Chapter 1207 ข้ามีความสุขมาก ที่ได้อยู่ที่นี่
จุนซ่างเซียวที่ตะหนักได้ว่า เขาที่ต้องพบกับศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อที่จะไม่ให้กลายเป็นคนกระหายโลหิต ไม่สังหารศัตรูอย่างไร้เหตุผล ตลอดทั้งเขาเองก็ไม่สามารถปล่อยไปง่าย ๆ ด้วย ด้วยเรื่องนี้ ก็ไม่ไม่ได้เลวร้ายอะไรหากจะนำเหล่าศัตรูมาขังคุกเอาไว้แทน.
นิกายนิรันดรเองก็ไม่ได้ขาดแคลนใด ๆ หากจะมีคุกที่เป็นระบบระเบียบ.
หลังจากได้รับคำแนะนำจากเจาโตวโตว โกวเซิ่งก็มีความคิดนี้ขึ้นมาในทันที
การสร้างคุกที่มีระดับชั้น แบ่งแยกความผิด และคนที่พ้นผิดได้รับอภัยโทษก็สามารถรับเข้านิกายได้ด้วย.
การเลี้ยงดูนักโทษเหล่านี้ ไม่ถือว่าเสียเปล่าอย่างแน่นอน.
ถึงแม้นว่าจะคุมขังก็ยังมีอีกหลายอย่างที่จะใช้ประโยชน์.
ในชั้นปฐพี มีชายหัวล้านที่ถูกขังเอาไว้ มีผู้ใต้บังคับบัญชา ความแข็งแกร่งของพวกเขามีระดับกษัตริย์ยุทธ์ จักรพรรดิยุทธ์ และครึ่งก้าวปราชญ์ เขายังสามารถแบ่งระดับ สามารถเลือกรับมาเป็นศิษย์ได้ด้วย.
แน่นอน.
ยังต้องทดสอบนิสัยใจคอของคนเหล่านั้นด้วย.
เขาจะออกแบบให้มีระดับรางวัล มีระบบลดโทษ ให้คนเหล่านั้นบำเพ็ญประโยชน์ในแต่ละวันด้วย แม้แต่ทำงานแลกขาไก่.
หากเจาโตวโตวได้ยิน แน่นอนว่าคงต้องเอ่ยออกมาว่า“ข้าไม่ได้ต้องการขาไก่ ข้าต้องการข้าวผัดแม่นางหลิว.”
“ถึงแม้นว่าจะเป็นนักโทษ แต่ก็สามารถที่จะเลือกคนมาซ้อมมือกับศิษย์ของเขาได้ด้วย.”
“แปะ ๆ !”
จุนซ่างเซียวที่ปรบมือให้กับตัวเอง “ข้านี่มันหัวดีจริง ๆ!”
“......”
ระบบถึงกับพูดไม่ออก.
กล่าวชมตัวเองซะอย่างงั้น? นี่ไม่อายปากเลยรึอย่างไร?
“ข้าต้องการเตือนโฮสน์”ระบบเอ่ย “ในเมื่อให้เป็นคุกระบบเปิด ถึงแม้นว่าจะผนึกชีพจรพวกเขาแล้ว หากไม่มีคนสอดส่องไม่กลัวว่าพวกเขาจะปลดผนึกหนีหายหรอกรึ?”
จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา “พูดมีเหตุผล.”
เวลานี้ยกเว้นเจาโตวโตว ทุกคนแล้วแต่ถูกผนึกชีพจร ไม่ต้องควบคุมดูแลพวกเขา มากมายคนเหล่านั้นก็ย่อมไม่กล้าก่อเหตุ เพราะพวกเขาไม่มีพลังบ่มเพาะ
หากถูกปลดปล่อย แม้แต่คนเดียวก็อาจจะมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้.
“ดูเหมือนว่าเรื่องคุกนี้ข้าต้องพิจารณาให้ดีแล้ว คงไม่สามารถปล่อยอย่างอิสระ ไม่งั้นคงเกิดจลาจลแน่.”จุนซ่างเซียวเอ่ยกล่าวอย่างจริงจัง.
“อีกอย่าง.”
ระบบเอ่ย “ในเมื่อต้องการระบบคุกขนาดใหญ่มีนักโทษมากมาย ก็จำเป็นต้องมีผู้คุม โฮสน์หวังที่จะให้ถางจูลี่รับผิดชอบหน้าที่นี้รึอย่างไร?”
“ผิดแล้ว.”
