บทที่ 84 สุราชั้นเลิศแต่ไร้วาสนาดื่ม
บทที่ 84 สุราชั้นเลิศแต่ไร้วาสนาดื่ม
(ความหมายประมาณว่า มีของที่ต้องการอยู่ในมืออยู่แล้ว แต่ไร้หนทางได้มันมาหรือผิดหวังที่ไม่มีทางได้ครอง)
"ฮึ่ก! ฮึ่ก!"
ไม่รู้ว่าบินไปไกลแค่ไหน ร่างมังกรเจียวยักษ์พลิกคว่ำคะมำหงาย ตกลงสู่พื้นดินจนฝุ่นควันม้วนตลบ
มันกลับมาเป็นร่างมนุษย์อีกครั้ง
บนร่างที่ปกคลุมด้วยเกล็ดสีดำ มีบาดแผลสีแดงสด
หัวมังกรเจียวที่น่ากลัวหายใจหอบอย่างหนัก กรงเล็บแหลมคมของมันลูบลงไปด้านล่างที่เต็มไปด้วยเลือด มันถูกทวนฟาดฟันจนขาดครึ่ง จนตอนนี้เหลือเพียงครึ่งตัว
ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว
มันค่อยพิงต้นไม้ คำรามออกมาจากปากใหญ่ที่เต็มไปด้วยเลือด ลิ้นสีแดงสดโผล่ออกมา กรงเล็บที่หยาบกร้านปกคลุมด้วยเกล็ดมีอุณหภูมิร้อนจัด มันกดบาดแผลด้วยมือร้อนๆ จนเสียงดังฟู่
จากนี้ไป จะไม่มีจางเหิงโจวแห่งเขาชิงเฟิง เหลือเพียงคุณชายหกแห่งแม่น้ำหยางชุนเท่านั้น
แต่นั่นต้องขึ้นอยู่กับความจริงที่ว่า... มันจะสามารถหนีกลับไปที่แม่น้ำหยางชุนได้หรือไม่?
ความโกรธแค้นที่รุนแรงรวมตัวกันในดวงตาที่ดุร้าย
มันเป็นปีศาจอายุสามพันปีที่อยู่ขอบเขตควบแน่นตัน แต่กลับดูอ่อนแอเมื่อเผชิญหน้ากับเฉินเฉียนคุน
"แผนกปราบปีศาจ! เฉินเฉียนคุน!"
มังกรเจียวเริ่มฟื้นฟูพลังเล็กน้อย ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความริษยาขั้นรุนแรง ขอบเขตควบแน่นตันแบ่งออกเป็นสามขั้น
การควบแน่นของเหลว(วารีหยก)เป็นเม็ดตัน การหล่อเลี้ยงตันในทะเลปราณ และการบดขยี้ตันเพื่อหล่อเลี้ยงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือขั้นตอนที่สอง
ตันเปรียบเหมือน... รกเด็ก ในช่วงเริ่มต้นของการควบแน่น มีเพียงแก่นแท้ของสวรรค์และปฐพีบริสุทธิ์อยู่ภายใน เปรียบเสมือนไข่เปล่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากการบดขยี้ตันเม็ดนั้น ขึ้นอยู่กับว่าหล่อเลี้ยงด้วยอะไรเป็นหลัก
หากใช้เจตจำนงกระบี่ ปราณเลือด ปราณแก่นแท้... บรรลุขอบเขตปรมาจารย์ผสานต้นกำเนิด(หุนหยวน) ปีศาจที่อยู่ในระดับนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นราชาปีศาจ
แต่แม่ทัพใหญ่กว่าสิบคนของแผนกปราบปีศาจ รวมถึงแม่ทัพใหญ่ของเมืองโจว ยกเว้นไม่กี่คน ล้วนใช้แรงปรารถนาและความศรัทธาหล่อเลี้ยงทั้งสิ้น
ใช้แรงปรารถนาและความศรัทธาของประชาชนในแคว้นหล่อเลี้ยงตัน รอจนมันฟักออกมา และกลายเป็นวิญญาณหยินศักดิ์สิทธิ์
ขอบเขตนี้ไม่จำกัดอยู่แค่ในวิถีบู๊ ต่างจากขอบเขตปรมาจารย์ผสานต้นกำเนิดโดยสิ้นเชิง จนทำให้ขอบเขตนี้แบ่งออกเป็นสองเส้นทางอย่างชัดเจน เส้นทางศัทธานี้เรียกว่า "เซียนยุทธ(อู๋เซียน)"
เมื่อพูดถึงการต่อสู้ระยะประชิด เซียนยุทธนั้นด้อยกว่าปรมาจารย์ผสานต้นกำเนิด แต่มีกลวิธีพิเศษ นั่นคือวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ออกจากร่าง ท่องไปทั่วโลกสี่ทะเล ฟังเสียงจากทุกทิศ
เดิมทีนี่คือเส้นทางสู่ความเป็นเทพเจ้าของภูตป่าและปีศาจภูเขา หมั่นทำความดี สร้างรูปสักกการะ สะสมแรงปรารถนาและความศรัทธา เพื่อบรรลุตำแหน่งเทพเจ้าแห่งภูเขา แม่น้ำ หรือแม้แต่ผืนดิน
แต่วิธีการนี้ถูกผู้ฝึกตนชาวมนุษย์ขโมยไป อาศัยการสนับสนุนจากราชสำนัก ภายใต้เงื่อนไขที่ได้เปรียบนี้ พวกเขาปล้นสะดมแรงศัทธาอย่างโจ่งแจ้ง
เฉินเฉียนคุนอายุเท่าไหร่? เพียงแปดร้อยปีเท่านั้น!
อาศัยชื่อเสียงของขุนพลอาวุโสแห่งอำเภอหลินเจียง เขาได้สะสมแรงปรารถนาและความศรัทธาได้มากมาย
แม้จะไม่สามารถสังหารปีศาจได้ในระยะพันลี้ แต่ก็สามารถปล่อยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ออกจากร่างได้ชั่วครู่ ถือดาบคมเข้าฟาดฟันมา จนเกือบเอาชีวิตของเขาไปแล้ว!
แสดงให้เห็นว่า วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของอีกฝ่ายกำลังก่อตัวขึ้นอย่างคลุมเครือ รอเพียงใช้เวลาบ่มเพาะ รอคอยโอกาสที่ตันจะแตกและวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จะออกจากร่าง
"เขาชิงเฟิงย่อมไม่สามารถขัดขวางเขาไว้ได้!"
ดวงตาของมังกรเจียวเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เจตจำนงกระบี่ที่ไร้ขีดจำกัดนั้นสามารถกักขังร่างกายได้ แต่จะกักขังวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร
แม้แต่บรรพบุรุษตระกูลจางในกระบี่บรรพบุรุษ เขาคือเพียงเสี้ยววิญญาณที่เหลืออยู่น้อยนิดราวกับเส้นด้าย อาศัยเลือดเนื้อของลูกศิษย์รุ่นต่อรุ่นเพื่อต่อชีวิต เขาคิดว่าพวกนั้นย่อมไม่มีวิธีจัดการเขา ทำให้เขากล้าเผชิญหน้ากับเฉินเฉียนคุน... แต่ตอนนี้ไม่แน่ เขาอาจถูกขุนพลอาวุโสใช้วิญญาณศักดิ์สิทธิ์สังหารแล้วก็เป็นได้
"ต้องหนี!"
ในที่สุดมังกรเจียวก็มีเรี่ยวแรงขึ้นมาบ้าง มันใช้สองมือลากร่างที่เหลืออยู่ คลานไปบนพื้นอย่างสุดแรงเกิด
ตราบใดที่กลับไปที่แม่น้ำหยางชุน กลับสู่บ้าน แม้จะไม่ใช่เฉินเฉียนคุน ต่อให้เป็นแม่ทัพใหญ่ชิวโจว เทพเจ้าเซียนยุทธตัวจริง เขาก็ได้แต่มองแม่น้ำด้วยอาการถอนหายใจ...
เขาสะสมชื่อเสียงในฐานะวีรบุรุษมาอย่างยากลำบาก อาศัยชื่อเสียงของศิษย์เขาชิงเฟิง ควบแน่นตันในสระกระบี่ สืบทอดตำแหน่งผู้นำขุนเขา เพียงแค่เดินไปตามแผนนี้ทีละก้าว เขาก็มีโอกาสแย่งชิงแรงศรัทธาแล้ว
เขาเองก็ไม่อยากทิ้งสถานะจางเหิงโจว แต่ทำไงได้ ตอนนี้เขาเหลือเพียงครึ่งตัว!
แม้จะตกต่ำถึงขนาดนี้ แต่เพื่อปกปิดร่องรอย มันไม่กล้าแม้แต่จะเผยร่างจริงของปีศาจมังกรเจียว
มันคือความอัปยศอดสูยิ่งนัก!!
มังกรเจียวพยายามปิดบังออร่าของมัน ใช้สองมือคืบคลาน ซึ่งช้ากว่าการเหินบินมาก แต่มันปลอดภัยกว่า
ทันใดนั้น ร่างของมันก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง เงยหน้ามองไปที่ออร่าปราณสีแดงฉานที่เต็มท้องฟ้า
เสียงฝีเท้าเบาๆ ดังมาจากด้านข้าง
"เฉินเฉียนคุน เจ้ารังแกข้ามากเกินไปแล้ว!"
มังกรเจียวเหมือนนกที่ตกใจ หันกลับไปอย่างรวดเร็ว เสียงที่หวาดกลัวนั้นฟังดูเหมือนจะพังทลาย
แต่แล้วมันก็เห็นร่างเงาที่ทำให้มันรู้สึกโกรธแค้น
ชายหนุ่มรูปงามหายใจหอบ เส้นผมยุ่งเหยิงเปียกด้วยเหงื่อ ใบหน้าขาวซีด ชายเสื้อสีดำพริ้วไหว มือจับด้ามดาบแน่น ดวงตาสีดำสนิทเต็มไปด้วยจิตสังหาร!
จากนั้นเขาก็หยุดลงในระยะที่ปลอดภัย
"เจ้าคือ..."
มังกรเจียวตกตะลึง รู้สึกขำขันอย่างมาก และรู้สึกเจ็บปวดในใจ
สภาพตนดูแย่ขนาดนั้นเลยหรือ? ขนาดเด็กหนุ่มขอบเขตวารีหยกยังกล้าไล่ล่า
เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนนิ่ง มังกรเจียวก็รู้สึกงุนงง "เจ้าเป็นแค่เสี่ยวเว่ย เงินเดือนเพียงสองร้อยตำลึงต่อเดือน ทำไมเจ้าถึงมาคนเดียว?"
เสินอี้เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก เขาสาบานได้ว่าตั้งแต่ลืมตาตื่นที่บ้านครอบครัวหลิว เขาไม่เคยวิ่งอย่างสุดแรงเกิดขนาดนี้มาก่อน
โชคดีที่มีออร่าลึกลับเชื่อมต่อกัน ทำให้เขาวิ่งตามได้ทัน แม้ว่าขาจะไร้เรี่ยวแรงแล้วก็ตาม
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็วางมือลง
ออร่าปราณเทียนกังโลหิตตกลงมาทันที กระแทกร่างที่เหลือครึ่งตัวของมังกรเจียว!
จนกระทั่งถึงตอนนี้ เสินอี้ค่อยๆ หายใจได้ เขาจึงอธิบายเบาๆ ว่า "เพราะเจ้ามองข้าสามครั้ง"
เกล็ดบนหลังของปีศาจมังกรเจียวถูกระเบิดด้วยพลังงานอันแข็งแกร่ง และรอยแตกบนร่างของมันก็ค่อยๆ เปิดออก จากนั้นเปลวไฟชั่วร้ายก็ลามเลียร่างของมัน
บนหัวกะโหลกมังกรเจียวนั้น สีหน้ากลับไม่มีวี่แววเปลี่ยนแปลง "แค่สบตากับข้า เจ้าก็อยากฆ่าข้าแล้วหรือ?"
"ถูกต้อง! สามครั้ง!"
เสินอี้เม้มริมฝีปาก มองดูปีศาจมักรเจียวอย่างใจเย็น กระทั่งยังแก้ไขคำพูดของอีกฝ่ายด้วยท่าทางจริงจัง "ไม่ใช่แค่สังหารเจ้าผู้เดียวเท่านั้น แต่ข้ายากกวาดล้างทั้งตระกูลของเจ้าด้วย"
เขาพูดออกมาจากใจจริง
ในสายตาของปีศาจมังกรเจียว เสินอี้เห็นความโกรธแค้น เห็นความเกลียดชัง สิ่งเดียวที่มองไม่เห็นคือหนทางรอดของตัวเอง
ดังนั้น แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีโอกาสรอดเพียงน้อยนิด
เขาจะต้องเป็นคนดับชีวิตมัน!
มิฉะนั้น สิ่งที่รอเขาอยู่ อาจจะเป็นการแก้แค้นของเผ่าปีศาจมังกรเจียวแห่งแม่น้ำหยางชุนทั้งหมด
"ฮ่าฮ่าฮ่า!"
มังกรเจียวเห็นท่าทีของเขา นิ่งอึ้งอยู่นาน ราวกับมองออกถึงความคิดของชายหนุ่ม ทันใดนั้นก็หัวเราะเสียงดัง ตัวสั่นเทา หัวเราะจนหายใจไม่ทัน กรงเล็บกดลงบนพื้นด้านหน้าอย่างแรง ตะโกนเสียงโหดเหี้ยมว่า "เจ้ายังพอมีสมองอยู่บ้าง"
จางเหิงโจวสามารถได้รับการยกย่องจากผู้นำเขาชิงเฟิง ปฏิบัติต่อเขาเหมือนบุตรชาย นิสัยของทั้งสองมีจุดที่คล้ายคลึงกันมากจริงๆ
นั่นคือความหวงลูกเหมือนกัน!
ยิ่งไปกว่านั้น เจียวเฟิงไม่ใช่ครึ่งมนุษย์(เจียวเฟิงคือปีศาจเจียวที่เสินอี้ฆ่านะครับ) แต่เจียวเฟิงเป็นบุตรที่กำเนิดกับมารดามังกรเจียวก่อนออกจากแม่น้ำหยางชุน เพียงแต่มันไม่ไว้วางใจ กังวลว่ายังเด็ก และจะถูกเผ่าพันธุ์อื่นกลั่นแกล้ง มันจึงนำเจียวเฟิงออกมาจากแม่น้ำเพื่อมาอยู่กับมัน
นั่นคือบุตรเพียงหนึ่งเดียวของมัน... บุตรชายที่แท้จริง!
และในตอนนี้ ออร่าที่เข้มข้นและคุ้นเคยบนตัวชายหนุ่ม ทำให้มันโกรธแค้นอย่างบ้าคลั่ง
แม้จะรู้ว่าเฉินเฉียนคุนจะตามมาทัน แต่การจัดการผู้ฝึกตนขอบเขตวารีหยกเพียงคนเดียว แทบไม่ต้องเสียแรงอะไรเลย
“แล้วเจ้ารออะไรอยู่! มาสิ! เข้ามาสังหารข้า!”
มังกรเจียวส่งเสียงแหลมสูง คลานไปข้างหน้าอีกครั้ง จากนั้นก็เห็นเสินอี้ถอยหลังไปอย่างเงียบๆ สองสามก้าว จากนั้นยกมือขึ้นและใช้วิชาเทียนกังโลหิตอีกครั้ง
พอมันเดินหน้า เขาก็ถอยหลัง
ไม่ว่ามันจะเดินหน้ามากน้อยแค่ไหน ชายหนุ่มก็ถอยหลังเท่านั้น ทำให้ระยะห่างทั้งสองเท่าเดิมตลอด
มังกรเจียว "..."
“อย่าเข้ามาใกล้สิ ข้ากลัวเจ้านิดหน่อย”
เสินอี้ยืนนิ่ง พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย จากนั้นยกมือขึ้นใช้วิชาเทียนกังโลหิตเป็นครั้งที่สาม
การต่อสู้ระหว่างขอบเขตควบแน่นตันก่อนหน้านี้ อยู่เหนือความเข้าใจของเขาไปหมดแล้ว
ดังนั้น เขาจึงไม่มั่นใจจริงๆ
วิชาเทียนกังโลหิตที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ ทุบลงบนตัวมังกรเจียว แต่กลับมองไม่เห็นผลอะไรเลย
แต่เสินอี้มั่นใจว่า การสะสมน้อย ๆ ย่อมมีผล ถ้าไม่มี ก็แสดงว่ามันยังสะสมไม่เพียงพอ
ในเวลาไม่กี่อึดใจ การใช้วิชาเกือบยี่สิบครั้ง ทำให้ใบหน้าของเขาซีดเผือด
ในขณะที่ความแข็งแกร่งของวิชาเทียนกังโลหิตเพิ่มขึ้น การใช้ปราณก็ไม่ใช่สิ่งที่เทียบได้กับตอนแรก
ลมปราณที่หนาแน่นดั่งพายุฝน ตกลงบนตัวมังกรเจียวอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ท้องฟ้าก็ยังปกคลุมไปด้วยสีแดงเข้ม
ในตอนที่มังกรเจียวคิดว่าชายหนุ่มคงหมดแรง เสินอี้ก็กลั้นหายใจช้าๆ
เขาหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้น ดวงตาของเขาเปล่งประกายสีทองอีกครั้ง...
"..."
ฝ่ามือที่หยุดชะงักไปชั่วขณะ กลับยกขึ้นอีกครั้ง!
“นี่มันเวทมนตร์บ้าอะไรกัน?”
เมื่อเผชิญกับฉากที่ไม่สามารถเข้าใจได้ ใบหน้าของมังกรเจียวก็เปลี่ยนสี ใจของมันรู้สึกแปลกๆ
มันรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ฉีกขาดค่อยๆ เกิดขึ้นที่หลัง ดวงตาเย็นชาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นหันกลับแล้วคลานหนีไปอย่างรวดเร็ว
ไม่ถูกต้อง! ต้องหนีก่อน!
“…”
เสียงฝีเท้าเล็กๆ ดังขึ้นอีกครั้ง
มังกรเจียวหันกลับมาทันที จ้องมองชายหนุ่มด้วยความโกรธ แต่ก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เก็บสายตาที่โกรธแค้นไว้ พยายามคลานหนีอย่างสุดชีวิต
อย่างไรก็ตาม เสียงฝีเท้าก็ยังคงติดตามอย่างไม่เร่งรีบอยู่ด้านหลัง เสียงจะหยุดก็ต่อเมื่อมันหันกลับมา เสินอี้มีท่าทีพร้อมที่จะถอยหลังทุกเมื่อ ไม่ให้โอกาสมันสวนกลับเลย
สิ่งที่มาพร้อมกับมันคือสายฝนที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ซ่า! ซ่า! ซ่า!
ฝนปราณทิ้งรอยไฟที่โหมกระหน่ำไว้บนหลังอันแข็งแกร่งของมังกรเจียว บาดแผลเล็กๆ ทั่วร่างกายแตกออก เลือดปีศาจสีแดงเข้มไหลรินเปื้อนพื้นดิน
ในที่สุดมันก็หยุดนิ่ง มองดูชายหนุ่มที่เหมือนวิญญาณตามติด ดวงตาเต็มไปด้วยสีเลือด อ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยวเต็มปากและลิ้นสีแดงสด เสียงของมันโกรธเกรี้ยว
"ไอ้ลูกเต่า! เจ้ากลัวปู่เจ้ามากนักเหรอไง!"
"ออกไปซะ!!"
ฝ่ายตรงข้ามลงมืออย่างโหดเหี้ยม ไร้ซึ่งความปรานีแม้แต่น้อย
ไอ้สารเลวผู้นี้มันเป็นคนยังไงกัน! ไม่มีศักดิ์ศรีของปรมาจารย์ยุทธเลยสักนิด!
เจ้าถึงกลับกลั่นแกล้งมังกรเจียวพิการอย่างนั้นหรือ?!