บทที่ 87 วิชายมราชปีศาจสวรรค์กลั่นตันกลืนหยวน
บทที่ 87 วิชายมราชปีศาจสวรรค์กลั่นตันกลืนหยวน
บนเขาชิงเฟิง เสี่ยวเว่ยมากมายยืนเฝ้าระวัง
นักล่าปีศาจหลายคนแต่งกายด้วยชุดลำลอง ตรวจสอบศิษย์เขาชิงเฟิงทีละคน
หนึ่งในนั้นคือคนที่กอดขาหงเล่ยพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ขณะที่ถูกตรวจสอบ เขากลับไม่มีท่าทีต่อต้านแต่อย่างใด
ในตอนที่พวกเขาถูกบังคับให้ชักกระบี่ใส่เสี่ยวเว่ย นั่นเท่ากับเป็นการโจมตีบุคคลของราชสำนักโดยตรง การที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ถือว่าโชคดีมากแล้ว
แม้ว่าการเข้าร่วมแผนกปราบปีศาจจะเกิดขึ้นแบบฉับพลัน พวกเขาก็ต้องฟังคำสั่ง และกลายเป็นสุนัขรับใช้ของราชสำนัก พวกเขาจะไม่มีอิสระเหมือนตอนอยู่บนเขาชิงเฟิงอีกต่อไป แต่เมื่อคิดถึงกระบี่บรรพบุรุษ คิดถึงความแค้นของผู้เฒ่ากระบี่พิโรธก่อนตาย คำว่า "มีอิสระ" กลับดูไม่สำคัญไปเลย
แม้แต่สองผู้อาวุโสขอบเขตควบแน่นตันที่มีผมขาวโพลนก็เปลี่ยนมาสวมชุดสีดำ ทั้งสองยืนก้มหน้านิ่งอยู่ด้านหลังท่านขุนพลอาวุโสเฉินอย่างสงบ
เจ้าหน้าที่แผนกปราบปีศาจคนอื่นๆ ยกกล่องออกมาจากห้องโถงต่างๆ ในนั้นมันเต็มไปด้วยตำราศาสตร์การต่อสู้และยาล้ำค่ามากมาย พวกเขาเรียงลำดับพวกมันอย่างเป็นระเบียบเพื่อนำลงจากภูเขา
ใบไม้ร่วงลอยผ่านประตูภูเขาขนาดใหญ่ บรรยากาศดูหดหู่อย่างน่าประหลาด
ภายใต้การนำของหงเล่ย เสินอี้กลับมายังหุบเขากวนเจี่ยที่ตั้งค่ายไว้ก่อนหน้านี้
“น้องชายเสิน เจ้าพักผ่อนให้เต็มในคืนนี้ จากนั้นพรุ่งนี้ค่อยกลับชิงโจว เอานี่...ให้เจ้าทายาตัวนี้บนบาดแผลให้ทั่ว ไม่เกินสามวันก็หายดี มันคือยาล้ำค่าของเขาชิงเฟิง เจ้าใช้เต็มที่ไม่ต้องไปเสียดาย เอ้า... ใช้มันให้คุ้มค่าล่ะ”
“ขอบคุณพี่ชายหง”
จากคำแนะนำอย่างไม่กั๊กของเขา ทำให้เสินอี้ได้รับประโยชน์มากมาย
เสินอี้รับขวดยาและเดินเข้าไปในกระโจมทันที
เสี่ยวเว่ยในชุดอินทรีทองคำกว่ายี่สิบคนหันมามองเล็กน้อย จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนอย่างเงียบ ๆ พวกเขายืนตรงรอบๆ กระโจมเพื่อเฝ้ายาม
