Chapter 1226 สมบัติต้าซ่าง
“ทักษะวิถีพุทธ?”จุนซ่างเซียวครุ่นคิด เอ่ยออกมาว่า“ในนิกายดูเหมือนว่าจะมีผู้บำเพ็ญพุทธ ชื่ออะไร....อะไรนะ?”
ด้วยจำนวนศิษย์มีจำนวนมาก ทำให้ยากที่จะจำชื่อได้ทั้งหมดจริง ๆ.
“ถูหนาน.”ระบบกล่าวเตือน.
“ใช่ ๆ!”
จุนซ่างเซียวสีคางไปมา “ข้ายังต้องไปป้อมปราการซิงกง คงไม่สามารถกลับนิกายตอนนี้ได้.”
ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องใช้วิธีที่สองเท่านั้น.
ถูหนานที่ถูกหักศิลาวิญญาณ หากรู้ว่ามีคนคิดถึงเขาจนทำให้จามจนไม้กวาดหักคงนอนแค้นจนหมดสติแน่.
“อ้ายยา!”
จุนซ่างเซียวที่กล่าวออกมาเสียงดัง “ข้าจะช่วยเจ้าใช้กายาเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ชำระล้างจิตปิศาจด้วย!”
“ได้จ้า!”
อ้ายยาที่นำอุปกรณ์มากมายออกมาอีกครั้ง.
ด้วยเหตุนี้ เจ้านายและลูกน้อง ที่ร่วมมือกันใช้แส้สะกดวิญญาณที่อาบไล้ด้วยเปลวเพลิง พร้อมกับก้าวตรงมายังราชาปิศาจต้าเห่ย.
นี่มันกลุ่มโจรร้ายอย่างงั้นรึ?
“เผลี๊ยะ เผลี๊ยะ เผลี๊ยะ!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมม!”
“อ๊ากกกก ------”
เสียงร้องทรมานจากคุกชั้นหนึ่ง ที่ดังกึกก้อง ทำให้สามทรราชซิงกงและไต่ลู่เวลานี้หลั่งเหงื่อไหลออกมาเป็นสาย.
......
กายาเพลิงศักดิ์สิทธิ์ของจุนซ่างเซียว สามารถชำระล้างจิตปิศาจได้จริง ๆ.
อย่างไรก็ตาม ด้วยเขตแดนของเขาที่ต่ำมาก ถึงจะมีกายาที่ยอดเยี่ยมที่สุด ทว่าก็ไม่ได้ผลมากนัก.
หลังจากทรมานอีกฝ่ายหนึ่งวัน อ้ายยาที่ทำการคำนวณ “จูเหริน พวกเราสองคนร่วมมือกัน คงจะใช้เวลาราว ๆ 500-600 ปี.”
“นานขนาดนั้นเลย!”จุนซ่างเซียวแทบทรุด.
อ้ายยาเอ่ย “กายาเพลิงศักดิ์สิทธิ์ของจูเหรินอ่อนแอเกินไป หากสามารถยกระดับให้สูงกว่านี้ จะทำให้สามารถชำระล้างได้มากกว่านี้แน่.”
“......”
จุนซ่างเซียวที่ราวกับถูกพูดทำร้ายจิตใจอย่างแรง.
ขณะที่กำลังเศร้าใจอยู่นั้น ระบบยอดนักขายก็เอ่ยออกมา “ต้องการเพลิงที่แข็งแกร่งกว่านี้รึ? ต้องการชำระล้างจิตวิญญาณปิศาจรึ? งั้นก็เปิดร้านค้าระดับสูงแล้วรีเฟรชสิ มีทุกอย่างให้เลือกสรร!”
“ไปให้พ้น!”
จุนซ่างเซียวรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก.
“หลังจากสิ่งก่อสร้างนิกายยกระดับเป็นระดับสิบ สินค้าร้านค้าระดับสูงได้ยกระดับอีกครั้ง บางทีโฮสน์ควรจะลองทดสอบดูดีใหม.”ระบบเอ่ย.
อย่างไรก็ตามจุนซ่างเซียวที่คร้านจะเอ่ยกับระบบอีกต่อไป.
เขาที่ได้ออกมาด้านนอก เรียกซ่างโหยวเหิน เอ่ยออกมาว่า“โหยวเหิน เปิ่นจั้วมีเรื่องสำคัญจะบอกกับเจ้า.”
สำคัญอย่างงั้นรึ?
ซ่างโหยวเหินที่เงี่ยหูฟัง.
