บทที่ 30 เหล้าซันหยาง (หญ้าคมบาง)
บทที่ 30 เหล้าซันหยาง (หญ้าคมบาง)
สองวันต่อมา
เวลาเที่ยงคืน
ณ บ้านหลินลู่
โลงศพสีขาวยังคงตั้งอยู่บนม้านั่งหลายตัวในลานบ้าน
โลงศพสีขาวถูกมัดอีกครั้งด้วยเส้นหมึกชาด
ผงปูนขาวเป้นวงกลมก็ถูกโรยอีกครั้ง
และเหนือหัวโลงศพสีขาวก็มีการขึงผ้าผืนใหญ่ขึ้นมาเพื่อบดบังแสงจันทร์ไม่ให้ลอดส่องลงบนโลงศพในลานบ้านโดยตรง
มีชามทองแดงอยู่ข้างโลงศพสีขาวและมีเทียนหอมจุดอยู่ข้างๆ
ในนั้นมีขี้เถ้าเหลืออยู่ใน ขี้เถ้าเหล่านั้นคือเงินกระดาษที่เผาให้แก่เจ้าของในโลงศพสีขาว
ค้ำคืนที่เงียบงัน
เป็นเวลาที่ทุกคนเข้านอนแล้ว
เทศมณฑลฉางข้างนอกมืดสนิทและว่างเปล่า ผู้คนต่างหลับใหลและทุกอย่างก็เงียบสงบ
แต่บรรยากาศในลานบ้านคืนนี้มันแปลกๆ นิดหน่อย
ในระหว่างวัน นักพรตลัทธิเต๋าเฉิน ได้พาคนหนุ่มหลายสาวคนจากตระกูลหลิน พร้อมเข็มทิศหยินหยางที่สือทอดมาจากบรรพบุรุษของเขาไปยังภูเขาและแม่น้ำใกล้เทศมณฑลเขตฉางอีกครั้ง เป็นผลให้ นักพรตลัทธิเต๋าเฉินและคนอื่นๆ ไม่สามารถกลับมาได้ตรงเวลาก่อนมืดวันนี้
สิ่งนี้ทำให้ หลินเหอซุ่น และคนอื่นๆ รวมทั้งหมดเจ็ดคนที่รับผิดชอบในการเฝ้าโลงศพขาวลำบากใจ
พวกเขาไม่เคยเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้เพียงลำพัง
พวกเขาไม่รู้จะทำอย่างไร
“ข้ากังวลจริงๆ นะ อาจารย์เฉิน พาหลินซานและคนอื่นๆ ออกไปดูภูเขาแม่น้ำ แต่พวกเขาบอกว่าจะอยู่ที่นั่นถึงตอนกลางวันเท่านั้น! ตอนนี้ก็มืดแล้ว ทำไมพวกเขายังไม่กลับมาอีก”
“แล้วถ้าเขากลับมาตอนนี้ล่ะ? ตอนนี้มันเวลาห้ามออกมาข้างนอกแล้ว เขามาในเมืองไม่ได้แล้ว แล้วเราเองก็ออกไปเดินข้างนอกไม่ได้ด้วย แทนที่จะรอให้อาจารย์เฉินพาพวกนั้นกลับมา เรามาคิดกันดีกว่าว่าจะผ่านคืนนี้ไปได้ยังไง เวรเอ้ย! ต้องมาเฝ้าโลงศพที่มีศพนอนอยู่ แถมข้างนอกก็ลมพัดทั้งคืนเนี่ย!”
“ตอนนี้ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องน่าขนลุกแบบนั้นรึไงวะ ขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย!”
คนเจ็ดคนกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่ลานบ้าน พร้อมด้วยกับแกล้มอย่างหัวหมู หูหมู และห่านย่าง...
เหล้าทำให้หัวใจเราร้อนผ่าวหลังจากดื่มเข้าไป
รู้สึกสบายใจไปทั้งตัว
ยิ่งเราดื่มมากเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งของเราก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น และกลิ่นของเหล้าก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น
แต่กลับกันยิ่งเราดื่มมากเท่าไรก็ยิ่งเสพติดมากขึ้นเท่านั้น
ในระหว่างการเฝ้ายามตอนกลางคืน ไม่มีใครสามารถอยู่ได้ตลอดทั้งคืนโดยไม่ต้องดื่มเหล้าสักสองสามจอก
นับตั้งแต่มีการขโมยศพเกิดขึ้นเมื่อห้าวันก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ที่คล้ายกันเกิดขึ้นอีก ตระกูลหลินได้จัดให้มีคนหนุ่มสาวห้าถึงหกคนที่มีจิตใจดีทำงานร่วมกับนักพรตเต๋าเฉินผลัดกันเฝ้าโลงศพทุกคืน
“พี่น้องทั้งหลาย เอ็งคิดว่าเหล้าซันหยาง ที่อาจารย์เฉินเตรียมไว้สำหรับการเฝ้ายามตอนกลางคืนของเรานั้น มันวิเศษขนาดนั้นจริงๆ เรอะ? ดูเหมือนเขาจะโกหกเราเลยนะ เหล้าสามารถขับไล่วิญญาณชั่วร้ายออกไปได้จริงๆ เรอะ?”
ในขณะที่ดื่มเหล้าซันหยาง หนึ่งในนั้นก็เหลือบไปมองโลงศพสีขาวที่ตั้งอยู่ข้างๆ เขา อย่างกังวลใจแล้วพูดอย่างประหม่าด้วยสีหน้าสงสัย
หลังจากได้ยินสิ่งที่สหายของพวกเขาพูด คนที่เหลือก็เริ่มพูดคุยกัน:
“ข้าว่าความสามารถของอาจารย์เฉินก็ชัดเจนสำหรับทุกคนนะ แล้วทุกคนก็เคารพอาจารย์เฉิน ดังนั้นอาจารย์เฉิน... ไม่น่าจะโกหกเราหรอกใช่ไหม?”
“ไม่ว่าเหล้านี้จะสามารถขับไล่วิญญาณชั่วร้ายได้จริงหรือไม่ แต่ข้ารู้แค่ว่าหากข้าอยู่ดึกโดยไม่ดื่มเพื่อทำให้ตัวเองสดชื่น ข้าคงอยู่ไม่ได้ทั้งคืนโดยไม่นอนอย่างแน่นอน”
"ใช่แล้วๆ"
คนที่พูดในตอนแรกยังคงมีสีหน้ากังวลแล้วพูดว่า "ไม่ใช่ว่าข้าสงสัยในสิ่งที่อาจารย์เฉินพูดหรอกนะ แต่ประเด็นหลักคือมีคนตายนอนอยู่ในโลงศพข้างๆ เรา มันค่อนข้างน่ากลัวเล็กน้อยนะ"
ในเวลานี้ หลินเหอซุ่น กล่าวต่อ: "จากที่อาจารย์เฉินพูด วิญญาณชั่วร้ายและความขุ่นเคืองหลังความตายถูกทิ้งไว้โดยจิตวิญญาณของมนุษย์ เหล้าสามารถกระจายชี่ได้ ดังนั้นหมอในโรงหมอจึงใช้มันเพื่อเสริมการไหลเวียนเลือด ทำให้เหงื่อออก และบรรเทาอาการซึมเศร้า ยาที่ใช้แก้หวัดมักผสมกับเหล้าเสมอ หากมีอะไรบางอย่างคืบคลานเข้ามา เราก็แค่ซดเหล้าซันหยางให้หลายๆ ขวด ปราณหยางในร่างกายของเราจะสยบปราณหยินเอง ร่างกายของเราก็จะไม่มีอะไรมาครอบงำแล้ว"
หลังจากฟังคำพูดของ หลินเหอซุ่น อีกคนก็เรอแล้วพึมพำพร้อมกลิ่นเหล้าว่า: "ทำไมข้าถึงรู้สึกว่า ที่อาจารย์เฉินพูดแบบนั้น แค่ตั้งใจทำให้เราเมาแล้วเกิดความกล้าหาญขึ้นมาเล่า"
……
ต่อมาคนไม่กี่คนที่ดื่มเหล้า กินเนื้อ ก็พูดคุยกันเรื่องจะมีสาวคนไหนมีก้นใหญ้ หน้าอกโต แล้วราคาถูกอยู่บ้าง พวกเขาใช้สิ่งนี้เพื่อทำให้ตนเองมึนเมาและไม่นึกถึงโลงศพ
กลางคืนเริ่มมืดเข้าไปทุกที
ค่อยๆ เข้าสู่ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน
แสงจันทร์เหนือศีรษะเริ่มมืดลงเรื่อยๆ เพราะเมฆดำบดบังแสงจันทร์ ทำให้มืดสลัวและพร่ามัว ราวกับพระจันทร์มีขนสีขาว
ค่ำคืนนี้เริ่มมืดลงเรื่อยๆ
หลินเหอซุ่น และอีกหกคนดื่มมากจนพวกเขาดูเหมือนจะไม่สามารถหาลิ้นของตัวเองได้ มีไหเหล้าเปล่าหลายขวดวางอยู่ข้างโต๊ะ
หลินเหอซุ่น รู้สึกว่ากระเพาะปัสสาวะของเขาบวมเป่งมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ไหวแล้ว
เขาไม่สามารถกลั้นปัสสาวะที่เดือดปุดๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ได้อีกต่อไป
เขารู้สึกได้ว่าลูกกระแป๋งของเขาถูกยัดกลับเข้าไปในท้องของเขา เขาอาจจะคลำหาลูกกระแป๋งของเขาไม่เจอด้วยซ้ำเมื่อเขาต้องถอดสายคาดเอวแล้วทำการปลดทุกข์?