นับตั้งแต่มีเครือข่ายข่าวมากมาย ถางจู่ลี่ก็ยุ่งวุ่นวายอยู่ตลอด จะเพิ่มงานคุกเพิ่มเข้าไปได้อย่างไร.”
“ในเมื่อเจาโตวโตวเป็นคนแนะนำ เขายังไม่ต้องการจากคุกไปด้วย ในเมื่อเขามีความชื่นชอบผูกพันกับคุก ก็ให้เขารับผิดชอบเรื่องนี้ไปก็แล้วกัน.”
ระบบกล่าวล้อ “ขังเจ้านั่นมาตั้งเนิ่นนาน ท้ายที่สุดก็ไม่ปล่อย ซ้ำยังให้ประจำอยู่ในคุกอีก.”
......
เจาโตวโตวที่คงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังถูกระบบกล่าวเห็นใจอยู่ ในเวลานี้เขาที่กำลังนั่งสมาธิ ในปากที่กัดกิ่งไม้เล็ก ๆอยู่ หลับตา ขณะครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.
บนพื้นนั้นมีการขีดเขียนแผนผังรูปแบบคุกไว้แล้ว.
เขาที่อยู่ในคุกกำลังสร้างแผนผังในใจ แบ่งแยกสามระดับ สูงกลางและต่ำสามชั้น.
ทว่าหลังจากพบว่านักโทษที่เพิ่มเข้ามาไม่หยุด ก็รู้สึกว่าไม่พอ จึงเพิ่มเข้าไปอีกหกชั้น กลายเป็นมีเก้าชั้น.
พรสวรรค์การออกแบบเจ้าโตวโตวย่อมเทียบกับหลี่ชิงหยางไม่ได้ สมองของเขามีจำกัด ทว่าก็พอจะร่างออกมาได้คร่าว ๆ เช่นกัน.
ไต่ลู่แทบทนไม่ได้จริง ๆ ได้หยิบไม้ชิ้นเล็ก ๆ ขว้างใส่เขาไปในทันที.
“แก๊ก!”
เจาโตวโตวที่ยกมือขึ้น คีบกิ่งไม้เอาไว้ เอ่ยออกมาอย่างภาคภูมิ “ข้าไม่เคยโจมตีเจ้า แม้แต่ถูกปลดผนึกชีพจรแล้วก็ยังไม่คิดจะทุบตีเจ้าแต่อย่างใด.”
ไต่ลู่เผยท่าทางประหลาดใจ.
แม้นว่าเขาจะไม่มีพลังบ่มเพาะ ทว่าไม้ที่เขาโยนออกไปนั้น ก็เคลื่อนไหวไปทั้งแรงและเร็ว ทว่าเจ้านั่นกับรับได้ หรือว่าจะมีความสามารถอยู่.
บางที.
เขาซ่อนความสามารถเอาไว้อย่างงั้นรึ?
“เฮ้อ.”
เจาโตวโตวที่ลุกขึ้น ปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้า จ้องมองลอดผ่านหน้าต่างออกไป เอ่ยออกมาว่า“หากเจ้าคิดว่าข้าไม่ต้องการจากคุกไปเพราะอาหารอย่างเดียวนั้น เจ้าคิดผิดแล้ว.”
“......”
เขาจำได้ว่าเจ้านี่ตายอดตายอยาก กินอาหาร ราวจะร้องไห้ออกมาทุกครั้งได้เลย จึงเอ่ยกล่าวในใจ“เจ้าอยู่เพราะอาหารนั่นล่ะ!”
“ข้าเจาโตวโตวนั้นไม่มีสถานะอะไรตั้งแต่เกิดแล้ว และไม่ได้มีพรสวรรค์อีกด้วย.”
“ชีวิตของข้านั้นเป็นเพียงขอทาน ที่ดิ้นรนหาอาหารบนถนนเพื่อให้อยู่รอดเท่านั้น.”
เจาโตวโตวที่ก้มหน้าลง แววตาที่ขุ่นข้องใจกับวาสนาที่ไม่ยุติธรรม.
“เพื่อมีชีวิตรอด.”
“ก็มีแต่ต้องโดดเด่น.”
“ข้าเรียนรู้ที่จะหลอกลวงผู้คน หลอกลวงตัวเอง.”
“ข้าถูกขังที่นี่บางทีคงเพราะสวรรค์ต้องการลงโทษสิ่งที่ข้าเคยทำผิด ...ทั้งที่”เจ้าโตวโตวที่กล่าวด้วยความเศร้า แม้แต่น้ำตาไหลอาบแก้ม “ทุกสิ่งที่ข้าทำ ข้าเพียงแค่ต้องการมีชีวิตรอดเท่านั้น!”
