ตอนที่แล้วตอนที่ 104 จางเยวี่ย คว้าแชมป์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 106 เป็นแกอีกแล้ว

ตอนที่ 105 ขับไล่ศัตรูหัวใจ


“ฮื่อ?”

ซูเหวิน ตกตะลึง ไม่คิดเลยว่าจะมีใครเข้ามาหาตัวเองเพื่อขอ VX อืมม ดูเหมือนว่าตัวเองก็มีเสน่ห์ใช่เล่นเหมือนกันนะ!

เขาแอบพยักหน้าให้กับใบหน้าที่หล่อเหลาของตัวเอง ..อย่างลับๆ

อย่างไรก็ตามเขาภูมิใจตนเอง แต่เขาไม่ได้สนใจผู้หญิงแปลกหน้าที่อยู่ตรงหน้าเขาเลย เขาจึงปฏิเสธอีกฝ่ายไปตรงๆ ว่า : “ขอโทษด้วยครับ ผมไม่ได้เล่น VX”

หญิงสาวคนนั้นตกตะลึงทันที และดูเหมือนเธอจะไม่คาดคิดว่าจะมีคนปฏิเสธ ..เธอ

ใบหน้าที่เดิมเต็มไปด้วยความมั่นใจ อดไม่ได้ที่จะแสดงความตกใจ จากนั้นเธอก็พูดตามด้วยรอยยิ้มเหยียดอีกฝ่ายว่า : “หนุ่มหล่อ ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง แค่เพิ่ม VX เท่านั้น คุณจะกลัวอะไร?”

“กลัวว่าฉันจะกินคุณเหรอไง?”

หญิงสาว พูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

เธอ เสิ่น อวี้หลิน เป็นคุณหนูใหญ่ของ ชิงเต่า ไห่อวิ๋น กรุ๊ป

เธอมีทั้งหน้าตาที่ดี และมีภูมิหลังครอบครัวที่ดี

ผู้ชายที่ไล่ตามเธอสามารถเข้าแถวจากชิงเต่าไปจนถึงสุดขอบโลกได้ แต่เธอก็ไม่สนใจแม้แต่จะมองด้วยซ้ำ

วันนี้ในที่สุดเธอก็พบกับคนที่สนใจ แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธตัวเธอเองจริงๆ ซึ่งนั้นมันย่อมทำให้เธอไม่พอใจอย่างมาก

แต่ถึงแม้เธอจะไม่พอใจมันก็เป็นเรื่องของเธอ เพราะไม่ว่าเธอจะพูดอย่างไร ซูเหวิน เขาก็พร้อมที่จะปฏิเสธเธออีกครั้ง

แต่เมื่อเขากําลังจะพูดบางอย่างออกไป เซี่ย ซินเหยา ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เธอก็มาอยู่ข้างหน้าเขาแล้ว

จากนั้นภายใต้สายตาที่ประหลาดใจของ ซูเหวิน เธอเข้ามาจับควงแขนเขาไว้ มองผู้หญิงที่อยู่ตรงข้าม แล้วพูดว่า : “เขามีแฟนอยู่แล้ว คุณอยากขอ VX เขาเพื่ออะไร อยากเป็นเมียน้อยเหรอ?”

“ถ้าคุณมีความคิดแบบนี้ ฉันขอแนะนําให้คุณยอมแพ้ซะ!”

เซี่ย ซินเหยา มองตรงไปที่อีกฝ่ายหนึ่ง และเธอพูดไปอย่างผู้มีอำนาจเหนือกว่ามาก

หลังจากเห็นการกระทำนี้ เธอก็ได้ทําให้ ซูเหวิน ตกใจโดยตรง

เดี๋ยว.. คนที่ควรพูดเย้ยหยันไปคงต้องเป็นเขาใช่ไหม?

แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าปฏิกิริยาของ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย นั้นมีมากกว่าเขาอีก?

