ตอนที่แล้วบทที่ 112: ควรค่าแก่การเปิดเพลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 114: ปรมาจารย์นักสร้าง

บทที่ 113: ข้าไม่ได้มีเจตนาอื่น (ตอนฟรี)


บทที่ 113: ข้าไม่ได้มีเจตนาอื่น (ตอนฟรี)

หลังจากที่ซูฟ่านกลับมา ทั้งนิกายก็เริ่มกินข้าวห่อไข่ปู

ซูฟ่านเช็ดคราบอาหารออกจากมุมปากของเขาอย่างพึงพอใจ “ไม่เลวเลย ทักษะการทำอาหารของเยว่เซียนพัฒนาขึ้นอีกแล้ว”

ในขณะนี้ ซูเยว่เซียนหรี่ตาลงและพูดว่า " ท่านอาจารย์ ข้าไม่ได้ทำอาหารจานนี้ มันคือผูเถาที่ควบคุมหุ่นเชิดเพื่อทำอาหาร"

“ดูเหมือนว่าข้าจะไม่มีคุณสมบัติพอจะทำอาหารให้ท่านอาจารย์ในอนาคตแล้ว” หลังจากพูดอย่างนั้น ซูเยว่เซียนก็แสร้งทำเป็นถอนหายใจ

“ถ้าเจ้าอยากทำอาหาร มันก็ไม่มีใครหยุดเจ้าได้ ในอนาคต งานของผูเถาจะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ และมันก็อาจไม่มีเวลาพอที่จะจัดการสิ่งเหล่านี้”

จากนั้นซูฟ่านก็ใช้ประโยชน์จากทุกคนที่มารวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการในอนาคตของนิกาย แต่ในไม่ช้า เขาก็ตระหนักได้ว่าไม่มีใครสนใจเลย

“ท่านอาจารย์ หลังจากที่แผนของท่านเสร็จสิ้นแล้ว ข้าสามารถไปล่าสมบัติต่อได้ไหม?”

“ข้าอยากเดินทางไปทั่วทั้งทวีปกลาง”

“ข้าอยากออกไปดูโลกหลังจากที่ข้าได้รับวิชาลับของท่านอาจารย์”

“ข้าอยากพาภรรยาออกไปเดินเล่น”

“ถ้าพวกท่านทุกคนออกไป ข้าจะอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องนิกายและปกป้องท่านอาจารย์เอง”

เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย ซูฟ่านก็หันไปมองซูกังโดยคิดว่า ‘ข้าสามารถทำลายเจ้าลงได้ด้วยมือข้างเดียว ข้าไม่จำเป็นต้องให้เจ้ามาปกป้องข้าก็ได้’

ซูฟ่านถอนหายใจเมื่อเห็นทัศนคติที่ไม่แยแสของพวกเขา เขารู้สึกว่าถ้ามีคนทะเยอทะยานเพิ่มขึ้นมาเพียงสักคนเดียวในหมู่พวกเขา เขาก็คงจะไม่เหนื่อยมากเช่นนี้

“นิกายเพิ่งได้รับการจัดตั้งขึ้น และพวกเจ้าก็คิดอยากจะพักผ่อนกันแล้วหรอ? ฝันต่อไปเถอะ!”

“อย่างน้อยพวกเจ้าก็จะต้องฝึกฝนศิษย์รุ่นต่อไปให้เสร็จก่อนจึงจะจากไปได้”

“และแผนการพัฒนาเบื้องต้นของนิกายเราจะไม่แล้วเสร็จจนกว่าจะผ่านไปอย่างน้อย 5 ปี”

“ดังนั้น ไม่ว่าพวกเจ้าจะมีอะไรทำหรือไม่ก็ตาม จงอยู่แต่ในนิกายซะ!”

“ถ้าพวกเจ้าไม่มีอะไรทำจริงๆ ให้ไปที่ทะเลสาบยักษ์แสนลี้เพื่อฆ่าสัตว์อสูรขอบเขตตัวอ่อนวิญญาณ” ซูฟ่านกล่าวขณะที่เขามองไปที่คนที่ไม่น่าพึงพอใจเหล่านี้

“หรือไม่ก็ไปค้นหาผู้มีพรสวรรค์รุ่นต่อไป”

“ส่วนศิษย์เหล่านี้ที่ผ่านการทดสอบของข้าแล้ว ความสำเร็จในอนาคตของพวกเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าของพวกเจ้า ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจว่าในอนาคตพวกเจ้าแต่ละคนจะต้องรับลูกศิษย์โดยตรงสามคน”

“และพวกศิษย์จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไกลก่อนที่จะถึงขอบเขตแก่นแท้ทองคำ” ซูฟ่านกล่าว เขาไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองเป็นคนเดียวที่ต้องกังวลได้

เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า และในชั่วพริบตา ชุดเกราะพลังวิญญาณชุดแรกก็ได้รับการผลิตขึ้น

ผางฟู่แบกความหวังของซูฟ่านบินไปยังเมืองเซียนหลินเซิน

“ครึ่งปี 400 ล้านหินวิญญาณ ความเร็วในการหาเงินนี้น่าจะเพียงพออยู่”

ในเวลานี้ ซูฟ่านก็นึกถึงเรือเหาะลอยล่อง เรือเหาะลอยล่องสามารถนำทรัพยากรมูลค่าหลายแสนล้านกลับมาได้อย่างน้อยหลังจากการเดินทางหกเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับเรือเหาะลอยล่องแล้ว หินวิญญาณที่เขามีอยู่นั้นก็แทบจะไม่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ

ซูฟ่านยังไม่ได้ประเมินว่าต้องใช้หินวิญญาณมากแค่ไหนในการสร้างเรือเหาะลอยล่อง มันอาจสูงหลายแสนล้านรึเปล่า?

แม้ว่าเขาจะไม่สามารถสร้างเรือเหาะลอยล่องได้ แต่ซูฟ่านก็รู้จักปืนใหญ่บนเรือรบคุ้มกันเป็นอย่างดี

“ข้าจะอดทนเอาไว้ก่อน อีกไม่นานเท่านั้น”

ไม่ถึงหนึ่งวันต่อมา ผางฟู่ก็กลับมาพร้อมกับหินวิญญาณและวัสดุที่ซูฟ่านต้องการ

“ผู้อาวุโสซู ข้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำภารกิจสำเร็จ”

ผางฟู่มอบหินวิญญาณและวัสดุทั้งหมดให้กับซูฟ่าน

“ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของท่าน”

ซูฟ่านหยิบหินวิญญาณออกมา 20 ล้านก้อนอย่างไม่ตั้งใจและมอบให้ผางฟู่

“รับสิ่งนี้ไว้และจัดตั้งหอการค้าสำหรับนิกายวิญญาณเร้นลับของเรา ท่านจะมีอำนาจควบคุมหอการค้าได้โดยสมบูรณ์” ซูฟ่านกล่าว ดูเหมือนว่าศาลาการค้าในปัจจุบันจะยังเล็กเกินไป มันมีเพียงผางฟู่และลูกชายของเขาเท่านั้น

“ด้วยหินวิญญาณจำนวนนี้ นิกายวิญญาณเร้นลับของเราก็น่าจะสามารถเปิดร้านค้าในเมืองเซียนหลักในทวีปกลางได้”

“เมื่อถึงเวลานั้น นิกายวิญญาณเร้นลับของเราจะสามารถรับข้อมูลและทำการซื้อขายโดยตรงได้”

ผางฟู่หยิบหินวิญญาณขึ้นมาและบอกว่าเขาคิดว่าเขาจะต้องรออีกสักพักจึงจะขยายหอการค้าได้

“ทำงานให้หนักแล้วข้าจะให้เงินตอบแทนภายในสิ้นปีนี้” ซูฟ่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ขอบคุณผู้อาวุโสซู”

