บทที่ 67 ตั้งใจฝึกฝน《คัมภีร์ภูตมายาแห่งปรโลก》
ข้อที่สาม: หากต้องการสำรวจปรากฏการณ์ประหลาด ให้รวบรวมกำลังคนมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการคลี่คลายกฎของปรากฏการณ์ประหลาด คือการใช้ชีวิตผู้คนมากองรองรับ
โปรดเชื่อมั่นในตัวเอง คุณจะไม่ใช่คนแรกที่ตายไปแน่นอน!
...
หลี่ฟานอ่าน《คู่มือเอาตัวรอดในซากสำนัก》อย่างละเอียดจนจบ รู้สึกว่าหนึ่งร้อยคะแนนผลงานนี้ไม่ได้ใช้ไปอย่างสูญเปล่า
มีประสบการณ์เหล่านี้แล้ว เขาจะได้สำรวจวิหารอวิ๋นสุ่ยในอีกสองปีข้างหน้าได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
ในชาติก่อน หลังจากซือคงอี้ค้นพบ《บันทึกภาพอวิ๋นสุ่ย》ในวิหารอวิ๋นสุ่ย ได้รับรางวัลหนึ่งแสนคะแนนผลงาน เรื่องราวแพร่สะพัดออกไป
และนั่นก็จุดชนวนให้เหล่าผู้ฝึกเซียนในทะเลชงอวิ่นกระตือรือร้นที่จะสำรวจวิหารอวิ๋นสุ่ยขึ้นมา
แม้《บันทึกภาพอวิ๋นสุ่ย》จะถูกนำไปแล้ว แต่...
วิหารอวิ๋นสุ่ยใหญ่โตกว้างขวางขนาดนี้ ของล้ำค่าด้านในจะมีแค่《บันทึกภาพอวิ๋นสุ่ย》เพียงชิ้นเดียวเท่านั้นหรือ?
ก็ด้วยความคิดเช่นนี้ ผู้ฝึกเซียนทะเลชงอวิ่นจึงพากันเข้าไปยังวิหารอวิ๋นสุ่ยอย่างไม่หวั่นเกรงความตาย ไม่ขาดสาย
แม้แต่ผู้ฝึกเซียนอิสระจากแผ่นดินใหญ่แดนไกล ก็ยังเดินทางมาเพราะได้ยินกิตติศัพท์
ความคิดของพวกเขาก็ไม่ผิดเลย
ในชาติก่อน จนกระทั่งในปีที่ย้อนกลับมายี่สิบเจ็ดปี ตอนที่หลี่ฟานฝึกปราณนั่นแหละ วิหารอวิ๋นสุ่ยก็ยังไม่ได้รับการสำรวจอย่างสมบูรณ์
เป็นระยะๆ ก็จะมีข่าวลือผู้ฝึกเซียนได้สมบัติวิเศษจากภายในออกมา จนทำให้ทุกคนอิจฉาน้ำลายหก
ก็เนื่องจากมีผู้คนเข้าไปสำรวจไม่ขาดสายนี่เอง กฎของปรากฏการณ์ประหลาดเกือบทั้งหมดในวิหารอวิ๋นสุ่ย จึงไม่ใช่ความลับอะไรแล้ว
แม้แต่หลี่ฟานเองในชาติก่อน ก็ได้ยินมาบ้าง
เพียงแต่...
เรื่องที่《บันทึกภาพอวิ๋นสุ่ย》ตกมาอยู่ในมือซือคงอี้ได้อย่างไรกันแน่ กลับเป็นที่ถกเถียงกันเสียงเซ็งแซ่อยู่เรื่อยมา ไม่มีข้อสรุป
ดังนั้น หากหลี่ฟานอยากจะได้《บันทึกภาพอวิ๋นสุ่ย》มาครอบครองในชาตินี้ ทางที่ดีที่สุดคือตามติดซือคงอี้ไปอย่างลับๆ แล้วแย่งชิงในจังหวะที่เขากำลังจะได้มันมา
อีกสองปีกว่าวิหารอวิ๋นสุ่ยจะเปิด ระหว่างนี้เขาสามารถสืบหาข่าวคราวของซือคงอี้ไว้ก่อน รู้เขารู้เรา
พร้อมกันนั้นก็ต้องพยายามเพิ่มพูนพลังของตนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลี่ฟานเพ่งสายตาไปที่กลุ่มคัมภีร์ยุทธ์สังหารขั้นฝึกปราณกองใหญ่ในกระจกเทียนเสวียน
ราคาของคัมภีร์ยุทธ์สังหารสูงกว่าคัมภีร์ยุทธ์ทั่วไปมากโข
เขาเคยฝึกฝน《คัมภีร์ยุทธ์เซี่ยวเอี๋ยนสุ่ย》มาก่อน ราคาเพียง 1200 คะแนนผลงาน
ส่วนราคาคัมภีร์ยุทธ์สังหารนั้น ส่วนใหญ่อยู่ที่ราวๆ 1500 คะแนน
หลี่ฟานมองผ่านๆ คำอธิบายคัมภีร์ยุทธ์อย่างรวดเร็ว เพื่อคัดเลือกคัมภีร์ยุทธ์ที่เหมาะกับตนเอง
《คัมภีร์ยุทธ์หลิวสุ่ยเจี้ยนเจวี่ย》 《คัมภีร์ยุทธ์เสี่ยวกังเฟิงเจี้ยน》 《คัมภีร์ยุทธ์ชีหลิวซิง》...
ทันใดนั้น สายตาของหลี่ฟานก็หยุดนิ่งที่คัมภีร์ยุทธ์เล่มหนึ่ง
《คัมภีร์ภูตมายาแห่งปรโลก》
เขาอ่านคำแนะนำคัมภีร์ยุทธ์นี้ซ้ำไปซ้ำมาอย่างละเอียด แล้วก็ใจเต้นแรงขึ้นมาในทันที
ตามคำแนะนำ นี่คือคัมภีร์ยุทธ์ที่เน้นศิลปะมายาเป็นหลัก
หลอมเลี้ยง "ภูตมายา" ตนหนึ่งขึ้นมาในทะเลจิต เมื่อปะทะศัตรู ก็สามารถปล่อยภูตมายาออกไปหลอกล่อได้
หากภูตมายาเข้มแข็งยิ่งขึ้น ก็สามารถแทรกซึมเข้าไปในทะเลจิตของผู้อื่น เพื่อโจมตีด้วยจิตวิญญาณได้โดยตรงเลยทีเดียว
คัมภีร์ยุทธ์นี้ ช่างเหมาะกับเขาอย่างกับกำหนดมาให้พอดีเลยจริงๆ!
แม้เขาจะไม่แน่ใจว่าความเข้มแข็งจิตวิญญาณของตนนั้นจะเทียบเท่าผู้ฝึกเซียนคนอื่นๆ เพียงใด แต่ผ่านการเวียนว่ายตายเกิดนับร้อยปีมาแล้ว ยิ่งได้รับการหล่อหลอมจาก《คาถาหล่อหลอมจิตเสวียนหวง》น่าจะไม่อ่อนแอไปหรอก
นอกจากนี้ การหลอมเลี้ยง "ภูตมายา"
แวบหนึ่ง เงาร่างสีแดงก็ผุดขึ้นในความคิดของหลี่ฟานโดยไร้สาเหตุ
หากใช้ชีเยี่ยนเป็นต้นแบบในการหลอมเลี้ยง ภูตมายาที่เกิดขึ้นจะต้องทรงพลังไม่น้อยทีเดียว
หลี่ฟานคิดในใจ ก่อนตัดสินใจซื้อคัมภีร์ยุทธ์นี้ในทันที
จนกระทั่งเห็นราคา...
ตาหลี่ฟานกระตุก
2500 คะแนน!
ราคาเกือบเท่าคัมภีร์ขั้นสร้างฐานที่ไม่ค่อยดีเลยทีเดียว!