แต่ก็ต้องยอมรับว่าหน้าตาที่จริงจังของ เซี่ย ซินเหยา นั้น ถ้าไม่รู้จักกันก็คงจะถูกเธอคุกคามเข้าจริงๆ

ก็เช่นเดียวกับหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า เสิ่น อวี้หลิน

ในขณะนี้เธอจ้องมองไปที่ เซี่ย ซินเหยา สายตาของเธอกวาดไปทั่วใบหน้าของเธอ และดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

สวยจัง สวยเกินไปแล้ว

เสิ่น อวี้หลิน ไม่เคยเห็นผู้หญิงสวยขนาดนี้มาก่อนเลยตั้งแต่เล็กจนโต

ในชั่วครู่หนึ่ง เธอที่ซึ่งมีความมั่นใจในความสวยสง่างามของตัวเองมาตลอดกลับรู้สึก ..ไม่มั่นใจ

ยิ่งไปกว่านั้น เธอกลับเห็นว่าทั้งคู่ดูเหมาะสมกันมาก เธอจึงนึกคิดไปว่าพวกเขาเป็นคู่รักกันจริงๆ ซึ่งมันทำให้เธอเกิดความอิจฉาอย่างมาก

“ฮึ่ม!”

เมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ เสิ่น อวี้หลิน ไม่อยากเข้าไปพัวพันอีกต่อไป

เธอฮึ่มเสียงอย่างเย็นชาด้วยความไม่พอใจ แล้วรีบหันหลังเดินจากไปทันที

แต่ก็ใช่ว่าน่าแปลกใจอะไร

เซี่ย ซินเหยา เธอสวยมากๆ อยู่แล้ว ควบคู่ไปกับรูปร่างที่สูงเพรียวบาง พร้อมด้วยอารมณ์ และความสง่างามที่โดดเด่นนี้

ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็หน้าซีดเมื่อต้องมาหยุดยืนอยู่ต่อหน้า ..เธอ

มันเลยเป็นเรื่องธรรมดาที่ เสิ่น อวี้หลิน ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปเพื่อเป็นใบไม้เขียว(绿叶, ‘ตัวประกอบ, ไม้ประดับ’)

“ว้าว! เสี่ยวเหยา เธอสุดยอดมาก แค่พูดไม่กี่ประโยคก็ทำให้ผู้หญิงคนนั้นถอยกลับโดยไม่ต้องสู้ได้แล้ว!”

“ใช่ใช่ ใช่ เสี่ยวเหยา ของเราเมื่อกี้เท่สุดยอดมากเลยตอนแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเปิดเผยเธอทำได้ดีมาก ถ้าฉันเป็น ซู สุดหล่อ ละก็นะ ฉันคงแทบรอไม่ไหวที่จะแต่งงานกับเธอในทันทีเดี๋ยวนี้เลย”

คนที่พูดคือ จี้หยวี่ และวัง ซิ่วซิ่ว

ไม่นานหลังจากที่ เซี่ย ซินเหยา ขึ้นฝั่ง พวกเพื่อนๆ ของเธอก็ตามเธอขึ้นมาเช่นกัน

ในตอนนั้นเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นถูก เสี่ยวเหยา ไล่ไปด้วยคําพูดไม่กี่คำ และทั้ง เสี่ยวเหยา ยังได้แสดงความแข็งแกร่งออกมาเช่นนี้อีก

ทั้งคู่จึงเผยสายตาตกใจ ก่อนจะตื่นเต้นมากๆ และต่างพากันชื่นชมเพื่อนสาวของตัวเองในทันที

“อะแฮ่ม พูดอะไรน่ะ?”

“ฉัน... ฉันแค่เห็น เสี่ยวเหวิน ถูกคุกคามเท่านั้น ดังนั้นฉันจึงช่วยเขาบ้าง ท้ายที่สุดตอนที่ฉันกำลังว่ายน้ำอยู่ เสี่ยวเหวิน ก็ได้ช่วยฉันกั้นคนให้ไม่น้อย และการที่ฉันช่วยเขามันก็เป็นสิ่งที่ควรทำใช่ไหมล่ะ!”