ไต่ลู่ที่จ้องมองเขา ภายในใจที่สั่นไหว รู้สึกขมขื่นในใจเช่นกัน.
เจ้าไม่มีสถานะตั้งแต่เกิด ข้าเองก็ไม่มี!
เจ้าไม่มีพรสวรรค์ตั้งแต่เกิด ข้าก็ไม่มีเช่นกัน!
เขาเดินทางไปยังสำนักหลิงชวน ไปยังนิกายเซิ่งชวน ไม่ใช่เพื่อต้องการมีชีวิตรอดหรอกรึ?
ไม่ใช่ว่า พวกเขาสองคนมีอะไรที่เหมือน ๆ กัน เลยถูกจับมาให้อยู่ด้วยกันหรอกรึ?
“แน่นอน.”
เจาโตวโตวที่ปาดน้ำตา เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “ข้ายินดีที่ถูกขังในนิกายนิรันดร เพราะว่าที่นี่มีพลังฟ้าดินหนาแน่น มีหลาย ๆ สิ่งที่ข้าไม่เคยเห็น บรรยากาศในนิกายก็ยอดเยี่ยมอย่างที่ข้าไม่คาดคิดเลย.”
“......”
แม้นว่าไต่ลู่จะต้องการปฏิเสธ ทว่าก็มีความเป็นจริงอยู่.
“ข้าคิดว่าชะตาชีวิตเองก็ไม่ได้เลวร้าย เมื่อข้ายอมรับการลงโทษ ที่นี่มีอาหารอร่อย มีพลังฟ้าดินให้สามารถบ่มเพาะได้ บางทีหากข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ ข้าคงออกไปหลอกคนเพื่อความอยู่รอด แม้แต่ตกตายไร้ที่ฝังไปแล้ว.”
ไต่ลู่ที่ราวกับตระหนักอะไรได้.
เจ้านี่ไม่ได้ต้องการอยู่ในคุกเพื่อกินอาหารเท่านั้น ยังแอบแฝงอยู่ในคุกเพื่อดูดซับพลังฟ้าดินฝึกฝนอีกด้วย.
กล่าวอีกอย่างหนึ่ง เขาที่ถูกผนึกชีพจรไม่สามารถบ่มเพาะได้ ทว่าเจ้านี่ถูกขัง แต่ยังสามารถบ่มเพาะได้อย่างสะดวกสบาย ยิ่งถูกขังนานเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่ายิ่งแข็งแกร่งขึ้นไม่ใชรึ?
เจ้านี่มันฉลาดล้ำจริง ๆ!
“แล้วก็นะ.”
เจาโตวโตวเอ่ย “หากข้าไม่ถูกขังที่นี่ ข้าจะมีเพื่อนร่วมคุกที่มีระดับสูงล้ำมากมายได้อย่างไร ดังนั้น....”
“ข้ามีความสุข!”
“ข้ายินดีที่จะอยู่ที่นี่!”
“แปะ แปะ แปะ.”
เสียงปรบมือที่ดังขึ้น.
ในเวลานั้นใบหน้าของเจาโตวโตวที่แข็งค้างไปในทันที.
เพราะว่าจะมีคนมาปรบมือให้กับเขาได้อย่างไร.
“ฟิ้ว!”
เขาที่หันหน้ากลับไป เห็นจุนซ่างเซียวไม่รู้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ ปากคาบบุหรี่ พลางปรบมือเอ่ยออกมาว่า“เจ้าตระหนักได้ถึงการเป็นพระโพธิสัตว์แห่งนักโทษ ทำให้เปิ่นจั้วมีความสุขนัก.”
“เจ้านิกายจุน...ท่าน....ท่านมาตั้งแต่ตอนใหน?”
“เมื่อเจ้ากำลังร้องไห้.”
“......”
เจาโตวโตวที่เร่งรีบปาดน้ำตาในทันที.
คิดถึงความเคร่งขรึม การที่มาร้องไห้ให้กับคนอื่นเห็น มันช่างน่าละอายจริง ๆ.
“แปะ!”
ในเวลานั้น จุนซ่างเซียวที่ก้าวเดินเข้าไป ตบไปที่บ่าอีกฝ่าย กล่าวอย่างจริงจัง “เจ้ายินดีเป็นหนึ่งในคนของนิกายนิรันดร ติดตามเปิ่นจั้วพิชิตโลกหล้าหรือไม่?”