“ฮ่าฮ่า ด้วยความยินดี”

หลังจากการสนทนาของพวกเขาจบลง ซูฟ่านก็หันกลับมาและมอบแร่วิญญาณทั้งหมดที่ผางฟู่ซื้อมาให้กับผูเถา

“ในอีกสองปี ข้าจะไม่ต้องกลัวแม้ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณสวรรค์จะบุกมาที่นิกายของเรา”

เมื่อพวกเขามีหินวิญญาณเพียงพอแล้ว ทุกคนบนเกาะก็สังเกตเห็นว่าหุ่นเชิดแรงงานซึ่งหายไปนานหลายเดือนได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งในขนาดมหึมา และสภาพแวดล้อมโดยรอบก็เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน

เมื่อหินวิญญาณเข้าที่ ซูฟ่านก็เริ่มขยายวงกว้างออกไปทั่วเกาะ

ในห้องหลอมสิ่งประดิษฐ์บนยอดเขาหลัก ซูฟ่านกำลังสร้างสิ่งประดิษฐ์ล้ำค่าขั้นห้า ซึ่งเป็นลูกปัดรวมวิญญาณซึ่งเป็นชิ้นที่ 30 ที่เขาสร้างขึ้น หลังจากขัดเกลาลูกปัดรวมวิญญาณได้ 36 เม็ดแล้ว ซูฟ่านก็วางแผนที่จะผสานมันเข้ากับมหาวงเวทย์ของนิกายโดยตรง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของพลังปราณวิญญาณบนเกาะวิญญาณเร้นลับได้

ในตอนนี้ เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วนับตั้งแต่ก่อตั้งนิกายขึ้นมา แต่ซูฟ่านก็ยังมีความรู้สึกจู้จี้จุกจิกเหมือนว่าเขาได้ลืมอะไรบางอย่างไป

จนกระทั่งถึงวันรุ่งขึ้น

ในวันนี้  ผู้ฝึกตนขอบเขตตัวอ่อนวิญญาณที่เคยดูแลซูฟ่านอย่างอบอุ่นก็ได้มาเยี่ยมพวกเขา

“ผู้นำนิกายซู ข้าขอโทษสำหรับการมาเยือนอย่างกะทันหันด้วย” ในขณะนี้ ผู้ฝึกตนขอบเขตตัวอ่อนวิญญาณก็ดูเหมือนกับนักธุรกิจมากขึ้นไปอีก

“ข้าเป็นผู้อาวุโสเท่านั้น ผู้นำนิกายคือลูกศิษย์ของข้า” ซูฟ่านชี้ไปทางซูเยว่เซียนที่อยู่ข้างๆ เขา

“ฮ่าฮ่า เช่นนี้นี่เอง” ผู้ฝึกตนขอบเขตตัวอ่อนวิญญาณหัวเราะ

ขณะนี้ หุ่นเชิดสาวใช้ก็กำลังนำชามาริน

“อะไรกันที่ทำให้ท่านมาที่นี่ ผู้อาวุโส” ซูฟ่านถาม

“โอ้ นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านก่อตั้งนิกาย ดังนั้นท่านจึงอาจไม่รู้ วันนี้ข้ามาเพื่ออธิบายให้ท่านฟังเป็นพิเศษ”

ผู้ฝึกตนขอบเขตตัวอ่อนวิญญาณหยิบเครื่องมือสื่อสารออกมาฉายภาพในอากาศโดยตรง

มีข้อมูลง่ายๆ เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น อันดับแรก กำไรสุทธิของนิกายในปีนี้ และประการที่สอง ภาษีที่ควรจะต้องจ่าย

เมื่อดูตัวเลขถัดจากภาษีที่ต้องจ่าย ซูฟ่านก็ครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมันสูงและส่วนหนึ่งเป็นเพราะมันแม่นยำ