เมื่อเห็นเช่นนี้ หงเล่ยก็ส่ายหน้าด้วยความรู้สึก เขาได้ยินคำว่า "พี่ชายฮง" นี้เป็นครั้งแรก และน่าจะเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อพวกเขากลับไปที่ชิงโจว เขาก็ต้องเรียกเสินอี้ว่า "ใต้เท้าเสิน" เช่นกัน
ยามค่ำคืนเงียบสงัด เสียงลมพัดผ่านป่ารกทึบที่รกครึ้มเป็นเสียงเดียวที่ได้ยิน
เสินอี้นั่งตัวตรงในกระโจม ใบหน้าของเขาสว่างไสวจากแสงเทียนที่โบกไหว
เขาถอดเสื้อตัวนอกออก เผยให้เห็นลำตัวที่แข็งแรง ออร่าปราณสีทองไหลเวียนอยู่บนบาดแผลที่ดูน่ากลัว
เขาหยิบยาที่ดูเหมือนขี้ผึ้งสีดำจากขวด เสินอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นทาไปบนแผล ทันใดนั้นมุมปากของเขาก็สั่นระริก... ไม่ใช่ว่าเขาไม่กลัวความเจ็บปวด แต่อาจเพราะเขาไม่คุ้นเคยกับการแสดงออกต่อหน้าคนอื่น ท้ายที่สุดแล้ว สัตว์ป่าที่เลียแผล มักจะเป็นเป้าหมายของนักล่า
มังกรเจียวเฒ่าตายแล้ว แต่เผ่าพันธุ์มังกรเจียวในแม่น้ำยังมีอยู่
อาจจะมีปีศาจตัวอื่นๆ ที่จดบัญชีเขาไว้ด้วยความแค้น
ถึงแม้ว่าจะไม่มี แต่การระวังไว้ก็ไม่เสียหาย อายุขัยของเขาตั้งสามร้อยกว่าปี ถ้าตายเพราะประมาทเลินเล่อ มันก็รู้สึกเสียของจริงๆ
“นอกจากวิธีเข้าสู่ขอบเขตควบแน่นตันแล้ว ข้ายังต้องเรียนรู้วิชากลั่นร่างกายอีกหลายๆ วิชา”
เสินอี้เก็บความคิด จริงๆ แล้วเขาไม่ได้รู้สึกไม่พอใจกับการเลื่อนตำแหน่ง แต่เขาไม่เต็มใจที่จะไปอยู่ใกล้ๆ ขุนพลอาวุโสผู้นั้นเป็นเวลาสามปี
อีกฝ่ายแข็งแกร่งขนาดนี้ ปีศาจที่กล้ายั่วยุคงจะไม่ค่อยมี ทำให้เขาหาทางสังหารปีศาจได้ยาก เขาจะพึ่งพาโชคไปเรื่อยๆ เพื่อหวังจะแย่งชิงผลงานไม่ได้อีกแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้นำเขาชิงเฟิงพาเหล่าศิษย์และผู้อาวุโสกว่าพันคน มั่นใจว่าสามารถกักขังขุนพลอาวุโสผู้นี้ไว้ได้
แต่เขากลับถูกสังหารได้อย่างง่ายดาย เพียงเพราะอีกฝ่ายพัฒนาระดับขึ้นมาเล็กน้อย
เสินอี้ยิ่งอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับขอบเขตที่อยู่ห่างออกไปเพียงครึ่งก้าวนี้ สามปีนั้นนานเกินไป หากโชคร้าย อาจจะต้องรออีกห้าปี หรือไม่ก็สิบปี...
