Chapter 1229 พ่อ
“จิตวิญญาณเพลิง?”
อ้ายยาที่เผยความประหลาดใจ“จิตวิญญาณเพลิง นี่คือจิตวิญญาณเพลิงที่แข็งแกร่งที่สุด!”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าเคยได้ยินด้วยรึ?”
“แน่นอน.”
อ้ายยาที่ชี้ไปยังราชาปิศาจต้าเห่ย “จิตวิญญาณเพลิงก็เหมือนกับจิตวิญญาณปิศาจ เป็นจิตวิญญาณพิเศษที่เกิดขึ้นจากการบ่มเพาะพลังจักรวาลของโลกเบื้องล่าง!”
“จริงรึ?”
จุนซ่างเซียวที่กลายเป็นดีใจขึ้นมาทันที.
อ้ายยาเอ่ย ”ไม่แปลกใจเลยจู่เหรินชำระล้างได้เร็วกว่าเดิม.
ราชาปิศาจต้าเห่ยที่นอนหมดแรงบนพื้นรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองคงจะรอดได้ยากแล้ว.
จิตวิญญาณเพลิงและจิตวิญญาณปิศาจมีระดับเดียวกัน นอกจากนี้อีกฝังคือธาตุหยางที่แข็งแกร่งเป็นขั้วตรงข้ามกัน ตอนนี้มันต้องตายแน่ ๆ.
“บรรพชน....ท่านย่าทวด...ปล่อย...ปล่อยข้า.”ราชาปิศาจต้าเห่ยที่กล่าวอย่างหวาดกลัว.
นับตั้งแต่มันเกิดในพื้นที่ลึกเข้าไปในจักรวาล ก็ถูกจับมาขังในหอคอยสะกดวิญญาณ กว่าจะหนีออกมาได้ก็ยากเย็น เมื่อเป็นอิสระ กว่าจะฟื้นคืนพลังจากการถูกชำระล้าง ตอนนี้กลับถูกจับกลับมาเพื่อชำระล้างอีก เรื่องนี้จะให้มันยอมรับได้อย่างไร.
“แล้วคนบริสุทธ์เจ้าเคยปล่อยอย่างงั้นรึ?”
“พิภพต่าง ๆ ที่รกร้าง เจ้าเคยปล่อยพวกเขารึ?”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกมา มือขวาก่อเกิดจิตวิญญาณเพลิง แววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาเอ่ยออกมาว่า“เป็นผู้ใหญ่แล้วควรจะรับผิดชอบความผิดของตัวเอง.”
“ฟู่ ฟู่!”
เปลวเพลิงที่ร้อนแรงที่ลุกโชน การชำระล้างครั้งใหม่ก็เริ่มขึ้น!
“อ๊ากกกก!”
......
เรือรบตงกู่ที่ยังคงมุ่งสู่ป้อมปราการซิงกงด้วยความเร็ว จุนซ่างเซียวและอ้ายยาที่ร่วมมือกันชำระล้างราชาปิศาจต้าเห่ย.
“เจ้านั่นก่ออาชญากรรมอะไร ถึงได้ถูกทรมานขนาดนั้น!”
“หากเป็นข้า บางทีคงตายไปแล้วแน่ ๆ!”
“เสียงร้องที่ได้ยินทุกวัน ทำให้ขนข้าลุกทุกครั้งเลย!”
เสียงร้องที่ดังก้อง โหยหวนดังสนั่นไปทั่วทุกชั้นในคุก ทำให้เหล่านักโทษตกใจแทบนอนไม่หลับ.
“สหาย.”
ภายในคุกแห่งหนึ่ง เจาโตวโตวที่ยืนมือขัดหลังแววตาเผยความเห็นใจ “กล่าวออกมาว่า”เจ้านิกายปราณีเจ้ามากจริง ๆ ทำไมถึงไม่เคยทรมานเจ้า?”
เขาที่เป็นรองพัศดี ไม่จำเป็นต้องออกไปไปสั่งสอนนักโทษทุกวัน ทว่าเขายังคงมาเกลี้ยกล่อมไต่ลู่อย่างจริงจัง เพื่อให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจ.
“......”
ไต่ลู่ที่กลายเป็นเงียบ.
เจาโตวโตวเอ่ย “เทียบกับนักโทษคนอื่น ๆ เจ้าราวกับใช้ชีวิตบนสวรรค์.”
“เลิกพูด.”
ไต่ลู่เอ่ย “ข้าไม่ยอม.”
“ดี.”
เจาโตวโตวที่ลุกขึ้นก้าวออกจากคุกไป.
