ตอนที่แล้วตอนที่ 134 ภารกิจช่วยเหลือ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 136 ศึกต่างโลกครั้งแรก (1)

ตอนที่ 135 รีบหน่อย ข้ารอไม่ไหวแล้ว! (ฟรี)


ตอนที่ 135 รีบหน่อย ข้ารอไม่ไหวแล้ว!

สิบวันต่อมา

ในช่วงสิบวันที่ผ่านมา ศิษย์ของนิกายอมตะต้าเซี่ยได้ค่อยๆ ดูดซับผลประโยชน์ที่มาจากการยกระดับโลก

จุดแข็งของแต่ละคนได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ

จำนวนศิษย์ระดับเซียนยุทธ์เกิน 3,000 คนแล้ว

มันค่อนข้างง่ายที่จะทะลวงผ่านจากจ้าวยุทธ์ไปเป็นเซียนยุทธ์ ภายใต้ความช่วยเหลือของสระวิญญาณ แม้แต่ผู้ที่มีรากวิญญาณระดับต่ำก็มีโอกาสที่จะทะลวงผ่านไปได้

แต่เมื่อต้องการทะลวงผ่านเป็นเซียนตัดวิญญาณ มันจะยากขึ้นมาก

ในบรรดาศิษย์ระดับเซียนยุทธ์ 3,000 คนมีมากกว่า 300 คนที่เลือกที่จะเข้าสู่โลกหงถู่

หนึ่งในนั้นคือ จางหู่ ฮุ่ยคง และหงเทียน

ตอนนี้พวกเขามาถึงสนามรบที่ใกล้กับรอยแยกมิติที่สุดแล้ว

สนามรบบนภูเขาจื่อหลิน

ที่แห่งนี้ได้รับการปกป้องจากเซียนตัดวิญญาณขั้นกลางของเผ่าเย่วหลินซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญในระดับเดียวกันจากโลกหงถู่

สนามรบถูกสร้างขึ้นเพราะเผ่าเยว่หลินกำลังปล้นพลังชีวิตของโลกในบริเวณนี้

ภูเขาจื่อหลินเป็นภูเขาที่อุดมไปด้วยพลังวิญญาณ และต้นกำเนิดโลก

นี่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ที่แห่งนี้กลายเป็นสนามรบ

วิธีการปล้นชิงพลังของเผ่าเยว่หลินไม่ได้เหมือนที่นิกายอมตะไท่ซางใช้

วิธีการแบบนั้นอยู่ในระดับต่ำมากในจักรวาล มีประสิทธิภาพต่ำ กินเวลานาน และไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับโลกใบเล็กได้มากนัก ขณะเดียวกันมีผู้ฝึกฝนเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับผลประโยชน์

กลับกัน เผ่าเย่วหลินได้วางค่ายกลขนาดใหญ่ขึ้นที่นี่ มันถูกเรียกว่า ‘ค่ายกลกลืนพิภพ’

ด้วยการวางค่ายกลนี้ ทุกชีวิตในรัศมีนับหมื่นลี้จะกลายเป็นเป้าหมายของการถูกปล้นชิง

มันจะไม่หยุดจนกว่าต้นกำเนิดโลกในที่แห่งนี้จะถูกดูดกลืนไปจนหมดสิ้น

ค่ายกลนี้มีพลังมากกว่าทักษะบ่มเพาะฟ้าดิน มันไม่เพียงปล้นชิงพลังชีวิต แต่ยังรวมถึงต้นกำเนิดโลกด้วย

ต้นกำเนิดโลกมักจะถูกซ่อนอยู่ในที่ต่างๆ ทั่วโลกมาโดยตลอด และจะถูกรวบรวมเมื่อจำเป็น

สถานที่หลบซ่อนมักจะเป็นภูเขา และแม่น้ำที่มีชื่อเสียงต่างๆ

ตอนนี้เผ่าเยว่หลินกำลังปล้นชิงต้นกำเนิดโลกของโลกหงถู่โดยตรงด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และกินเวลาน้อยที่สุด

ค่ายกลกลืนพิภพที่เป็นค่ายกลขนาดใหญ่มีหนึ่งแกนกลาง และ 36 ค่ายกลรองครอบคลุมพื้นที่โดยรอบ

แกนกลางได้รับการปกป้องโดยเซียนตัดวิญญาณขั้นกลางของเผ่าเยว่หลิน เมื่อประกอบกับเสริมพลังของค่ายกลกลืนพิภพ เป็นไปไม่ได้ที่เซียนตัดวิญญาณขั้นกลางของโลกหงถู่จะสามารถเอาชนะได้

ส่วนการส่งผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ามาแก้ปัญหา

เผ่าเยว่หลินไม่ได้โง่ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นจากนิกายอมตะหงถู่ถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา

ไม่ว่าจะปรากฏตัวที่ไหนหรือไปที่ไหนก็ตามก็จะมีคนคอยเฝ้าดูอยู่

เว้นแต่จะใช้วิธีการบางอย่างที่ไม่คาดคิด ไม่งั้นก็ยากจะเคลื่อนไหว

อย่างไรก็ตาม เผ่าเยว่หลินนั้นแข็งแกร่งกว่ามากอยู่แล้ว และได้เปิดสนามรบขนาดใหญ่ นิกายอมตะหงถู่ต้องส่งกำลังรบทั้งหมดออกมายับยั้งเอาไว้

ถ้าไม่ค่อยยับยั้ง โลกของพวกเขาจะถูกทำลายเร็วยิ่งขึ้น

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีทางจากส่งผู้เชี่ยวชาญไปช่วยเหลือในส่วนอื่นๆ ได้

ด้วยเหตุนี้ ในระดับสูงสุดจึงมีเพียงการต่อสู้ระหว่างเซียนตัดวิญญาณด้วยกันเท่านั้น

ในตอนนี้ นิกายอมตะหงถู่ได้ส่งคนมาที่นี่เพื่อหยุดยั้งเซียนตัดวิญญาณของเผ่าเยว่หลิน และหาทางทำลายค่ายกลกลืนพิภพ

เพื่อที่จะทำเช่นนั้น พวกเขาต้องหาทางทำลายค่ายกลรองทั้ง 36 แห่งเสียก่อน จึงมีการโจมตีพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นที่ตั้งของค่ายกลรองที่อยู่รอบๆ ภูเขาจื่อหลิน

แม้ว่าจะทำลายไม่ได้ทั้งหมด แต่แค่การทำลายค่ายกลรองบางส่วนก็ส่งผลประทบไม่น้อย มันจะช่วยลดความได้เปรียบของศัตรูลงได้

เพราะด้วยการเสริมพลังของค่ายกล เซียนตัดวิญญาณขั้นกลางของเผ่าเย่วหลินจะมีพลังที่เทียบได้กับเซียนตัดวิญญาณขั้นสูงสุด ซึ่งทำให้เป็นไปไม่ได้ที่ฝ่ายนิกายอมตะหงถู่จะได้รับชัยชนะ

ในขณะนี้ นิกายอมตะหงถู่ได้ส่งศิษย์ระดับเซียนยุทธ์จำนวนมากมาโจมตีค่ายกลรองทั้ง 36 แห่ง

เผ่าเยว่หลินก็คอยป้องกัน

พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยตราบใดที่พวกเขาต้านเอาไว้ได้ซักระยะหนึ่ง พวกเขาก็จะเป็นฝ่ายชนะ

คนที่ต้องกังวลคือ ผู้ฝึกฝนของโลกหงถู่

ในเวลาเดียวกัน ศิษย์ของนิกายอมตะต้าเซี่ยก็มาถึงโลกหงถู่ และรวมตัวกันเพื่อพบกับฟางหยุนเล่ยที่ป่าลมทมิฬ

หงเทียน ​​​​จางหู่ ฮุ่ยคง และศิษย์คนอื่นๆ ที่เข้ามายังโลกหงถู่ไม่ได้กระจายตัวออกไปอย่างประมาท

เหตุผลที่พวกเขาทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่ก็เพราะพวกเขาคุ้นเคยกับฟางหยุนเล่ย

ในป่าลมทมิฬ มีค่ายกลรองแห่งหนึ่งตั้งอยู่ ฟางหยุนเล่ยอยู่ที่นี่ภายใต้คำสั่งของผู้อาวุโสของนิกาย

มีศิษย์ของนิกายอมตะหงถู่จำนวนหลายพันคนมารวมตัวกันที่นี่ แต่ในหมู่พวกเขามีเพียง 100 คนเท่านั้นที่เป็นเซียนยุทธ์ และผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อว่า เฉาหม่านซาน

เมื่อเซียนยุทธ์มากกว่า 300 คนจากนิกายอมตะต้าเซี่ยมาถึง เฉาหม่านซาน และคนอื่นๆ ก็ตกใจเป็นอย่างมาก

พวกเขาได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นแขกในทันที

“สหายเฉา ด้วยความแข็งแกร่งของเราในตอนนี้ เราควรจะเอาชนะได้ใช่หรือไม่?” ดวงตาของหงเทียนเปล่งความคาดหวัง และการรอคอย

เขามาที่นี่เร็วกว่าใคร เขากับเฉาหม่านซาน และศิษย์ของนิกายอมตะหงถู่ได้เคยร่วมมือกันโจมตีป่าลมทมิฬก่อนหน้านี้