จุนซ่างเซียวเอ่ย ”บรรพชนนิกายนิรันดรของพวกเรายังมีอีกหนึ่งบรรพชนนั่นก็คือปราชญ์จ้าวเจ็ดลึกล้ำ ครั้งหนึ่งเคยสร้างสุดยอดทักษะยุทธ์ นามแสงเจ็ดสีทำลายล้าง.
แม้นว่าซ่างโหยวเหินจะไม่เคยได้ยินนามปราชญ์จ้าวเจ็ดลึกล้ำและวิชาแสงเจ็ดสีทำลายล้าง ทว่าได้ยินจากชื่อแล้ว ต้องบอกได้ว่าเป็นตัวตนที่น่าเกรงขาม ดังนั้นจึงเอ่ยออกมาว่า“เจ้านิกาย นิกายของพวกเรามีบรรพชนที่แข็งแกร่งมากมายขนาดนั้นเลยรึ!”
“เรื่องนี้.”
จุนซ่างเซียวเอยอย่างภาคภูมิใจ “แน่นอนอยู่แล้ว.”
“เจ้านิกายได้สอนวิชาแสงเจ็ดสีทำลายให้กับศิษย์ด้วยอย่างงั้นรึ?”
ซ่างโหยวเหินที่ตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย เพียงแค่เป็นศิษย์ใหม่ก็จะได้บ่มเพาะวิชาอันสุดยอดแล้ว.
“เจ้าฟังสิ่งที่เปิ่นจั้วจะกล่าว.”
“อืม.”
จุนซ่างเซียวทีเริ่มร่ายยาว “บรรพชนได้สร้างวิชาแสงเจ็ดสีทำลายล้าง ทว่าขณะออกไปท่องเทียวครั้งหนึ่งถูกยอดฝีมือกลุ่มใหญ่ลอบโจมตีเข้ามา จึงได้ฝังตำราทั้งเจ็ดส่วนยังพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อหลบซ่อนและรวบรวมพลังจักรวาลไร้สิ้นสุดด้วย.”
ซ่างโหยวเหินที่เผยท่าทางประหลาดใจ “สามารถใช้พลังจักรวาลได้ บางที่บรรพชนมีระดับสะบั้นวิญญาณขั้นกลางรึ?”
“ไม่.”
จุนซ่างเซียวที่ชี้นิ้วขึ้นด้านบน “อาวุโสปราชญ์จ้าวเจ็ดมาจากพิภพเบื้องบน.”
“หะ!”
ซ่างโหยวเหินที่ตื่นตะลึงอีกครั้ง.
นิกายในจักรวาลเบื้องล่าง เกี่ยวข้องกับพิภพเบื้องบนมากมาย.
ผ่านกู่เปิดสวรรค์.
เทพธิดานวีหวาอุดสวรรค์.
ปราชญ์จ้าวเจ็ดอีก....เพียงแค่คิด ก็กลายเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเป็นอย่างมาก.
เดี๋ยวนะ!
ซ่างโหยวเหินที่นึกอะไรได้ “ส่วนคัมภีร์ที่เจ้านิกายพูดถึงเมื่อครู่ อาจจะเป็นส่วนที่ฝั่งในสมบัติต้าซ่าง ที่ราชาปิศาจต้าเห่ยมองหาอยู่อย่างงั้นรึ?”
พูดไปตั้งมากมาย ท้ายที่สุดก็เข้าใจ.
ศิษย์ของเขาก็ไม่ได้โง่ซะทีเดียว.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ข้าไม่สามารถบอกได้ว่าใช่หรือไม่? จำเป็นยืนยันอีกครั้ง.”
เรื่องผ่านกู๋และคนอื่น ๆ ไม่ต้องกล่าวถึงว่าทำให้ซ่างโหยวเหินสั่นไหว.
ตอนนี้กล่าวมาถึงเรื่องส่วนคัมภีร์ ดูไม่ค่อยสมจริงนัก ทำให้โกวเซิ่งรู้สึกผิดเล็กน้อย.
“เอ่อ.....”
ซ่างโหยวเหินที่กล่าวอึกอัก.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ตอนนี้มันเป็นของเจ้า หากเจ้าไม่ยินยอมเปิ่นจั้วย่อมจะไม่ฝืน.”
