ตอนที่แล้วบทที่ 647: การใช้กระจกสังสารวัฏ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 649: ต้นกำเนิดและจับตัวร่างวิญญาณ!

บทที่ 648: ตามหาตัวกินวิญญาณ!


หุบเขาด้านหลังเมืองเชิ่งหลงเต็มไปด้วยผู้คนที่พลุกพล่าน  จอกแจกจอแจและคึกคักกันอย่างยิ่ง

ตามกำหนดเวลาแล้ว  วันนี้จะมีผู้พลเมืองใหม่ที่สำเร็จการฝึกพิเศษและจะถูกเคลื่อนย้ายจากโลกเดิมมาอีกกลุ่มหนึ่ง

และยังคงมีกลุ่มนักสู้กับทหารรับจ้างโหลวเฉิงเดินทางไปยังสนามรบนอกแผ่นดินเพื่อร่วมภารกิจค้นหาพวกหมานสู

หากไม่ใช่เพราะหุบเขาด้านหลังมีพื้นที่ขนาดใหญ่ล่ะก็ไม่มีทางที่จะรองรับคนทั้งหมดนี้ได้อย่างพร้อมกันขนาดนี้แน่

แม้ว่าฉากนี้จะค่อนข้างวุ่นวาย  แต่ชาวเมืองเชิ่งหลงก็ได้ปรับตัวเข้ากับฉากนี้กันแล้วจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก  พวกเขายังคงยุ่งอยู่กับงานที่ทำอยู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

เมืองเชิ่งหลงกลายเป็นยักษ์ใหญ่โดยไม่รู้ตัว  ความแข็งแกร่งของมันก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ

และชาวเมืองเชิ่งหลงต่างรู้สึกภาคภูมิใจหลังจากที่ได้เห็นฉากนี้  และพวกเขาก็มีกำลังใจในการทำงานมากยิ่งขึ้นด้วย!

ในตอนนี้เองที่สิ่งกีดขวางบนบานประตูมิติที่ดูเหมือนของเหลวได้มีการกระเพื่อมเบา ๆ จากนั้นก็เห็นถังเจิ้นค่อย ๆ เดินออกมาตามรอยกระเพื่อมนั้น

ข้างหลังเขามีองครักษ์ระดับลอร์ดสิบคนหน้าตาจริงจังพร้อมออร่าอันดุดันตามมา!

นักรบที่เฝ้าประตูอยู่เห็นพวกเขาแล้วก็รีบยกมือทำความเคารพทันที

นักรบและทหารรับจ้างจากเมืองเชิ่งหลงที่กำลังจะเข้าประตูไปก็ยืดตัวตรงใช้หมัดขวาประทับที่อกมองดูถังเจิ้นเป็นตาเดียวกัน

ด้วยเสียงทำความเคารพที่หนักแน่นทำให้พวกชาวเชิ่งหลงที่ก้มหน้าทำงานอยู่สะดุ้งโหยงขึ้นมามองและเห็นถังเจิ้นด้วย

หุบเขาเสียงจอแจแต่เดิมได้เงียบลง  ทุกคนหยุดเคลื่อนไหวและมองมาที่ถังเจิ้น

พลเมืองใหม่หลาย ๆ คนต่างได้ฟังเรื่องเล่าตำนานของเจ้าเมืองเชิ่งหลงผู้นี้มานานมากแล้วแต่ก็ไม่เคยได้เห็นตัวจริงเลยซักครั้งเดียว  ดังนั้นทุกคนเลยอยากรู้อยากเห็นกันมาก

สำหรับพลเมืองเก่านั้นคนเหล่านี้ล้วนแสดงสีหน้าชื่นชมและหลงใหล  เพราะเมื่อเทียบกับพวกพลเมืองใหม่แล้วพวกเขาเหล่านี้คือคนที่ได้รับรู้ถึงพลังพิเศษของถังเจิ้นและได้รับผลประโยชน์จากเขามามากที่สุดและนานที่สุดด้วย!

ทุกวันนี้ถ้าใครกล้าพูดว่าถังเจิ้นไม่ดีล่ะก็เหล่าพลเมืองเก่าจะหน้าตึงใส่ทันที  เผลอ ๆ จะชักอาวุธออกมาชี้หน้าเลยด้วยซ้ำ!

หลังจากที่ถังเจิ้นเห็นฉากนี้เขาก็ได้แต่ยิ้มอ่อน ๆ ก่อนจะพยักหน้าและพูดคุยอะไรกับชาวเมืองซักพักหนึ่งก่อน  จากนั้นค่อยนั่งรถออกจากที่นี่

จุดประสงค์ที่เขากลับเมืองมาในครั้งนี้ก็มีอยู่อย่างหนึ่ง  นั่นคือเขาจะไปหาจับเจ้าตัวกินวิญญาณ (โซลอีตเตอร์) ที่หนีไปซ่อนอยู่ที่ไหนซักแห่งเพื่อจะใช้มันมาจัดการกับเจ้าแห่งโทเทม!

