Chapter 1225 ส่วนคัมภีร์ที่หก
หลี่ชิงหยางและศิษย์คนอื่น ๆ พวกเขาได้ยินเรื่องราวผู้ก่อตั้งฉีเทียนต้าเซิ่ง ซุนหงอคง.
อย่างไรก็ตาม จุนซ่างเซียวที่ได้กล่าวโม้มากไปกว่านั้น เริ่มตั้งแต่กำเนิดนิกาย เกี่ยวกับผ่านกู๋เปิดสวรรค์ซะเลย.
สรุปแล้ว.
นิกายในอดีตนั้นทรงพลังแข็งแกร่งมาก.
ผ่านกู่เปิดสวรรค์ หยวนสื่อเทียนจุนผู้สร้างจักรวาลและสรรพสิ่ง พระแม่นวีหวาอุดรูรั่วสวรรค์ ควาฟู่จู๋ยื่อ เป็นต้น เรื่องราวต่าง ๆ ถูกจุนซ่างเซียวนำมาเรียงร้อยแต่งเป็นเรื่องราว เพื่อบ่งบอกความยิ่งใหญ่ของนิกาย.
เรื่องราวในตำนานในโลกเดิม ถูกนำมาสร้างเป็นต้นกำเนิดนิกายนิรันดร ทำให้เบื้องหลังที่มานิกายนิรันดรนั้นดูยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก.
ซ่างโหยวเหินที่ได้ยินถึงกับตื่นตะลึงอ้าปากค้างไปเลยทีเดียว.
แท้จริงแล้วนิกายที่ข้าเข้าร่วม มันสุดยอดยิ่งใหญ่นัก.
จุนซ่างเซียวที่กล่าวด้วยน้ำเสียงลึกล้ำ “หอคอยสะกดวิญญาณเทียนหยวนก็คือสมบัติของบรรพชนผ่านกู๋นิกายของข้า หลังจากที่แยกสวรรค์และปฐพีเสร็จ ก็ต้องการชำระล้างโลกปิศาจจักรวาลเบื้องล่าง.”
“.....”
ระบบพูดไม่ออก.
แต่งเรื่องเป็นตุเป็นตะ ผูกเรื่องหอคอยสะกดวิญญาณกับขวานผ่านกู๋ เป็นคนที่บ้าคลั่งจริง ๆ.
“เจ้าไม่เข้าใจ.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เดิมทีเจดีย์ของหลี่เทียนอ๋องก็ไม่ได้ด้อยกว่าขวานของผ่านกู่ไม่ใช่รึ? ในเมื่อต้องเอ่ยถึงต้นกำเนิดนิกาย ก็ต้องโม้สักหน่อย!”
ระบบที่ไม่มีคำจะกล่าวโต้เลยจริง ๆ.
“เจ้านิกาย.”ซ่างโหยวเหินกล่าวอย่างงง ๆ “ข้าได้ยินมาว่าหอคอยสะกดวิญญาณมาจากพิภพเบื้องบน.”
จุนซ่างเซียวกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้าพบเข้าแล้วสินะ.”
“พบสิ่งใดอย่างงั้นรึ?”ซ่างโหยวเหินที่สับสน.
“ใช่.”
จุนซ่างเซียวหายไปในทันที ก่อนที่จะยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ มือขัดหลังเอ่ยออกมาว่า“หอคอยสะกดวิญญาณเทียนหยวนมาจากพิภพเบื้องบน บรรพชนผ่านกู่เองก็มาจากพิภพเบื้องบน ทว่าด้วยเหตุผลบางอย่าง นิกายจึงตั้งอยู่จักรวาลเบื้องล่างชั่วคราว.”
ซ่างโหยวเหินที่ราวกับตระหนักได้ในทันที.
ในตำราโบราณเขาได้อ่านมา รับรู้ว่าหอคอยสะกดวิญญาณนั้นมาจากพิภพเบื้องบนจริง ๆ ทว่าไม่คาดคิดเลยว่า อุปกรณ์เทพนี้จะสร้างโดยบรรพชนนิกายสร้างขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง!
“โหยวเหิน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้ารู้ไหมว่าทำไมเปิ่นจั้วรับเจ้าเป็นศิษย์ใหม?”
“ศิษย์ไม่รู้.”ซ่างโหยวเหินเอ่ย.
“โง่!” ระบบเอ่ยเสียงดัง “เพราะเงินไง!”
จุนซ่างเซียวที่เงยหน้าขึ้นมองจักรวาลที่กว้างใหญ่ “หอคอยสะกดวิญญาณที่ล่วงหล่นลงไปยังทวีปเทียนหยวน ระหว่างที่บรรพชนเตรียมการเปิดสวรรค์.”
“ด้วยเหตุนั้น!”
