Chapter 1204 เรือรบมาอีกแล้ว
ส่วนคัมภีร์ชิ้นที่ห้าถูกจัดเตรียมเอาไว้ มอบให้กับศิษย์ทุกคนในนิกายนิรันดร เวลานี้ทุกคนเริ่มฝึกฝนอย่างจริงจัง.
หลายวันมานี้ จุนซ่างเซียวซื้อทักษะยุทธ์มากมายด้วยแต้มที่เกินมา มีทั้งระดับต่ำสูงแตกต่างกัน ซึ่งเหมาะกับศิษย์ในระดับต่าง ๆ.
ยกตัวอย่างคมเพลิงวิญญาณแผดเผา.
วิชานี้เหมาะกับระดับกษัตริย์ยุทธ์และจักรพรรดิยุทธ์ ทว่าหากก้าวผ่านระดับดังกล่าวไปแล้ว วิชาดังกล่าวจะไม่ช่วยยกระดับพลังบ่มเพาะและไม่เพียงพอต่อพวกเขา.
ไม่ว่าอย่างไร.
ต้องไม่ลืมว่าทักษะยุทธ์จะถูกแทนที่ด้วยวิชาที่ระดับสูงไปเรื่อย ๆ ก่อนที่จะถูกขจัดออกไปในวันหนึ่ง จะกลายเป็นไม่มีประโยชน์ในการฝึกฝนในกลุ่มที่มีระดับสูงแล้ว.
จุนซ่างเซียวที่ตอนนี้คิดที่จะหาวิชามาทดแทนหมัดระเบิด และฝ่ามือสะบั้นภูผาสำหรับศิษย์หลัก.
แน่นอน.
ถือว่าประสบความสำเร็จ.
ด้วยวิชาแสงเจ็ดสีทำลายล้างส่วนที่ห้า ถือว่าเป็นส่วนต่อวิชาที่เพิ่มระดับขึ้นมาไม่น้อย ทว่าดูเหมือนว่ามันยังไม่พอ ดังนั้นเขาจึงได้เปิดฟังก์ชันหอตำรา พร้อมกับค้นหาวิชาทักษะระดับสูง เพื่อมาให้กับศิษย์ของเขาฝึกฝนต่อ.
ซ่างกวนซินเหยาที่ศึกษาค่ายกล แต่ก็ไม่ลืมสิ่งที่เจ้านิกายเอ่ยเตือน สร้างทักษะยุทธ์ต่าง ๆ มากมาย ในเวลานี้สะสมเป็นจำนวนมาก สามารถนำมาแลกเปลี่ยนกับทักษะยุทธ์ในฟังก์ชันหอตำราได้แล้ว.
“เลือกฝ่ามือผนึกเก้าจักรวาลก็แล้วกัน.”
จุนซ่างเซียวที่ตรวจสอบรายระเอียดตำรามในฟังก์ชันตำรา นำวิชาที่ซ่างกวนซินเหยาคิดค้นไปแลกฝ่ามือผนึกเก้าจักรวาล.
ตำราดังกล่าวเขาที่ต้องการตั้งแต่ต้นแล้ว ทว่าไม่สามารถรวมวิชาฝ่ามือ 999 เล่มได้ ดังนั้นจึงต้องเลิกล้มไปก่อน ทว่าก็ไม่ได้ลืมเรื่องนี้แต่อย่างใด.
อย่างไรก็ตาม ถือว่าไม่สาย.
ท้ายที่สุดแล้วเขาก็สามารถแลกเปลี่ยนมันมาได้ในที่สุด.
......
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่!”
บนยอดเขาลานยุทธ์ที่ศิษย์ใช้ฝึกฝนประจำ ปรากฏลำแสงห้าสีสว่างจ้า เย่ซิงเฉินที่รวมพลังที่นิ้วมือ ก่อรูปเป็นพลังงานขึ้น.
“งดงามจริง ๆ!”
“ศิษย์พี่เย่ร้ายกาจมาก!”
“เพียงแค่ไม่กี่วันก็สำเร็จส่วนคัมภีร์ชิ้นที่ห้าแล้ว และยังรวมพลังกับลำแสงทั้งสี่ก่อนหน้านี้ได้อีกด้วย!”
ศิษย์ทุกคนยืนอยู่พื้นที่ไกลออกไป แววตาที่เคารพและอิจฉา.
เหออู๋ตี้ที่นั่งอยู่หน้าประตูหาวหวอด ๆ เขาเองก็รวมลำแสงทั้งห้าได้แล้ว ทว่าไม่ได้แสดงให้คนอื่น ๆ ได้เห็น เพราะว่าเขาต้องการอยู่อย่างถ่อมตน ไม่ต้องการเป็นที่จับตามองนั่นเอง.
