CD บทที่ 481 ความป่าเถื่อนหวนกลับมา
“บ้านคุณออกจะรวย ทำไมถึงไม่จ้างบอดี้การ์ดสักคนล่ะ!?” ในสวนสาธารณะที่เงียบสงบ จ้าวหยู่ถามด้วยเสียงดังลั่น “แล้วก็หยุดเล่นอะไรพิเรนทร์ได้แล้ว ฉันเป็นตำรวจนะ ถ้าฉันเห็นเรื่องแบบนี้ฉันก็ต้องเข้ามายุ่งรู้ไหม? แล้วก็อย่าบอกว่ากำลังเล่นบทบาทสมมติอยู่นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะจับพวกคุณไปส่งที่สถานีตำรวจ!”
ตอนนี้จ้าวหยู่กำลังเหยียบลูกชายของเศรษฐีที่พยายามจะล่วงละเมิดหญิงสาวปากเขียว ใบหน้าของลูกชายคนนั้นถูกประทับด้วยหมัดหนักสองสามที เขาคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด และเขาขยับตัวไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ในขณะเดียวกันลูกน้องอีกสองคนก็หนีเข้าไปในป่าแล้ว
“คุณ… คุณเป็นใคร?” ใครจะเดาได้ว่าหญิงสาวต่อหน้าต่อตาเขาจำจ้าวหยู่ไม่ได้ เธอยังคงอยู่ในอาการหวาดกลัว เธอตัวสั่น ใบหน้าของเธอซีด
“หื้ม?”
จากนั้น จ้าวหยู่ก็ตระหนักว่าแม้ว่าหญิงสาวจะดูคล้ายกับสาวปากเขียวมาก แม้แต่การแต่งตัวก็ยังแตกต่างกัน เธอสวมชุดเดรสยาวสีขาว และผมสีดำของเธอหวีอย่างเรียบร้อย ทำให้เธอดูราวกับเด็กสาวไร้เดียงสา นอกจากนี้วิธีที่เธอพูดและกระทำยังตรงกันข้ามกับสาวปากเขียวราวกับฟ้ากับเหวเลย
“คุณ…” จ้าวหยู่ขมวดคิ้วและชี้ไปที่ริมฝีปากของเขาแล้วพูดว่า “คุณไม่ใช่คนที่ทาลิปสติกสีเขียวและย้อมผมสีขาวเหรอ?”
“โอ้… นั่นคือโมจิ น้องสาวของฉันเอง ส่วนฉันชื่อว่าไมลีย์!” ทันใดนั้น เด็กสาวก็ตระหนักได้ว่าเสื้อผ้าของเธอหลุดลุ่ย ดังนั้นเธอจึงรีบคลุมตัวเอง
“แฝด… พวกเธอเป็นฝาแฝดงั้นเหรอ?” จ้าวหยู่รู้สึกประหลาดใจ
“ฉะฉันแก่กว่าเธอหนึ่งปี!” เด็กสาวชื่อไมลีย์พูดติดอ่าง “แต่เราก็ดูเหมือนกันมาก หลายคนจึงเข้าใจผิดว่าเราเป็นฝาแฝดกันน่ะ…”
“เฮ้อ!” จ้าวหยู่ส่ายหัวและถอนหายใจ “ชาติที่แล้วฉันทำอะไรเนี่ย ทำไมพวกลูกสาวของคนรวยถึงมาวนเวียนอยู่รอบตัวฉันกันนะ!”
ขณะที่เขาพูด จ้าวหยู่ก็มองดูเด็กสาวอย่างระมัดระวัง เขาเห็นว่ารูปร่างของเธอบอบบางและน่ารัก ร่างกายของเธอผอมเพรียว แถมเธอประพฤติตัวอย่างเหมาะสม แสดงว่าเธอคงได้รับการอบรมมาอย่างดี ไม่เหมือนผู้หญิงบ้าคนนั้นเลย
“แก… รอก่อนเถอะ ฉันจะฆ่าแก! โอ๊ย!” ลูกชายของเศรษฐีที่ยังอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา จู่ ๆ ก็ส่งเสียงร้อง จ้าวหยู่จึงเตะเขาอีกครั้ง
“ว๊าย!” ไมลีย์เห็นว่าจ้าวหยู่เป็นคนโหดเหี้ยมมาก ทำให้เธอสะดุ้งและไม่กล้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นโดยตรง
หลังจากการเตะ จ้าวหยู่ต้องการใส่กุญแจมือให้เขา แต่ด้วยความรีบร้อนเขาจึงทิ้งกุญแจมือไว้ในรถ! เขาเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า
“เฮ้ สาวน้อย คุณแน่ใจหรือว่าไม่ได้กำลังเล่นเกมอะไรสักอย่างอยู่ใช่มั้ย? ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจตอนนี้!”