สงสัยว่าเพราะเหตุใดคัมภีร์ยุทธ์ที่ดูท่าจะเก่งกาจเช่นนี้ ถึงถูกวางขายอยู่ตรงนี้ตลอด ไม่มีใครสนใจเลย
จริงๆ แล้ว ในเรื่องนี้หลี่ฟานคิดผิดไปหน่อย
เหตุที่《คัมภีร์ภูตมายาแห่งปรโลก》มีราคาแพงเช่นนี้ ก็เพราะคัมภีร์ยุทธ์ศิลปะมายาค่อนข้างหายากเท่านั้น ไม่ใช่เพราะมันแข็งแกร่งมากมายอะไร
ในยุทธภพปัจจุบัน ความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณของผู้ฝึกเซียนส่วนใหญ่ต่างกันไม่มากนัก
สุดท้ายแล้ว ก่อนเกิดภัยพิบัติยุคใหญ่ คัมภีร์ยุทธ์ที่เน้นเสริมความแข็งแกร่งให้จิตวิญญาณนั้นก็มีไม่มากอยู่แล้ว
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในตอนนี้ที่คัมภีร์ยุทธ์เซียนไม่อาจฝึกฝนพร้อมกันได้อีก
เมื่อขาดวิธีเสริมพลังและยกระดับจิตวิญญาณแล้ว ผู้ฝึกเซียนส่วนใหญ่ก็มีความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณอยู่ในระดับใกล้เคียงกันหมด
ในสถานการณ์เช่นนี้ จะมีสักกี่คนกันที่ใช้จิตวิญญาณโจมตีผู้อื่น
เพราะนั่นมักจะหมายถึงการสูญเสียทั้งสองฝ่าย
นี่ก็คือสาเหตุที่ผู้ฝึกเซียนคนอื่นๆ มองว่า《คัมภีร์ภูตมายาแห่งปรโลก》ไม่ค่อยมีประโยชน์นัก
พูดอะไรก็พูดไป สุดท้ายมันก็แค่คัมภีร์ศิลปะมายาเท่านั้นเอง
เป็นเพียงวิธีการใช้จิตวิญญาณ ไม่ใช่วิธีเสริมพลังให้แก่มัน
การโจมตีด้วยจิตวิญญาณนั้นไม่กล้าใช้กันง่ายๆ อีกอย่างก็เพื่อศิลปะมายาแค่เล็กน้อย แล้วใครจะยอมเสียคะแนนผลงานไป 2500 คะแนนกันล่ะ?
ก็เพราะหลี่ฟานมี《คาถาหล่อหลอมจิตเสวียนหวง》อยู่ในตัว ประกอบกับเคยเห็นร่างของชีเยี่ยนซึ่งเป็นพลังฟ้าดินมาด้วยตาตนเอง จึงเหมาะเจาะลงตัวกับวิธีหลอมเลี้ยง "ภูตมายา" เป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้น《คัมภีร์ภูตมายาแห่งปรโลก》จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังได้อย่างเต็มที่หลายเท่าตัวในมือของเขา
อย่างไรก็ตาม ในตอนสุดท้าย หลี่ฟานก็ยังขบฟันซื้อ《คัมภีร์ภูตมายาแห่งปรโลก》มาอยู่ดี
ในพริบตา คะแนนผลงานของหลี่ฟานก็เหลืออยู่แค่ 1321 คะแนนเท่านั้น
คะแนนผลงานหามาเร็ว ใช้ไปยิ่งเร็วกว่า!
เดิมทีเขายังคิดอยากจะซื้อคัมภีร์ศิลปะหลบหนีสักเล่ม แต่ตอนนี้เงินทองไม่ค่อยพอใช้แล้ว ต้องรอไปก่อนละกัน
เรื่องเร่งด่วนที่สุดในเวลานี้ คือการฝึกฝน《คัมภีร์ภูตมายาแห่งปรโลก》ให้ได้ถึงขั้นฝึกปราณระยะปลายโดยเร็ว
หลี่ฟานเปิดโหมดช่วยฝึกฝนของกระจกเทียนเสวียน วางไข่มุกหลิ่วหลี่เลิศล้ำไว้ข้างกาย แล้วก็เริ่มฝึกฝน
ทำใจให้นิ่งดั่งกระจก คำอธิบายอันลึกลับซับซ้อนในคัมภีร์ยุทธ์
กลับเป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายเหมือนอ่านหนังสือประถมสำหรับหลี่ฟานผู้ได้รับพลังพิเศษถึงสองชั้น
ลมปราณบริสุทธิ์ที่ถ่ายทอดจาก《คัมภีร์ยุทธ์เซี่ยวเอี๋ยนสุ่ย》ในตันเถียนกลายเป็นปุ๋ยหล่อเลี้ยง ผลักดันความก้าวหน้าในการฝึกฝน《คัมภีร์ภูตมายาแห่งปรโลก》พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วปานจรวด
ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวัน 《คัมภีร์ภูตมายาแห่งปรโลก》ก็บรรลุถึงขั้นฝึกปราณระยะกลางแล้ว
ฝึกปราณระยะกลาง จะสามารถหลอมเลี้ยง "ภูตมายา" ในความคิดได้แล้ว
แม้เรียกว่าภูตมายา แต่สิ่งที่หลอมเลี้ยงก็ไม่อาจสร้างขึ้นจากความว่างเปล่า
จำเป็นต้องใช้สิ่งที่มีอยู่จริงในยุทธภพเป็นพื้นฐาน
ความคิดลื่นไหลอย่างช้าๆ เรื่องราวในอดีตวูบขึ้นมาทีละฉากตรงหน้า
หลี่ฟานราวกับย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาในชาติก่อน ยามที่ได้เห็นชีเยี่ยนต้มทะเลจนแห้งกับตา
ภาพเงาเลือนรางปรากฏขึ้นภายในทะเลจิตของหลี่ฟานอย่างเชื่องช้า
เพียงภาพเงาที่ยังไม่สมบูรณ์นี้ หลี่ฟานก็รู้สึกถึงอุณหภูมิร่างกายที่พุ่งขึ้นสูงอย่างฉับพลัน
เหงื่อไหลพรากราวกับสายฝน
หลี่ฟานขมวดคิ้ว ฝืนฝึกฝน《คาถาหล่อหลอมจิต》เพื่อระงับความร้อนระอุ
แล้วก็หลอมเลี้ยงภาพลักษณ์ของชีเยี่ยนต่อไป
ตามจังหวะที่ภูตมายาชีเยี่ยนค่อยๆ ก่อรูปขึ้น อุณหภูมิของร่างหลี่ฟานก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
หากจะเปรียบว่าเมื่อครู่เหมือนอยู่ใต้แดดร้อนจัดกลางทะเลทราย
ตอนนี้ก็ราวกับถูกย่างอยู่บนเปลวไฟระอุ
ยิ่งหลี่ฟานหลอมเลี้ยงต่อไปเท่าไร ความร้อนระอุก็ยิ่งน่าสะพรึงกลัวมากขึ้น
ในที่สุด เมื่ออุณหภูมิถึงจุดสูงสุด เสื้อผ้าบนตัวหลี่ฟานก็ลุกไหม้ขึ้นมาโดยไร้เปลวเพลิง
"ปัง!"
ในสภาวะที่หลอมเลี้ยงภาพนั้นไม่อาจรักษาไว้ได้อีกแล้ว ภาพเงาในทะเลจิตก็จางหายไปทันที
หลี่ฟานสำลักเลือดสดออกมาคำหนึ่ง
เลือดนั้นก็แผ่ความร้อนสูงออกมาเช่นกัน ยังไม่ทันจะหยดลงพื้น ก็กลายเป็นไอขาวระเหยหายไปซะก่อน
หลี่ฟานเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก ยังไม่ท้อแท้
เขาซื้อยาเหลี่ยวหยางตานหนึ่งเม็ดจากกระจกเทียนเสวียน พักฟื้นสักครู่ ก็เริ่มหลอมเลี้ยงต่อไป