ในความเป็นจริง หลินเหอซุ่น กังวลอยู่เสมอเกี่ยวกับการเฝ้าโลงศพของคนตาย
เขาอยากยิงกระต่ายมาตั้งนานแล้ว
แต่ลูกผู้ชายจะยอมเสียหน้าไม่ได้เด็ดขาด เขาไม่ยอมรับที่จะบอกว่าเขาขี้ขลาดไปปลดทุกข์คนเดียว
เขาก็เลยกลั้นปัสสาวะไว้เกือบครึ่งชั่วโมง
หลินเหอซุ่น รู้สึกว่าเขาทนไม่ไหวอีกต่อไป
ยิ่งกลัวโลงศพมากเท่าไร ก็ยิ่งกระตุ้นให้ปวดปัสสาวะมากขึ้นเท่านั้น
“พี่น้อง มีใครอยากไปปลดทุกข์ด้วยกันบ้าง?”
"ข้าแค่อยากจะผ่อนคลายตัวเองหน่ะ"
เนื่องจากเขากลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน หลินเหอซุ่น จึงรู้สึกว่าร่างกายของเขาสั่นด้วยความหนาวเย็น ตัวสั่นในขณะเขาพูดและเสียงของเขาก็สั่นเล็กน้อย
คนไม่กี่คนที่ดื่มเหล้าอย่างหนักและกินกับแกล้มต่างก็เงียบไปในความเข้าใจที่ตรงกัน พวกเขามองหน้ากันแล้วทั้งหกคนก็ยืนขึ้นพร้อมกัน ปรากฎว่าพวกเขาทั้งหมดเจ็ดครกลั้นปัสสาวะไว้เป็นเวลานานและพวกเขากำลังรอให้ใครสักคนทนไม่ไหวแล้วพูดออกมาก่อน!
ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายในตอนนี้
แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เพราะปัสสาวะ
“แต่ว่านะ หากพวกเราเจ็ดไปกันหมดนี่ แล้วใครจะเป็นคนเฝ้าโลงศพล่ะ?”
“หลินฉี อาหยาง อาเฟิง เจ้าสามคนจะต้องอยู่ที่นี่ก่อน หลังจากที่เราสี่คนปลดทุกข์เสร็จแล้ว เราจะกลับมาและผลัดกับพวกเจ้า”
ทั้งสามคนเสียเหลี่ยม
ทันทีที่เขาพูด เขาก็ลุกออกจากโต๊ะทันที เหลือเพียงหลินฉีและอีก 2 คนเท่านั้น ที่นั่งสบถคำพูดด้วยความโกรธ
พวกเขาทั้งสามไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกินกับแกล้มและดื่มต่อไปอย่างเบื่อหน่าย รอให้ หลินเหอซุ่น และอีกสามกลับมา
พวกเขาทั้งสามแค่รอและรอ แต่ หลินเหอซุ่น และคนอื่นๆ ก็ไม่กลับซะที
ด้วยความกังวลว่าจะมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทั้งสามคนจึงตัดสินใจออกไปดู
ที่อยู่ ณ ตอนนี้คือลานสวนหน้าบ้านและส้วมเป็นสถานที่สกปรก ดังนั้นโดยปกติแล้วมันจะไม่อยู่ที่ลานหน้าบ้าน หากมันตั้งอยู่ส่วนหน้าบ้าน เมื่อเพื่อน ญาติ หรือผู้มาเยือนมาที่บ้าน กลิ่นของฤดูร้อนจะทำให้พวกเขารังเกลียด
ที่หลังบ้านมีเพิงเล็กๆ ไว้เก็บฟืนสำหรับทำอาหาร เครื่องมือการเกษตรและของจิปาถะ ฯลฯ โดยปกติแล้วเพิงต่างๆ ถูกสร้างขึ้นในซอกมุมนี้
เมื่อ หลินฉี และคนอื่นๆ เดินผ่านบ้านและมาถึงสวนหลังบ้าน พวกเขาก็เห็น หลินเหอซุ่น และคนอื่นๆ อยู่ปกติดีโดยไม่มีอุบัติเหตุใดๆ
เมื่อทั้งสี่ลุกขึ้นแล้วเดินออกมา สายลมเย็นๆ ยามค่ำคืนพัดผ่านเข้าหนังศีรษะทำให้ทุกสิ่งที่พวกเขากินเข้าไปย้อนกลับขึ้นมา ทันใดนั้นกลิ่นเหล้าอันรุนแรงทำให้ทั้งสี่ก้มลง แล้วอาเจียนปลดปล่อยเศษอาหารไว้เต็มพื้น
กลิ่นส้วมในสวนหลังบ้านผสมกับกลิ่นเปรี้ยวของอาหารที่ไม่ได้ย่อยนั้นน่าชวนอ้วกจริงๆ
หลินฉีและคนอื่นๆ พอเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะออกมาดังสนั่นทันที แล้วเยาะเย้ย หลินเหอซุ่น และคนอื่นๆ ที่เมาจนอ้วก
แต่ทันใดนั้น!
"ตึง!"
ในค่ำคืนอันเงียบสงบก่อนหน้านี้ จู่ๆ ก็เกิดเสียงเหมือนมีบางอย่างหล่นลงพื้น เสียงนี้ดังรุนแรงเป็นพิเศษ
"เสียงอะไรวะ?"
“ดูเหมือนว่าจะมาจากลานหน้าบ้านที่โลงศพที่ตั้งอยู่นะ?”
"อ๊ะ!"
(จบบทนี้)