“ศิษย์น้องเหอ ปิดประตู.”
“ตกลง.”
“ฟิ้ว!”
ในเวลาเดียวกัน พลังของเย่ซิงเฉินที่ถูกชี้ออกไป มันได้ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อนที่จะกระจายแตกออกเป็นแสงหลากสี พร้อมกับเห็นเป็นเงากลุ่มแสงที่ทอดยาวออกไป.
“ตูมมมมม!”
บนยอดเขาที่อยู่ไกลออกไประเบิดสลายกลายเป็นผุยผง.
“ระยะโจมตีไกลขนาดนั้นเลย ยอดเยี่ยม!”ศิษย์คนหนึ่งที่อุทานอ้าปากหวอ.
เย่ซิงเฉินที่เผยท่าทางประหลาดใจเช่นกัน.
เมื่อสำเร็จคัมภีร์ส่วนที่ห้า ทำให้สามารถดึงพลังฟ้าดินมาใช้ พลังโจมตีที่เพิ่มขึ้น ไม่น่าจะมากเท่านี้นิ!
“ศิษย์พี่เย่.”
เหออู๋ตี้เอ่ยกล่าวออกมา “วิชาแสงเจ็ดสีทำลายล้างนั้น หลังจากผสานแสงทั้งห้าสี จะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้นอีกเท่า ลำแสงตั้งแต่เส้นที่สี่พลังก็เพิ่มขึ้นอย่างมากแล้ว.”
เป็นแบบนี้นี่เอง.
“ฮึ.”
เย่ซิงเฉินที่แค่นเสียงในใจ “ข้าไม่รู้ได้อย่างไร ต้องให้เจ้าพูดด้วยรึ?”
......
เมื่อสามารถผสานลำแสงทั้งห้าสีเข้าด้วยกัน จะได้ลำแสงหลากสี และยังเพิ่มพลังทำลายขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้ศิษย์ทั้งนิกายตื่นเต้น ฝึกฝนคิดจะรวมพลังลำแสงอย่างหนัก.
ไม่กี่วันหลังจากนั้น.
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและศิษย์อีกหลายคนที่สำเร็จแล้ว เริ่มทดสอบ ต่างก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดี.
พวกเขาที่มาถึงระดับจักรพรรดิยุทธ์ขั้นปลาย แม้นว่าจะบ่มเพาะทุกวัน ทว่าความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นนั้นมีจำกัด ตอนนี้รวมพลังแสงเจ็ดสีทั้งห้า ทำให้พลังต่อสู้ของพวกเขาเพิ่มขึ้นอีก จะไม่ทำให้พวกเขาตื่นเต้นดีใจได้อย่างไร.
สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าทักษะยุทธ์เป็นสิ่งสำคัญ จากนั้นก็จะเป็นอาวุธและยุทโธปกรณ์จะเพิ่มพลังขึ้นอีกเท่า.
ในพิภพสงคราม สมบัติมากมายที่จุนซ่างเซียวชิงมามอบให้กับศิษย์ของเขา กล่าวได้ว่าด้วยอุปกรณ์ที่พวกเขามีสามารถข่มเหงยอดฝีมือระดับลึกล้ำได้เลย.
......
“กึก ซี่!”
วันหนึ่ง เย่ซิงเฉินที่เร่งรีบกลับเข้ามาในห้องปิดประตูเงียบอีกครั้ง เขาที่ได้ทักษะยุทธ์สุดยอดมาอีกวิชา ฝ่ามือผนึกเก้าจักรวาล ทำให้มือไม้สั่นไปมาเล็กน้อย.
คาดไม่ถึงว่าเจ้านิกายจะมีทักษะยุทธ์ชั้นยอดมากมายขนาดนี้.
วิชาก่อนหน้านี้ก็ไม่เลวแล้ว ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีมากมาย ทำให้ภายในใจ อดตื่นเต้นไม่ได้เลย!
ขณะเขาทำใจให้สงบลงได้ เย่ซิงเฉินก็เริ่มเปิดตำรา ศึกษาทักษะดังกล่าว กระบวนท่าแรกสามารถพลิกขุนเขาและทะเล กระบวนท่าที่สองสามารถพลิกดวงตะวันและจันทรา และฝ่ามือที่สามสามารถพลิกกลับจักรวาล ทำให้ดวงตาของเขาเบิกกว้างกลมโต.
เอาจริงสิ?
ไม่ได้หลอกข้าใช่ไหม?
“บ่มเพาะแล้วจะรู้เอง!”