เขาที่หันหน้ามายังซ่างโหยวเหิน “เจ้าจึงถูกลิขิตให้เป็นศิษย์ของเปิ่นจั้วไงล่ะ!”
ร่างของซ่างโหยวเหินสั่นไหว ก่อนที่จะมีน้ำตาไหลออกมา.
รู้แล้ว.
เข้าใจแล้วจริง ๆ!
ตั้งแต่ตอนแรก ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ได้พบกับเจ้านิกายโดยบังเอิญ แท้จริงแล้วมันเป็นชะตา.
เขาถูกลิขิตให้กลายเป็นศิษย์นิกายนิรันดรแต่แรกแล้ว!”
“เจ้านิกาย!”
ซ่างโหยวเหินที่ทำความเคารพอีกครั้ง พร้อมกับเอ่ยเสียงโอดครวญ “โปรดรับการคำนับจากศิษย์!”
“เฮ้อ.”
ระบบที่ได้แต่ส่ายหน้า “เจอพวกมโนที่หลงเชื่อคนง่าย ๆอีกแล้ว ก้าวไปบนเส้นทางปฏิมากรรมปราสาททราย(ไอ้โง่) อีกแล้ว.”
[沙雕 Shādiāo ไอ้โง่/โคตรโง่]
“โหยวเหิน.”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวไปด้านหน้า เอ่ยออกมาว่า“ก่อนหน้านี้เจ้าคนที่ไล่ตามเจ้าเอ่ยถึงขุมทรัพย์ของต้าซ่าง หมายความว่าอย่างไรรึ?”
“เอาแล้วไง.”ระบบเอ่ย.
“เรียนเจ้านิกาย!”
ซ่างโหยวเหินเอ่ย “สมบัติของต้าซ่างนั้นเป็นบรรพชนรุ่นเก่าได้เก็บรวมรวมเอาไว้ ด้านในนั้นมีทรัพยากรฝึกฝนมากมายนับไม่ถ้วน.”
จุนซ่างเซียวที่เอ่ยอย่างไม่แยแส.“ราชาปิศาจต้าเห่ยเป็นสิ่งชีวิตที่กินความชั่วร้ายของผู้คน เพราะเหตุใดถึงต้องการสมบัติของต้าซ่างกัน?”
“เพราะว่า....”
ซ่างโหยวเหินที่สงสัยเล็กน้อย.
“ทุกคนมีความลับของตัวเอง หากไม่ต้องการบอกก็ไม่เป็นไร.”
จุนซ่างเซียวที่หันหลังกลับเดินตรงไปยังห้องโดยสาร.
“เจ้านิกาย!”
ซ่างโหยวเหินที่เอ่ยปากออกมาทันที “ราชาปิศาจต้าเห่ยไม่ได้ต้องการสมบัติของต้าซ่าง ทว่ามันมีของวิเศษบางอย่างที่มันสนใจ.”
“สมบัติอะไรอย่างงั้นรึ?”
“เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้แน่ชัด รู้เพียงแค่ว่าเป็นส่วนของคัมภีร์!”
“เฮ้ย!”
จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ “ไม่ใช่ส่วนคัมภีร์แสงเจ็ดสีทำลายล้าง ส่วนที่หกหรือเจ็ดหรอกรึ?!”
......
“เผลี๊ยะ เผลี๊ยะ เผลี๊ยะ!”
“อ๊ากกกก!”
ภายในคุกสะกดวิญญาณเทียนหยวน แส้ที่ฟาดลงไปอย่างรุนแรง เสียงร้องโหยหวนที่ดังขึ้น.
แม้นว่าหนึ่งพันวันลดเหลือ 60 วันจะเป็นไปไม่ได้ ทว่าอ้ายยาก็ยังคงทำงานอย่างแข็งขัน ต้องไม่ลืมว่าร่างของปิศาจนั้นแข็งแกร่งกว่าร่างของเผ่าวิญญาณมาก.
“ท่านย่าทวด....”
“ข้าผิด ข้าผิดไปแล้ว....”
“......อย่าตีข้า ......อย่าตีข้า......”
“เผลี๊ยะ เผลี๊ยะ เผลี๊ยะ!”
“อ้ายยา.”
ในเวลาต่อมา จุนซ่างเซียวที่ก้าวเข้ามา “อย่าเพิ่งตี ข้ามีคำพูดจะถาม.”
อ้ายยาที่เก็บแส้ ยืนค้ำเอว ดวงตาจ้องเขม็งออกไป “จู่เหรินถามอะไรไป เจ้าก็ต้องตอบ!”
“!”
ราชาปิศาจต้าเห่ยเอ่ย “จะถามอะไรก็ได้ ข้าจะตอบทั้งหมด!”