“เรียนเจ้านิกาย.”ซ่างโหยวเหินเอ่ย “ขุมทรัพยต้าซ่างนั้นได้สร้างไว้ในมิติแยก ด้านในแยกออกเป็นหลายพื้นที่ แม้นว่าศิษย์จะเข้าไปได้ แต่เพราะว่ามีผนึกที่แข็งแกร่ง จึงอยู่ได้แค่รอบ ๆ ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้.”
จุนซ่างเซียวเอ่ยด้วยความตกใจ “ลึกลับขนาดนี้เลยรึ?”
“ส่วนคัมภีร์ที่เจ้านิกายเอ่ยถึงนั้นน่าจะอยู่ในพื้นที่ส่วนใน ศิษย์ไม่สามารถเข้าไปได้.”ซ่างโหยวเหินเอ่ยกล่าวออกมาอย่างขมขื่น.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เปิ่นจั้วเข้าไปด้านในได้ไหม?”
“ได้.”
ซ่างโหยวเหินเอ่ย “ทว่าหากไม่มีสายโลหิตของตระกูลซ่าง ก็ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้.”
“มา.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ให้เปิ่นจั้วได้ทดสอบดู.”
เขาไม่สนใจว่าจะใช้แผนการอะไร ทว่าจะต้องได้วิชานี้มาเพิ่มความแข็งแกร่งให้ได้.
“ให้เจ้านิกายผ่อนคลาย ศิษย์จะพาท่านเข้าไปด้านใน.”
“อืม.”
จุนซ่างเซียวหลับตาลง.
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้นราวกับว่าจิตวิญญาณของเขาเข้าไปปะทะกับกำแพงแสง.
“เจ้านิกาย.”
เสียงที่ดังขึ้นในหู “ที่นี่คือขุมทรัพย์ตระกูลซ่าง.”
จุนซ่างเซียวที่ลืมตาขึ้น พบว่าที่ด้านหน้าจิตวิญญาณของเขาปรากฏขึ้นนั้นรอบ ๆ เต็มไปด้วยแสงสว่างระรานตา รู้สึกราวกับอยู่ในความฝัน.
“อึก อึก.”
ในเวลานั้น โกวเซิ่งถึงกับกลืนน้ำลาย.
เพราะว่าหลุมลึกใหญ่นั้นเต็มไปด้วยทรัพยากรมากมาย มากขนาดไม่สามารถที่จะประเมินได้.
“เจ้านิกาย.”
ซ่างโหยวเอ่ยเอ่ย “นี่คือขุมทรัพย์ที่บรรพชนสิบรุ่นเก็บเอาไว้.”
“......”
จุนซ่างเซียวแทบทรุดเล็กน้อย.
แท้จริงแล้วศิษย์ที่เขารับมา มีขุมทรัพย์มากมายติดตัว.
ทอง เงิน เครื่องประดับ โกวเซิ่งหาได้สนใจ ทว่าเขาได้มองไปยังพื้นที่แห่งหนึ่งที่ไกลออกไป ทำให้เขายากจะสงบใจได้.
ห่างออกไปร้อยเมตรนั่น.
มีหลุมขนาดใหญ่เก้าหลุม.
ภายในนั้นมีศิลาวิญญาณมากมายมหาศาลอย่างคาดไม่ถึง!
“เจ้านิกาย.”
ซ่างโหยวเหินเอ่ยแนะนำ “นี่คือหลุมศิลาวิญญาณ ทั้งหมดล้วนแต่เป็นศิลาวิญญาณขั้นที่เก้า.”
จุนซ่างเซียวแทบก้าวไม่ออก ศิลาวิญญาณระดับเก้ามากมาย หลุมแรกที่เหลือเพียงครึ่ง ทว่าว่าคงจะเหลือมากกว่ายี่สิบหรือสามสิบล้านเป็นแน่.
และอีกแปดหลุมเองอย่างต่ำ ๆ ก็ต้องมีห้าสิบล้านอย่างแน่นอน.
ขุมทรัพย์ต้าซ่างมีทั้งทอง เงิน เครื่องประดับ ศิลาวิญญาณ และยังมีอาวุธยุทโธปกรณ์ ตำราและสมุนไพรระดับสูงมากมาย.
“ป๊าป!”
จุนซ่างเซียวยกมือตบไปที่บ่าของซ่างโหยวเหิน เอ่ยออกมาอย่างจริงจัง “เปิ่นจั้วอนุญาตให้เจ้าเรียกว่าพี่ใหญ่ได้!”
ไม่!
ต้องบอกว่าน้องรัก!
น้องสุดรัก! เจ้าน้องชาย! น้องโหยวเหิน!