Chapter 1214 โจรสลัดจุนสุดหล่อ
จักรวาลกว้างใหญ่เท่าใด ไม่มีใครรู้.
ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่แน่นอน บนทะเลดวงดาวนั้นมีพิภพต่าง ๆมากมายนับไม่ถ้วน.
ทวีปชิงหยุนเองก็เป็นหนึ่งในนั้น.
บนเรือรบตงกู่ จุนซ่างเซียวที่จ้องมองจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาล แม้นว่าเขาจะมีพลังบ่มเพาะ ทว่ากับรู้สึกว่าตัวเองนั้นช่างน้อยนิดราวกับฝุ่นบนทะเลดวงดาวที่ไร้ขอบเขต.
“ดังนั้น.”
ระบบเอ่ย “การฝึกฝนวิถียุทธ์ต้องก้าวไปถึงขีดสูงสุดเพื่อสักวันหนึ่งจะสามารถทะลวงมิติได้.”
จุนซ่างเซียวส่ายหน้า “ไม่ยอมรับชะตา ชีวิตของผู้ฝึกยุทธ์ ใครจะรู้ ว่าจะสามารถดิ้นหลุดจากโซ่ตรวนได้อย่างไร? และหลุดจากโซ่ตรวนไปเพื่ออะไร?”
“ไม่ว่าใครก็ต้องการทั้งนั้น.”
“ทำไม?”
“โลกพิภพเบื้องล่างนั้นมีขีดจำกัดมากมาย ต้องก้าวไปยังระดับสูงเท่านั้น ถึงจะทำให้มีอายุขัยยืนยาว ไม่ว่าใครก็ต้องการก้าวผ่านชะตากรรมนี้.”**
“มีเหตุผล.”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวมาถึงระดับปราชญ์ขั้นสมบูรณ์แบบ หากไม่มีระเบิดเวลาก็อยู่ได้อีกนาน ทว่าไม่ใช่นิรันดร เพื่อที่จะให้มีอายุมากกว่านั้นก็ต้องทะลวงมิติก้าวขึ้นสู่พิภพที่สูงขึ้น ทุกอย่างก็เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่รอดต่อไปล้วน ๆ.
อยากมีชีวิตสิ.
ใครกันต้องการตาย.
“เฮ้อ.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ข้าก็เป็นปุถุชนคนหนึ่งเช่นกัน.”
“!!!”
ในเวลานั้นเสียงที่กังกึกก้อง ผ่านมาจากพิภพแห่งหนึ่ง
“เฮ้ย!”
จุนซ่างเซียวแทบทรุด “เจ้าพวกนั่นไม่ใช่มีศัตรูมากมายไล่ตามหรอกรึ?!”
......
“ตูมมม!”
“ตูมมม!”
บนพื้นที่แห่งหนึ่ง ผืนปฐพีที่สั่นไปมาอย่างรุนแรง.
ในเวลานั้นเหล่าสัตว์ร้ายมากมายหลายสิบตนที่ใหญ่ยักษ์ สายตาไร้ความรู้สึกไล่ล่าคนกลุ่มหนึ่งที่เผ้าผมกระเซอะกระเซิง แต่ละคนที่สวมเสื้อขนสัตว์เหมือนกับมนุษย์.
“ครืนนน”
“พวกเรากำลังจะตายวันนี้แล้ว!”
“ต้องโทษพวกเราที่ไม่ฟังคำสั่งหัวหน้าออกมาโดยพลการ!”
สายตาของทุกคนที่โศกเศร้าหมดซึ่งความหวัง.
สัตว์ร้ายที่ใหญ่ยักษ์ราวกับภูเขาย่อม ๆ กำลังไล่พวกเขามา ร่างพวกเขาที่ไม่ต่างจากมดตัวเล็ก ๆ.
“โฮกกก!”
“โฮกกก!”
ร่างที่ใหญ่ยักษ์คำรามลั่น ฟ้าดินที่สั่นสะท้านไปมา.
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมมมม!”
สัตว์ร้ายตัวใหญ่ที่ตวัดกงเล็กไปยังมนุษย์ที่แสนอ่อนแอสิบคน พลังที่น่าเกรงขามแผ่ออกมา กดทับลงไป แม้นว่าพลังของมันจะเท่ากับระดับอาจารย์ยุทธ์ ทว่าต่อหน้าปุถุชนย่อมเป็นพลังที่ร้ายกาจน่าเกรงขามอย่างประเมินไม่ได้.
“ตายแน่ ตายแหง่ม ๆ!”
ผู้คนทั้งสิบที่หมดหวังจะหนี ทำได้แค่หลับตาลงรับการโจมตีเท่านั้น.