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีอายุขัยของปีศาจมากมายอยู่ในมือ ถึงเวลาลองใช้สิ่งที่เรียกว่า “ผลึกปีศาจ” นี้แล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาจึงเรียกแผงระบบออกมา
[อายุขัยปีศาจที่เหลือ: 3,264 ปี สามารถกลั่นได้]
[ผลึกปีศาจ: วัตถุที่รวมเอาความแค้นและความทรงจำที่ไม่สมบูรณ์ของปีศาจไว้ เมื่อใช้ฝึกฝนศาสตร์การต่อสู้ จะสามารถใช้ความทรงจำของปีศาจเพื่ออนุมานปัญหา และเมื่อกินเข้าไป จะมีผลในการยืดอายุขัย]
ต้องใช้เวลาหนึ่งพันปีในการกลั่นผลึกปีศาจหนึ่งเม็ด หวังว่ามันจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง
แม้ว่าจะไม่สามารถค้นหาวิธีเข้าสู่ขอบเขตควบแน่นตันได้ แต่อย่างน้อยต้องให้คนอื่นเห็นถึงความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรม
จิตใจของเขาขยับเล็กน้อย ใช้เวลาเพียงหายใจเข้าออกเพียงครั้งเดียว เขาก็ใช้อายุขัยไปหนึ่งพันปี เขากำฝ่ามือแน่น รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย... ยาอันล้ำค่าของเขาชิงเฟิงนี้ไม่ค่อยดีนัก มันไม่มีผลในการบรรเทาอาการปวดด้วยซ้ำ
[จำนวนผลึกปีศาจที่เหลือ: 1 ชิ้น]
เสินอี้ลังเลอยู่ชั่วครู่ จากนั้นเขาก็ใช้อายุขัยกับวิชาวายุอัสนีพิชิตปีศาจ
จากข้อมูลที่เห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นราชสำนักหรือสำนักตระกูล สิ่งที่ควบคุมเข้มงวดที่สุดคือวิธีเข้าสู่ขอบเขตควบแน่นตัน ซึ่งเป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะหาได้ในระยะเวลาอันสั้น
เสินอี้จดจำคำพูดของหงเล่ยไว้ในใจ แต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
จับจุดอ่อนของสำนัก? ถ้ามันง่ายขนาดนั้น ปัจจุบันชิงโจวคงไม่มีเพียง “สี่ตระกูลหกสำนัก” อยู่แล้ว
แม้ว่าจะเป็นข้อเท็จจริงที่ผู้นำเขาชิงเฟิงสมรู้ร่วมคิดกับปีศาจ การกระทำเช่นนี้ย่อมจะกระตุ้นให้ฝ่ายอื่นๆ ต่อต้านในทางลับ
เรื่องแบบนี้ขุนพลอาวุโสอาจจะรับมือได้ แต่เขาอาจจะรับมือไม่ไหว!
...
[ปีแรก โฮสต์กินผลึกปีศาจ ฝึกฝนจุดเฉียวใหม่ไปพร้อมๆ กับเริ่มศึกษาว่าวิธีการนี้สามารถดำเนินต่อไปได้หรือไม่]
[อายุขัยโฮสต์เพิ่มอีก 20 ปี]
[ปีที่สอง เห็นได้ชัดว่าโฮสต์ไม่มีเบาะแส แต่ในตอนนี้เอง วิญญาณปีศาจจิ้งจอกอธิบายการกลั่นเหว่ยตันในตำนานของชิงชิว(เมืองในตำนานของจีน) แก่โฮสต์ ทำให้โฮสต์มีความเข้าใจเล็กน้อย]
[ปีที่ห้า ในที่สุดโฮสต์ก็เข้าใจสิ่งที่เรียกว่าการกลั่นเหว่ยตันแห่งชิงชิว แต่เนื่องจากปีศาจจิ้งจอกยังเด็ก ไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งนี้ในเชิงลึก ทำให้โฮสต์ไม่สามารถคาดเดาถึงวิธีการเฉพาะเจาะจงได้]
