Chapter 1203 คัมภีร์ส่วนที่ห้าถูกขโมย

เห่าเหยี่ยนเหยา.

ก่อนหน้านี้หมื่นปี เขาเป็นอสุรกายที่บ้าคลั่ง.

คนที่เสียสติราวกับปิศาจร้าย เสพติดกระหายโลหิต ทำลายพิภพต่าง ๆ ไปห้าสิบแห่ง ก่อนถูกจับและส่งมาขังที่นี่ไม่กี่ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่ามือทั้งสองข้างของเขานั้นเปื้อนโลหิตมามากมายนับไม่ถ้วน.

ไม่รู้เหตุผลอะไร ที่เขาถูกนำมาขังเอาไว้ในชั้นที่สอง ถูกระบุความอันตรายระดับ C.

ในนรกเก้าชั้นนั้น เหล่านักโทษจะถูกจัดระดับความอันตรายเป็น  A   B   C   D สี่ขั้น D ชั้นแรก A ชั้นสูงสุด ยิ่งมีระดับสูงเท่าไหร่ ระดับความอันรายก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น.

แน่นอน.

เกี่ยวกับอาชญากรคำนึงถึงความผิดและพลังบ่มเพาะ คนที่ไม่ได้ทำผิดมากมาย ก็ย่อมไม่ถูกจัดระดับความอันตรายสูงเท่าใดนัก.

กวนจิวและชายชราไม่เคยเห็นเห่าเหยี่ยนเหยา ทว่ากับความผิดของเขานั้นกับถูกนำมาขังชั้นสองนั้นทำให้เขาเป็นที่กล่าวขวัญ ทันทีที่เห็นอักษะว่านักโทษคนสำคัญ ก็พอจะคาดเดาสถานะอีกฝ่ายได้.

จบ!

พวกเราจบแล้ว!

“อิ อิ อิ อิ!”

หานเหยี่ยนเหยาที่ยิ้มแปลกประหลาด ขณะก้าวเข้ามา พร้อมกับยกมือขึ้นพาดที่ไหล่ของทั้งสอง เอ่ยออกมาเสียงเบา “ในเมื่อรู้จักข้า คงรู้ว่าข้าสนใจอะไร?”

ทั้งสองที่สั่นไม่หยุด ขนทั่วร่างที่ลุกเกรียวส่ายไปมา.

ในเวลานั้น กวนจิวและชายชราได้ยินคำพูดของผู้คนกล่าวลือกันได้ เกี่ยวกับเรื่องวิปริตของชายคนนี้ รับรู้ว่าเขามีความคิดที่ชั่วร้าย ชอบตุ๋ยคนอื่นนั่นเอง!

ดังนั้นพวกเขาที่ตะโกนลั่น “เขาป่วย!”

ใครจะคิดล่ะว่า เรื่องที่พูดสนุกในวงเหล้าวันนั้น วันนี้พวกเขาจะถูกนำมาขังในนรกรับชะตากรรมนั่น.

เทพเทวา!

ช่วยพวกเราด้วย!

ชายชราที่สะกดความกลัวเอ่ยออกมาว่า“เห่า อาวุโสเห่า รู้.....รู้....”

“ฟิ้ว!”

“ฟิ้ว!”

เห่าเหยี่ยนเหยาที่ลากคนทั้งสองไป เอ่ยด้วยน้ำเสียงดำมืด “รู้แล้วก็เร็วเข้า ข้ารอไม่ไหวแล้ว!”

กวนจิว “......”

ชายชรา“......”

เพื่อที่จะมีชีวิต เพื่อเอาตัวรอดย ทั้งสองเลือกที่จะทนเจ็บปวด ยอมรับความจริงอย่างช่วยไม่ได้.

“แปะ แปะ แปะ!”

เสียงที่เหมือนเสียงปรบมือดังก้องไปทั่วนรกชั้นสอง.

เหล่านักโทษที่หลบอยู่ในมุมต่าง ๆ ได้ยินต่างก็สั่นสะท้าน แม้แต่ยกมือขึ้นมากุมก้นตัวเองไว้ ตามสัญชาติญาณ.

“ฟิ้ว!”

ในเวลานั้น ห้วงมิติที่บิดเบี้ยวเล็กน้อย ราวกับมีพลังอะไรบางอย่างปรากฏขึ้น พุ่งผ่านนรกชั้นสองไป.

“หืม?”

เห่าเหยียนเหยาที่หยุดลง กล่าวออกมาด้วยความตกใจ “พลังที่ปรากฏครั้งนี้ แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้อีก!”

พลังที่สั่นสะท้านเคลื่อนไหวเล็กน้อยในนรก เขาที่สามารถรับรู้ได้ในทันที.

“ฟิ้ว!”

พลังที่มองไม่เห็นเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงผ่านนรกชั้นสาม.

“หืม?”

ร่างที่ใหญ่โตนอนอยู่บนเก้าอี้หิน และชายชราที่บ้าคลั่ง ลืมตาขึ้นมา ลอบคิดในใจ“มาอีกแล้ว!”

“ฟิ้ว!”

“ฟิ้ว!”

พลังที่มองไม่เห็นพุ่งผ่านชั้นสี่ ชั้นห้า....ทุกชั้นที่เคลื่อนที่ผ่าน เหล่ายอดฝีมือต่างสัมผัสได้.

“ฟี่ ฟี่ ฟี่.”

ในนรกชั้นที่หก บุรุษที่ผมบางผิวกายเนียนราวกับหยกสลัก ถือพัด ที่มีอักขระเขียนไว้ว่า งดงามอันดับหนึ่ง เอ่ยออกมาว่า“นรกเก้าชั้นมีค่ายกลโบรานมากมายปกคลุม พลังนี่กับผ่านเข้ามาง่าย ๆ เหลือเชื่อจริง ๆ!”

“ฟิ้ว!”

“ฟิ้ว!”

พลังที่มองไม่เห็นทะลวงชั้นเจ็ดชั้นแปด.

แม้แต่ชั้นเก้า ทะลวงผ่านไปยังพื้นที่มืดมิดไร้สิ้นสุด ในเวลานั้นดวงตาที่ใหญ่โตก็ปรากฏขึ้น เส้นโลหิตฝอดที่ปูดโปน ขณะมันกล่าวออกมาเสียงต่ำทุ้งลึก “นี่มันพลังอะไรกัน?”

......

ก่อนหน้านั้นจุนซ่างเซียวที่กดซื้อส่วนคัมภีร์ส่วนที่ห้า พลังก็พุ่งทะยานผ่านนรกเก้าชั้น ตรงไปยังห้องลับที่มีค่ายกลพิเศษมากมายปกป้อง.

ในเวลานั้น เจ้าป้อมปราการ ที่กำลังจดจ้องมองตำราหายากที่วางอยู่บนแท่นศิลา.

“ส่วนคัมภีร์ที่ปราชญ์จ้าวเจ็ดลึกล้ำทิ้งเอาไว้ ด้านในมีพลังที่น่าเกรงขามซ่อนอยู่ หากข้าเข้าใจได้สักเล็กน้อย จะทำให้พลังพัฒนาแบบก้าวกระโดด ทว่าหลายร้อยปีมานี้ ทำไมข้าไม่สามารถเก็บเกี่ยวอะไรได้เลยกัน?”

“หืม?”

ในเวลานั้น เจ้าป้อมปราการที่เงยหน้าขึ้น.

พลังที่มองไม่เห็น จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้น รวมตัวเป็นมือใหญ่ยักษ์ที่เลือนใสพร้อมกับคว้าไปยังส่วนคัมภีร์ส่วนที่ห้า.

“ไม่ได้การแล้ว!”

เขาที่อุทานออกมาเสียงดัง ขณะที่วาดมือบนอากาศอย่างรวดเร็ว ปล่อยพลังออกไป....

เจ้าป้อมปราการที่เคลื่อนไหวเร็วมาก มือที่มองไม่เห็นคว้าส่วนคัมภีร์เร็วมากกว่าเช่นกัน แม้แต่ผนึกที่สะกดเอาไว้ด้านบนก็ฉีกขาดออกไปและส่วนคัมภีร์หายไปอย่างรวดเร็ว.

เพราะพลังสะกดที่สลักเอาไว้อย่างแน่นหนา เมื่อมันฉีกขาดก็ทำให้เกิด แรงสะท้อนกลับมาอย่างรุนแรง.

“พรึดดดด!”

เจ้าป้อมปราการที่บาดเจ็บไปถึงเส้นชีพจร ร่างกายที่ถอยหลังออกมาสองสามก้าว จนพ่นโลหิตออกมาคำโต ใบหน้าบิดเบี้ยวอัปลักษณ์และซีดเซียวลงเป็นอย่างมาก.

“นี่....นี่มัน.....”

เขาที่ตื่นตะลึง.

แม้แต่เผยท่าทางหวาดผวา.

พลังที่ปรากฏขึ้นนั้นมากมายกว่าก่อนหน้านี้อย่างเทียบกันไม่ติด พลังที่ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้แต่เขาก็ไม่มีเวลาเพิ่มพลังสะกดเอาไว้ได้ทัน ทว่าหากเพิ่มพลังสะกดทัน เกรงว่าบางที แรงสะท้อนกลับมานั้นคงทำให้เขาตกตายได้เลย.

ด้วยเหตุนี้.

เจ้าป้อมปราการณ์ที่ตื่นตกใจ ตอนนี้ถึงกับปาดเหงื่อไปทันที.

ขณะค่อย ๆ สงบใจ จ้องมองไปยังแท่นศิลาที่วางเปล่า ไม่สามารถสะกดโลหิตที่เอ่อล้นที่ลำคอกระอักออกมาอีกครั้ง.

สมบัติชั้นยอดที่ซ่อนเอาไว้ดีที่สุด เขาที่มาตรวจสอบอยู่เป็นประจำ ไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกขโมยไปต่อหน้าต่อตา เรื่องแบบนี้จะทนได้อย่างไร!

......

“ติ๊ง! โฮสน์ใช้ 20,000 แต้ม ได้รับส่วนคัมภีร์แสงเจ็ดสีทำลายล้างส่วนที่ห้า 1 ถูกส่งเข้าไปในแหวนมิติแล้ว.”

“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุน : 10100 / 70000.”

หลังจากเสียงแจ้งเตือนจบลง ภายในแหวนมิติของจุนซ่างเซียวก็ปรากฏคัมภีร์แสงเจ็ดสีทำลายล้างส่วนที่ห้า ทำให้เขาตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที.

“เชื่อหรือยัง?”

ระบบที่กล่าวอย่างภาคภูมิ “หากข้าไม่เกลี้ยกล่อมซ้ำแล้วซ้ำเล่า โฮสน์คงไม่ซื้อ!”

“การซื้อที่เปลี่ยนเป็นการขโมย ขอบคุณ.”

จุนซ่างเซียวที่ทำการคัดลอกหนึ่งแสนเล่มทันที พลางลอบคิดในใจยังขาดอีกสองส่วนก็จะครบเจ็ดสีแล้ว!”

กล่าวได้ว่ายิ่งมีส่วนคัมภีร์สูงขึ้นเท่าไหร่ ระดับของวิชาก็สูงขึ้นเท่านั้น.

......

“กึก ซี่!”

ประตูที่ปิดลง เย่ซิงเฉินที่กระวนกระวายเล็กน้อย ขณะนำส่วนคัมภีร์แสงเจ็ดสีทำลายล้าง ฉบับคัดลอกออกมา ก่อนที่จะเริ่มศึกษาอย่างจริงจัง.

เขาที่เคยเป็นราชันย์ยุทธ์ เคยก้าวถึงจุดสูงสุดของโลกนี้ แน่นอนย่อมเข้าใจว่าวิชาที่บ่มเพราะนี้ลึกล้ำขนาดใหน วิชาแสงเจ็ดสีทำลายล้างยิ่งเขาเรียนรู้เท่าไหร่ ยิ่งเข้าใจมากเท่าใด เห็นชัดเจนว่าทำให้พลังบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน.

เขารู้สึกราวกับว่าพลังนี้สามารถทะลวงดวงจันทรา.

ทำลายม่านมิติก้าวขึ้นสู่เบื้องบนได้.

ไม่ต้องบอกเลยว่าวิชาแสงเจ็ดสีทำลายล้างที่อยู่ด้านหน้าของเขานั้นทำให้เขาตื่นเต้นมากมายขนาดใหน!

ราชันย์รัตติกาลเปลี่ยนไปแล้ว.

กลายเป็นคนเหลาะแหละไปเสียแล้ว.

แน่นอนว่าอีกคนเหออู๋ตี้ที่ตื่นเต้นไม่ต่างกัน เวลานี้เขาเริ่มศึกษาอย่างจริงจัง.

ก่อนหน้านั้น เขาที่มีส่วนคัมภีร์แค่ส่วนเดียว และยังถูกไล่ล่าจากยอดฝีมือมากมาย จนหนีมายังพิภพเบื้องล่าง ใครจะคิดว่าที่นี่เขาได้บ่มเพาะส่วนคัมภีร์ ส่วนที่ 1 2 3 4 และ 5 จะไม่ทำให้เขาตื่นเต้นดีใจได้อย่างไรกัน!

“อาวุโสเจ็ดสีลึกล้ำ!

เหออู๋ตี้ที่ดวงตาเป็นประกาย เอ่ยออกมาว่า“ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ข้าจะช่วยสนับสนุนนิกายนิรันดรให้ทรงพลังอย่างแน่นอน!”

สมองของเขาที่มั่นใจอย่างหนักว่านิกายนิรันดรเป็นนิกายที่ปราชญ์จ้าวเจ็ดเป็นคนก่อตั้ง และเขาที่หนีลงมายังพิภพเบื้องล่างโชคดีได้เข้าร่วมนิกายแห่งนี้ ทุกอย่างจะต้องเป็นเพราะเจตจำนงของปราชญ์จ้าวเจ็ดแน่ ๆ!