“ตูมมมม! ตูมมมม! ตูมมมม!”
ในเวลาต่อมา เสียงระเบิดที่ดังติด ๆ ต่อกัน อากาศที่กวาดม้วนออกไปรอบ ๆ จนทำให้ฝุ่นผงลอยละล่องไปทั่ว.
เกิดอะไรขึ้น?
ทุกคนที่เซไปมา ก่อนที่จะยืนพยุงร่างให้สงบลงได้ ลืมตาขึ้นมา.
ในครรลองสายตาของพวกเขานั้น ปรากฏยานเหาะที่ใหญ่ยักษ์แผ่กลิ่นอายที่น่าเกรงขามออกมา.
เหล่ากลุ่มสัตว์ยักษ์ที่เวลานี้ หน้าผากถูกทะลวงกลายเป็นหลุม โลหิตที่พุ่งกระฉูดออกไปรอบ ๆ ไหลลอยไปทั่วทุกทิศทาง.
ทั้งสิบที่หวาดผวาไปตาม ๆ กัน.
“ฟิ้ว!”
ร่าง ๆ หนึ่งที่ออกมาจากเรือเหาะ ลอยอยู่บนอากาศ ก่อนที่จะโบกมือนำแกนผลึกออกมา “แม้นว่าระดับจะไม่สูง ทว่าพลังภายในก็ไม่เลว.”
สายตาของทุกคนที่เผยความประหลาดใจอย่างที่สุดออกมา.
คนผู้นี้บินได้อย่างคาดไม่ถึง คาดไม่ถึงเลยว่าจะบินได้!
โอ้วสวรรค์ เทพลงมาจากสวรรค์แล้ว?!
“พรึด โครม!”
“พรึด โครม!”
ทุกคนที่คุกเข่าลงบนพื้น โค้งคำนับครั้งแล้วครั้งเล่า.
อย่างไรก็ตาม ขณะที่พวกเขาเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าเรือเหาะหายไปแล้ว เหลือเพียงแค่ศพของเหล่าสัตว์ร้ายหลายสิบตนที่นอนเกลื่อนกลาด
......
จุนซ่างเซียวที่ผ่านมาและจากไปแล้ว เขามองไปที่สัตว์ร้ายเท่านั้น ก่อนมุ่งตรงสู่จักรวาลที่กว้างใหญ่ต่อไป.
ระหว่างนี้ เขาได้ผ่านไปยังพิภพต่าง ๆ มากมาย ส่วนมากแล้วเป็นพิภพปุถุชน มีเพียงไม่กี่แห่งที่เป็นพิภพผู้ฝึกยุทธ์ กล่าวได้ว่าแต่ละพิภพนั้นมีรูปแบบและลักษณะพิเศษที่แตกต่างกันออกไป.
“ชีวิตคือการท่องเที่ยว ไม่จำเป็นต้องใส่ใจจุดหมาย ชื่นชมธรรมชาติอันงดงามสองข้างทาง.”จุนซ่างเซียวที่ยืนบนดาดฟ้าเรือ พร้อมกับหลับตาลง“ให้ใจเดินทาง”
“เพ่ย!”
ระบบเอ่ย.
นี่คือ สิ่งที่ต้องการอย่างงั้นรึ?
เพราะว่าได้เปิดหูเปิดตาเดินทาง ท่องเที่ยวไปยังพิภพที่แตกต่างกันออกไปมากมายทำให้เขาสบายใจไม่น้อย!
......
“ใครมันกล้าขโมยสมบัติฟ้าดินหลายร้อยปีของเหล่าฟู่ไปกัน!”
“เป็นเจ้าสารเลวคนใหนกัน ขุดหญ้าเก้าวิญญาณข้าไป!”
“พี่ใหญ่ เหมืองศิลาวิญญาณของพวกเราถูกชิงไปหมด ศิลาวิญญาณหลายแสนไม่มีเหลือเลย!”
“เจ้านิกาย ตำรา....ตำราในหอคัมภีร์หายไปหมดเลย!”
ในวันเดียวกัน สำนักนิกายมากมายหลากหลายพิภพได้ปรากฏโจรร้ายปล้นชิงทรัพยากรพวกเขาไป ความเสียหายไม่สามารถประเมินได้.
นอกจากนี้แร่มากมายที่หายไปกลายเป็นโพรงใหญ่ขึ้นหลายที่.
และแต่ละที่นั้น.
สิ่งหนึ่งที่โจรร้ายทิ้งเอาไว้หลังจากปล้นแล้ว อักษรบนผนังมีอักษรห้าตัว “โจรสลัดสุดหล่อจุน.”