[ปีที่สามสิบ วิญญาณมังกรเจียวเริ่มมีสติมากขึ้น มันค่อยๆ นึกย้อนไปถึงวิธีการที่โหดร้ายในเผ่าพันธุ์แห่งแม่น้ำ ซึ่งค่อนข้างสอดคล้องกับวิธีการการกลั่นเหว่ยตันแห่งชิงชิว และมันได้บอกกับโฮสต์]
[โฮสต์เชื่อมต่อจุดเฉียวสำเร็จ]
[ปีที่เก้าสิบสาม ด้วยความช่วยเหลือของเศษเสี่้ยววิญญาณปีศาจ โฮสต์พยายามผสมผสานมันเข้ากับวิชาวายุอัสนีพิชิตปีศาจ]
[โฮสต์เชื่อมต่อจุดเฉียวอีกครั้ง]
[ปีที่สองร้อยแปด วิญญาณมังกรเจียวช่วยโฮสต์ปรับแต่งขั้นตอนสุดท้าย เรียกว่า’วิชายมราชปีศาจสวรรค์กลั่นตันกลืนหยวน’]
[ควบแน่นตัน: วิชายมราชปีศาจสวรรค์กลั่นตันกลืนหยวน (ยังไม่เริ่ม)]
[เตาหลอมสุริยาสายฟ้าวายุที่ประกอบด้วยจุดเฉียวสองร้อยเจ็ดสิบห้าจุด สมบูรณ์แบบมากขึ้น]
[อายุขัยปีศาจที่เหลือ: 2,056 ปี]
[อายุขัยโฮสต์ที่เหลือ: 316 ปี]
...
ชุดข้อมูลรางวัลปรากฏต่อหน้าเขาอย่างรวดเร็ว
เสินอี้ตื่นเต้นมากจนเผลอบี้ขวดยาในมือจนแตก
รูม่านตาของเขาหดลง ลมหายใจร้อนรน ปากแห้ง คอแห้ง ใช้เวลานานกว่าจะกลั้นความตกใจไว้ได้
แม้จะรู้ผลลัพธ์คร่าวๆ อยู่แล้ว แต่ความมหัศจรรย์ของผลึกปีศาจก็ยังยากเกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจ มันสามารถทำให้ความโกรธแค้นของปีศาจที่เขาสังหารฟื้นคืนชีพชั่วคราว และกลับมาสอนเขา รวมถึงอธิบายวิธีการอีกด้วย!
กลายเป็นว่าการคาดเดาการฝึกฝนไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหลายร้อยปีหรือหลายพันปีแล้ว?
แต่... เสินอี้รู้สึกตัวขึ้นมา ทำไมชื่อของวิธีการกลั่นยานี้ฟังดูแปลกๆ
ในชั่วพริบตา ข้อมูลจำนวนมหาศาลก็ไหลเข้าสู่สมองของเขา ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะหลับตาแน่น และใช้เวลาครู่ใหญ่กว่าจะย่อยมันหมดสิ้น
เมื่อเขาเปิดตาอีกครั้ง ดวงตาสีดำสนิทของเสินอี้ก็เปล่งประกายแปลกๆ
ด้วยความช่วยเหลือของวิญญาณปีศาจ สิ่งที่คาดเดาไม่ได้คือวิธีการควบแน่นตัน แต่พูดให้ถูกต้อง มันคือทางลัดที่แหวกแนวอีกทางหนึ่ง เพื่อทะลวงผ่านระดับขอบเขตวารีหยก!
พวกมันไม่ค่อยฝึกฝนวิชามากนัก แต่พวกมันอาศัยพรสวรรค์และวิธีการที่ชั่วร้ายของเผ่าพันธุ์ปีศาจ เมื่อวิธีการนี้ผสมผสานกับตำราวายุอัสนีพิชิตปีศาจ สิ่งที่ได้ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
ในตอนแรก คล้ายกับที่เขาคาดเดาไว้ ใช้เทคนิคพิเศษเพื่อกลั่นวารีหยกในร่างกายทั้งหมดให้กลายเป็นตัน
แต่หลังจากนั้น แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
เหว่ยตัน(ตันภายนอก) ไม่เชื่อมต่อกับจุดเฉียวของเขา มันจะลอยอยู่เหนือทะเลปราณ ถูกเตาหลอมสุริยันหลอมละลาย!
และเนื่องจากแยกจากจุดเฉียว ย่อมไม่สามารถดูดซับปราณแก่นแท้แห่งสวรรค์และปฐพีได้
เหว่ยตันนี้ พึ่งพาการกลืนกินแก่นแท้ปีศาจ จากนั้นดึงความแข็งแกร่งที่ดุร้ายของมันมาเก็บไว้ และใช้มันให้เป็นพลังของตนเอง เมื่อใช้จนหมดและต้องการเติมเต็ม เขาก็ต้องสังหารต่อไป
วิธีการนี้ต้องการแก่นแท้ปีศาจจำนวนมหาศาล ไม่รู้ว่าเขาจะต้องสังหารปีศาจอีกกี่ตัว? ช่างเป็นวิชาที่สมกับชื่อว่า "ยมราชปีศาจสวรรค์กลั่นตันกลืนหยวน" จริงๆ
ต้องบอกเลย---
เสินอี้รู้สึกว่าวิชานี้มันเหมาะกับเขามากๆ... ฆ่าปีศาจเพื่อแย่งชิงอายุขัย กลืนกินแก่นแท้ของมันเพื่อแย่งชิงทั้งวิชาและขอบเขต สรุปคือเขากินจนเกลี้ยง จนไม่เหลืออะไรเลย!
จากนั้นเสินอี้ค่อยๆ หยิบแก่นแท้ปีศาจถัวหลงและมังกรเจียวเฒ่าออกมา
ถ้าเขาเข้าใจไม่ผิด เพียงแค่กลืนกินแก่นแท้มังกรเจียว ขอบเขตและพลังของเขาก็จะเทียบเท่ากับมังกรเจียวขอบเขตควบแน่นตันได้ทันที และใช้ความแข็งแกร่งนี้ได้จนกว่าพลังจะหมด?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หัวใจของเสินอี้ก็เต้นแรง
ที่ใจเต้นไม่ใช่เพราะเขาเกรงกลัววิธีการของปีศาจ ตอนแรกที่เลือดปีศาจเข้าสู่ร่างกายเขายังไม่กลัว แถมตอนนั้นเขายังไม่มีวิธีควบคุมเตาหลอมสุริยาด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ เขาแทบจะใช้วิชา "เทียนกังโลหิต" ได้โดยไม่ต้องคิดมาก
เขาแค่ตื่นเต้นกับความแข็งแกร่งที่จะได้รับเท่านั้น ส่วนวิธีการจะเป็นของปีศาจหรือจะชั่วร้ายก็ช่างมัน แค่ได้ผลก็พอแล้ว!
แต่ก่อนเขาจะกลืนแก่นแท้เปีศาจ จู่ๆ เสินอี้ก็ครุ่นคิดเล็กน้อย
แล้วถ้าเขาสามารถกลืนกินแก่นแท้สองเม็ดพร้อมกันเลยล่ะ... จากนั้นเก็บมันไว้ด้วยวิชายมราชปีศาจสวรรค์กลั่นตันกลืนหยวน แล้วพลังปราณของเขาจะเหนือกว่าขอบเขตควบแน่นตันได้หรือไม่?
อือ...ลองคิดดู วิชายมราชปีศาจสวรรค์กลั่นตันกลืนหยวนของเขา ต้องใช้แก่นแท้ปีศาจในการเติมเต็มพลัง แล้วผู้ฝึกตนขอบเขตควบแน่นตันล่ะ? พวกเขาใช้อะไร? ไม่ต้องพูดถึงปราณแก่นแท้สวรรค์และปฐพีที่มีอยู่น้อยนิดเลย แม้แต่การใช้โอสถล้ำค่า มันก็ยังมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก!
ถ้าเขาสร้างเหว่ยตันขึ้นมาแล้ว เขาจะทะลวงผ่านขอบเขตบ่มเพาะระดับต่อไปได้หรือไม่?