ตอนที่แล้วบทที่ 103 ชอบอาเยว่ (4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 105 เรื่องที่ชอบ (1)

บทที่ 104 ชอบอาเยว่ (5)


เมื่อกลับถึงห้อง เสิ่นเยว่ยังคงนึกถึงเรื่องที่ท่านลุงพูดเมื่อครู่

ท่านลุงเป็นเพียงที่ปรึกษา แต่คล้ายกับจะรู้จักเรื่องในราชสำนักเป็นอย่างดี และดูจะใส่ใจมากไปสักหน่อย...

แต่นางเองก็พูดไม่ได้ว่ามีจุดใดที่ไม่ถูกต้อง

เพียงแต่เมื่อนึกถึงประโยคสุดท้ายของท่านลุง 'ไม่รู้ว่าเมื่อไรความวุ่นวายในราชสำนักซีฉินจึงจะจบลง' จู่ๆ นางก็นึกถึงจวนอ๋องผิงหย่วน...

เหตุเพลิงไหม้ที่จวนกั๋วกงวันนั้น ฟังจากความหมายของท่านลุงเถา เมื่อจัวหย่วนได้รับข่าวก็รีบเดินทางกลับเมืองหลวงทันที จวนอ๋องผิงหย่วนสละชีพในสนามรบทุกคน เหลือเพียงจัวหย่วนและเด็กๆ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ในเมืองหลวง ยากจะทำให้คนไม่สงสัยว่ามีแผนการอื่น จัวหย่วนกำลังใช้ความสามารถที่มีทั้งหมดเพื่อทำให้เด็กๆ ในจวนปลอดภัย

เสิ่นเยว่จับพู่กัน ภายในหัวนึกถึงตอนที่จัวหย่วนไม่สบาย ท่าทางเขาดูทึ่มๆ ให้นางเล่านิทานให้ฟัง ในตอนที่นางเล่าเรื่องจากหนังสือหนึ่งในนั้น เนื้อหาดูเหนือจินตนาการ เป็นประเภทฟื้นคืนชีพ ทันใดนั้นเขากลับถามว่า 'คนที่ตายแล้วสามารถฟื้นขึ้นมาได้จริงหรือ?'

นางรู้ว่าเขาไข้สูงจนเลอะเลือน

และรู้ว่าเขาคิดถึงบิดาและพี่น้องตนที่จากไป

...

ในตอนที่เสิ่นเยว่หลุดจากภวังค์ ถึงค้นพบว่าตนเขียนคำว่า 'ชิงจือ' ลงไปบนกระดาษ ไม่รู้ว่าตนเองเขียนลงไปตั้งแต่เมื่อไร

เสิ่นเยว่นิ่งไป

ภายในห้องจุดเตาถ่านไว้ และเป็นเรือนตนเอง เสิ่นเยว่จึงไม่ได้ปิดประตู ประตูห้องจึงแง้มไว้เล็กน้อย

ประจวบเหมาะที่หานเซิงเดินเข้ามาข้างใน

เสิ่นเยว่แสดงสีหน้าตกใจ ไม่ทันได้เก็บกระดาษแผ่นนั้นก็เห็นหานเซิงเดินเข้ามาหาแล้ว

นางเห็นว่าบนโต๊ะมีกระดาษอีกหลายแผ่น หากนางเก็บลงไปเวลานี้คงจะยิ่งดูมีพิรุธ แต่ก็คงไม่ดีหากจะวางไว้บนโต๊ะอย่างเปิดเผย จึงถือโอกาสหยิบหนังสือที่อยู่ด้านข้างมาทับไว้ แบบนี้ค่อยรู้สึกโล่งใจ

เสิ่นหานเซิงถือถ้วยน้ำแกงไว้ในมือ ดังนั้นจึงไม่ได้เคาะประตู

ขณะกำลังเดินมา เขาก็พูดไปด้วยว่า "ท่านพี่ ท่านป้าเห็นว่าดึกแล้วท่านยังอ่านหนังสือ จึงต้มน้ำแกงหวานแล้วให้ข้าเอามาให้ท่าน ท่านรีบกินตอนยังร้อนอยู่เถอะ"

เสิ่นเยว่ยิ้มแล้วยื่นมือออกไปรับถ้วยน้ำแกงจากมือเสิ่นหานเซิง

ท่านป้าเป็นคนละเอียด ที่จริงน้ำแกงนี้ไม่ค่อยร้อนมากแล้ว

ปลายนิ้วบอบบางของเสิ่นเยว่จับช้อนขึ้นมา นิ้วชี้และนิ้วโป้งเชิดขึ้นเล็กน้อย เมื่อปลายช้อนอยู่ใกล้ริมฝีปาก นางจึงจิบน้ำแกงเล็กน้อย "น้ำแกงเม็ดบัว?"

เสิ่นหานเซิงพยักหน้าทันที "เป็นน้ำแกงเม็ดบัว"

"เจ้ากินหรือยัง?" เสิ่นเยว่ถาม

เสิ่นหานเซิงพยักหน้า "กินแล้ว ข้ากับท่านป้ากินแล้ว กินเสร็จถึงได้เอามาให้ท่าน ท่านบอกมิใช่หรือว่าให้หาเวลาอยู่กับท่านป้าให้มาก? ข้าเห็นท่านป้าอยู่ในครัว จึงไปพูดคุยกับท่านป้า พอดีเห็นท่านป้ากำลังต้มน้ำแกงเม็ดบัวให้ท่าน"

เสิ่นเยว่ยิ้มอีกครั้ง ยื่นมือไปลูบศีรษะเขา "เป็นเด็กดีจริงๆ !"