“คุณ…” ไมลีย์ถามด้วยความกลัว “คุณกำลังพูดถึงเกมประเภทไหนกัน? แล้วแจ้งตำรวจอีก? ฉันคิดว่าคนเหล่านี้อาจเข้าใจผิดว่าฉันเป็นโมจิ ฉันคิดว่า…พวกเขาอาจจะเป็นเพื่อนของโมจิ…”
“เฮ้อ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!?” จ้าวหยู่ส่ายหัวอย่างไม่อดทน เพื่อกำจัดความยุ่งเหยิงเขาจึงรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาสถานีตำรวจในท้องที่
ขณะที่เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา ก็เกิดเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นดังมาจากระยะไกล จากนั้นเขาก็เห็นรถมอเตอร์ไซค์วิบากสองสามคันขับเข้ามาจากทางเข้าสวนสาธารณะ
"ไม่นะ!" ไมลีย์ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวและบอกจ้าวหยูว่า “พวกลูกน้องของเขามาแล้ว! ฉะฉันควรทำอย่างไรดี!?”
*วรูม! วรูม! วรูม!*
เสียงเครื่องยนต์ดังกึกก้อง และเสียงก็ทำให้หูอื้อ รถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่พอ ๆ กันประมาณเจ็ดคันจอดต่อหน้าจ้าวหยู่ ไม่ต้องถามก็รู้เลยว่าพวกเขาเป็นแก๊งเดียวกันกับลูกเศรษฐี
จ้าวหยู่ไม่อยากให้เรื่องนี้มันบานปลาย แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อเขาสังเกตเห็นรถดอดจ์ โทมาฮอกของลูกเศรษฐี จู่ ๆ เขาก็หวนนึกถึงวันเก่า ๆ ที่น่าหลงใหลและใฝ่หา
สมัยนั้นเขาเป็นสิงห์นักบิดที่เก่งกาจและใครต่อใครก็รู้จัก เขายังมีฉายาอีกด้วย!
‘ถ้าอย่างนั้น… ทำไมฉันไม่ใช้โอกาสนี้เพื่อรำลึกความหลังล่ะ?’
จากนั้น จ้าวหยู่ก็เข้าไปคว้าแฮนด์รถมอเตอร์ไซค์ ยกขาขึ้น และคร่อมไปตัวถัง
“คุณ…” ไมลีย์ยังคงตกใจกลัวไม่รู้จะทำอย่างไร
“มัวทำอะไรอยู่?” จ้าวหยู่โยนหมวกกันน็อคให้เธอ “มานั่งซ้อนท้ายสิ เดี๋ยวฉันจะพาคุณไปเที่ยว!”
"โอ้!" ไมลีย์เข้าใจที่จ้าวหยู่จะสื่อ เธอจึงรีบขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอกอดเอวของจ้าวหยู่อย่างแน่นหนาด้วยมือข้างหนึ่ง และอีกมือก็จับหมวกกันน็อคเอาไว้
*บรี้น!!!*
“เฮ้ย!” ลูกชายเศรษฐีที่นอนอยู่บนพื้นตะโกนใส่พรรคพวกของเขาว่า “พวกแกมัวยืนทำอะไรอยู่? รีบตามพวกมันไปเร็วเข้า ฉันต้องสอนบทเรียนให้พวกมัน! ไป! ไปได้แล้ว!”
จากนั้นพวกลูกน้องก็เร่งรถมอเตอร์ไซค์ และไล่ตามจ้าวหยู่ไป ถึงแม้ว่ารถมอเตอร์ไซค์ที่จ้าวหยู่ขี่นั้นจะน่าทึ่งมาก แต่รถมอเตอร์ไซค์คันอื่น ๆ สมรรถนะก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าของเขามากนัก ทั้งสองฝ่ายเริ่มแข่งกัน ราวกับฉากหนึ่งในหนังเรื่อง เร็ว...แรงทะลุนรก (Fast and Furious)
จริง ๆ แล้ว เหตุผลที่จ้าวหยู่เป็นที่รู้จักในวงการแข่งรถมอเตอร์ไซค์นั้นไม่ได้มาจากทักษะการขี่ของเขา แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเขาชอบที่จะขับแบบเสี่ยงตายเป็นพิเศษ ดังนั้นทุกคนจึงกลัวเขา!
อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้ไม่รู้เรื่องนี้ เมื่อพวกเขาเห็นว่าเกือบจะไล่ตาม จ้าวหยู่ได้ทันแล้ว และคิดว่าพวกเขาสามารถโค่นเขาลงได้ในเวลาต่อมา
ขณะที่รถยามาฮ่าสีเขียวไล่ตามจ้าวหยู่ ทันใดนั้น เขาก็หันหน้ารถและชนเข้ากับล้อหน้าของอีกฝ่าย ทำให้รถยามาฮ่าเสียการทรงตัว คนขี่ก็กระเด็นออกจากเบาะ!
"กรี๊ด!" ไมลีย์ซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังตกใจมาก เธอกอดจ้าวหยู่ไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้างโดยไม่กล้าลืมตา
*วรูม! วรูม! วรูม!*
ต่อมามีรถมอเตอร์ไซค์ที่มีโลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์อีกคันเข้ามาทางด้านขวา เมื่อดูอุบัติเหตุก่อนหน้านี้ เขาจึงขี่เว้นระยะจากจ้าวหยู่ เขาตั้งใจจะแซงจ้าวหยู่ แล้วขวางเขาไว้ด้านหน้า!
“แม่งเอ๊ย! มึงคิดจะแซงกูเหรอ!?”
จู่ ๆ จ้าวหยู่ก็เปลี่ยนทิศทาง และขี่ตรงไปทางเบนซ์ คนขี่เบนซ์ถึงกับตะลึง และชะลอความเร็วลงอย่างรวดเร็ว แต่ใช่ว่าเขาจะรอดจากเงื้อมมือของจ้าวหยู่ จ้าวหยู่พุ่งไปพร้อมยกขาขึ้นและเตะเข้าที่รักแร้
“อ๊าก!” รถมอเตอร์ไซค์ล้ม ทำให้คนล้มลงกับพื้น
"เยส!" จ้าวหยู่ตะโกนอย่างตื่นเต้น เกมไล่ล่าได้ปลุกความดุร้ายภายในตัวเขาขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ ทำให้เขาปลดปล่อยความเครียดทั้งหมดที่สะสมออกมา
เมื่อเขาเห็นรถมอเตอร์ไซค์อีกสองคันที่ต้องการจะแซง จ้าวหยู่ไม่ลังเลเลยที่จะซํดพวกเขาให้ล้มลงมา นักบิดซ้ายเห็นว่าจ้าวหยู่กำลังจะชนเขา และเกิดกลัวขึ้นมา เขาจึงล้มลงข้างถนน อย่างไรก็ตาม ขณะที่จ้าวหยู่มัวแต่สนใจรถคันซ้าย เขาเลยปล่อยให้รถคันขวาแซงเขาไป
จ้าวหยู่ตะโกนและถอดหมวกออกเพื่อโยนใส่เขา หมวกกันน็อคโดนคนข้างหลัง ทำให้อีกฝ่ายเสียหลักและถูกเหวี่ยงไปบนพื้นพร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์!
"แม่ง! มันต้องอย่างนี้เส่!"
ในขณะนั้น จ้าวหยู่รู้สึกราวกับว่าเขาค้นพบความรู้สึกหลงใหลก่อนที่จะข้ามโลกมา ด้วยแรงผลักดันจากความดุร้าย เขาจึงกระทำการที่บ้าคลั่งยิ่งขึ้นไปอีก เขาหันหลังกลับและบิดคันเร่งให้ชนกับรถมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ข้างหลังเขา
"อย่านะ!" ไมลีย์กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
"แม่งบ้าไปแล้ว!” คนที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์เห็นว่าจ้าวหยู่กำลังจะชนเขาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ทำไมเขาถึงกล้าเสี่ยงชีวิตล่ะ! เขาหันหลังกลับและเร่งความเร็วออกไป!
“จะหนีไปไหนไปกร๊วก! พ่อของมึงอยู่ที่นี่แล้ว! วะฮ่าฮ่า!”
ความเร็วของจ้าวหยู่ไม่ได้ลดลงเลย และเขาก็ชนรถมอเตอร์ไซค์คันสุดท้ายเข้าอย่างจัง
เมื่อถึงเวลานั้น คนขี่คนสุดท้ายก็หวาดกลัวและอยากจะหันหลังกลับและจากไป แต่จ้าวหยู่เร็วเกินไป เพียงพริบตาเขาแทบจะมาจ่อท้ายแล้ว!
แต่แน่นอนว่าจ้าวหยู่ไม่ได้โง่พอที่จะชนเขาตรง ๆ เขาตัดสินใจเหยียบเบรกและเบรกฉุกเฉินในวินาทีสุดท้ายแทน
*เอี๊ยด!!!*
แต่รถมอเตอร์ไซค์ยังไม่จอดสนิทดี จ้าวหยู่ก็หันกลับมาอีกครั้งและชนเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์ของอีกฝ่าย เพียงครั้งเดียว คนขี่ก็กระเด็นออกไปพร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์...
ด้วยการเบรกอีกครั้ง มันหยุดอยู่ข้างถนนอย่างมั่นคง จากนั้น เขาก็หันกลับไปตรวจสอบไมลีย์ เธอก็โยนหมวกกันน็อคทิ้งทันที จากนั้นเธอก็จับหัวของจ้าวหยู่ด้วยมือทั้งสองแล้วจูบเขาที่ริมฝีปากของเขา!
“อือ… อือ…” จ้าวหยู่ทั้งตกใจและลนลาน เขารีบดึงมือของหญิงสาวออกและตะโกนว่า “คุณทำบ้าอะไรเนี่ย!?”
“สุดหล่อ ฉันชอบคุณ! คุณช่างน่าหลงใหลมากเหลือเกิน!” ไมลีย์ตะโกนอย่างคลั่งไคล้ “ได้โปรดมาเป็นแฟนฉันเถอะนะ! ฉันพร้อมจะมอบทุกอย่างเพื่อคุณมาเป็นของฉัน!”