“โจรสลัด?”
“สุดหล่อจุนอย่างงั้นรึ?”
“เป็นใครกัน!”
“จะเป็นใครก็ช่าง คาดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าขโมยสมบัติบิดา จับได้เมื่อไหร่ ข้าจะให้มันตายทั้งเป็น!”
ในเวลานั้นชื่อเสียงของโจรสลัดสุดหล่อจุนก็ได้กระจายไปยังพิภพต่าง ๆ.
......
“ด้วยความเร็วนี้ จะไปถึงป้อมปราการซิงกงน่าจะใช้เวลาอีกครึ่งเดือน.
จุนซ่างเซียวที่นำแผนที่ดวงดาวออกมา จ้องมองระหว่างเส้นทางมีพิภพใหนบ้าง พลางลอบคิดในใจ“กว่าจะมีโอกาสผ่านมาไม่ง่าย จะต้องไปเยือนสักหน่อย.”
ระบบเอ่ย “โฮสน์อย่าทำให้ตัวเองโดดเด่นดีกว่า บางพิภพนั้นก็มีความแข็งแกร่งไม่ธรรมดาเลย บางทีอาจจะไม่ได้ออกมาก็ได้.”
“วางใจได้”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ข้าระวังอยู่แล้ว.”
“ฟิ้ว!”
เรือรบตงกู่ที่ไปปรากฏที่อีกพิภพหนึ่ง ในเวลานั้นมีกลิ่นอายของราชันย์ยุทธ์สิบคนที่แผ่พลังออกมา ราวกับจะบดขยี้ฟ้าดินให้สิ้น.
“มารดาเถอะ!”
จุนซ่างเซียวที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ เอ่ยเสียงดัง “ปากปลุกเสกอีกแล้ว!”
“เจ้าโจรน้อย คาดไม่ถึงเลยว่าจะกล้ามาขโมยสมุนไพรเทวะของตำหนักอู๋หลาง เวลานี้ต่อให้มุดดินได้ก็ไม่มีใครช่วยเจ้าแล้ว!”ชายชราคนหนึ่งที่คำรามออกมาด้วยความโกรธ.
กล่าวได้ว่าคนเหล่านี้เป็นสุดยอดฝีมือของตำหนักเทวะอู๋หลาง ที่โกวเซิ่งเข้าไปช่วงชิงสมบัติ ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นเหนือกว่าทวีปจิวเทียนซะอีก.
พูดให้ถูก.
เตะเข้ากับแผ่นเหล็กซะแล้ว.
“ทุกท่าน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “เข้าใจผิดแล้ว.”
เข้าใจผิด.
ยอดฝีมือของตำหนักเทวะอู๋หลางที่ไม่ฟังคำพูดของเขาอย่างชัดเจน ปลดปล่อยกลิ่นอายกดทับมาทันที.
“เฮ้อ.”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา มือขวาที่ยกขึ้น ร่างกายที่สวมชุดเกราะเทวะเสวียนหยวน และถือหอกสะบั้นเก้าสวรรค์ แววตาที่เผยความเย็นชา“นับจากนี้ สนามรบอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า.”
เหล่ายอดฝีมือตำหนักเทวะอู๋หลางที่ใบหน้าเปลี่ยนสี เอ่ยออกมาว่า.“อาวุธและชุดเกราะของเจ้าเด็กนั่นไม่ธรรมดา ความแข็งแกร่งดูเหมือนจะแข็งแกร่งไม่น้อย หากแต่พวกเราก็ไม่สามารถถอยได้เช่นกัน.”
“อืม!”
เหล่ายอดฝีมือที่กำลังพูดคุยปรึกษากัน.
“ฟู่ ฟู ซูมมมม!”
กลิ่นอายอันบ้าคลั่งที่แผ่ออกมาจากร่างจุนซ่างเซียว ราวกับปิศาจที่มาจากนรก “เทพปะทะเทพ ปิศาจสังหารปิศาจ!”
“ฟิ้ว-----”
ในเวลาต่อมานั้นเรือเหาะตงกู่ที่กลายเป็นลำแสง บินหายไปไปในท้องฟ้า พริบตาเดียวก็หายไปไร้ร่องรอย.
ผ่านไปนานเหมือนกัน.
กว่าเหล่ายอดฝีมือตำหนักเทวะอู๋หลางจะตั้งสติได้ ทันทีที่ได้สติก็แทบพ่นโลหิตออกมา.
ตั้งแต่แรกแล้วเจ้าโจรน้อยนั่นสวมเกราะเต็มกำลังรบเพื่อทำให้พวกเขาสับสน เพื่อจะหนีออกไปนั่นเอง.