เย่ซิงเฉินที่เริ่มศึกษาฝ่ามือผนึกเก้าจักรวาล ทว่ากับเข้าใจได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้เขาตื่นตะลึง “ทักษะฝ่ามือนี้ลึกล้ำกว่าวิชาที่เคยศึกษาก่อนหน้านี้มาก!”
......
ด้วยเขตแดนลับเก้าสวรรค์ ทำให้ศิษย์มากมายตัดผ่านระดับได้อย่างรวดเร็ว.
ค่ายกลฟ้าดินสี่ลักษณ์ทำให้ศิษย์ของพวกเขาสามารถรับมือกับยอดฝีมือที่ระดับสูงกว่าได้.
นอกจากนี้ยังมีทักษะยุทธ์ชั้นเลิศเช่นแสงเจ็ดสีทำลายล้างและฝ่ามือผนึกเก้าจักรวาลอีก.
น่าเสียดายที่ไม่มีวัตถุดิบในการหลอมเม็ดยาครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์.
ไม่เช่นนั้นนิกายของเขาคงจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดอีกครั้ง.
“ป้อมปราการณ์ซิงกงอยู่ที่ใหนกัน?”จุนซ่างเซียวที่นั่งครุ่นคิดอยู่ในห้องหนังสือ.
แม้นว่าเขาจะได้คัมภีร์ส่วนที่ห้ามาแล้ว ทว่ากับแต้มที่หายไปเขาก็ยังไม่ลืม ต้องไม่ลืมว่าเขาสนใจตลาดมืดด้านในต่างหาก.
“เพื่อยกระดับนิกาย ยังไงก็ต้องหาเวลาออกไปดู.”
ขณะจุนซ่างเซียวกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เขาก็นำฝ่ามือผนึกเก้าจักรวาลออกมาศึกษา.
“เจ้านิกาย.”
เวลานั้น ยักษ์ขาวที่ส่งเสียงผ่านวิญญาณเข้ามา “มีเรือรบกำลังมุ่งหน้ามา!”
......
บนจักรวาลที่กว้างใหญ่ เรือรบตงกู่ที่ไปหยุดที่พื้นที่แห่งหนึ่ง จุนซ่างเซียวที่จ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไปเห็นจุดแสงที่ค่อย ๆ สว่างขึ้นมา.
“เจ้านิกาย.”
ยักษ์ขาวเอ่ย “บนเรือรบมีอักขระเขียนไว้ว่าผู้คุมกฎป้อมปราการซิงกง.”
“ผู้คุมกฎ?”
จุนซ่างเซียวที่แววตากลายเป็นเย็นชา “คิดว่าตัวเองเป็นตำรวจจักรวาลรึอย่างไรกัน?”
“ฟิ้ว!”
เขาที่ยกนิ้วชี้ออกไป.
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมม!”
ห้าลำแสงที่พวยพุ่งถูกดึงเข้ามารวมกันอย่างรวดเร็ว รวมกันเป็นแสงหลากสี.
เย่ซิงเฉิน เหออู๋ตี้คือคนที่สำเร็จเร็วที่สุดรึ?
ผิดแล้ว!
คนแรกที่ผสานแสงห้าสีก็คือจุนซ่างเซียวต่างหาก.
พลังทีรวดเร็วกลิ่นอายที่แข็งแกร่ง ยิ่งกว่าสองคนก่อนหน้านี้ ต้องไม่ลืมว่าเขาอยู่ในระดับปราชญ์ขั้นสมบูรณ์แบบ.
“น้องเล็กทำอะไรอย่างงั้นรึ?”ยักษ์ขาวที่ตื่นตะลึง.
ยักษ์ดำที่ขมวดคิ้ว “ไกลขนาดนี้ หรือว่า.....”
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้น ลำแสงที่ถูกรวมกัน ก่อนที่จะระเบิดกลายเป็นแสงหลากสีตัดผ่านห้วงอากาศพุ่งตรงไปยังเรือเหาะที่บินมาจากพื้นที่ไกลออกไป.
ในเมื่อเรือรบมีอักขระเขียนไว้ว่าป้อมปราการซิงกง ย่อมต้องมาสืบสวนเรื่องห้าทรราชซิงกงอย่างไม่ต้องสงสัย โกวเซิ่งไม่ต้องรอต้อนรับคนเหล่านั้น ไม่จำเป็นต้องเจรจาใด ๆ จึงโจมตีออกไปในทันทีนั่นเอง!
“หืม?”
ชายชุดดำบนเรือเหาะป้อมปราการซิงกงที่เวลานั้นเห็นลำแสงหลากสีพุ่งมา.
เขาที่ตกใจตอนแรก ก่อนที่จะแค่นเสียงเย็นชา“ใครมันที่กินดีหมีมา กล้าลอบโจมตีผู้คุมกฎเช่นนั้น.”