เมื่อเห็นเพื่อนสนิททั้งสองคนชื่นชมตัวเอง เซี่ย ซินเหยา ก็อายขึ้นมาทันที

เธอรีบปล่อยแขนของ ซูเหวิน และอธิบายอย่างกระอักกระอ่วน

“ไม่ต้องอธิบาย พวกเราเข้าใจ พวกเราเข้าใจ!”

จี้หยวี่ ยิ้มขำๆ น้อยๆ แล้วหันไปสบตากับ วัง ซิ่วซิ่ว

ทั้งคู่ล้วนแต่เห็นความเจ้าเล่ห์ในสายตาของกัน และกัน

คําอธิบายก็คือการปกปิด และการปกปิดมันก็คือ(ข้อเท็จจริง)ความจริง!

สําหรับเรื่องนี้ เซี่ย ซินเหยา ทั้งโกรธ และอับอายมาก

ทำไมเพื่อนสนิทสองคนนี้ของเธอถึงชอบแซวแกล้งเธอแบบนี้ตลอดนะ?

“ฮ่าฮ่า ทุกคนหยุดหัวเราะได้แล้ว”

“อย่าพูดถึงมันเลย เมื่อกี้ เสี่ยวเหยา ช่วยผมไว้ได้มากจริงๆ พูดไม่กี่คำอีกฝ่ายก็จากไปแล้ว”

“ขอบคุณคุณนะ”

ซูเหวิน เมื่อเห็น เซี่ย ซินเหยา ทั้งหน้าแดงเขินอายอีกครั้ง ก็อดไม่ได้ที่จะรีบช่วยเหลือ

แต่สิ่งที่ ซูเหวิน ไม่รู้คือ.. มันจะดีกว่าถ้าเขาไม่พูดแบบนี้ออกไป

พอพูดออกไป เซี่ย ซินเหยา ก็ยิ่งเขินอายมากขึ้น

ซูเหวิน ที่เห็น เซี่ย ซินเหยา ยังดูมีท่าทีอึดอัดใจมาก เลยต้องเปลี่ยนหัวข้อโดยพูดไปว่า : “เที่ยงแล้ว พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ!”

พอได้ยิน ซูเหวิน พูดแบบนี้ ทุกคนก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที

จึงตาม ซูเหวิน กลับไปที่รถบ้าน และออกไปหาร้านอาหารเพื่อทานข้าวกัน

เพราะไปชายหาดกันมาแล้ว

ดังนั้นหลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ ช่วงบ่ายพวกเขาก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ชายหาดอีก แต่กลับหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เพื่อไปเที่ยวเล่นต่อ…

ในหนึ่งวันก็ผ่านไปเช่นนี้

และเวลาเช่นนี้ก็ผ่านไปเหมือนทุกวัน

ซูเหวิน และเพื่อนๆ ได้ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในชิงเต่า บนแผนที่ หรือในไป่ตู้(百度, Baidu) และไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงจุดแล้วจุดเล่า

ไม่ว่าจะ จัตุรัส 54 (五四广场, MAY FOURTH Square) ​สะพานจั้นเฉียว (栈桥) ศูนย์เรือใบโอลิมปิก (奥帆中心) และอื่นๆ เราได้ไปเที่ยวสถานที่หลายแห่งมากมาย

ต้องบอกว่าการท่องเที่ยวบางครั้งสามารถเปิดโลกทัศน์ของคุณได้จริงๆ

หลายวันมาทุกคนรู้สึกผ่อนคลายทั้งร่างกาย และจิตใจมากขึ้น ทุกคนได้ไปเที่ยวเล่นกันอย่างสนุก และต่างมีช่วงเวลาที่ดี

ชั่วพริบตาเดียวก็ผ่านมา 3 วันแล้วนับตั้งแต่พวกเขามาถึง ชิงเต่า

“เสี่ยวเหวิน เราไปกินบาร์บีคิวกันไหม?”

คืนนั้น ซูเหวิน กําลังนอนอยู่ในห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ของห้องเพรสซิเดนเชียลสวีท และกำลังดูภาพยนตร์แอ็คชั่นที่ยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่ง!

