บทที่ 66 ปรากฏการณ์ประหลาดในยุทธภพ
ตอนแรกที่ได้เข้าไปในซากวิหารอวิ๋นสุ่ย มีผู้ฝึกเซียนกว่าร้อยคน
ส่วนใหญ่มีขั้นพลังยุทธ์แค่ขั้นฝึกปราณและขั้นสร้างฐาน
คิดว่าเป็นเพียงซากสำนักธรรมดา แต่กลับไม่รู้ว่าภายในวิหารอวิ๋นสุ่ยนั้นเต็มไปด้วยปรากฏการณ์ประหลาด ผู้ฝึกเซียนเหล่านี้ประมาทเผลอตัว จึงต้องล้มตายเป็นจำนวนมาก
สุดท้ายแล้วมีผู้รอดชีวิตกลับออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งในสิบ
และในนั้นมีคนหนึ่งชื่อซือคงอี้
ผู้นี้มีพลังยุทธ์เพียงแค่ขั้นฝึกปราณระยะปลาย ดูธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ
ทุกคนคิดว่าเขารอดมาได้เพียงโชคช่วยเท่านั้น
ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าก็คนที่ไม่เป็นที่สังเกตอย่างซือคงอี้ผู้นี้เอง หลังจากกลับมาถึงเกาะหว่านเซียน ก็ส่งมอบ《บันทึกภาพอวิ๋นสุ่ย》ทำให้ภารกิจรับสมัครสูงถึงหนึ่งแสนคะแนนผลงานสำเร็จลง
ซือคงอี้รับรางวัลไปแล้ว ก็ใช้วงจรอาคมเคลื่อนย้ายระยะไกลมาก จากทะเลชงอวิ่นไป หายไปจากสายตาทุกคน
หลังจากนั้น ซือคงอี้ก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย
"ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ประหลาด และซากสำนัก" หลี่ฟานทบทวนเรื่องราวในชาติก่อนอย่างช้าๆ พลางสั่งการกระจกเทียนเสวียน
ในพริบตาเดียว ข้อมูลหลายร้อยหลายพันบรรทัดก็ผุดขึ้นมา
เพียงแต่ข้อมูลส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่ประโยคแรกให้อ่าน หากอยากได้ข้อมูลที่สมบูรณ์จะต้องจ่ายคะแนนผลงานจำนวนหนึ่ง
หลี่ฟานไม่ตระหนี่ จ่ายคะแนนผลงานไป 100 คะแนนทันที ซื้อ《คู่มือเอาชีวิตรอดในซากสำนัก》ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
ผู้แต่ง《คู่มือเอาชีวิตรอดในซากสำนัก》ชื่อฉีหยวนโจว ก็เป็นผู้ฝึกเซียนอิสระเช่นกัน
เขาผจญภัยในซากสำนักต่างๆ มาอย่างยาวนาน ตราบจนฝึกฝนได้ถึงขั้นควบแน่นแก่นทองคำ จึงเข้าร่วมพันธมิตรหมื่นเซียน
การที่รอดพ้นจากซากสำนักที่เต็มไปด้วยวิกฤตได้ทุกครั้ง ฉีหยวนโจวย่อมต้องมีความสามารถเหนือคนทั่วไปเป็นแน่
《คู่มือเอาชีวิตรอดในซากสำนัก》ที่เขาเรียบเรียงไว้ ได้รับการยกย่องสรรเสริญจากผู้ฝึกเซียนจำนวนมาก ถือเป็นเสมือนตำราอ้างอิงกันเลยทีเดียว
ซากวิหารอวิ๋นสุ่ยลึกลับและอันตราย ถึงหลี่ฟานจะมีข้อมูลเชิงลึกมาแต่แรก แต่ก็ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย
เขาจึงเริ่มศึกษาอย่างละเอียดในทันที
เมื่อเกิดภัยพิบัติยุคใหญ่ในสมัยโบราณ สำนักนับไม่ถ้วนพังทลายสูญสิ้น
เหลือไว้เพียงซากปรักหักพังในยุทธภพ
บางซากสำนักถูกสำรวจโดยผู้ฝึกเซียนในแต่ละยุคสมัยนับครั้งไม่ถ้วน ด้านในจึงสะอาดเกลี้ยง ไม่เหลือสิ่งใดที่มีค่าไว้เลย
แต่บางซากสำนักกลับอันตรายและใหญ่โตเกินไป จนถึงวันนี้ก็ยังสำรวจไม่ครบ ในแต่ละปีก็ยังมีผู้ฝึกเซียนจำนวนไม่น้อยกล้าเสี่ยงบุกเข้าไป ไม่ว่าจะเพื่อแสวงหาคัมภีร์วิชา หรือโอกาสก้าวข้ามขีดจำกัด
อีกประเภทหนึ่งคือสำนักนั้นๆ ถูกดินแดนลี้ลับหรือวงจรอาคมปิดบังมาโดยตลอด เก็บซ่อนตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอก สำนักประเภทนี้เป็นดั่งผืนดินบริสุทธิ์ที่ยังไม่ถูกแตะต้อง อาจกล่าวได้ว่าเป็นแดนแห่งโอกาสดีที่เต็มไปด้วยโชคลาภ เมื่อใดก็ตามที่ปรากฏตัวขึ้นมา ย่อมจะดึงดูดผู้ฝึกเซียนจากรอบด้านให้พากันมุ่งหน้ามาแย่งชิง
ประสบการณ์ต่างๆ ใน《คู่มือเอาชีวิตรอดในซากสำนัก》นั้น ก็มุ่งเน้นไปที่สองประเภทหลังนี้แหละ
ในคู่มือระบุว่าซากสำนักทุกแห่งที่มีคุณค่า คู่ควรแก่การสำรวจในยุทธภพปัจจุบัน สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ
ประเภทแรกคือไม่มีปรากฏการณ์ประหลาด
ส่วนอีกประเภทคือมีปรากฏการณ์ประหลาด
หากไม่มีปรากฏการณ์ประหลาด ก็เพียงแค่ระวังกับดักและวงจรอาคม โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีอันตรายใหญ่หลวงนัก
แต่หากมีปรากฏการณ์ประหลาด ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ที่เรียกว่าปรากฏการณ์ประหลาด ก็คือการเกิดขึ้นของเรื่องประหลาดเหนือธรรมชาติต่างๆ ในซากสำนักที่ไม่อาจใช้เหตุผลปกติมาอธิบายได้
ปรากฏการณ์ประหลาดเหมือนจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้ มักจะมีกฎเกณฑ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร
กฎของปรากฏการณ์ประหลาดก็มีระดับความรุนแรงแตกต่างกัน
ในยุทธภพต่างยึดถือกันมานานแล้วว่า ให้แบ่งระดับความแรงของกฎปรากฏการณ์ประหลาด
ตามขั้นพลังยุทธ์สูงสุดของผู้ฝึกเซียนที่มันสามารถส่งผลกระทบได้ ก็แบ่งออกเป็นปรากฏการณ์ประหลาดระดับฝึกปราณ ระดับสร้างฐาน ระดับควบแน่นแก่นทองคำ เป็นต้น
ผู้ฝึกเซียนที่อยู่ภายในอาณาเขตของปรากฏการณ์ประหลาด หากพลังยุทธ์ต่ำกว่าความแรงของกฎ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎนั้น
เมื่อใดก็ตามที่ฝ่าฝืน ย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงความตายได้เลย
แต่หากพลังยุทธ์สูงกว่าความแรงของกฎปรากฏการณ์ประหลาด ก็อาจจะไม่ได้รับผลกระทบ รอดพ้นจากความตายได้
ทว่าไม่ว่าพลังยุทธ์ของคุณจะสูงเพียงใด ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงปรากฏการณ์ประหลาดได้
แม้แต่ผู้ที่บรรลุถึงขั้นผสานเต๋า ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกฎปรากฏการณ์ประหลาดระดับฝึกปราณได้
ไม่ต้องพูดถึงการช่วยผู้ฝึกเซียนที่ละเมิดกฎปรากฏการณ์ประหลาดออกมาอีก
เมื่อมีสิ่งมีชีวิตเข้าไปในขอบเขตของปรากฏการณ์ประหลาด มันก็จะถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที
จำนวนผู้เสียชีวิตต้องถึงจำนวนหนึ่ง หรือไม่ก็ต้องแก้ปริศนากฎนั้นได้
ผู้ฝึกเซียนที่เข้าไปจึงจะสามารถออกมาได้
คู่มือยกตัวอย่างไว้หนึ่งกรณี
150 ปีก่อน บนเกาะไร้ชื่อทางตะวันตกของทะเลชงอวิ่นที่ติดกับแผ่นดินใหญ่ มีถ้ำเซียนปรากฏขึ้นกะทันหัน
นับตั้งแต่ปรากฏกาย ก็มีแสงสีรุ้งเปล่งประกายออกมาจากภายใน สาดส่องท้องฟ้ารอบด้านไกลนับร้อยลี้
ผู้ฝึกเซียนหลายคนถูกแสงรุ้งล่อใจ จึงบุกเข้าไปสำรวจภายใน
หลังจากค้นหาระยะหนึ่ง ผู้ฝึกเซียนพบว่าถ้ำเซียนแห่งนี้เป็นของที่หงจื่อซังเหริน ผู้ฝึกเซียนอิสระขั้นหล่อหลอมร่างทารกในยุคโบราณ สร้างขึ้นมาก่อนสิ้นลมหายใจ
ในถ้ำเซียนมีคัมภีร์วิชาสิบกว่าเล่ม และสมบัติวิเศษนับไม่ถ้วน
ผู้ฝึกเซียนเหล่านี้ดีใจมาก จึงเริ่มแย่งชิงกันอย่างดุเดือด
แต่ก็เกิดเรื่องน่าสะพรึงกลัวขึ้น
ผู้ฝึกเซียนทุกคนที่แย่งคัมภีร์วิชาหรือสมบัติวิเศษได้แล้วยิ้ม ศีรษะก็หลุดกระเด็นขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ
แววยิ้มประทับแน่นบนใบหน้าโดยสมบูรณ์
เพียงชั่วพริบตา ผู้ฝึกเซียนในที่นั้นก็ตายไปครึ่งหนึ่งแล้ว
ส่วนผู้ฝึกเซียนที่เหลือก็ตกใจจนตัวสั่น คิดว่ามีอะไรบางอย่างแอบซ่อนอยู่ในคัมภีร์วิชาและสมบัติวิเศษ จึงไม่กล้าไปแตะต้องเจ้าของล้ำค่าที่กองพื้นเต็มไปหมด รีบหนีออกจากถ้ำเซียนไป
เมื่อข่าวแพร่ออกไป ย่อมมีเหล่าผู้ฝึกเซียนเลือดร้อนเข้ามาเสี่ยงดูอีก
หลังจากที่พวกเขาได้เก็บเอาสมบัติไว้นาน แต่ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย จึงต่างแสดงสีหน้าเหยียดหยามหรือดีใจออกมา
ทันใดนั้นศีรษะและลำตัวก็แยกจากกัน หัวกระเด็นกลิ้งเกลื่อนไปทั่ว
มีเพียงผู้ฝึกเซียนหนึ่งที่หน้านิ่งตายด้านโดยกำเนิดเท่านั้น ที่รอดมาได้
แต่ก็ถูกเหตุการณ์สยองขวัญนี้ทำเอาตกใจจนแทบคลั่ง คว้าสมบัติวิเศษชิ้นหนึ่งแล้ววิ่งหนีไปราวกับหนูตกถังข้าวสาร
ข่าวที่ผู้คนต้องมอดม้วยอีกกลุ่มใหญ่ ทำเอาผู้ฝึกเซียนที่อิจฉาตาแดงโดยรอบต่างตกใจสยองขวัญ
ส่วนผู้ฝึกเซียนที่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด และคว้าสมบัติจากถ้ำเซียนได้นั่น ก็เรียกความสนใจจากทุกคนได้เป็นธรรมดา
แต่ไม่ว่าจะถามไถ่หรือคาดคั้นอย่างไร ผู้ฝึกเซียนหน้านิ่งก็บอกแต่ว่า เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่าเอาชีวิตรอดมาได้ยังไง
ต่อมา มีชายหนุ่มผู้หนึ่งเป็นคนฉลาด ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนจะไขปริศนานี้ได้
ห้ามหัวเราะในถ้ำเซียนแห่งนี้
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เมื่อใดก็ตามที่ยิ้ม จะถึงตายในทันที
แม้เรื่องนี้จะฟังดูเหลวไหล แต่เมื่อชายหนุ่มผู้ฉลาดเดินเข้าไปในถ้ำอย่างใจเย็น ใบหน้านิ่งสงบแล้วก็กลับออกมาโดยไม่เป็นอะไรพร้อมคัมภีร์วิชาหนึ่งเล่ม เหล่าผู้ฝึกเซียนทั้งหมดก็เชื่อแล้ว
จากนั้นพวกเขาก็เลียนแบบกันทำ นำสมบัติในถ้ำออกมาจนหมดสิ้น
...
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในถ้ำเซียนของหงจื่อซังเหริน คือปรากฏการณ์ประหลาดที่คลาสสิคและง่ายที่สุด ประกอบด้วยกฎแค่ข้อเดียว
ความจริงแล้ว ปรากฏการณ์ประหลาดในซากสำนักเหล่านั้น มักจะมีหลายกฎผสมผสานกันอยู่
ปรากฏการณ์ประหลาดนั้นอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย หากไม่รู้กฎชัดเจนเพียงขาดความระมัดระวังเล็กน้อยก็อาจตายได้
แต่เมื่อเข้าใจกฎของปรากฏการณ์ประหลาดแล้ว ความเสี่ยงก็แทบจะเป็นศูนย์
ฉีหยวนโจวสรุปประสบการณ์เอาตัวรอดจากปรากฏการณ์ประหลาดหลายสิบข้อจากชีวิตจริงของตน
ข้อแรก: ต้องรักษาความสงบนิ่งไว้ตลอดเวลา
ภายใต้ปรากฏการณ์ประหลาด เรื่องที่คิดไม่ถึงทุกอย่างก็เป็นไปได้
ข้อสอง: อย่าทำอะไรโดยไม่คิด
ในสถานการณ์ที่ไม่รู้กฎของปรากฏการณ์ประหลาด ยิ่งขยับเร็วเท่าไร ก็ยิ่งตายเร็วเท่านั้น