“สภาผู้อาวุโสของเราก่อตั้งขึ้นโดยผู้ฝึกตนชั้นยอด 36 คน และตอนนี้ก็ผ่านไปเป็นเวลา 30,000 ปีแล้ว ดังนั้นขณะนี้จึงมีผู้อาวุโสในสภาทั้งหมด 56 คน รวมถึงผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้อาวุโสด้วย”

“ข้าจะไม่พูดถึงสโลแกนของสภาผู้อาวุโสของเรา แต่ข้าจะเล่าให้ท่านฟังเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์เซียนทั้งสิบของสภาผู้อาวุโสของเรา”

“อันดับแรก สิ่งประดิษฐ์ตระเวนสวรรค์ มันดูแลส่วนกลางทั้งหมดของทวีป”

“อันดับที่สอง เรือเหาะหมื่นดารา มันสามารถเดินทางรอบโลกอันกว้างใหญ่ได้”

“อันดับที่สามถึงหก คือกระจกฟ้าดิน กระจกเหตุและผล กระจกโจวเทียน และอาณัติวิญญาณสวรรค์ เมื่อกระจกทั้งสี่มารวมกันก็จะสามารถสืบย้อนถึงต้นกำเนิดของทุกสิ่งได้”

“และนี่ก็เป็นสิ่งประดิษฐ์เซียนที่ใช้ในการคำนวณภาษีของท่านด้วย”

“อันดับที่เจ็ด จานวงเวทย์หมื่นกระบี่สังหารสรรพสิ่ง”

“อันดับที่แปด พระราชวังเซียนมังกร”

“อันดับที่เก้า สุสานหมื่นวิญญาณ”

“อันที่สิบ กระบี่สังหารมาร”

“ข้าบอกทั้งหมดนี้กับผู้อาวุโสซูโดยไม่มีเจตนาอื่นใด”

“หากความแข็งแกร่งของนิกายท่านไม่สามารถต้านทานมันได้ ท่านก็ไม่ควรเลี่ยงภาษี”

“ตอนนี้มีนิกายในทวีปกลางมากมายที่ถูกกวาดล้างในทุกๆ ปีเพราะไม่จ่ายภาษี”

“ข้าหวังว่าผู้อาวุโสซูจะไม่ทำผิดพลาดซ้ำรอยคนพวกนั้น” ผู้ฝึกตนขอบเขตตัวอ่อนวิญญาณพูดด้วยรอยยิ้ม เขาไม่จำเป็นต้องพูดทั้งหมดนี้ แต่นิกายนี้ก็เป็นนิกายเพียงแห่งเดียวในดินแดนของพวกเขา ดังนั้นมันจึงจำเป็นต้องได้รับการปกป้องอย่างดี

สิ่งสำคัญคือ ซูฟ่านและนิกายของเขามีความสามารถที่แข็งแกร่งในการจัดหาหินวิญญาณ ซึ่งจะปรับปรุงประสิทธิภาพของพวกเขาในอนาคตได้

ซูฟ่านหยิบถุงเก็บของสามใบที่บรรจุหินวิญญาณ 10 ล้านก้อนไว้ในแต่ละถุงออกมาแล้วมอบให้กับอีกฝ่าย จากนั้นเขาก็ถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับเขามากที่สุด

“หากผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งพยายามจะทำลายนิกายของข้า ท่านจะสามารถปกป้องนิกายของข้าได้อย่างสมบูรณ์หรือไม่?”

“เว้นซะแต่จะเป็นเผ่าปีศาจ สภาผู้อาวุโสก็จะพยายามหาทางแก้แบบสันติวิธีให้ ท้ายที่สุดแล้ว สภาผู้อาวุโสของเราก็ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงมากจนเกินไปได้”

เมื่อมาถึงจุดนี้ ซูฟ่านก็มีคำพูดอยู่ในใจ “ก็ถ้ากูจ่ายภาษีแล้วมึงจะไม่ช่วยกูแล้วกูจะจ่ายไปทำไมวะ!”

*เผ่าปีศาจฆ่าผู้ฝึกตน ✖  เลี่ยงภาษีฆ่าผู้ฝึกตน ✔

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด