Chapter 1252 ข้าต้องการชีวิตเจ้า
“ติ๊ง! โฮสน์ใช้ 100,000 แต้ม ได้รับเทวะเปลี่ยนรูป อุปกรณ์มหาปราชญ์ 1 ถูกส่งเข้ามาในแหวนมิติแล้ว.”
“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนนิกาย : 11,000 / 100,000.”
หลังจากจับจ้องมองสินค้าที่ได้รับมา ดูเหมือนจะดูธรรมดาทั่วไป.
“ใช้ได้เลยรึ?”
ระบบที่เผยท่าทางประหลาดใจ“โฮสน์ไม่กลัวว่าชุดนี้ใช้ไม่ได้รึ?”
โกวเซิ่งแทบจะไม่คิดเลย ทำการซื้อในทันที ผิดวิสัย เพราะสินค้าดังกล่าวนั้นแพงมาก ๆ.
โดยปรกติแล้ว.
สินค้าราคาแพงอีกฝ่ายมักจะคิดแล้วคิดอีก.
“เจ้าไม่เข้าใจ.”
จุนซ่างเซียวที่เอ่ยกล่าวอย่างจริงจัง“นี่คือความฝันวัยเด็กของข้า.”
เขาที่เคยอ่านวรรณกรรมจาริกตะวันตกตั้งแต่เด็กมานานแล้ว.
โดยเฉพาะอุปกรณ์ของมหาปราชญ์ที่สั่นคลอนตำหนักสวรรค์ ดังนั้นถึงแพงเท่าไหร่ก็ซื้อ หากมันไม่มีพลัง....เกรงว่าหนึ่งแสนแต้มที่ใช้ไป คงต้องชักกระบี่ฆ่าตัวตายเป็นแน่!
เทวะเปลี่ยนรูปเลยนะ.
เวทย์เปลี่ยนรูปจะมีโหมดความแข็งแกร่งขั้นสุด เทวะเปลี่ยนรูปก็จะมีทักษะพิเศษ.
จุนซ่างเซียวไม่เชื่อว่าอุปกรณ์ในร้านค้าระดับสูงที่มีราคา 100,000 จะเป็นเพียงแค่ของโชว์.
ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาซื้ออุปกรณ์มหาปราชญ์อย่างไม่ลังเล เหตุผลสำคัญนั้น เพราะมันคือสิ่งที่เขาฝันแต่วัยเด็กนั่นเอง!
ในอดีตเมื่องานรับศิษย์เมืองชิงหยาง จุนซ่างเซียวที่ได้โม้กับผู้ฝึกยุทธ์มากมาย ว่าบรรพชนรุ่นแรกของสำนักก็คือฉีเทียนต้าเซิ่ง.
ตอนนี้รีเฟรชพบสินค้าดังกล่าว แม้นว่าจะเป็นเพียงของเลียนแบบ แต่เพื่อที่จะไปใช้โม้กับศิษย์ก็ต้องซื้อ “นี่คือสมบัติตกทอดจากบรรพชนรุ่นแรก นี่คือสมบัติของเจ้านิกายที่สืบทอดต่อกันมาของนิกายนิรันดร!”
“......”
ระบบถึงกับพูดไม่ออก.
สงสัยเรื่องเพ้อฝันในวัยเด็ก จึงหล่อหลอมให้โฮสน์กลายเป็นคนที่สมองไม่ปรกติสินะ.
“โฮสน์ไม่อ่านคำเตือนอย่างงั้นรึ?”
ระบบเอ่ย “อุปกรณ์มหาปราชญ์นั้น แม้นว่าจะแข็งแกร่ง ทว่าหากเข้ากันไม่ได้ เท่ากับแส่หาความตาย.”
“อา ใช่แล้ว....”
จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา“ข้าควรจะเข้ากันได้ใช่ไหม?”
ทั้งวิญญาณ กายเนื้อ และความเร็วจะเพิ่มพูน เหมือนกับบังคับเพิ่มพลัง หากว่าไม่สามารถแบกรับได้ก็มีแต่ต้องพบชะตากรรมที่ร้ายแรง.
อุปกรณ์มหาปราชญ์นั้นจะเพิ่มพลังเป็นอย่างมาก เป็นการกระตุ้นที่รุนแรง หากคนใส่ทนไม่ได้ ก็จะตายอย่างอนาถ.
ระบบเอ่ย “เทวะเปลี่ยนรูปที่แพงปานนี้ บางทีคงไม่ใช่ของธรรมดา.”
“......”
จุนซ่างเซียวที่รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย.
หากว่าซื้อไปด้วยราคามหาศาลแล้วใส่ไม่ได้ คงจะร้องไม่ออก.
“ฟู่!”
จุนซ่างเซียวที่เอ่ยให้กำลังใจตัวเอง“เวลานี้ข้าฝึกฝนวิชาลับกลั่นวิญญาณทุกวัน ร่างกายก็แข็งแกร่ง ท่าเท้าเองก็ยกระดับสูง ความเหมาะสมของข้าควรจะไม่มีปัญหา.”
“เอิ่ม....”
ระบบเอ่ย “ลองดูก่อน?”
ระบบเอ่ย “กลัวว่าลองแล้วจะตายไปก่อนนะสิ.”
จุนซ่างเซียวที่รู้สึกเป็นกังวลเป็นอย่างมาก ทว่าเห็นระบบที่กล่าวทิ่มแทงใจ ทำให้เขามั่นใจ ต้องไม่ลืมว่าเจ้านี่คำพูดนมบูดที่พลิกกลับทุกครั้ง.
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่โบกมือนำอุปกรณ์สามชิ้นออกมาซึ่งถูกปกคลุมด้วยแสงเจ็ดสี.
เพราะว่าอุปกรณ์มหาปราชญ์มีรูปร่างเหมือนกับต้นฉบับเดิมที่เขาเคยเห็นในนิยาย.
“เกาะโซ่ทองคำดูจากวัตถุดิบแล้วดูเหมือนเทียบไม่ได้กับเกราะเสวียนหยวนเลย.”จุนซ่างเซียวที่สงสัยในใจ นี่เขาซื้อของแท้มาหรือไม่?
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว.
ในเมื่อซื้อมาแล้ว ไม่ว่าจะใช้ได้หรือไม่ ก็ต้องลองทดสอบเท่านั้น.
จุนซ่างเซียวที่สวมเกราะโซ่ทองคำอย่างระมัดระวัง เป็นดั่งที่เขาคาดเดา มันช่วยเพิ่มกายเนื้อขึ้นอีก.
“ฟิ้ว!”
จากนั้นก็สวมรองเท้าเหยียบเมฆา.
อุปกรณ์ทั้งสองใส่ได้พอเหมาะ พอดี.
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้จุนซ่างเซียวไม่ค่อยพอใจนัก เพราะว่าสวมสองอย่างแล้ว ดูเหมือนจะเพิ่มระดับขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น แทบจะไม่ต่างจากอุปกรณ์อื่น ๆ.
“ต้องสวมครบทั้งหมดถึงจะแสดงผลรึเปล่า.”ระบบกล่าวอย่างหงุดหงิด “ใส่ยังไม่ครบจะบอกใช้ไม่ได้ ได้อย่างไร.”
“ก็ใช่.”
จุนซ่างเซียวที่นำหมวกขนนกฟินิกซ์ออกมาสวม.
ระบบเอ่ย “แม้นว่าโฮสน์จะสวมสองชิ้นแล้ว ทว่าก็ยังไม่แสดงผล ดังนั้นหากสวมหมวกขนฟินิกซ์แล้ว หากไม่เหมาะสม บางทีคงตกตายอย่าง....”
“แก๊ก!”
กล่าวยังไม่จบ จุนซ่างเซียวที่สวมหมวกขนฟินิกซ์เรียบร้อยแล้ว เพราะว่าผลของคำพูดของระบบ เขาจะต้องรีบสวมเดี๋ยวมันไม่ได้ผล.
......
เหล่านักโทษหลายพันคนที่นอนอยู่บนพื้นที่มืดมิด จำได้ได้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเองถูกควบคุม เรื่องนี้ในเวลานี้ได้แต่ต้องโทษตัวเอง.
หากแต่ก็จำได้เลือนลง.
สิ่งที่จำได้แม่นยำฝังแน่น ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนร้องเพลงที่ทำร้ายพวกเขารุนแรงไปจนถึงดวงวิญญาณ เพียงแค่คิดก็หวาดผวาแล้ว.
“น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!”
“เสียงเพลงนั่นร้ายกาจมากกว่าทักษะยุทธ์ระดับสูงอีก!”
“ฟู่----”
ในเวลานั้น เสียงดนตรีจากเวทย์เปลี่ยนรูปเครื่องเสียง เป็นเสียงที่เหล่านักโทษไม่ได้ยิน ยังคงดังก้อง.
เสียงดังกึกก้องที่เริ่มบรรเลงขึ้นอีกครั้ง.
“ฟิ้ว!”
เสียงบรรเลงที่ดังก้องประกอบฉาก หลังจากสวมหมวกขนฟินิกซ์ เกราะโซ่องคำและรองเท้าเหยียบเมฆาของจุนซ่างเซียว แสงเจ็ดสีก็พวยพุ่งส่องสว่างเจิดจรัส.
“เฮ้ย!”
เหล่านักโทษหลายพันคนที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
เสียงประกอบฉาก แสงสีเสียงที่ส่องสว่าง เกิดปรากฏการณ์ที่โดดเด่นกว่าฉินหลินหรานหลายสิบเท่า!
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
หลังจากแสงสว่างหายไป จุนซ่างเซียวที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมาก ทำให้ผู้คนอ้าปากครั้ง ได้ยินเสียงปังที่ผนังคุกเข้าซะแล้ว.
“......”
“....เจ็บ ๆ....”ฉินเห่าหรานที่เวลานี้กุมศีรษะค่อย ๆ ได้สติ พยุงกายลุกขึ้นยืน.
“อักกก!”
นึกถึงเสียงร้องของอีกฝ่ายที่สะท้อนในจิตสำนึกของเขา ทำให้ตัวเขาเวลานี้ต้องกระอักโลหิตออกมา.
“เจ้า....เจ้าคนอัปลักษณ์น่ารังเกียจนั่น.....”ฉินหลินหรานที่พยายามระงับโลหิตไม่ให้กระอักออกมา แววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ.
“ฟู่ ฟู่!”
ในเวลานั้น บนท้องฟ้ามีพลังที่น่าเกรงขามกดทับลงมา เห็นเพียงแค่จุนซ่างเซียวที่กระแทกกำแพงก่อนหน้านี้ บินขึ้นสูง พร้อมกับถือหอกสะบั้นสวรรค์ พลางตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ข้าต้องการชีวิตเจ้า!”
ฉินเห่าหราน“พี่ชาย ข้าล้อเล่น!”
“ตูมมมม ------”
จุนซ่างเซียวที่สวมอุปกรณ์มหาปราชญ์ พลังความแข็งแกร่งที่เพิ่มพูนขั้นสุด ฉินหลินหรานที่เพิ่งคืนสติไม่มีโอกาสต้านได้แม้แต่น้อย ถูกทุบหมดสติไปอีกครั้ง.