อย่างไรก็ตาม ขณะจากไป เขาที่ยกยิ้มออกมา.
น้ำเสียงของไต่ลู่ดูเหมือนว่าจะอ่อนกว่าแต่ก่อนมาก ดูเหมือนว่าอีกไม่นานคงจะไม่กล้าต่อต้านแน่
ใช่แล้ว.
ผลลัพธ์ทีเกิดขึ้นนี้ไม่เลวเลย.
มันทำลายจิตใจของไต่ลู่อย่างย่อยยับ.
เขาที่เริ่มกลับมาคิด สำนักหลิงชวนควรค่าให้เขาแก้แค้นจริง ๆ รึ?
“เฮ้อ.”
หลังจากเจาโตวโตวจากไป ไต่ลู่ที่ถอนหายใจ.
ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรให้ต้องคิด.
สำนักหลิงชวนที่ถูกทำลายไปนั้น จะต้องโทษตัวเอง.
ทำไมข้าต้องหาความยุติธรรม ทำให้ตัวเองต้องกลายเป็นนักโทษที่ตกยากด้วย.
ไต่ลู่ที่เวลานี้จิตใจกำลังขัดขืน.
อีกเรื่องที่เขาไปหาลูกพี่ลูกน้องที่โถงอินทรีย์ดำก็ไม่ใช่ขอร้องอีกฝ่ายให้สังหารจุนซ่างเซียวหรอกรึ?
กล่าวตามจริง เขาเองก็ไม่มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อญาติของตัวเองใด ๆ แล้ว.
หนำซ้ำ.
สำนักหลิงชวนที่ทำความสกปรกมากมาย และยังเป็นสำนักปิศาจ แม้แต่ลูกพี่ลูกน้องของเขาก็สังกัดสำนักปิศาจ ที่ทำความเดือดร้อนไปทั่วอีกด้วย.
ในเวลานี้ ไต่ลู่ทีเริ่มกลับใจ เริ่มกลับมาคิดเรื่องที่ผานมาแล้ว.
เขาที่คิดไปแม้กระทั่ง.
เขาจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในคุกนี้ตลอดชีวิตจริง ๆ รึ?
......
“สบาย!”
ภายในห้องควบคุม จุนซ่างเซียวที่นั่งดื่มชา ขณะเผยยิ้มออกมา.
ขณะชำระล้างราชาปิศาจต้าเห่ย เขาพบว่าสามารถควบคุมจิตวิญญาณเพลิงได้ดีขึ้นแม้แต่พัฒนาขึ้น กระทั่งตัวอ่อนในจุดตานเถียนก็เติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน.
“การชำระล้างอีกฝ่ายจะต้องปล่อยเปลวเพลิงตลอดเวลา แน่นอนว่าย่อมทำให้ความชำนาญของโฮสน์เพิ่มขึ้น.”ระบบกล่าวตอบ.
“การเดินทางไปยังป้อมปราการซิงกงต้องใช้เวลา.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ข้าจะทุ่มพลังทั้งหมด.”
นับจากนั้น เขาที่เก็บตัวในห้องเรือรบตงกู่ พร้อมกับเข้ามาในคุก ร่วมมือกับอ้ายยาชำระล้างราชาปิศาจต้าเห่ย.
การกระทำที่ไม่ต้องบรรยาย.
ในเวลานั้น เพียงแค่จุนซ่างเซียวใช้จิตวิญญาณเพลิงออกมา ตัวอ่อนในจุตตานเถียนก็พัฒนาขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การชำระล้างเร็วขึ้นเรื่อย ๆ!
“จูเหริน เกี่ยวกับระดับตอนนี้ น่าจะใช้เวลาสิบปี!”
“จูเหริน เกี่ยวกับระดับตอนนี้ น่าจะใช้เวลาห้าปี!”
“จูเหรินเกี่ยวกับระดับตอนนี้......”
อ้ายยาที่คำนวณทุกวัน ซึ่งเวลาที่ย่นลดลงเรื่อย ๆ จนต้องเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ“จูเหริน จิตวิญาณเพลิงของท่านยกระดับเร็วมาก!”
“โชคดีที่มีจิตวิญญาณปิศาจ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
เขารู้สึกขอบคุณราชาปิศาจต้าเห่ยจริง ๆ เพราะการมีอยู่ของมันทำให้จิตวิญญาณเพลิงของเขาเติบโตขึ้นทุกวัน!
ด้วยความขอบคุณ.
ทำให้เขาชำระล้างอย่างแข็งขันทั้งวันทั้งคืนต่อไป.
หลัก ๆ แล้วเพราะว่าเวลาคำนวณภารกิจใกล้มาถึงแล้ว เหลือเพียงสิบวันเท่านั้น!
เก้าวัน.
แปดวัน.
......
หนึ่งวัน.
สิบชั่วยาม.
หนึ่งชั่วยาม.
“อ๊กกกก!”
ในเวลานั้นจิตวิญญาณเพลิงที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ราชาปิศาจต้าเห่ยที่ร้องโหยหวนเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น.
“เร็วเข้า!”
“เร็วกว่านี้!”
จุนซ่างเซียวที่ปะทุพลัง เพิ่มพลังอย่างบ้าคลั่ง หน้าผากที่มีเส้นโลหิตปวมเป่งออกมา.
ด้วยขีดจำกัดของภารกิจทำให้เขากดดันเป็นอย่างมาก ตอนนี้เหลือไม่ถึงห้านาทีแล้ว ทำให้เขาต้องการเร่งรีบเพื่อที่จะชำระล้างอีกฝ่ายให้ได้.
“จูเหริน!”
อ้ายยาเอ่ย “ใกล้จะสำเร็จแล้ว!”
“อ๊ากกกก!”
จุนซ่างเซียวที่คำรามลั่น พร้อมกับปะทุพลังที่รุนแรงทันที.
“ติ๊ง! 59 วินาที!”
“ติ๊ง! 30 วินาที!”
“ติ๊ง! 10 วินาที!”
เสียงนับเวลาย้อนหลังที่ดังก้องในหู.
“อ๊ากกกก!”
จุนซ่างเซียวที่กำหมัดแน่น.
เขาที่ระเบิดพลังคำรามก้อง.
ราวกับว่าตัวอ่อนในจุตตานเถียนจะได้รับผล เวลานี้กำลังสั่นไปมา ก่อนที่จะเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น!
“แอ้!”
“แอ้ แง แง-----”
ราชาปิศาจต้าเห่ยที่ร้องคร่ำครวญด้วยเสียงที่แปลกประหลาด ราวกับเสียงกำเนิดของทารก.
“ครืนนนนน!”
ในเวลานั้น จิตวิญญาณเพลิงที่ระเบิดนั้น ทำให้จุนซ่างเซียวถอยหลังออกมาสองสามก้าว พร้อมกับกระอักโลหิตออกมา.
“ติ๊ง! ภารกิจสนับสนุนสำเร็จ ได้รับ 100000 แต้ม!”
“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุน : 118990 / 100000.”
“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนเกิน.....”
“ติ๊ง! ภารกิจสนับสนุนสำเร็จสมบูรณ์ ได้รับรางวัลลับ ศิลาวิวัฒนาการอาวุธเทวะเจ้านิกาย 1 ได้รับยันต์ประสบการณ์ 20.”
ดูเหมือนว่าภารกิจสนับสนุนจะสำเร็จอย่างฉิวเฉียด!
เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นจริง ๆ.
อย่างไรก็ตามเขาที่ยังไม่มีเวลาในการตรวจสอบแต้มและรางวัลเลย เพราะว่าเวลานี้กำลังจดจ้องมองไปยังกลุ่มก้อนเปลวเพลิง.
หลังจากที่เขาระเบิดพลังออกมาจนสุด ตัวอ่อนในจุนตานเถียนก็ระเบิดออกมานั่นเอง.
“ฟู่ ฟู่!”
กลุ่มก้อนเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ เวลานี้ได้ก่อรูปเป็นดอกบัวขึ้นทันที จากนั้นด้านในใจกลางดอกบัวก็ปรากฏเป็นรูปร่างมนุษย์ขึ้นช้า ๆ.
ร่างที่มีสามหัว ด้านหลังมีสี่แขนเพิ่มขึ้นมา สวมเข็มขัดขนาดเล็กสีแดง รูปร่างน่ารักน่าชังเหมือนกับเด็กอายุสองขวบ.
“นี่มันอะไร?”อ้ายยาที่เผยท่าทางอัศจรรย์ใจ.
“หะ!”
เด็กน้อยที่ยื่นมือออกไป ศีรษะด้านซ้ายและขวา ตลอดจนแขนที่เพิ่มมาสี่ข้างด้านหลังได้หายไป ก่อนที่จะลืมตาขึ้น พร้อมกับหันหน้าไปมองจุนซ่างเซียว เอ่ยกล่าวเสียงเด็กเล็ก“พ่อ!”