เสิ่นหานเซิงเองก็ยิ้ม

เสิ่นเยว่กินน้ำแกงเม็ดบัวต่อ เสิ่นหานเซิงเห็นบนโต๊ะมีหนังสือวางอยู่จึงหยิบขึ้นมา "หนังสือเล่มนี้ข้าอ่านจบเมื่อหลายวันก่อน"

เสิ่นเยว่ตกตะลึง

ไม่ใช่เพราะประโยคนั้นที่เสิ่นหานเซิงพูด แต่เป็นเพราะเขาหยิบหนังสือที่นางใช้ทับกระดาษขึ้นมา...

ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดปกปิดไว้ กระดาษถูกวางอยู่ตรงนั้นอย่างเปิดเผย เสิ่นหานเซิงสามารถเห็นได้ทุกเวลา

เสิ่นเยว่กลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อย พูดด้วยความรู้สึกตื่นตกใจ "ข้ายังอยากกินอีกถ้วย ในครัวยังมีอีกหรือไม่?"

เสิ่นหานเซิงยิ้มพลางกล่าว "มี รอท่านกินเสร็จ ข้าจะไปตักให้ท่าน"

เสิ่นเยว่มองน้ำแกงเม็ดบัวในมือที่มีเต็มถ้วย ก่อนจะตัดสินใจยกขึ้นมาแล้วกินจนหมดทีเดียว ขณะที่กำลังจะกินหมดแล้ว เสิ่นหานเซิงกลับถามด้วยความสงสัย "ชิงจือคืออะไร?"

อึก...

เสิ่นเยว่เกือบสำลัก

"ท่านพี่!" เสิ่นหานเซิงขยับเข้าไปหา

เสิ่นเยว่แทบสำลักออกมา รีบร้อนโบกมือ หมายความว่าตนเองไม่เป็นไร

กว่าจะดีขึ้น ความสนใจคำว่า 'ชิงจือ' ของเสิ่นหานเซิงยังคงอยู่ "ชิงจือเป็นชื่อของเด็กสินะ?"

เสิ่นเยว่ตกตะลึง ไม่ปฏิเสธหรือตอบรับ

เสิ่นหานเซิงกลับเข้าใจผิด คิดว่านางยอมรับ "ข้ารู้แล้ว เป็นเด็กในจวนอ๋องสินะ?"

อืม ความเข้าใจนี้ถือว่าถูกต้อง...

เสิ่นหานเซิงมองตัวอักษรสองตัวนี้ แล้วจินตนาการต่อ "เขายังเล็กมาก จำเป็นต้องให้คนดูแล?"

เสิ่นเยว่รู้สึกลังเลครึ่งหนึ่งเห็นด้วยครึ่งหนึ่ง—เขาเอาแต่ใจมากและต้องการคนดูแล ทั้งยังต้องฟังนิทานก่อนนอน

เสิ่นเยว่คิดเช่นนี้...

เสิ่นหานเซิงเข้าใจในทันที "เด็กในจวน ท่านพี่จะต้องชอบเขามากที่สุด เพราะอย่างนั้นถึงเขียนชื่อเขา!"

"ที่ไหนกัน..." เสิ่นเยว่ตกใจเพราะเขา

เสิ่นหานเซิงถามกลับ "เช่นนั้นเหตุใดท่านไม่เขียนหานเซิง?"

"..." เสิ่นเยว่พูดอ้ำๆ อึ้งๆ "เขา...ที่จริงแล้วเป็นข้าวโพด เป็นข้าวโพดที่เด็กๆ ทำขึ้นมา ชื่อว่าชิงจือ..."

เสิ่นเยว่พูดอย่างมั่นใจ "ใช่ เป็นแค่ข้าวโพด"

เสิ่นหานเซิงกะพริบตาปริบๆ

...

"ฮัดชิ่ว!" จัวหย่วนจามติดต่อกันหลายครั้ง ทำได้เพียงเบือนหน้าไปอีกทางแล้วใช้ปลายแขนเสื้อบังเอาไว้

เถาเถายังไม่นอน เมื่อเขาจามเสร็จก็ยังมองเขาต่อ

"ทำไมยังไม่นอน? ไม่ใช่รับปากกับข้าแล้วหรือว่าถ้าเล่านิทานจบก็จะนอน?" จัวหย่วนพูดเสียงนุ่มนวล

เถาเถายิ้มพลางกล่าว "แต่ว่าข้าคิดถึงอาเยว่ ท่านน้าเองก็คิดถึงใช่ไหมเจ้าคะ?"

จัวหย่วนชะงักไปเล็กน้อย พูดเสียงเบา "คิดถึง ข้าเองก็คิดถึงอาเยว่"

เถาเถายิ้มอีกครั้ง "เช่นนั้นข้าชอบอาเยว่ ท่านน้าเองก็ชอบอาเยว่ใช่ไหมเจ้าคะ?"

จัวหย่วนยิ้ม "ชอบ ข้าชอบมาก"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด