ตอนที่ 110 โฉมงามผู้มั่งคั่งร่ำรวย

“เสี่ยวเหยา เธอกำลังทำอะไรอยู่นะ ไหงดูมีสีหน้าตื่นเต้นขนาดนั้นได้?”

จี้หยวี่ ที่อยู่ข้างๆ เมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนสนิทเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ

“ใช่ แต่อย่าบอกฉันนะว่าเธอก็สนใจสินค้าที่กำลังประมูลนี้ด้วย”

วัง ซิ่วซิ่ว ก็ดูมีความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน

นอกจากพวกเธอสองคนแล้ว ความผิดปกติของ เซี่ย ซินเหยา ก็ดึงดูดความสนใจของ ซูเหวิน และรองประธานหลิว รวมถึงคนอื่นๆ ด้วย

ทุกคนที่เห็นเธอมีท่าทางตื่นเต้นมาก จึงอดสงสัยไม่ได้

เมื่อเห็นทุกคนไม่เข้าใจ เซี่ย ซินเหยา ก็รู้ว่าตัวเองดูจะตื่นเต้นมากเกินไปจริงๆ เลยพูดอย่างเขินอายไปว่า : “พวกเธอไม่รู้ แต่ของชิ้นนี้ที่อยู่บนเวทีเป็นของที่พ่อฉัน ท่านชื่นชอบเอามากๆ…”

ปรากฎว่าสินค้าที่นำมาประมูลบนเวทีครั้งนี้คือ เครื่องเคลือบศิลาดลเป็นผลงานมาจากเตาเผาหลงฉวนในสมัยราชวงศ์ซ่ง นี้เป็นงานฝีมือที่สมบูรณ์แบบ และมีต้นทุนการผลิตที่สูงมาก

แจกันเคลือบศิลาดลนี้เดิมทีเป็นคู่ แต่ภายหลังได้ถูกแยกกระจัดกระจายไป

และอีกชิ้นหนึ่งของแจกันเคลือบศิลาดลนี้ ตอนนี้อยู่ที่บ้านตระกูลเซี่ย ของพวกเขา ซึ่ง เซี่ย เฉินตง พ่อของเธอซื้อมาจากชายชราคนหนึ่งในราคาที่สูงเอามากๆ เมื่อหลายสิบปีก่อน

เซี่ย เฉิงตง เองต้องการตามหาแจกันเคลือบศิลาดลนี้อีกชิ้นเพื่อให้มันสมบูรณ์แบบ เมื่อถึงตอนนั้นมูลค่าของคอลเลกชันนี้ก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก

แต่น่าเสียดายที่หลังจากนั้นเขากลับตามหามันไม่พบ

โดยไม่คิดว่าวันนี้อีกชิ้นหนึ่งของแจกันเคลือบศิลาดลนี้จะปรากฏขึ้นที่นี่ เซี่ย ซินเหยา จึงรู้สึกตื่นเต้นไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อฟังคําอธิบายของเธอ ทุกคนต่างพยักหน้าเข้าใจ

ที่แท้ก็เป็นแบบนี้..

ตามที่คาดไว้ ไม่นานหลังจากที่ เซี่ย ซินเหยา เพิ่งพูดจบ พิธีกรบนเวทีก็พูดขึ้นเช่นกัน

“รายการต่อไปนี้ที่ผมจะแนะนําให้ทุกคนได้รู้จักนั้นพิเศษเอามากๆ มันเป็นเครื่องเคลือบศิลาดลของเตาเผาหลงฉวนในสมัยราชวงศ์ซ่ง ของเรา”

“ในขณะเดียวกัน มันก็ยังเป็นหนึ่งในสามวัตถุโบราณที่มีมูลค่าสูงที่สุดในการประมูลของเราในวันนี้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 10.25 ล้านหยวนครับ”

“เริ่มการประมูลครับ”

หลังจากกล่าวจบ พอพิธีกรยกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนสามารถเสนอราคาได้

ในทันทีหลายคนก็เริ่มเสนอราคาไม่น้อยจริงๆ

“11 ล้าน”

“12 ล้าน”

“13 ล้าน”

“14 ล้าน”

คราวนี้ดูเหมือนว่าหลายคนจะสนใจแจกันเคลือบศิลาดลนี้

เพราะทันทีที่เปิดให้เสนอราคาขึ้นก็มีคนเข้าร่วมสิบกว่าคน ทั้งหมดตะโกนราคาออกไปโดยไม่ลังเล

ในไม่ช้าราคาประมูลก็เพิ่มขึ้นไปถึง 20 ล้านแล้ว

“30 ล้าน”

ทันใดนั้น เซี่ย ซินเหยา ซึ่งถือป้ายประมูลรอคอยมานานเธอก็ส่งเสียงออกไป

หลังจากที่เธอเห็นแจกันเคลือบศิลาดลนี้ เธอก็ตั้งใจที่จะประมูลสิ่งนี้ทันที ดังนั้นการที่เธอมาลงมือในเวลานี้ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

และการที่เธอขึ้นราคาประมูลโดยตรง โดยเพิ่มราคาประมูลจาก 20 ล้านเป็น 30 ล้าน มันก็ย่อมดึงดูดความสนใจของผู้คนจํานวนมากในที่นี่

ทุกคนจึงหันไปมอง และเห็นว่าคนที่เพิ่งเสนอราคาเมื่อกี้ไปคือ หญิงสาวที่อายุเพียงยี่สิบปีต้นๆ และเธอมีหน้าตาสวยงามมาก หลายคนจึงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง

และดูเหมือนพวกเขาหลายคนจะไม่น่าเชื่อว่าเด็กสาวตัวเล็กๆ คนนี้ก็สนใจในวัตถุโบราณเหล่านี้ด้วยเช่นกัน

“เสี่ยวเหยา เธอ... เธอคิดจะประมูลแจกันชิ้นนี้จริงๆ เหรอ?”

“นั่นสิ เหยาเหยา นี่มันไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลยนะ”

ในขณะนี้ อย่าเพิ่งพูดถึงคนอื่นเลย แม้แต่เพื่อนสนิททั้งสองคนของ เซี่ย ซินเหยา ที่เห็น เซี่ย ซินเหยา ตะโกนเสนอราคาออกไปก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย

ใช่.. พวกเธอเองรู้ว่าเพื่อนสนิทมีเงิน

แต่เพื่อสินค้าชิ้นนี้เท่านั้น เธอกลับเปิดปากพูดออกไปทันที 30 ล้าน

พวกเธอยังรู้สึกว่าเพื่อนสนิทของพวกเธอกำลังใช้เงินโดยเปล่าประโยชน์ อีกทั้งมันยังดูไม่คุ้มค่าเกินไป

“ไม่เป็นไร พ่อของฉันท่านชื่นชอบสิ่งนี้ และฉันต้องเอามันมาให้ท่านให้ได้”

เซี่ย ซินเหยา กลับส่ายศีรษะ และพูดอย่างหนักแน่น

ถ้าพ่อของเธออยู่ที่นี่ด้วย กลัวว่าเขาอาจจะเสนอราคาเริ่มต้นที่ 100 ล้านโดยตรงไปแล้ว

และนี่ก็ถือว่าเธอสุภาพแล้ว

“อืม ผมคิดว่า เสี่ยวเหยา พูดถูกนะ ในเมื่อพ่อของเธอชอบ งั้นต้องเอาของโบราณชิ้นนี้ให้ได้”

“สําหรับคนระดับพ่อของเธอ บางครั้งสิ่งที่ปรารถนาอาจจะมีค่ามากกว่าเงินทอง”

ซูเหวิน เห็นด้วยอย่างยิ่งกับความคิดเห็นของ เซี่ย ซินเหยา

จากนั้นเขาก็มองไปที่ เซี่ย ซินเหยา แล้วพูดว่า : “คุณเพียงแค่ประมูลไปเถอะ ถ้าเงินไม่พอผมมี”

“อืมม.. ไม่เป็นไร ฉันมีเงิน”

เซี่ย ซินเหยา ยิ้มหวานออกมาเล็กน้อย และพยักหน้าพูดอย่างมั่นใจ

ขณะเดียวกันพิธีกรบนเวทีก็ได้พูดขึ้น

“30 ล้าน คุณผู้หญิงท่านนี้เสนอราคา 30 ล้านทันที น่าทึ่งมากจริงๆ มีท่านใดให้ราคาสูงกว่านี้ไหมครับ?”

งานนี้พิธีกรต่างพากันตื่นเต้นไปตามๆ กัน

ดูเหมือนจะไม่คิดว่าจะมีใครเสนอราคาสูงขนาดนี้

แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังประหลาดใจ ทันใดนั้นก็มีเสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น

“35 ล้าน” เสียงคนคนหนึ่งตะโกนขึ้นโดยตรง

พอคําพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนก็ตกใจอีกครั้ง

เพราะเสียงนั้นฟังดูเด็กมาก เหมือนว่าจะเป็นเสียงของหญิงสาวอีกคนหนึ่ง

ทุกคนหันหน้ามองไปที่อีกฝั่งด้านหนึ่ง แล้วพบว่าตอนนี้มีหญิงสาวคนหนึ่งยกชูป้ายขึ้น และตะโกนเสียงออกมา

ใช่แล้ว หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน

เธอคือคุณหนูใหญ่ เสิ่น อวี้หลิน จาก ไห่อวิ๋น กรุ๊ป

ก่อนหน้านี้ เธอ กับเซี่ย ซินเหยา เคยมีปัญหากันมา

ตอนนี้ เซี่ย ซินเหยา ชอบของโบราณวัตถุชิ้นนี้ และต้องการประมูลเพื่อให้ได้มา เสิ่น อวี้หลิน จะยังอยู่เฉยได้อย่างไร?

เธอจึงต้องการกระโดดเข้ามาเล่นในเกมนี้ โดยจงใจที่จะขัดขวางอีกฝ่าย

“เสี่ยวหลิน ความคิดเธอนี่ยอดเยี่ยมมาก ผู้หญิงคนนั้นกล้ามามีปัญหากับเธอ มาตอนนี้อีกฝ่ายต้องการประมูลวัตถุโบราณชิ้นนี้ เธอเองจึงคิดอยากจะแย้งมันมาใช่ไหม?”

“ฮ่าฮ่าๆ นี่เป็นความคิดที่ดี ก่อนหน้านี้กล้าหยิ่งต่อหน้าเธอขนาดนั้น ดังนั้นครั้งนี้ก็ทำให้อีกฝ่ายได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเธอซะ”

ในเวลานี้, ทางฝั่ง เสิ่น อวี้หลิน

พอทันทีที่เธอตะโกนเสนอราคาเสร็จ เพื่อนๆ หลายคนก็อดจะหัวเราะไม่ได้ พลางยกนิ้วไปให้กับเธอ

ท่ามกลางเสียงชื่นชมจากเพื่อนๆ เสิ่น อวี้หลิน ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกภูมิใจ

“ผู้หญิงคนนั้นกล้ามาท้าทายฉัน เสิ่น อวี้หลิน และคิดหรือว่าฉันจะไม่ลงโทษเธอ เธออยากประมูลของชิ้นนี้ไม่ใช่เหรอไง? แล้วหากฉันผมไม่ยอมให้เธอทําสําเร็จ เธอมันจะไปทำอะไรได้?”

พูดจบ เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมอง เซี่ย ซินเหยา ดวงตาของเธอนั้นมันเต็มไปด้วยความรังเกียจต่ออีกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม วัตถุโบราณชิ้นนี้ เซี่ย ซินเหยา ต้องการได้มันมา แล้วเธอจะยอมแพ้ได้อย่างไร?

ดังนั้น เมื่อ เสิ่น อวี้หลิน ยกป้ายขึ้นไม่ถึงห้าวินาที เซี่ย ซินเหยา ก็ยกป้ายของเธอขึ้นแล้ว

“50 ล้าน” เซี่ย ซินเหยา เสนอราคาอีกครั้ง

และเธอก็เสนอราคาเพิ่มขึ้น 15 ล้านในคราวเดียว

เสิ่น อวี้หลิน ก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้ เธอก็ชูป้ายขึ้นอีกครั้งเช่นกัน

“55 ล้าน”

“70 ล้าน”

“75 ล้าน”

“90 ล้าน”

“95 ล้าน”

“120 ล้าน”

เมื่อ เซี่ย ซินเหยา ตะโกนราคา 120 ล้าน

ไม่ต้องพูดถึง เสิ่น อวี้หลิน ผู้ชมทั้งหมดต่างตกตะลึงแล้ว

ทุกคนไม่อยากจะเชื่อเลย พวกเขามองตรงไปที่หญิงสาวสวยที่กำลังชูป้ายคนนั้น จากนั้นดวงตาของพวกเขามันเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

