บทที่ 57 โอกาสมาถึงอย่างฉับพลัน
ในชาติก่อน เมื่อหลี่ฟานกำลังใกล้หมดอายุขัย ด้วยโชคชะตาบังเอิญ เขาได้ทะลุผ่านการปิดกั้นของวงกตเซียนมหัศจรรย์ สามารถเข้ามาในพิภพเซียนเป็นครั้งแรก
เมื่อนั้นสิ่งที่หลี่ฟานได้เห็นคือภูผาเทือกเขาสลับซับซ้อน กับเมืองหลิงเทียนอันยิ่งใหญ่ลอยอยู่บนฟ้า
แต่ในชาตินี้ เมื่อหลี่ฟานมาถึงพิภพเซียน กลับปรากฎผืนทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาลต่อหน้า
ก่อนหน้านี้ หลี่ฟานมิได้คิดอะไรมาก คิดเพียงแค่ว่าตอนเดินทางมาคงมีความผิดพลาดอะไรบางอย่างเท่านั้น
จนกระทั่งวันนี้ หลี่ฟานได้เห็นทะเลชงอวิ่นเหือดแห้ง เห็นการกำเนิดของสมบัติน่าอัศจรรย์อย่างไข่มุกทะเลกว้าง เขาจึงเพิ่งเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง
ไม่ได้เกิดปัญหาขัดข้องแต่อย่างใด ที่ที่หลี่ฟานมาถึงหลังจากผ่านวงกตเซียนมหัศจรรย์นั้น แท้จริงแล้วเป็นที่เดิมนั่นเอง
เพียงแต่ เวลาที่เขามาถึงพิภพเซียนในสองชาตินั้นแตกต่างกันเท่านั้นเอง
ในชาติก่อนตอนที่หลี่ฟานมาถึงพิภพเซียน เป็นเวลาที่หลี่ฟานมีอายุถึง 85 ปีพอดี นั่นคือหลังจากที่หมุดยึดดึงกลับถึง 65 ปี
ส่วนชาตินี้ หลี่ฟานเข้ามาในพิภพเซียนตอนอายุ 40 ปี หลังจากความก้าวหน้าการเติมพลังหวนเจินของเขาถึง 100%
นั่นคือหลังจากที่หมุดยึดดึงกลับถึง 20 ปี
ช่วงระยะเวลาห่างกัน 45 ปี ที่หนึ่งพบทะเลอันกว้างใหญ่ ที่หนึ่งพบแต่ภูเขาลูกน้อยใหญ่
ก็ไม่แปลกที่หลี่ฟานไม่คิดจะไปคาดเดาเรื่องนี้
ถ้าไม่ได้สัมผัสกับตัวเอง ต่อให้มีคนมาบอกล่วงหน้าว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดมหาศาลของฟ้าดินเช่นนี้ เขาก็คงจะเชื่อแค่ครึ่งหนึ่งครึ่งเดียวอยู่ดี
ดังนั้นหลี่ฟานจึงหัวเราะ
หนึ่ง เขายังไม่อาจละทิ้งความคิดของปุถุชนไปได้อย่างสิ้นเชิง
หากเขาเชื่อมโยงคำเตือนเกี่ยวกับเรื่องแปลกประหลาดต่างๆจากจางห่าวโป๋ กับสิ่งที่เขาได้เห็นในสองครั้งสองครานั้น บางทีเขาคงตระหนักถึงโศกนาฏกรรมการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของฟ้าดินได้เร็วขึ้น
สอง เพราะเขาเห็นความหวังที่ความหายนะในครั้งนี้จะสิ้นสุดลงในที่สุด
จากหมุดยึด 50 ปี โข่วหงกับเต๋าเสวียนจื่อบุกเข้าไปในต้าเสวียน ในตอนนั้น พวกเขาเพิ่งจะบอกว่าตนมาจากเมืองหลิงเทียน เทือกเขาชงหยวน
เป็นไปได้ว่าก่อนเวลานั้น ภัยพิบัติแห้งแล้งครั้งนี้คงจะผ่านพ้นไปแล้ว
มหาสมุทรที่เหือดแห้งจะกลายเป็นผืนเขาเขียวขจี อุดมสมบูรณ์อีกครั้ง
ตอนนี้เป็นหมุดยึดที่ 34 ปี ไม่ใช่ว่าจะห่างไกลแล้วเสียเมื่อไร
การรอคอยอย่างไร้หวังนั้นทรมานที่สุด แต่เมื่อรู้ผลลัพธ์สุดท้ายแล้ว เหตุการณ์อันแสนเลวร้ายเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดก็ไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไป
หลี่ฟานทำใจให้สงบ แล้วกลับมายังเกาะไท่อันอีกครั้ง
เห็นผู้คนที่กระวนกระวายใจไม่สิ้นสุด แทบจะชาชิน จนทำได้แค่สวดมนต์อ้อนวอนอยู่วันยังค่ำคืน หลี่ฟานก็ส่งเสียงไปทั่วทั้งเกาะ บอกพวกเขาว่าเคราะห์กรรมครั้งนี้จะผ่านไปในที่สุด
ได้รับการยืนยันจากท่านเซียน ชาวบ้านบนเกาะต่างปลื้มปีติยินดี ต่างพากันฟื้นฟูความหวังในการมีชีวิตรอดอีกครั้ง
ส่วนหลี่ฟานกลับจะปลีกวิเวก นำไข่มุกทะเลกว้างออกมาอีกครั้ง
"ความหวังเล็กๆ นิดหนึ่งอยู่ในสิ่งนี้หรือไร?"
หลี่ฟานสังเกตไข่มุกสีคราม สมบัติอันน่าพิศวงแห่งฟ้าดินนี้
กระแสจิตวูบเข้าไปอยู่ในนั้น แต่แล้วก็หายวับไปในพริบตา ดุจกระทิงตกอยู่ในท้องทะเลลึก
"ดูท่าว่าหากจะใช้มัน คงต้องใช้ความพยายามอีกไม่น้อยทีเดียว" หลี่ฟานเห็นเช่นนั้นก็คิดหนัก
สมบัติแห่งฟ้าดินคือกุญแจสำคัญในการก่อร่างพื้นฐานวิถีเต๋า วิธีค้นหาและใช้นั้นล้วนเป็นประสบการณ์ล้ำค่า
แม้ในต้าเสวียนจิง ค่าแลกก็แพงลิบลิ่ว จะต้องใช้คะแนนผลงานนับพันจึงจะได้มา
ครั้งนี้หลี่ฟานคงต้องลองผิดลองถูกด้วยตนเองแล้ว
หลังจากนั้น หลี่ฟานก็ทำการทดลองหลายอย่าง
ใช้ปราณวิญญานแทรกซึม ใช้กระแสจิตอบอุ่น หรือแม้กระทั่งใช้กำลังภายนอกกระแทกเข้าใส่ สุดท้ายก็ใช้เลือดหลอมรวมดูบ้าง
แต่ไข่มุกทะเลกว้างนั้นไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ไม่อาจปลดปล่อยพลังไอน้ำมหาศาลที่สะสมอยู่ข้างในออกมาได้
สุดท้าย หลี่ฟานเกิดความคิดวาบขึ้นมา นึกถึงวิธีรับรู้และควบคุมกระแสปราณจากสรรพสิ่งตามที่กล่าวไว้ใน《ตราทองล้อมหยกพันกลไก》
เขาจึงกระตุ้นปฏิหารย์ "แยกแยะกระแสปราณ" มองไปยังไข่มุกทะเลกว้าง
แสงสีน้ำเงินเข้มล้อมรอบไข่มุกนั้นไว้
เก่าแก่ ลึกลับ มีชีวิตชีวา...
ถึงไข่มุกทะเลกว้างจะมีขนาดเล็ก แต่มวลกระแสปราณที่ซับซ้อนและมหาศาลนั้น เหนือกว่าสรรพชีวิตทั้งปวงบนเกาะไท่อัน
เพียงแต่ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเก็บตัวสะสมพลัง หากไม่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ ก็ยากที่จะแยกแยะออกได้ง่ายๆ
หลี่ฟานระมัดระวังรับรู้กระแสปราณที่ซ่อนอยู่ในไข่มุกทะเลกว้าง
พอเพิ่งสัมผัสเข้า หลี่ฟานก็รู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองหายวับไป
เหมือนลอยขึ้นสู่เก้าชั้นฟ้าในชั่วพริบตา มองผืนทะเลกว้างใหญ่ด้านล่าง
ทะเลชงอวิ่นดำรงอยู่มาชั่วกัปชั่วกัลป์ หล่อเลี้ยงสรรพชีวิตนับไม่ถ้วน
แต่วันหนึ่ง มีพลังอำนาจลึกลับบางอย่างบนฟ้าดินลงมาเยือน
และนับแต่นั้นเป็นต้นมา ท้องทะเลก็เริ่มเดินทางสู่ความตาย
ฟ้าให้กำเนิด ฟ้าให้ล่วงลับ เป็นกฎเกณฑ์ของวิถีเต๋า
ฟ้าประสงค์เผาผลาญทะเล ทะเลไร้กำลังต้านทาน
ทว่า ทะเลกลับไม่ยอมจำนน!
ดังนั้น ถึงทะเลจะสูญสิ้น แต่ทะเลใหม่ก็จะเกิดขึ้น!
...
ตูม!
หลี่ฟานหลุดพ้นจากสภาวะพิเศษนั้นออกมาก่อนที่จะทันได้ไตร่ตรองสิ่งที่เห็นเมื่อครู่ หลี่ฟานกลับรู้สึกอ่อนแรงวูบไปทั้งตัวจนแทบจะยืนไม่อยู่
พอตรวจดู หลี่ฟานยิ่งตกใจเมื่อพบว่า ตนเองมีผมขาวปรากฏขึ้นมาเส้นหนึ่งโดยไม่ทันรู้ตัว และบนใบหน้าก็เกิดริ้วรอยจางๆ
เพียงแค่ชั่วขณะที่รับรู้กระแสปราณของไข่มุกทะเลกว้างเท่านั้นเอง!
หลี่ฟานเปิดหน้าต่าง【หวนเจิน】ขึ้นมาอีกครั้ง แล้วอุทานออกมาด้วยความตกใจ
ชื่อ: หลี่ฟาน
ขั้น: ฝึกปราณระดับกลาง
อายุทางกายภาพ: 89/199
อายุทางจิตใจ: 517/2280↑
เพียงแค่ชั่วพริบตานี้ อายุทางกายภาพของหลี่ฟานก็กระโดดจาก 54 ไปเป็น 89 ปีเลยทีเดียว
เหมือนผ่านไปถึง 35 ปีในเสี้ยววินาที
"ไม่แปลกใจเลยที่ถึงแม้สำนักเทียนจีในยุคโบราณ ผู้ที่ฝึกฝนตำราวิชานี้ก็มีน้อยนิด เพียงแค่สัมผัสกับจิตสำนึกของทะเลกว้างใหญ่ อายุขัยก็ถูกกัดกินอย่างรวดเร็ว"
"หากชีวิตไม่บั่นทอนลงเร็วเกินไป จนร่างกายเตือนภัยตามสัญชาตญาณ กลัวว่าข้าคงจะถูกจิตสำนึกของทะเลกลืนกินไปอย่างไร้ความหมายแล้ว ถึงตอนนั้น จะยังเรียกใช้【หวนเจิน】ได้หรือไม่ ก็ยังไม่แน่เลย"
หลี่ฟานเข้าใจว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น จึงรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว
"ไม่ใช่ ต้องไม่ใช่วิธีควบคุมสมบัติแห่งฟ้าดินแบบนี้แน่ๆ"
หลี่ฟานรู้ว่าตัวเองต้องเลือกใช้วิธีผิดไปแล้ว
การรับรู้เวลาของมนุษย์ เทียบกับท้องฟ้า ผืนดิน ภูผา ท้องทะเล ระดับมันช่างแตกต่างกันลิบลับ
แม้แต่ผู้ฝึกเซียนที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้น ที่อาจมีชีวิตอยู่ได้หลายพันปี ก็ยังเทียบไม่ติดฝุ่นเลย
หากบังอาจใช้จิตใจมนุษย์ไปเชื่อมต่อ ก็มีแต่จะถูกกลืนกินหมดสิ้นเท่านั้น
งั้นจะต้องทำอย่างไร จึงจะควบคุมสมบัติแห่งฟ้าดินได้กันล่ะ?
หลี่ฟานกำไข่มุกทะเลกว้างไว้ในมือ สีหน้าเปลี่ยนไปมา
...
วันคืนผ่านไป หลี่ฟานยังคงไม่อาจหาวิธีใช้ไข่มุกทะเลกว้างได้เลย
ส่วนอากาศก็ยิ่งทวีความร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ เหมือนจะทำความสะอาดทะเลชงอวิ่นให้สิ้นซากไปเลยทีเดียว
ผู้คนบนเกาะก็ค่อยๆ หมดแรงที่จะสวดมนต์ภาวนา
หลี่ฟานตระหนักดีว่า หากปล่อยไปแบบนี้ต่อ พวกเขาอาจตายไปก่อนที่ภัยพิบัตินี้จะสิ้นสุดลงก็เป็นได้
การตายไปก่อนที่รุ่งอรุณจะมาถึง นับเป็นเรื่องที่ทำให้หมดหวังที่สุด
แม้แต่หลี่ฟานเองก็เริ่มใจลอยกังวลใจ มีความคิดฟุ้งซ่านมากมาย
เพื่อทำใจให้สงบ เขาจึงฝึกฝน《คาถาหล่อหลอมจิตเสวียนหวง》ที่ไม่ได้ใช้มานาน
นับตั้งแต่ได้เป็นผู้ฝึกเซียนขั้นฝึกปราณมา ส่วนใหญ่หลี่ฟานจะใช้พลังไปกับการฝึกตำรา อย่าง《คัมภีร์ยุทธ์เซี่ยวเอี๋ยนสุ่ย》และ《ตราทองล้อมหยกพันกลไก》เป็นหลัก
เขาไม่ได้ฝึกฝน《คาถาหล่อหลอมจิตเสวียนหวง》มานานแล้ว
เพราะมันไม่ได้ช่วยเพิ่มพูนระดับการฝึกฝนได้เป็นจริงเป็นจัง ถึงแม้ไม่ฝึกฝนโดยตรง มันก็ยังค่อยๆดำเนินไปเองอยู่ดี
ดังนั้นหลี่ฟานจึงละทิ้งมันไว้ข้างๆ
ครั้งนี้เมื่อบริกรรมคาถาหล่อหลอมจิต ความไม่สบายใจ ความกลัว ความร้อนรนของหลี่ฟานก็ค่อยๆจางหายไป กลายเป็นปุ๋ยหล่อเลี้ยงหัวใจเต๋าของเขา
เมื่อจิตใจกลับมาสงบนิ่ง หลี่ฟานพลันสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง
กุญแจสำคัญที่จะทำให้เขาก้าวกระโดดนั้น ก็อยู่ที่ไข่มุกทะเลกว้างนี่เอง