จุนซ่างเซียวนั่งลงบนเก้าอี้ ยกขาไขว่ห้าง เอ่ยออกไปว่า“ในเมื่อเจ้าทำลายทวีปเทียนหยวนจนสิ้นแล้ว ทำไมยังไล่ล่าไท่จื่ออาณาจักรต้าซ่าง?”
“เพราะว่า.... เพราะว่าขุมทรัพย์ของต้าซ่าง!”ราชาปิศาจต้าเอ่ยตอบ.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าอยู่รอดด้วยการกินพลังด้านลบของมนุษย์ จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรของมนุษย์เพื่อบ่มเพาะด้วยรึ?”
“...... ไม่จำเป็น......”
ราชาปิศาจต้าเห่ยเอ่ย “ข้าเพียงต้องการส่วนคัมภีร์ด้านใน....”
“ส่วนคัมภีร์?”
“แสงเจ็ดสีทำลายล้าง!”
“ส่วนคัมภีร์ส่วนใหน?”
“หก!”
“จริง ๆ ด้วย.”
จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ“เป็นดั่งที่ข้าคิดจริง ๆ.”
ราชาปิศาจต้าเห่ยที่กล่าวในใจ“เจ้านี่รู้เรื่องส่วนคัมภีร์ได้อย่างไร?”
“ส่วนคัมภีร์ช่วยอะไรเจ้าได้?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
หากเป็นผู้ฝึกยุทธ์ตามหาส่วนคัมภีร์ยังพอเข้าใจได้ ทว่าปิศาจที่เกิดจากพลังงานด้านลบ เอาไปทำไม มันแปลกเล็กน้อย.
“เรื่องนี้.......”
อ้ายยายกแส้ขึ้น กล่าวเสียงเข้ม “พูดออกมา!”
ราชาปิศาจต้าเห่ยที่ตกใจเอ่ยออกมาอย่างรวดเร็ว “ข้าได้ยินมาว่าด้านในสวนคัมภีร์นั้นมีพลังพิเศษ หากสามารถเข้าใจได้ จะสามารถโบยบินขึ้นสู่พิภพเบื้องบนได้!”
“มั่นใจรึ?”
“มั่นใจ!”
จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา.
ส่วนคัมภีร์มีอะไรพิเศษซ่อนอยู่กัน หากเข้าใจจะสามารถโบยบินขึ้นสู่พิภพเบื้องบน ช่างเป็นอะไรที่ล่อลวงจริง ๆ.
“อ้ายยา.”
จุนซ่างเซียวที่หยุดคิดเรื่องส่วนคัมภีร์ชั่วคราวเอ่ยออกมาว่า“มีวิธีในการชะระล้างจิตวิญญาณปิศาจนี้ให้เร็วขึ้นหรือไม่?”
อ้ายหยาที่ครุ่นคิดก่อนตอบออกมาว่า“มีอยู่.”
“วิธีอะไรอย่างงั้นรึ?”
“วิธีแรก หากใช้พลังหยางที่ทรงพลังแข็งแกร่งที่สุดกลั่นร่างน่าจะสามารถเพิ่มความเร็วขึ้นได้อีก.”
“ข้ามีกายาเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นพลังหยางที่แข็งแกร่งที่สุดหรือไม่?”
“เอะ? จูเหรินมีกายาเพลิงศักดิ์สิทธิ์รึ?”
“ไม่แข็งแกร่งพอรึ?”
“ในพิภพเบื้องล่าง นี่คือกายาธาตุหยางที่แข็งแกร่งที่สุด.”
“......”
จุนซ่างเซียวที่ตกใจ.
ในทวีปชิงหยุน กายาเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ถือว่าแข็งแกร่งที่สุด คาดไม่ถึงเลยว่าจะแข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลเบื้องล่างด้วย.
“วิธีที่สองล่ะ?”
“หากมีผู้ฝึกยุทธ์วิถีพุทธ จะสามารถชำระล้างพลังปิศาจได้อย่างรวดเร็ว.”
“แก๊กก!”
ถูหนานที่อยู่ในลานนิกายนิรันดร ขณะกวาดพื้นเงียบ ๆ ไม้กวาดในมือที่หักเสียงดัง ใบหน้าของเขาที่กลายเป็นงงงวย กล่าวออกมาทันที“อามิตตาพุธ อาตมาอยู่ในนิกายมานานแล้ว ท้ายที่สุดก็มีโอกาส!”
“โกวฟูกุ้ย.”
นายน้อยหยวนที่ปรากฏขึ้น พร้อมกับหยิบพู่กันขึ้นมาบันทึก เอ่ยออกไปว่า“ทำลายไม้กวาดสาธารนะ หักสิบศิลาวิญญาณ.”