ในเวลานี้ เซี่ย ซินเหยา ก็เดินออกมาจากห้องของตัวเองอย่างกะทันหัน มอง ซูเหวิน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง

“คุณอยากไปกินบาร์บีคิวเหรอ?” ซูเหวิน พูดถามด้วยความประหลาดใจ

แต่แล้วเขาก็มีสีหน้ากระวนกระวาย สายตาของเขามันถูกดึงดูดโดยอีกฝ่ายหนึ่งไปอย่างลึกซึ้ง

ดูเหมือนว่าเป็นเพราะเธอลืมไปแล้ว เซี่ย ซินเหยา จึงไม่ได้ทันสังเกตว่าเธอออกจากห้องมาด้วยชุดนอน แถมยังติดกระดุมเสื้อไม่ครบด้วยซ้ำ!

เธอสวยมากอยู่แล้ว แต่การที่เธอปรากฏตัวต่อหน้า ซูเหวิน โดยการแต่งตัวแบบนี้ สามารถเห็นได้ว่ามันส่งผลกระทบต่อเขามากแค่ไหน

“อืมมม เมื่อกี้ฉันส่งข้อความในกลุ่มเพื่อนใน VX แล้ว ทุกคนอยากไปกิน เราเลยเตรียมตัวจะไปด้วยกัน”

“แต่ก่อนหน้านี้คุณเป็นคนออกเงิน งั้นเดี๋ยวคืนนี้ฉันเลี้ยงเอง”

เซี่ย ซินเหยา ยังไม่พบความผิดปกติของ ซูเหวิน

เมื่อเห็น ซูเหวิน สอบถามจึงตบหน้าอก และพูดออกไปอย่างมั่นใจ

“อ่า.. อืม โอเค งั้นไปกันเลย!”

“ผมจะไปหยิบเสื้อโค้ทก่อน ส่วน..คุณเองก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ!”

ซูเหวิน ยิ้มเล็กน้อย และเป็นธรรมดาที่เขาไม่ปฏิเสธ

แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่ลืมที่จะหวังดีเตือน เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ไปประโยคหนึ่ง

“......”

พอได้ยิน ซูเหวิน พูดแบบนี้ เซี่ย ซินเหยา จึงก้มหน้าลงมองการแต่งตัวของตัวเอง จากนั้นเธอจึงตระหนักได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

“กรี๊ด~”

ทันใดนั้นเธอก็กรีดร้องออกมา

แล้วรีบปิดหน้าวิ่งเข้าไปในห้องของตัวเอง เธอรู้สึกอาย.. อายเกินกว่าจะเขินอายได้อีกต่อไป

รอไม่กี่นาทีต่อมา เมื่อเธอออกมาจากห้อง เธอก็ยังคงดูเขินอายอยู่อีกเล็กน้อย

ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองทำเรื่องน่าอายมากจริงๆ คาดไม่ถึงว่าเธอจะปรากฏตัวต่อหน้า ซูเหวิน ..ไปแบบนั้น

ไม่รู้ว่า เพื่อนร่วมชั้น ซู จะคิดยังไงกับเธอ

มันจะทิ้งความประทับใจที่ไม่ดีให้แก่อีกฝ่ายหรือไม่นะ?

อย่างไรก็ตาม ความกังวลของเธอนั้นเรียกได้ว่าไม่จําเป็นเลยด้วยซ้ำ

เธออาจจะคิดไปเอง..

ทั้งการแต่งตัวของเธอเมื่อกี้ ไม่เพียงแต่จะไม่สร้างความประทับใจที่ไม่ดีให้กับ ซูเหวิน เท่านั้น

ในทางตรงกันข้ามยังถูก ซูเหวิน เมม(โมรี่)ฝังลึกไว้ข้างในหัวของเขาเรียบร้อยแล้ว

ซึ่งมันทำให้เขามีความคิดที่ไม่ดีบ้างอย่างขึ้นมา ซึ่งมันยากจะควบคุมได้จริงๆ

เมื่อ ซูเหวิน ออกมาหลังจากแต่งตัว สีหน้าของเขาเองยังดูแปลกๆ อยู่เล็กน้อย (ใช่.. สินะ วะฮะฮ่า!)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด