ตอนที่แล้วบทที่ 88 กลั่นมังกรเจียวเฒ่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 90 การต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่

บทที่ 89 กลับเมืองชิงโจว


บทที่ 89 กลับเมืองชิงโจว

เหล่านักล่าปีศาจหลายคนหยุดตรวจสอบศิษย์ พวกเขาขมวดคิ้วด้วยความระแวดระวังอย่างสุดซึ้ง

มีเพียงเฉินเฉียนคุนที่สีหน้าไม่เปลี่ยน ยกทวนเหล็กหนักในมือขึ้นอย่างสบายๆ หลับตา วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ออกจากร่าง ถือทวนลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า!

ปีศาจที่ร้ายกาจขนาดนี้ ยังไม่สามารถทำให้เขาตกใจได้

แต่เพียงชั่วพริบตา

ทวนหยุดนิ่งกลางอากาศ ดูเหมือนจะสับสน สุดท้ายก็ตกลงสู่มือเฉินเฉียนคุนอีกครั้ง

ชายชราลืมตา ดวงตาที่สงบนิ่งเผยให้เห็นความแปลกประหลาด

ออร่านั้น... หายไปแล้ว?

แม้แต่วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถติดตามร่องรอยของมันได้

ภายในขอบเขตควบแน่นตัน แถมยังระยะประชิดเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ปีศาจจะหลบเลี่ยงการรับรู้ของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเก็บออร่าหรือแปลงร่างเป็นมนุษย์แบบจางเหิงโจวก็ทำไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทักษะการแปลงร่างระดับต่ำ

แต่ถ้าพิจารณาดีๆ แล้ว มันดูคล้ายกับทักษะการเคลื่อนย้ายข้ามมิติ ข้ามมาพันลี้ เพียงเพื่อข่มขู่เขา?

หากเป็นเช่นนั้น พลังที่แสดงออกมาเมื่อสักครู่ คงเป็นแค่เศษเสี้ยว

เฉินเฉียนคุนกำทวนเหล็กหนักในมือแน่นขึ้น ชั่วครู่ต่อมาก็หันไปหาเหล่านักล่าปีศาจ

สีหน้าของเหล่านักล่าปีศาจเปลี่ยนไปเล็กน้อย คล้ายเดาอะไรบางอย่างได้

ชายชราผู้โดดเดี่ยวที่ปราบปรามเขาชิงเฟิง ดวงตาของเขาฉายแววความรู้สึกถึงวัยชรา

“ไม่รู้ว่าราชาปีศาจตนใด มาเล่นตลกกับตาเฒ่าเช่นข้า ในเมื่อไม่ยอมเผยตัว งั้นข้าก็จะให้ดู… กระบี่ที่คมที่สุดของข้าในชิงโจว”

“รบกวนไปที่เมืองหยูซาน”

“เชิญเจียงชิวหลานมา”

เมื่อได้ยินคำนี้ ศิษย์ของเขาชิงเฟิง รวมถึงผู้อาวุโสพิทักษ์สำนักสองคน ต่างก็ลูบคลำลำคอโดยไม่รู้ตัว

หัวกะโหลกมากกว่าสองหมื่นบนกำแพงเมืองหยูซาน ยังคงกองอยู่ที่นั่น

เหล่านักล่าปีศาจพยักหน้ารับ “ท่านขุนพลอาวุโสไม่ต้องเกรงใจ พวกเรารู้หน้าที่ดี”

วิธีการตามหาปีศาจของขุนพลอาวุโสเจียงอาจไม่เก่งเท่าขุนพลอาวุโสเฉิน เพราะว่าทั้งสองท่านอยู่ในขั้นหล่อเลี้ยงตันเหมือนกัน แต่ขุนพลอาวุโสเจียงจะแข็งแกร่งกว่า แต่ก็ไม่ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดจริงๆ

และยังเป็นหนึ่งในศิษย์ของแม่ทัพใหญ่ที่ไม่ได้บ่มเพาะวิถีเซียนยุทธ แต่บ่มเพาะวิถีปรมาจารย์ผสานต้นกำเนิด

(วิถีเซียนยุทธใช้พลังศรัทธากลั่นตัน วิถีปรมาจารย์ผสานต้นกำเนิดใช้ปราณเลือดเนื้อหรือเจตจำนงกลั่นตัน ซึ่งวิถีนี้จะต่อสู้ได้เก่งกว่าวิถีเซียนยุทธ แต่ไม่มีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์)

ถ้านางก้าวออกจากประตูเมืองหยูซาน บอกได้เลยว่าราชาปีศาจที่มีชื่อเสียงในอำเภอหลินเจียงทั้งหมด จะได้รับข่าวภายในครึ่งวัน และกลับไปบ่มเพาะในถ้ำอย่างเกรงใจ

(ในต้นฉบับใช้  她 นะครับซึ่งเป็นแปลว่าเขา'ผู้หญิง'' ถ้าเป็น 他 จะใช้กับเขา'ผู้ชาย')

มือกระบี่อันดับหนึ่งของชิงโจว หัวหน้าขุนพลอาวุโสทั้งสิบสองคน นับรวมสี่ตระกูลห้าสำนัก มีเพียงท่านแม่ทัพใหญ่แห่งชิงโจว ผู้เป็นอาจารย์ของนางเท่านั้น ที่สามารถเอาชนะได้

“เอาล่ะ... ข้ายังมีภารกิจสำคัญ จึงไม่ขออยู่ต่อ”

เฉินเฉียนคุนส่ายหน้า โบกมือเบาๆ ม้าสีแดงเพลิงกลายเป็นแสงสว่างพุ่งออกไปพร้อมกับร้องเบาๆ

ม้าปีศาจพาขุนพลผู้อาวุโสมาที่เชิงเขาชิงเฟิง ย่างเท้าทั้งสี่อย่างเบามายืนอยู่บนยอดเขาสูงชันของหุบเขากวนเจี่ย

ชายชราจ้องมองป่าทึบเบื้องล่าง รู้สึกสนใจเล็กน้อย

จากคำบอกเล่าของเหล่านักล่าปีศาจ ชาวบ้านในเมืองสุ่ยอวิ๋นอธิบายอย่างมีสีสันเกี่ยวกับเทพเจ้าแห่งแม่น้ำในชุดสีดำท่าทางร้ายกาจ แถมยังคาดดาบสีหมึกไว้ที่เอว แววตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม

แต่พอได้เจอตัวจริง เขากลับกลายเป็นชายหนุ่มที่ดูเก็บเนื้อเก็บตัว

เขารอทั้งคืนก็ยังไม่เห็นอีกฝ่ายมาเคารพ

มีความคิดระแวดระวัง ตัดสินใจอย่างเฉียบขาด ไม่สูญเสียความกล้าหาญในการต่อสู้ เขาควักแก่นแท้ปีศาจออกมาด้วยความแน่วแน่ ทำสีหน้าราวกับว่า แม้แต่ขุนพลอาวุโสอย่างเขาเอง ก็อย่าคิดจะแย่งชิงสิ่งของจากเขา....

สิ่งที่น่าแปลกใจกว่าคือ เขากลับไม่ได้ใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกร้องความดีความชอบ ไม่เคยคิดจะเข้าใกล้เขาเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการประจบสอพลอ

“เฮอะ! เจ้าดูถูกผลงานการสังหารปีศาจมังกรเจียวงั้นเหรอ? ไม่เป็นไร ข้าจะมอบให้เจ้าเอง”

เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินออกจากกระโจม รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของชายชราเป็นครั้งคราว เขาขอสังเกตอีกฝ่ายสักสองสามปี สระกระบี่แห่งเขาชิงเฟิงก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอีกฝ่าย

แผนกปราบปีศาจไม่ได้ขาดแคลนอัจฉริยะ แต่ขาดอัจฉริยะที่มีประสบการณ์ผ่านความเป็นความตาย แม้จะมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร แต่หากไม่ผ่านช่วงเวลาเช่นนี้ พวกเขาจะปกป้องผู้คนหลายล้านคนได้อย่างไร?

เมืองชิงโจว

ภายใต้การควบคุมของแผนกปราบปีศาจ มีเหตุการณ์สำคัญอยู่สองสามอย่างเท่านั้น

ถ้าไม่ใช่เรื่องภรรยาขอมือกระบี่ถูกจับตัวไปอีกครั้ง ก็เป็นเรื่องโจรในหุบเขาผิงซาขโมยสุราขององค์ชายไปหลายไห

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ส่งข่าววิ่งวุ่น เรื่องราวใหญ่หลวงที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงก็ปกปิดไว้ไม่ได้ ดังก้องไปทั่ว

เขาชิงเฟิง... หายไปแล้ว

ไม่เหมือนกับเมืองหยูซานที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ภายใต้การควบคุมของขุนพลอาวุโสเมืองหลินเจียง นิกายใหญ่ที่สืบทอดมายาวนานหลายพันปี กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย

นักเล่าเรื่องกำหมัดแน่น ยืนงงอยู่ในโรงเตี๊ยม

เขาได้พูดถึงวีรบุรุษและหญิงสาวผู้เปี่ยมไปด้วยความเมตตามาหลายสิบปี พูดถึงการใช้กระบี่สังหารปีศาจมาหลายสิบปี ทว่าตอนนี้เรื่องราวเหล่านั้น ได้พลิกผันในชั่วข้ามคืน

"ข้า..."

ริมฝีปากแห้งของนักเล่าขยับ พยายามควบคุมสติ เรื่องราวที่คุ้นเคยในใจพูดไม่ออก ได้แต่ค้นหาเรื่องราวใหม่ในหัว

"วันนี้ข้าจะเล่าเรื่อง... อืม... เทพเจ้าแห่งแม่น้ำในเมืองสุ่ยอวิ๋น ถือดาบเซียน สังหารปีศาจปลาอายุพันปี!"

นักเล่าเรื่องเช็ดเหงื่อ ตีกลองดังรัวๆ "ว่ากันว่าในราชวงศ์ปัจจุบัน มีชายร่างใหญ่รูปงาม ดวงตากลมโต หน้าผากกว้าง สวมชุดลายเมฆสีทอง ถือดาบสีหมึกที่สามารถตัดภูเขาและแม่น้ำได้ ท่าทางสง่างาม เดินบนคลื่นแม่น้ำ เบื้องหลังมีทหารกุ้งและปูมากมาย"

"ปีศาจปลาแม่น้ำมีหน้าตาอัปลักษณ์ รูปร่างอ้วนพี น่าเกรงขาม ถามเสียงดังว่า เจ้าคือผู้ใด!?"

"ชายร่างใหญ่ยิ้มเย็นชา ทหารเต่าด้านหลังก้มตัวลงคารวะ นี่คือเทพเจ้าแห่งแม่น้ำที่ลงมาจากดวงดาว เพียงแค่ได้ยินชื่อนี้ มันก็ทำให้ปีศาจปลาแม่น้ำตกใจจนถอยหลัง เนื้อตัวสั่นเทา แม้แต่... ร่างกายก็หดลงเหลือเท่าเมล็ดถั่ว..."

"มารดามัน!"

ชายหนุ่มที่พันผ้าพันแผลทั้งตัวหลับตาลง เอ่ยเสียงเบาๆ ว่า "ข้าฟังไม่ไหวแล้ว ข้ารู้สึกอายแทนจริงๆ"

หญิงสาวในชุดลำลองที่อ่อนหวานยกถ้วยชาขึ้น นางมีสีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก "สามัญชนชอบฟังเรื่องราวที่เกินจริง"

หลี่ซินฮั่นมองไปที่นักเล่าเรื่องอีกครั้ง "ไม่รู้ว่าเขาใกล้จะถึงขอบเขตวารีหยกหรือยัง แต่ข้าคิดว่าน่าจะใกล้แล้ว เขาคืออัจฉริยะคนหนึ่ง เพียงแต่ติดอยู่ในที่ทุรกันดารอย่างเมืองไป๋อวิ๋น ทำให้เสียเวลาไปมาก"

"นั่นสิ"

เขาจำอะไรบางอย่างได้ "ก่อนหน้านี้ ท่านพี่ขอให้ตระกูลออกใบลาพัก แต่ข้าลืมถามไปว่า ท่านรีบกลับมาเมืองชิงโจวทำไม แล้วเสินอี้อยู่ที่ไหน?"

หลี่มู่จินจ้องมองเศษใบชาที่ลอยอยู่ในถ้วยชา ไม่เอ่ยอะไรเป็นเวลานาน

นางเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงรีบกลับมา นางเพิ่งไปพักอยู่ที่เมืองนั้นแค่สองวัน แต่จู่ๆ นางอดไม่ได้ที่จะควบม้ากลับมา

เผื่อว่าเขาชิงเฟิงจะต้องเกณฑ์ทหารอีก เผื่อว่านางถูกเกณฑ์...

ชายหนุ่มขอบเขตเริ่มต้นจะทำอะไรได้บ้างบนยอดเขาชิงเฟิง?

ในขณะที่ความคิดของหญิงสาวกำลังสับสน หลี่ซินฮั่นค่อยๆ ขมวดคิ้ว จ้องมองพี่สาวของเขาอย่างดุเดือด เขาไม่อยากเชื่อจริงๆ "ท่านปล่อยเขาไป?!"

เมื่อถูกหลี่ซินฮั่นถามคำถามนี้ หลี่มู่จินกลับไม่ได้โต้ตอบ แต่ลุกขึ้นยืนทันที

เสียงพ่อค้าดังมาจากนอกประตู "กลับมาแล้ว! เสี่ยวเว่ยแผนกปราบปีศาจกลับมาแล้ว!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด