Chapter 1257 12 แม่ทัพลาดตระเวน
ป้อมปราการซิงกง.
บนตำหนักที่ตั้งอยู่บนคุกนรกเก้าชั้น โถงลาดตะเวน.
ภายในตำหนักมีที่นั่งอันทรงเกียรติ 12 ตำแหน่ง เรียงลำดับจากหนึ่งถึงสิบสอง.
ใช่แล้ว.
สถานที่แห่งนี้ก็คือตำหนักของแม่ทัพลาดตะเวนทั้งสิบสองนั่นเอง.
รองจากตำแหน่งเจ้าป้อมปราการ สิบสองยอดฝีมือไม่เพียงจับนักโทษ พวกเขายังรับหน้าที่ดูแลคุกนรกเก้าชั้นอีกด้วย.
โถงลานตระเวนมีค่ายกลสะท้อนมากมาย สามารถจับตานักโทษแบบทันทีทันใด.
ในเวลานี้ กลิ่นอายของเหล่ายอดฝีมือแผ่ออกมารอบ ๆ แต่ละคนนั่งท้าวคางนั่งบนเก้าอี้ เฝ้ามองภาพบนหน้าจอ.
มองอะไรอย่างงั้นรึ?
จ้องมองชั้นที่แปด.
จับจ้องมองจุนซ่างเซียวที่เพิ่งเข้ามา.
ก่อนหน้านี้โกวเซิ่งที่บุกตั้งแต่ชั้นหนึ่งไปยังชั้นสองและชั้นสาม ทำให้พวกเขาเริ่มจับจ้องอีกฝ่ายในทันที.
พวกเขาแม่ทัพลาดตระเวนไม่ได้ออกไปห้าม เพราะว่าในคุกต่างก็มีค่ายกลเคลื่อนย้ายเชื่อมต่อกัน เป็นกฎเกณฑ์ตั้งแต่ในอดีตแล้ว.
อย่างไรก็ตาม.
สิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงที่สุด เจ้าหัวล้านคาดไม่ถึงเลยว่าจะไปถึงชั้นแปด นอกจากนี้ยังสามารถชนะทั้งดวลสุรา ดวลเพลงอีกด้วย.
โดยเฉพาะการประลองกับฉินหลินหลานนั้น เสียงเพลงที่บาดหูของอีกฝ่าย....หากพวกเขาไม่ปิดการทำงานของค่ายกลสะท้อน บางทีคงได้กระอักเลือดกันไปข้างเช่นกัน.
“เหล่าต้า.”
แม่ทัพสามเอ่ยออกมาว่า“รายงานจู่ซ่างหรือไม่?”
คุกนรกเก้าชั้นนั้นอนุญาตให้ท้าทายกันได้ ทว่าการที่มีคนทะลวงจากชั้นหนึ่งไปยังชั้นแปดถือว่าเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริง ๆ.
ชายที่นั่งอยู่บนสุด จ้องมองด้วยดวงตาที่น่าเกรงขาม เอ่ยออกมาว่า“จูเหรินกำลังรักษาบาดแผลอยู่ ไม่อนุญาตให้ใครรบกวน.”
เขาที่รับหน้าที่งานทั้งหมดเอาไว้.
เหล่าต้าของแม่ทัพลาดตะเวนทั้งสิบสองนั่นเอง.
“......”
แม่ทัพสามที่กลายเป็นเงียบ.
จูเหรินไม่ได้ออกจากป้อมปราการ ทำไมถึงบาดเจ็บ?นอกจากนี้ยังรักษาตัวนานแล้ว บางทีคงจะบาดเจ็บหนักด้วย.
“เหล่าต้า.”
แม่ทัพสองเอ่ย “ใครทำร้ายจู่ซ่าง?”
คำพูดดังกล่าวที่ทำให้เหล่าแม่ทัพคนอื่น ๆ สนใจขึ้นมาทันที.
แม่ทัพหนึ่งส่ายหน้าไปมา “ข้าเองก็ไม่รู้ ทว่าจากอาการบาดเจ็บของจู่ซ่างแล้ว ความแข็งแกร่งย่อมเหนือกว่าพวกเรามาก.”
“......”
ภายในใจของทุกคนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
คนที่ทำให้จู่ซ่างบาดเจ็บได้ ย่อมต้องเหนือกว่าพวกเขาอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่า เป็นระดับสะบั้นมิติขั้นสูงหรอกรึ?
เหล่ายอดฝีมือเช่นนั้นปรกติแล้วมักจะขึ้นสู่พิภพเบื้องบน ทำไมยังคงอยู่ในจักรวาลเบื้องล่างกัน? ที่นี่มีโชควาสนาพอที่จะให้พวกเขาสนใจอย่างงั้นรึ?
“เหล่าต้า.”
ในเวลานั้น ทหารคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง “เหล่าฉีได้ส่งสารมา บอกว่ามีคนอื่นสังหารราชาปิศาจต้าเห่ยทวีปเทียนหยวนก่อนที่พวกเขาจะไปถึง.”
แม่ทัพสองและคนอื่น ๆ ที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
แม่ทัพหนึ่งที่กล่าวสอบถามออกไปทันที“เป็นฝีมือใคร?”
อีกฝ่ายที่ชี้ไปยังลำแสงภาพ เอ่ยออกมาว่า“เหล่าฉีได้ส่งภาพของอีกฝ่ายมาด้วย.”
ภาพที่ปรากฏเป็นบุรุษอายุราว ๆ 20 ปี สวมชุดสีดำ!
ใช่แล้ว.
เป็นจุนซ่างเซียวนั่นเอง.
“ราชาปิศาจต้าเห่ยนั้นเป็นจิตวิญญาณปิศาจก่อเกิดในโลกจักรวาลเบื้องล่าง ความแข็งแกร่งไม่ได้ด้อยกว่าระดับสะบั้นมิติขั้นกลางชั้นสูงเลย แล้วถูกเจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี้จัดการอย่างงั้นรึ?”แม่ทัพสามที่เอ่ยด้วยความสงสัย.
แม่ทัพหนึ่งเอ่ย “ภาพที่เหล่าฉีส่งมา ไม่มีทางผิดพลาด บางทีถึงแม้นว่ารูปลักษณ์จะดูหนุ่ม ด้านในอาจเป็นอสุรกายชราก็ได้.”
คำพูดดังกล่าวทำให้คนอื่น ๆ พอยอมรับได้.
ในจักรวาลเบื้องล่าง มีสิ่งมีชีวิตที่มีอายุหลายพันปีไปจนถึงหลายหมื่นปี ทว่ารูปลักษณ์ของพวกเขาก็ยังดูเด็กอยู่ก็มี.
รูปลักษณ์ไม่สามารถบ่งบอกอายุและพลังของอีกฝ่ายได้ แม้แต่กระทั่งเพศก็ตาม.
ยกตัวอย่าง....
ไม่ต้องเอ่ยถึงใคร แม่ทัพสี่ข้างพวกเขา.
นี่เป็นสตรีหนึ่งเดียวในแม่ทัพลาดตะเวนทั้งสิบสอง ถึงจะดูงดงามมากเสน่ห์ ทว่ามันกับไม่ใช่รูปลักษณ์ที่แท้จริง.
“จ้องมองเหล่าเหนียงทำไมกัน!”แม่ทัพสี่ที่ขมวดคิ้วไปมา.
“!”
แม่ทัพสามที่อดไม่ได้เอ่ยออกมาเสียงดัง “เจ้าต้องใช้เสียงสตรีไปด้วยรึ?!”
“เหล่าเหนียงพอใจ เจ้ามีปัญหารึ?”
“......”
แม่ทัพสามที่กำหมัดแน่น.
หากไม่เพราะเหล่าต้า เขาคงจะต้องลงมือสั่งสอนอีกฝ่ายสักหน่อยแล้ว เสียงที่ไม่สมกับร่าง ทำให้เขารู้สึกเคืองหูเคืองตาจริง ๆ!
“เอาล่ะ.”
แม่ทัพหนึ่งเอ่ย “พวกเจ้าเคยเห็นคนนี้หรือไม่?”
“ไม่.”
ทุกคนที่ส่ายหน้าไปมา.
พวกเขาคือผู้พิทักษ์กฎของจักรวาลเบื้องล่าง พบเห็นยอดฝีมือมากมาย แต่ก็ไม่เคยเห็นผู้เยาว์เช่นนี้มาก่อน.
“แปลก.”
แม่ทัพหนึ่งที่เต็มไปด้วยความสงสัย“ในเมื่อสามารถสังหารราชาปิศาจต้าเห่ยได้ แสดงว่าไม่ใช่คนธรรมดา ทำไมพวกเราไม่เคยเห็นมาก่อน?”
“เหล่าต้า!”
แม่ทัพหกที่เงียบมาตลอด จดจ้องพร้อมกับเอ่ยออกมาว่า“เจ้านี่ดูคุ้น ๆ เล็กน้อยนะ!”
“เจ้ารู้จักอย่างงั้นรึ?”แม่ทัพหนึ่งเอ่ย.
แม่ทัพหกที่ครุ่นคิด จ้องมองไปบนภาพของชั้นแปด เอ่ยออกมว่า“ท่านไม่คิดว่ารูปร่างเจ้านั่น เหมือนกันกับรูปที่เหล่าฉีส่งมาหรอกรึ?”
“หืม?”
แม่ทัพหนึ่งและคนอื่น ๆ ที่จ้องมองไปพร้อม ๆ กัน ขณะเปรียบเทียบ ก็รู้สึกว่าคล้ายกันจริง ๆ!
จุนซ่างเซียวที่เข้ามาในป้อมปราการตอนแรกนั้น ใช้รูปร่างที่แตกต่างกัน ทำให้พวกเขามองไม่ออกตอนแรกนั่นเอง.
“เป็นไปได้ว่า....”
แม่ทัพหนึ่งทีสีคางไปมา “เจ้านี่สังหารราชาปิศาจต้าเห่ยได้เลยรึ? ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้มีรูปร่างแบบนี้ไม่ใช่รึ?”
แม่ทัพหกเอ่ยอย่างจริงจัง “เป็นเขา!”
ในเวลานั้นเหล่าแม่ทัพลาดตะเวนที่เริ่มเชื่อในทันที เพราะว่าฝ่ายตรงข้าม ที่พวกเขาเฝ้ามองมานาน พอจะบอกได้ว่าไม่ผิดพลาดแน่.
“รู้แล้ว!”
แม่ทัพสามที่นึกอะไรได้ “ไม่แปลกใจเลยว่าเจ้านั่นมาถึงชั้นแปดได้ แท้จริงแล้วก็มีความแข็งแกร่งอยู่นี่เอง.”
“ซ่อนได้ลึกจริง ๆ.”
แม่ทัพสองเอ่ย “ข้าแทบจะคิดว่าเขามีระดับสะบันมิติขั้นต่ำเท่านั้น.”
ทุกคนที่อุทานออกมาด้วยความตกใจแท้จริงแล้ว เจ้านี่เล่นบทหมูกินเสือนี่เอง ตอนนี้เหล่าแม่ทัพที่เงียบ ก่อนที่จะเผยท่าทางจริงจัง“แล้วทำไมเขาถูกนำมาขังในคุกนรกเก้าชั้น?”
“สร้างความวุ่นวายในเมือง”แม่ทัพสามเอ่ย.
เกี่ยวกับเหตุผลที่จุนซ่างเซียวถูกนำมาขังนั้น พวกเขาได้สืบมาก่อนแล้ว.
แม่ทัพหนึ่งที่ยังคงครุ่นคิด สีคางไปมา แววตาที่ส่ายไปมา “เรื่องนี้ดูไม่ปรกติ เจ้านี่มายังป้อมปราการซิงกง จะต้องวางแผนพยามทำอะไรแน่.”
“แผนอะไร?”
แม่ทัพสามเอ่ยล้อ “จะอะไรก็มานำนักโทษบางคนหนีออกจากคุกนะสิ?”
เหล่าแม่ทัพลาดตะเวนคนอื่น ๆ ที่หัวเราะออกมา.
ถึงแม้นว่าจะคาดเดาได้ว่าจุนซ่างเซียวพยายามทำอะไร ทว่าพวกเขาก็ไม่คิดว่า อีกฝ่ายจะนำใครหนีออกจากคุกได้ เพราะว่า...ป้อมปราการซิงกงนั้นมีระบบป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่มีทางที่จะมีใครหน้าใหนหนีออกไปได้ และนอกจากนี้ยังมีพวกเขาเฝ้าอยู่ด้านบนอีก มีรึที่พวกเขาจะเห็นด้วย.
กองกำลังแม่ทัพลาดตะเวนนั้นถือว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครในคุกสวรรค์เก้าชั้น.
พวกเขามั่นใจ.
ทำให้พวกเขาไม่รู้สึกกังวลแม้แต่น้อย.
“เหล่าซาน.”
แม่ทัพหนึ่งที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม“เจ้าไปดูหน่อย.”
“อืม.”
แม่ทัพสามที่ลุกขึ้นและจากไป.
ขณะกำลังจะออกจากตำหนัก แม่ทัพหนึ่งเอ่ยเพิ่มอีกว่า “หากเจ้านั่นเอาชนะนักโทษร้ายแรงชั้นแปดได้ เจ้าก็เข้าไปทดสอบหน่อยก็แล้วกัน.”
“ทราบแล้ว.”
แม่ทัพสามที่ยกยิ้ม.
เขาที่เป็นหนึ่งแม่ทัพลาดตะเวน น้อยครั้งนักที่จะพบกับยอดฝีมือ คนที่สามารถเอาชนะราชาปิศาจต้าเห่ย ช่างเป็นคนที่น่าสนใจนัก!
“เจ้าหนู.”
“อย่าทำให้แม่ทัพผู้นี้ผิดหวัง!”
......
คุกนรกชั้นแปด.
จุนซ่างเซียวที่ถือกระบี่มังกรหยกถามสวรรค์ด้วยความภาคภูมิ.
พื้นที่รอบ ๆ ฝุ่นหินดินทรายที่ถูกปกคลุมด้วยอำนาจกระบี่ที่แหลมคม.
ฝ่ายตรงข้ามเป็นชายวัยกลางคนที่มีเครายาว 3 ชุ่น ที่ด้านหลังมีกระบี่โบราณเก้าเล่ม แววตาที่เผยความประหลาดใจออกมา “แท้จริงแล้ว เจ้าเป็นมือกระบี่หรอกรึ?!”