแห่งความว่างเปล่านั้นพุ่งเข้าโจมตีม่านพลังอย่างหนักหน่วงก่อนหน้านี้นะเอง.
“ฟิ้ว-”
เขาที่สัมผัสเบา ๆ ก็ทะลวงเข้าไปได้.
จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ “ง่ายขนาดนี้เลยรึ?”
ด้านในนั้น ดูเหมือนว่ามีระบบค่ายกลมากมายเต็มไปหมด ระรานตามองจนแทบไม่ทั่ว การที่เขาเข้ามาได้ เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก.
อย่างไรก็ตาม.
เพียงเข้ามาได้ไม่กี่วิ ก็ทำให้จุนซ่างเซียวเอ๋อเหรอไปทันที.
ในเวลานั้นค่ายกลด้านใน ลวดลายมากมายนับไม่ถ้วน ตัดกันไปมา ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ.
ค่ายกลนั้นมากมายราวกับว่าเป็นทะเลทรายที่กว้างใหญ่ เขาคือเม็ดทรายเม็ดหนึ่งเท่านั้น.
“ไม่ได้ ไม่ได้การแล้ว.”
“ซับซ้อนมากไปแล้ว ถึงมีเหล่าเจิ้นและซินเหยา ก็ไม่อาจถอดรหัสได้แน่.”
จุนซ่างเซียวที่ก่อนหน้านี้มั่นใจมากล้น เวลานี้เริ่มถอนใจแล้ว.
“เฮ้อ.”
ระบบเอ่ย “โกงสิ.”
“ไม่มีทางที่จะโกง.”จุนซ่างเซียวยังคงหนักแน่น “ข้าจำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเอง!”
......
จากนั้น.
จุนซ่างเซียวที่ใช้เวลาครุ่นคิด หาวิถีทะลวงค่ายกล เพื่อที่จะไปรับเก้าราชันย์อย่างไร.
ระบบที่พูดไม่ออก “เจ้ายังไงก็ต้องทะลวง เพื่อไปรับพวกเขา หากไม่ใช้แมลงกาลอากาศคิดว่าจะหนีได้อย่างงั้นรึ? อย่าลืมที่นี่คือคุก ด้านนอกยังมีระบบป้องกันเมืองอีกชั้น.”
“ข้ากำลังคิดอยู่นี่ไง.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “หากข้าใช้ประตูมิติไปยังพิภพสงคราม เข้าไปอยู่ที่นั่นก่อนล่ะ.”
“จากนั้นก็ใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายที่ฐานที่มั่นเผ่าวิญญาณ กลับไปทวีปเผ่าวิญญาณ แล้วใช้แมลงกาลอากาศเชื่อมต่อไปยังทวีปชิงหยุนอีกครั้ง.”
“เย็ดเข้.”
ระบบถึงกับอุทานออกมา.
สมองที่รั่วเช่นโฮสน์ คิดแผนซับซ้อนได้อย่างไร!
“เมื่อมาถึงป้อมปราการซิงกง แผนการประตูเคลื่อนย้ายนี้โฮสน์วางแผนเอาไว้ก่อนตั้งแต่แรกแล้วสินะ!”ระบบเอ่ย.
“ไม่.”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา “ข้าเตรียมแผนการไปยังพิภพสงครามเอาไว้ เกรงว่าจะพบกับปัญหา ไม่ได้คิดถึงจะใช้หนีจากคุก.”
“....”ระบบ
ขอเพียงเดินทางไปยังพิภพสงคราม แน่นอนว่าก็จะสามารถก้าวไปยังอีกโลก ถือว่าเป็นการใช้วิธีหนีที่ดีที่สุด.
อย่างไรก็ตาม มันจะง่ายแบบนั้นรึ?....”
“เมื่อโฮสน์ใช้ประตูเคลื่อนย้าย ที่ทางเข้าจะเกิดเป็นหลุมมิติขึ้น หากมีใครพบเข้าก็จะถูกไล่ตามไม่ใช่รึ?”
“ดังนั้นจึงต้องหาวิธี จะปกปิดอย่างไร ให้ทางหนีนั้นไม่มีใครพบเห็นเป็นเวลานาน.”
“โฮสน์เปลี่ยนไปแล้ว.”
“เปลี่ยนไปอย่างไง?”
“การที่โฮสน์ถูกข่มเหง ปรกติจะต้องหาทางเอาคืนตลอด ตอนนี้กับวางแผนที่จะหนี.”
“!”
จุนซ่างเซียวที่ตะโกนลั่น “ข้าก็ต้องการสร้างปัญหาเหมือนกัน ทว่ายังมีเจ้าคนที่แข็งแกร่งแบบเจ้าเสือ อีก 11 คน ถึงแม้นว่าจะใช้ไพ่ไม้ตายก็ยังบอกไม่ได้ว่าจะสำเร็จ อีกอย่างยังมีเจ้าป้อมปราการอีก!”
“ดังนั้น.”
ระบบเอ่ย “โฮสน์จึงต้องกลืนความชอกช้ำครั้งนี้ ขึ้นได้ลงได้ เริ่มใช้สมองแล้วสินะ.”
“เจ้าจะบอกว่าก่อนหน้านี้ข้าไม่มีสมองอย่างงั้นรึ?”
“เคยมีด้วยรึ?”
......
จุนซ่างเซียวที่วางแผนหนี ตอนนี้ต้องหาวิธีทะลวงค่ายกลระหว่างชั้นก่อน ดังนั้นเขาที่ใช้เวลาครุ่นคิดหลายวัน จนแล้วจนรอดจึงเริ่มเปิดร้านค้าระดับสูงขึ้น.
“......”
ระบบพูดไม่ออกอีกแล้ว.
ไม่ได้บอกว่าจะพิสูจน์ตัวเองหรอกรึ? คิดไม่คิดมา ไฉนเลยคิดจะใช้แต้ม หาวิธีอื่นทะลวงล่ะ?
“ไม่ดีรึไง ยังไงก็หนีจากที่นี่ก่อน เจ้ายังกลืนน้ำลายตัวเองตั้งหลายครั้ง ข้ายังต้องไปรับเก้าราชันย์อีก.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
“......”
ระบบ “โฮสน์ สมองกลวงมากขึ้นและก็มากขึ้นเรื่อย ๆแล้ว.”
......
นิกายนิรันดร.
บนยอดเขาไท่กู่.
ในขณะที่จุนซ่างเซียวกำลังหาวิธีหนีจากคุก นายน้อยหยวน เหล่าเหว่ย ติงซิงหวังและคนอื่น ๆ ระดับสูงที่มารวมตัวกัน.
เหล่าเกอที่เอ่ยด้วยความกังวล“อาวุโสเจียงเดินทางไปยังจังหวัดหนานไห่ถูระยะหนึ่งแล้ว ไม่มีข่าวอะไร เกิดอุบัติเหตุหรือไม่?”
“มีถางจู่จื่อติดตามไปด้วย ไม่น่าจะมีอะไร?”เหล่าเจิ้นเอ่ย.
หลังจากที่จุนซ่างเซียวออกไปจากทวีปชิงหยุน เจียงเซี่ยที่ต้องการหาพี่สาว ตัดสินใจไปยังจังหวัดหนานไห่ถู ซึ่งมีราชาสัตว์จื่อหลิน เซียวจุ้ยจื่อ เย่ซิงเฉิน และเหออู๋ตี้ไปด้วย.
ตอนนี้ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ไม่มีข่าวกลับมา ทำให้ทุกคนเผยท่าทางกังวลเป็นอย่างมาก.
“เฮ้อ.”
นายน้อยหยวนที่ส่ายหน้าไปมา “ตอนนี้รอให้เจ้านิกายกลับมา ค่อยไปหาพวกเขาก็แล้วกัน.”
เหล่าเหว่ยเอ่ย “หากรอแต่เจ้านิกายมาจัดการ แล้วจะมีพวกเราไว้ทำไมเล่า?”
“......”
นายน้อยหยวนที่กลายเป็นเงียบ.
เหล่าเหว่ยเอ่ย “นิกายของเราจะทรงพลังไม่ได้มีเพียงแค่เจ้านิกายคนเดียว ทว่าจะต้องเป็นพลังโดยรวม ศิษย์ออกไปหาประสบการณ์ พบกับปัญหา ดังนั้นพวกเราจะต้องยื่นมือออกไปสนับสนุนช่วยเหลือด้วย.”
“ถางจูเหว่ยกล่าวไม่ผิด.”ติงซิงหวังกล่าวเห็นด้วย.
เหล่าเหว่ยที่มีประสบการณ์ ความหมายของเขาคือศิษย์พบกับอันตราย หรือไม่ว่าใคร พวกเขาสามารถลงมือช่วยเหลือได้ ไม่ต้องรอเจ้านิกายแต่อย่างใด.
“มีข่าวหรือยัง.”
ในเวลานั้น ลี่ลั่วฉิวที่ก้าวเข้ามา เอ่ยออกไปว่า”ที่จังหวัดหนานไห่ถูมีข่าวส่งมาว่า อาวุโสเจียงและคนอื่น ๆ ถูกนิกายท้องถิ่นล้อมเอาไว้.
“หอฝนพรำขยายไปจนถึงจังหวัดไห่ถูแล้วรึ?”นายน้อยหยวนทีเผยท่าทางประหลาดใจ.
ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “ข้อมูลถูกส่งจากแร้งเย่ซิงเฉิน.”
“เป็นเช่นนี้นะเอง.”ทุกคนที่ตระหนักได้ในทันที.
แรงหยกฟ้าครามของอาหนิว ที่ทุกคนรู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก ต้องไม่ลืมว่านี่คืออสูรรูปวิหค ไม่ใช่จะหาได้ง่าย ๆ.
ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “เท่าที่เห็นจากรายงาน อาวุโสเจียงได้พบกับพี่สาวแล้ว เพราะเหตุนี้จึงเกิดขัดแย้งกับคนในท้องถิ่น ทำให้ไม่สามารถหนีออกมาได้ ต้องการให้นิกายส่งคนไปช่วย.”
ทุกคนที่จ้องมองกันและกัน.
แม้นว่าพวกเขาจะรับผิดชอบดูแลนิกายชั่วคราว หากเป็นเจ้านิกาย มีรึ? ที่จะไม่ส่งคนออกไป.
เหล่าเหว่ยเอ่ย “รออะไรล่ะ รีบส่งคนออกไป!”
แม้นว่าเขาจะไม่ได้สุดยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดนิกาย ทว่าด้วยสถานะของเขาก็ถือว่าอยู่ในระดับสูงเช่นกัน.
“แจ้งไปยังศิษย์หญิงใหญ่ ศิษย์ละดับสองและคนอื่นๆ!”
“แจ้งไปยังโถงสัตว์ขี่สงคราม ถางจู่เสวี๋ยด้วย!”
“แจ้งไปยังรองถางจู่หอสัตว์วิญญาณเหล่าหนิวด้วย ให้ส่งวิหคที่บินได้สามารถบินข้ามทะเลมาด้วย!”
ในเวลานั้นข่าวมากมายที่กระจายไปยังคนระดับสูงและศิษย์หลัก หอสัตว์ขี่สงครามที่ส่งทัพทั้งสี่ออกมายืนประจำที่.
“ศิษย์พี่หลิว.”
เหยาเมิ่งหยิงเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “พวกเราจะออกไปสู้แล้ว!”
ตอนแรกนั้นคนระดับสูงไม่มีแผนให้นางออกไป ทว่าก็ทนรบเร้าไม่ไหว ท้ายที่สุดก็เห็นด้วย.
เหยาเมิ่งหยิงมีกายากำเนิดมาร ไม่สามารถให้คนอื่น ๆ รู้ได้ ทว่าตอนนี้ด้วยความแข็งแกร่งของนิกายนิรันดร ถึงข่วจะกระจายไปทั่วทวีป เหล่านิกายใหญ่ก็ไม่กล้ามาสร้างปัญหา.
“ออกเดินทาง!”
“ฟี่ ฟี่ ฟี่ ฟี่!”
เหล่าฝูงวิหคยักษ์ ที่นำศิษย์นิกายนิรันดรไปยังโพ้นทะเลทิศใต้ ที่นำหน้าก็คือเสี่ยวโม่เซียนที่แปลงร่างนำเสี่ยวหลงและเปปป้าไปด้วย.
นี่คือสัตว์พันธสัญญาของจุนซ่างเซียว ถือว่าเป็นสมาชิกนิกายนิรันดร ตอนนี้เจียงเซี่ยและคนอื่น ๆ พบปัญหา พวกมันย่อมต้องออกไปช่วย.
“หวึ่ง หวึ่ง!”
ในเวลานั้น บนท้องฟ้าที่มีเสียงลมหวีดหวิว กลุ่มของเหล่าหมู่มวลวิหคยักษ์ ที่เคลื่อนออกไปด้วยความเร็ว.
เจียงเซี่ยและคนอื่น ๆ พบกับปัญหา ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้ได้รับข่าว ได้นำนักรบระดับสูงออกไปทันที.
ไม่รู้ว่า เหล่ากลุ่มอิทธิพลจังหวัดหนานไห่ถูจะสามารถต้านได้หรือไม่?
......
“เจ้าดำโง่.”
บนยอดเขาไท่กู่ ยักษ์ขาวเอ่ยออกมา“นิกายมีปัญหา พวกเราจะลงมือหรือไม่?”
ยักษ์ดำส่ายหน้าไปมา “พวกเราทำหน้าที่ปกป้องทวีปชิงหยุน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ให้พวกเขาจัดการกันเอง.”
“ตกลง.”
ยักษ์ขาวที่ไม่เอ่ยอะไรต่อไป.
หากจุนซ่างเซียวอยู่ ย่อมไม่ส่งพวกเขาออกไปเช่นเดียวกัน.
การส่งคนออกไปหาประสบการณ์ ในอดีตคนที่มาสร้างปัญหา มีโทษเดียวคือตาย.
นี่คือเป้าหมายของนิกาย.
ไม่มีคำเมตตาสำหรับศัตรู.