“โอ้.. พระเจ้า ผู้หญิงคนนี้เธอเป็นใครกันแน่ คาดไม่ถึงว่าเธอจะเสนอราคาสูงถึง 120 ล้านหยวน”

“นั่นสิ! นี่ก็รวยเกินไปแล้ว เธอต้องเป็นคุณหนูจากตระกูลไหนกันแน่”

“คุณก็ดูสิว่าเธอนั่งอยู่โต๊ะเดียวกันกับ รองประธานหลิว ของกลุ่มเบียร์ ชิงเต่า หรือว่า รองประธานหลิว กับเธอมีความเกี่ยวข้องกัน?”

ทันใดนั้นทุกคนก็กระซิบกระซาบ และพูดคุยกันไม่หยุด

เมื่อทุกคนเห็นหญิงสาวคนนี้ที่มือใหญ่ขนาดนี้ ต่างก็สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเธอมากเป็นพิเศษ

เพื่อนๆ ของ เซี่ย ซินเหยา ยิ่งตกใจกว่ามาก

ทุกคนมองไปที่ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

120 ล้านนะ นี่มันเรื่องล้อเล่นอะไร..

พวกเขาเกรงว่าตลอดชีวิตของพวกเขาคงไม่อาจเห็นเงินมากขนาดนี้ได้แน่ๆ

แต่ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เธอกลับเสนอราคามันออกไปโดยไม่ลังเล ไม่แม้แต่จะกระพริบตาด้วยซ้ำ และนี่อะไร.. มันโหดร้ายเกินไปแล้ว!

โดยเฉพาะ จี้หยวี่ และวัง ซิ่วซิ่ว หัวใจของพวกเธอแทบจะทนแบกรับเอาไว้ไม่ไหวแล้ว

พวกเธอรู้ดีมาตลอดว่า เสี่ยวเหยา มีเงิน แต่ไม่รู้ว่าเธอมีเงินมากเท่าไหร่ พวกเธอเองก็ไม่คิดที่จะก้าวก่ายถามถึงเรื่องแบบนี้

แต่ก็ไม่คิดเลยว่าเพื่อนสนิทของพวกเธอจะมีเงินมากมายขนาดนี้ นี่แทบจะเรียกว่าคลังสมบัติเคลื่อนที่ได้แล้วนะ!

นี่หรือคือคุณหนูใหญ่จากกลุ่มบริษัท 100 อันดับแรกของโลก?

เธอไม่เพียงแต่เป็นหญิงสาวที่สวยงดงามมากๆ เท่านั้น แต่เธอยังเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยที่มากด้วยเงินทองมหาศาล

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับความตกใจของทุกคน

เสิ่น อวี้หลิน คุณหนูใหญ่จาก ตระกูลเสิ่น เธอกลับมีอารมณ์ที่แตกต่างออกไป

ในขณะนี้เธอมองไปที่ เซี่ย ซินเหยา แล้วอดไม่ได้ที่จะมีใบหน้าซีดเผือก และสีหน้าของเธอเองก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นดูน่าเกลียดมากขึ้นเรื่อยๆ

เธอไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะรวยมากขนาดนี้

เธอได้เพิ่มราคาประมูลไปถึง 120 ล้าน ในทันที

นี่มันคือเกินขีดจํากัดของราคาที่เธอสามารถจ่ายได้แล้ว แม้ว่าเธอจะอยากเพิ่มราคาขึ้นอีกก็ตาม เธอก็ไม่สามารถเพิ่มได้แล้ว

ในความเป็นจริงเมื่อสินค้าชิ้นนี้ประมูลมาถึง 90 ล้าน เธอก็ทนกับราคานี้ไม่ไหวแล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะมีเพื่อนสองสามคนอยู่ข้างๆ ที่มันเป็นสาเหตุหนึ่งที่เธอยากจะถอนตัว เลยตะโกนออกไป 95 ล้านโดยตรงอย่างแข็งขัน ถึงแม้เวลานั้นเธอเอง ..อยากจะหยุดมือยอมแพ้ไปนานแล้วก็ตาม