แต่ด้วยการเสริมพลังจากค่ายกล ความแข็งแกร่งของศัตรูจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก พวกเขาจึงไม่สามารถทะลวงแนวป้องกันเข้าไปได้

ด้วยการเสริมพลังค่ายกล เซียนศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายศัตรูแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก แม้จะเทียบไม่ได้กับเซียนตัดวิญญาณ แต่ก็ห่างกันเพียงก้าวเดียว นั้นทำให้แม้ว่าตัวเขา และเฉาหม่านซานจะร่วมมือกันก็ยังไม่อาจเอาชนะได้

มันเป็นการต่อสู้ที่น่าหงุดหงิดจริงๆ

กลยุทธ์ของศัตรูมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทำตัวหดหัวเหมือนเต๋าในกระดอง และปกป้องตัวเองเพียงอย่างเดียว

การที่ไม่สามารถทะลวงเข้าไปได้ทำให้หงเทียนหงุดหงิด อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบคอบ

แม้ว่าตัวเขาจะแข็งแกร่ง แต่ก็ถูกรั้งไว้ด้วยเซียนยุทธ์ขั้นสูง 10 คนได้ หากมีเซียนศักดิ์สิทธิ์มาร่วมด้วย ชีวิตของเขาก็จะตกอยู่ในอันตราย

เมื่อทำคนเดียวไม่ได้ เขาก็ต้องหากำลังเสริม

ในสิบวันมานี้ นิกายอมตะต้าเซี่ยได้ส่งศิษย์ระดับเซียนยุทธ์มาถึง 300 คน ในหมู่พวกเขา จางหู่ และฮุ่ยคงเพิ่งทะลวงผ่านไปเป็นเซียนยุทธ์ขั้นสูงเมื่อไม่นานมานี้

“ด้วยความช่วยเหลือจากเจ้า และสหายคนอื่นๆ ครั้งนี้ เราจะต้องชนะอย่างแน่นอน!” เฉาหม่านซานก็ตื่นเต้นมากเช่นกันในเวลานี้

เขาคาดไม่ถึงว่ากำลังเสริมจะมาถึงจริงๆ

แม้ว่าฟางหยุนเล่ยจะเคยเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังมาก่อนก็ตาม

แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับการสนับสนุนจากนิกายอมตะของโลกอื่นโดยไม่ต้องจ่ายราคาใดๆ

แต่หากพวกเขาต้องจ่ายราคา พวกเขามีทางเลือกมากมาย และอาจไม่เลือกนิกายอมตะต้าเซี่ยที่พวกเขาไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับอีกฝ่ายเลย

นอกจากนี้ การตัดสินใจยังขึ้นอยู่กับเจ้านิกาย และเหล่าผู้อาวุโส

สำหรับการบอกว่าพวกเขาล้วนเป็นมนุษย์ มนุษย์จากโลกอื่นจะมาช่วยเหลือฟรีๆ

มันไม่เคยเกิดขึ้น

ในจักรวาลอันโหดร้ายนี้ แม่จะเป็นเผ่าเดียวกันก็ยังใส่ใจในผลประโยชน์ และถือว่าดีมากแล้วหากไม่เข่นฆ่ากันเองเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง

เฉาหม่านซานไม่เคยเห็นนิกายอมตะนิกายใดที่เหมือนนิกายอมตะต้าเซี่ยมาก่อน

ไม่ได้รับค่ายตอบแทน แต่ช่วยมาพวกเขาฟรีๆ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รู้ว่านิกายอมตะต้าเซี่ยอาจไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับจักรวาล เฉาหม่านซานก็โล่งใจ

บางที พวกเขาอาจไม่เคยเห็นความโหดร้ายในจักรวาล และตอนนี้ก็ยังค่อนข้างไร้เดียงสา

เมื่อเฉาหม่านซานมองไปที่หงเทียน และคนอื่นๆ เขาเต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ

“ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ไปกันเถอะ อย่าเสียเวลาอีกเลย” หงเทียนเร่งเร้า

“ใช่ สำหรับเรื่องแบบนี้ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี” จางหู่ก็ใจร้อนเช่นกัน

“ไปกันเถอะโยมเฉา อาตมาแทบรอไม่ไหวที่จะส่งพวกเขาไปหาพระพุทธเจ้า” ฮุ่ยคงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ผิดกับคำพูดที่สื่อออกมา

"ตกลง" เฉาหม่านซานไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี อีกฝ่ายกระตือรือร้นมากกว่าเขาเสียอีก

ถ้าคนนอกมาเห็นคงเข้าใจผิดเป็นแน่ว่าหงเทียน และคนอื่นๆ เป็นคนพื้นเมืองของโลกนี้ และโลกของพวกเขากำลังถูกรุกรานอยู่

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด