Chapter 1232 วิวัฒนาการไม้เท้าแม่น้ำและขุนเขานำทาง
หลังจากที่เห็นภารกิจมหากาพย์ที่ 14 จุนซ่างเซียวตะลึงงันไปในทันที.
ขณะกังวลว่าเก้าราชันย์อยู่ที่ใหน เมื่ออ่านรายระเอียดภารกิจที่ 14 ก็ตระหนักได้ในทันที!
“.”
จุนซ่างเซียวพยายามที่จะสงบใจลง ลอบคิดในใจ“ทำไมเก้าราชันย์ถึงถูกขังไว้ในคุกนรกเก้าชั้น? บางทีได้ละเมิดกฎของป้อมปราการซิงกงอย่างงั้นรึ?”
“โหยวเหิน.”
เขาเอ่ยถาม “บรรพชนของเจ้าทำผิดกฎอะไร?”
ซ่างโหยวเหินที่ครุ่นคิดเล็กน้อย เอ่ยออกมาว่า“ข้าได้ยินมาว่าบรรพชนในอดีตฝืนยกระดับขึ้นสู่สะบั้นมิติขั้นกลาง ทำให้ผิดกฎป้อมปราการซิงกงที่ตั้งเอาไว้ ดังนั้นจึงถูกพวกเขาจับ.”
“ฝืนฝืนยกระดับอย่างงั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ฟังดูน่ากลัวจริง ๆ.”
ซ่างโหยวเหินเอ่ย “บิดาเอ่ยว่าเพื่อที่จะก้าวไปยังขั้นต่อไป มีเพียงแค่ต้องเสี่ยง สำเร็จรอดไม่สำเร็จก็ตาย ดังนั้นบรรพชนจึงตัดสินใจที่จะเสี่ยง ทว่ายังไม่ได้ลงมือด้วยซ้ำกับถูกป้อมปราการซิงกงจับตัวไปสะก่อน.”
เขาที่พอเข้าใจแล้ว่าบรรพชนต้าซ่างถูกขังด้วยเหตุผลใด ทำให้เขากับมาครุ่นคิด “เป็นไปได้ว่า เก้าราชันย์ก็คงจะเหมือน ๆ กัน เลยถูกขังในคุกนรกเก้าชั้นรึ?”
“คิดไปก็ไม่มีประโยชน์.”
ระบบเอ่ย “พบแล้วค่อยถามก็ได้.”
“ก็ใช่.”
จุนซ่างเซียวที่เลิกคิดก่อนเอ่ยออกมาว่า“ก่อนหน้านี้วางแผนที่จะไปสืบหาข้อมูล ตอนนี้ถูกภารกิจมหากาพย์บังคับ ดูเหมือนว่าคุกนรกเก้าชั้น ข้าคงจะต้องไปเยือนแล้วสินะ.”
“.”
ระบบเอ่ย “ภารกิจที่สิบ 14 เกี่ยวข้องกับ ภารกิจที่ 13 ด้วย.”
จุนซ่างเซียวที่แววตากลายเป็นจริงจัง “ดังนั้นคุกนรกเก้าชั้นสถานที่อันตรายเช่นนั้น ข้าจะต้องหาวิธีแล้ว.”
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้นเขาที่นำศิลาใสออกมา.
นี่คือศิลาวิวัฒนาการอาวุธเทวะเจ้านิกายนั่นเอง.
“ก่อนหน้านี้เป็นศิลาวิวัฒนาการของศิษย์ วันนี้ท่ายที่สุดก็เป็นของเปิ่นจั้ว.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ปัญหาตอนนี้.
อาวุธของหลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อ รับผิดชอบวิวัฒนาการโดยปรมาจารย์ฟ่าน ตอนนี้โกวเซิ่งอยู่ในอวกาศที่ไร้ที่สิ้นสุด เขาควรจะจัดการอย่างไร.
“ตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน!”
จุนซ่างเซียวที่ยกมือขึ้น ก่อนที่จะปรากฏเปลวเพลิงที่ร้อนแรงในทันที.
แม้นว่าจิตวิญญาณเพลิงจะหลับอยู่ในจุดตานเถียน ทว่าเขาก็สามารถควบคุมเพลิงให้ลุกโชนขึ้นได้ นอกจากนี้ยังทรงพลังกว่ากายาเพลิงศักดิ์สิทธิ์ซะอีก.
การจะหลอมแร่สักอย่าง เป็นเรื่องที่ง่ายมาก.
“ฟู่ ฟู่!”
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ศิลาวิวัฒนาการก็ค่อย ๆเปลี่ยนเป็นของเหลว.
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่โบกมือ นำไม้เท้าแม่น้ำและขุนเขานำทางออกมา ลอบคิดในใจ“ของวิเศษจุ้ยจื่อและเย่ซิงเฉินยังเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ แล้วของข้าล่ะ.”
“ซี่!”
ระหว่างที่กล่าวนั้น ของเหลวที่ไหลอาบพรมไปทั่วอาวุธ ขณะมีควันสีขาวปรากฏขึ้น.
ไม่นานจากนั้น.
ขอบเหลวที่เย็นลง.
ไม้เท้าแม่น้ำและขุนเขานำทาง ที่เหมือนกับถูกคลุมด้วยเกราะหนัก.
“แก๊ก!”
ผ่านไปอีกระยะหนึ่ง เกราะที่คลุมที่ค่อย ๆ แตกออกเป็นทาง.
“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
แสงเจ็ดสีที่ส่องสว่าง.
รอคอยอยู่ระยะเวลาหนึ่ง หลังจากแสงสลายหายไป ก่อนที่มันจะกลายเป็นพู่กันด้ามใหญ่ที่ลอยอยู่กลางอากาศ แผ่กลิ่นอายที่สูงส่งออกมา.
จุนซ่างเซียวที่แทบทรุดไปเหมือนกัน “กลายเป็นพู่กันรึ? แล้วเอาไว้ใช้เขียนรึอย่างไร?”
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้นริ้วแสงข้อมูลจากพู่กันก็ถูกส่งเข้ามาในหัวของเขาทันที.
“เป็นเช่นนี้นะเอง.”
หลังจากที่จุนซ่างเซียวได้รับข้อมูลมา แววตาก็ตระหนักได้ทันที ก่อนที่จะเริ่มเหวี่ยงพู่กันในมือ เหมือนกับหงส์ฟ้อนมังกรเหินไปบนอากาศ.
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
ในเวลานั้นเสียงมังกรที่คำรามลั่นออกมาจากพู่กัน!
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกไป พร้อมกับเหวี่ยงพู่กันเหมือกับมีชีวิต เสียงสายลมสายฟ้า พลังที่มากล้นดังกึกก้องแผ่กวาดม้วนออกไป.
“กึก!”
ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อย ๆ สลายหายไป จุนซ่างเซียวที่ร่อนลงบนพื้น.
บนห้วงมิติปรากฏอักษรขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น จักรวาลนี้ข้าหล่อเหล่าที่สุด!
“เพ่ย!”
ระบบที่แทบทนไม่ไหวต้องเอ่ยออกมาเสียงดัง.
อักษรบนอากาศที่จุนซ่างเซียวทิ้งเอาไว้ ขณะเขาเอ่ยออกมาว่า“ระเบิด.”
“ตูมมมม! ตูมมมม! ตูมมมม! ตูมมมม! ตูมมมม!”
อักษรที่ถูกทิ้งไว้บนอากาศเกิดระเบิดในทันที.
เพราะว่าเป็นมิติภายในแหวน มีพลังสะกดอยู่ ทำให้ไม่ได้เกิดระเบิดรุนแรงนัก.
“ไม่เลว ไม่เลว!”
จุนซ่างเซียวที่เผยยิ้มพลาย.
อักษรที่เขาเขียนเอาไว้ สามารถสร้างพลังระเบิดได้ ไม่ต้องบอกเลยว่ามันรุนแรงไม่ธรรมดา.
นอกจากนี้ทักษะพิฆาตใหม่ ยังสามารถโจมตีไปยังคนที่เขาเขียนชื่อก็ได้โดยที่ไม่ปรากฏออกมาให้เห็น.
“นับจากนี้.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “อาวุธเทวะของเปิ่นจั้ว เรียกว่า พู่กัน แม่น้ำ ขุนเขา!”
“......”
ระบบแทบทรุด “ก่อนหน้านี้มีชื่อว่าแม่น้ำขุนเขานำทาง เปลี่ยนแค่ตัวหน้านี่นะ!”
......
อาวุธเทวะเจ้านิกาย ที่ถูกยกระดับขึ้นเรียบร้อยแล้ว.
ทำให้พลังของจุนซ่างเซียวแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้นหนึ่ง.
อย่างไรก็ตาม.
จากการทดสอบเมื่อครู่ ดูเหมือนว่าจะมีพลังเหนือกว่าการทะลวงบั้นท้ายมาก.
“ป้อมปราการซิงกง.”
จุนซ่างเซียวที่ยืนอยู่ดาดฟ้าเรือ “เปิ่นจั้วมีจิตวิญญาตุธาตุทั้งสอง และอาวุธเทวะ น่าจะสามารถสำรวจได้อย่างปลอดภัย!”
ขณะที่โกวเซิ่งกำลังแสดงความเท่อยู่นั้น เรือรบตงกู่ที่ต้องหยุดชะงักเพื่อป้องกันการเข้าพุ่งชนเข้ากับบางอย่าง ทำให้หน้าของเขาล้มคะมำไถไปบนดาดฟ้า.
“เฮ้อ.”
ระบบเอ่ย “ดีนะที่หน้าของโฮสน์หนา ไม่เช่นนั้นคงแย่.”
“เจ้านิกาย!”
ซ่างโหยวเหินเร่งรีบวิ่งออกมา“เกิดอะไรขึ้น?”
จุนซ่างเซียวยืนขึ้นอย่างยากลำบาก ใบหน้าของเขามีรอยแดง ทำให้เขารู้สึกโกรธเกรี้ยวเมื่อจ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป.
ที่มุมหนึ่งของอวกาศนั้น ปรากฏเรือรบที่หยุดนิ่ง ขวางเส้นทางของเขาเอาไว้.
“เจ้าลูกเต่า!”
จุนซ่างเซียวที่กุมใบหน้า ตะโกนดังลั่น“ขับยานแบบนี้ ไปซื้อใบขับขี่มารึไง!”
“กึก!”
บนเรือรบ ชายวัยกลางคนในเกราะรบหนาก้าวออกมา.
“ฟิ้ว!”
ผ้าคลุมหลังสีขาวที่ร่ายรำ ฟาดกับอากาศเสียงดัง พรึบ ๆ.
แขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อยกขึ้นมากอดอก ใบหน้าดำมืด “เจ้าหนู เจ้าด่าใคร?”
รูปร่างท่าทางดูแข็งแกร่ง แผ่กลิ่นอายที่น่าเกรงขามออกมา ดูราวกับ พลเอกแห่งกองทัพเรือ!
จุนซ่างเซียวที่บังคับเรือเหาะเข้าไปใกล้ ๆ.
ในเวลานั้นเขามองเห็นอักษร“ป้อมปราการซิงกง”อยู่ด้านหลังของผ้าคลุมหลัง.
“เจ้านิกาย!”
ซ่างโหยวเหินส่งเสียง “นี่น่าจะเป็นหนึ่งในสิบสองแม่ทัพลาดตระเวนป้อมปราการซิงกง!”