จากที่เขาเข้าใจคือไอ้เจ้าแห่งโทเทมนี้มันมีความสามารถที่ประหลาดมากมาย  และยังมีความสามารถในการเพิ่มระดับพลังยุทธ์ของตนได้ชั่วคราวหากได้รับเลือดของพวกหมานสูมาเป็นเครื่องเซ่น  ดังนั้นจึงเป็นตัวที่ยากจะจัดการ

ด้วยเหตุนี้เองที่หากต้องการจัดการกับเจ้าแห่งโทเทมล่ะก็จำเป็นต้องฆ่าพวกหมานสูให้หมดก่อน  ไม่งั้นไอ้เจ้าแห่งโทเทมนี้มันก็แทบจะเป็นตัวตนที่อยู่ยงคงกระพันไร้เทียมทานเนื่องจากมีเลือดของพวกหมานสูให้มันได้ใช้

เว้นเสียแต่ว่าเขาจะมีพลังที่มากพอจะบดขยี้มันในทีเดียว  ไม่งั้นวิธีที่เหลือคือเขาต้องค่อย ๆ ฆ่าพวกหมายสูให้หมดก่อนแล้วถึงค่อยหาทางฆ่ามันทีหลัง

และไอ้เจ้าตัวกินวิญญาณนั่นก็คือไพ่เด็ดที่เขากะเอาไว้ใช้ในการจัดการกับเจ้าแห่งโทเทม

เจ้าตัวนี่มีต้นกำเนิดที่ลึกลับมาก  มันเคยอยู่แต่ในรูขนาดใหญ่ยักษ์ตรงซากยานรบมาก่อน  และยังเคยขวางถังเจิ้นไม่ให้ออกจากที่นั่นอีกด้วย

ทว่าหลังจากที่ถังเจิ้นอัปเลเวลมาแล้วและกะจะไปแก้แค้นมัน  ไอ้เจ้าตัวกินวิญญาณนั่นที่เห็นท่าไม่ดีก็เผ่นหนีไปซะก่อนโดยไม่มีลังเลเลย

ก่อนหน้านี้ถังเจิ้นไม่มีเวลาสนใจมันเพราะมีเรื่องเบ็ดเตล็ดมากมายให้หัวหมุนทำให้เขาปล่อยให้มันอยู่อย่างสบายใจมาจรถึงตอนนี้

และตอนนี้ถังเจิ้นก็มีแผนจะจัดการกับเจ้าแห่งโทเทม  และเขาก็นึกถึงความสามารถแต่กำเนิดของตัวกินวิญญาณได้  นั่นคือมันกินร่างวิญญาณเป็นอาหาร  หรือก็คือมันเป็นศัตรูตามธรรมชาติของเจ้าแห่งโทเทมนั่นเอง!

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าความแข็งแกร่งของมันไปถึงระดับราชาแล้วยังก็ตาม  แต่เขาก็เชื่อสนิทใจเลยว่าแต่เดิมมันต้องเป็นตัวที่แข็งแกร่ง  แต่กลับต้องสูญเสียความแข็งแกร่งนั่นไปด้วยสาเหตุอะไรบางอย่าง!

และความแข็งแกร่งแต่เดิมของมันก็ต้องไม่ใช่ง่าย ๆ เช่นราชาทั่วไปแน่ ๆ!

ถังเจิ้นได้เรียนรู้โดยไม่รู้ตัวว่าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเขาจะต้องใช้ทุสิ่งทุกอย่างที่ใช้ได้

ดังนั้นเมื่อเขาได้รู้จักเจ้าแห่งโทเทมเขาก็หันโฟกัสไปที่ตัวกินวิญญาณทันทีเลย

โลกโหลวเฉิงนั้นกว้างใหญ่มากและแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนอื่นจะตามหาตัวกินวิญญาณที่ไม่ใช่ตัวกระจอกและหนีหายไปนานแล้วให้พบ

แต่ถังเจิ้นมีการ์ดตามรอยและระบุตำแหน่งที่เขาสะสมจากการจับสลากรายวันอยู่  ตอนนี้ไม่รู้มีเก็บไว้กี่ใบแล้วและยังไม่เคยเอาออกมาใช้เลย

และวันนี้เองที่เขาจะได้ใช้เพื่อตามรอยตัวกินวิญญาณ!

หลังจากกลับมาที่โหลวเฉิงเขาก็เตรียมตัวอะไรนิดหน่อยก่อนจะหยิบการ์ดออกมาฉีก

การ์ดได้กลายเป็นละอองแสงหายไป  และมีออร่าอันคลุมเครือปรากฏขึ้น  ออร่าดังกล่าวนั้นราวกับกำลังถอดรหัสความลับสวรรค์เพื่อทำการค้นหาตำแหน่งของตัวกินวิญญาณตามความคิดของถังเจิ้น

และทันใดนั้นเองก็มีแสงแห่งวิญญาณวาบขึ้นมา  ถังเจิ้นหันขวับไปตามทิศทางของแสงที่ทอดยาวไปในแดนร้าง

ทันใดนั้นเองปีกที่หลังของเขาก็สยายออกและคนทั้งคนก็ได้บินขึ้นฟ้าด้วยความเร็วสูงปานภูติผี

แม้ว่าการ์ดตามรอยนี้จะยอดเยี่ยมก็ตาม  แต่ระยะเวลาแสดงผลของมันมีแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น  ดังนั้นถังเจิ้นจึงต้องมุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางของตัวกินวิญญาณโดยเร็วที่สุด

ถึงกระนั้นการ์ดตามรอยก็ใช่ว่าจะบอกได้ละเอียดหมด  ตอนนี้เขารู้แค่ว่ามันอยู่ตรงทิศไหน  แต่ไม่ได้รู้ว่ามันอยู่อย่างจากเขาไกลแค่ไหน  ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่เร่งความเร็วในการบินให้สูงสุดเท่านั้น

สิ่งที่ถังเจิ้นกังวลในตอนนี้คือถ้าเขายังไปไม่ถึงตำแหน่งของตัวกินวิญญาณหลังจากที่การ์ดในมือหมดแล้วล่ะก็งานนี้คือเขาได้เสียแรงเปล่าจริง ๆ แล้ว

ความเร็วของราชา 2 ดาวนั้นเป็นอะไรที่เกินจินตนาการ  อีกทั้งเขายังมีปีกอันพิเศษกว่าใครซึ่งทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักรบที่เก่งที่สุดในระดับเดียวกัน

แน่นอนแหละว่าในโลกโหลวเฉิงมีนักรบเก่ง ๆ อีกนับไม่ถ้วน  แต่ก็ใช่ว่าคนเหล่านั้นจะทำแบบเขาได้ง่าย ๆ!

หากเขาใช้ความสามารถนี้ในการหนีล่ะก็  เกรงว่าคงมีนักรบน้อยคนนักที่ตามทัน!

ถังเจินบินไปจนจะหมดเวลาแล้วฉีกการ์ดใบต่อไปเพื่อแทนที่ใบเก่าโดยที่ยังบินต่อ

หลังจากที่ฉีกการ์ดตามรอยไปเป็นโหลแล้วเขาก็ได้ออกจากพื้นที่แดนร้างซึ่งเมืองเชิ่งหลงตั้งอยู่และเข้าสู่พื้นที่ที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน

มันเป็นพื้นที่ราบขนาดใหญ่  บางครั้งจะเห็นโหลวเฉิงขนาดต่าง ๆ บนพื้นแวบผ่านตามรายทาง  ซึ่งเผ่าพันธุ์ที่ดูแปลกตารวมไปถึงมอนสเตอร์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็มักจะดึงดูดสายตาเขาได้

ในการเดินทางด้วยความเร็วสูงขนาดนี้แม้แต่ร่างกายอันแข็งแกร่งของเขาก็ยังไม่มีแรงมากพอที่จะทนบินต่อเนื่องเหมือนกัน  ดังนั้นเขาจึงต้องมีการพักเบรกระหว่างทาง  โดยเขาตั้งใจเลือกในป่าและลงไปหาพักผ่อนเพื่อฟื้นกำลังกายให้เต็ม

ในช่องเก็บของของเขามีอาหารเก็บไว้เป็นกระบุงโกย  ดังนั้นเขาไม่ต้องเสียเวลาล่าสัตว์มาทำอาหาร  แค่เอาอาหารสำเร็จรูปมาอุ่นให้ร้อนแล้วกินได้เลย

ถังเจิ้นเอาเนื้อปรุงสุกออกมาถือไว้แล้วเรียกลูกไฟออกมาเผาให้มันร้อนจนกลินหอมฉุย

ความร้อนของไฟที่เขาใช้นั้นเขาควบคุมได้ดั่งใจ  แปลว่าเนื้อจะสุกพอดีโดยไม่มีรองไหม้และเดือดไปด้วยไขมันสีเหลืองทองที่หอมน่ากิน

เพียงแค่ไม่นานเนื้อนั่นก็ร้อนได้ที่ส่งกลิ่นชวนน้ำลายแตก

เสร็จแล้วก็เอาเนื้อวางบนจานก่อนจะระเบิดเปลวเพลิงอันร้อนแรงเผามือตัวเอง  อันที่จริงไม่ได้เผามือตัวเองหรอกแต่ขี้เกียจเช็ดมือเลยใช้ไฟเผาคราบมันของเนื้อที่ติดมืออยู่ต่างหาก!

ปัดฝุ่นสองสามแปะแล้วก็หยิบเอาไวน์ผลไม้อันแปลกใหม่ออกมาขวดหนึ่งกิน ๆ ดื่ม ๆ อย่างเอร็ดอร่อย

หลังจากกินดื่มเสร็จแล้วถังเจิ้นก็พักผ่อนครู่หนึ่งก่อนจะฉีกการ์ดตามรอยอีกใบ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด