Chapter 1095 ธุรกิจใหญ่
จุนซ่างเซียวไม่คาดคิด โม่ซ่างเซิ่งจะซื้อ 10,000 ทันทีอย่างไม่คาดคิด.
จำนวนค่อนข้ามาก ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ผลิตมาขายแต่อย่างใด.
แม้นว่าจะได้รับสูตรเม็ดยาระดับสูงมาแล้ว ได้สั่งให้หลี่ชิงหยางหลอมขึ้นมาตลอด ทว่ามันก็ต้องใช้วัตถุดิบพิเศษหลายชนิด จำนวนที่ได้จึงไม่ค่อยสูงนัก.
นอกจากนี้ ในเวลานั้นเขาที่หลอมเม็ดยาเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อให้ศิษย์นำมันเข้ามาใช้ในพิภพสงคราม เพื่อรักษาชีวิต เพราะว่าจำนวนคนที่มีไม่น้อยเช่นกัน จึงต้องผลิตออกมาอย่างระมัดระวัง.
ในเวลานี้เขาได้มาทำธุรกิจ ทำให้จุนซ่างเซียวตระหนักได้.
หลังจากกลับไปนี้ จะต้องให้ความสำคัญเร่งด่วน แม้นว่าศิษย์ของเขาจะไม่ค่อยบาดเจ็บ ทว่ามันกับเป็นทรัพยากรที่มีราคาเป็นอย่างมาก.
“เจ้านิกาย.”
โม่ซ่างเซิงที่เอ่ยกล่าวอย่างจริงจัง “โม่โหมวหวังจะร่วมมือกันอย่างราบรื่น คงไม่มีแผนการอะไรใช่ไหม?!”
คำพูดที่มีความนัยแฝง.
ข้าไม่ได้โง่ ที่จะทิ้งเงินสิบล้านทิ้งหรอกนะ!
แน่นอนว่าอีกฝ่ายกังวลว่าเม็ดยาที่ลึกล้ำขนาดนี้จะมีเพียงนิดเดียว อีกฝ่ายที่แกล้งส่งเม็ดยาทั่วไปปนมา.
จุนซ่างเซียวที่ยกมือขึ้น กล่าวปฏิญาณ“ข้าจุนซ่างเซียวทำธุรกิจอย่างสุจริต หากว่ามีแผนการ ขอให้ถูกสวรรค์ลงโทษด้วยสายฟ้าฟาดห้าครั้งเลย!”
“เจ้านิกายจุนกล่าวเช่นนี้ทำให้โม่โหมววางใจ.”
แน่นอนว่าทำให้เขาวางใจเปราะหนึ่งจริง ๆ.
อย่างไรก็ตามไว้ถึงวันส่งมอบค่อยตรวจสอบอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะจ่ายเงินก็แล้วกัน.
“เจ้าเมืองโม่.”
จุนซ่างเซียวที่เคราะนิ้วบนโต๊ะ เอ่ยออกไปว่า“เม็ดยาที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้ากินไปเมื่อครู่ ข้าจะเก็บในราคาทุนก็แล้วกัน.”
ระบบ“......”
คิดว่าเป็นเม็ดยาใช้ทดสอบชัดเจน นี่คิดเงินด้วยรึ?!
“เท่าไหร่รึ?”
“4999.”
ราคาต้นทุนและราคาขายต่างกันหนึ่งก้อน บัดซบ มันจะหน้าเลือดไปแล้ว!
......
ตอนแรก จุนซ่างเซียวต้องการขายเม็ดยาบูรณะร่างกายและเม็ดยากลั่นวิญญาณด้วยเลย ทว่าคาดไม่ถึงว่าเม็ดยาฟื้นฟูก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงได้ระงับรายการอื่นเอาไว้ก่อน.
“เหล่าเหว่ย.”
หลังจากกลับนิกาย เขาที่เอ่ยกล่าวอย่างจริงจัง“สวนสมุนไพรจำเป็นต้องขยาย ปลูกสมุนไพรฟื้นฟูให้เร็วที่สุด!”
“อืม.”
เหล่าเหว่ยที่เรียกเปปป้า ก่อนที่จะเริ่มขยายสวนสมุนไพร และสั่งสมาชิกหอยาปลูกสมุนไพรเม็ดยาฟื้นฟูระดับสูงทันที.
“เจ้าตัวน้อย.”
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ห้องหนังสือ วางศิลาดาราวิญญาณหกแฉกบนโต๊ะ เอ่ยออกไปว่า“หากมีศิลาวิญญาณเช่นนี้ มากพอ จะใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะโต?”
“สิบวัน!”
หนอนกาลอากาศที่กล่าวตอบอย่างไม่ลังเล.
“......”
จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก.
ศิลาดาราหกแฉกหลายสิบล้าน ที่เขาแลกเปลี่ยนมา จำนวนที่มหาศาล สิบวันกินหมด เจ้าตัวเล็กนี้ก็น่ากลัวไปแล้ว!”
“ฟู่!”
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ครุ่นคิด “สองเดือนหลอมได้ 10,000 จากการคำนวณของเหล่าเจิ้นและซินเหยา เขาน่าจะสามารถไปยังทวีปเผ่าวิญญาณก่อนที่อีกฝ่ายจะมาถึงแน่นอน.”
“......”
“แล้วหากว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นก่อนล่ะ.”
หลังจากที่ครุ่นคิดเรื่องต่าง ๆ มากมาย จุนซ่างเซียวก็สั่งเจิ้นเต๋อจวินและซ่างกวนซินเหยาไปยังจังหวัดเป่ยโม่ เตรียมค่ายกลป้องกันและโจมตีปกคลุมพื้นที่ดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงเผ่าวิญญาณมาถึงก่อนเวลา.
“เจ้านิกาย.”
นายน้อยหยวนแนะนำ “เผ่าวิญญาณ หากว่าทะลวงผนึกได้ คงต้องใช้จำนวนขนาดใหญ่บุกมา.”
“ข้าคิดว่าพวกเราควรสร้างเมืองที่แข็งแกร่ง ก่อตั้งป้อมปราการณ์ค่ายกลที่แข็งแกร่งเตรียมเอาไว้ และส่งทัพไปรอคอยก่อนเวลา น่าจะสามารถป้องกันเหตุได้ทันท่วงที.”
“มีเหตุผล!”
จุนซ่างเซียวที่ตบไหล่ของเขาเอ่ยออกมาว่า“ข้าขอบคุณเจ้านิกายราชันย์มารจริง ๆ ที่ไล่เจ้าออกมา.”
“......”
นายน้อยหยวนที่เงียบไป.
พร้อมกับบ่นในใจเสียงดัง“ข้าถูกไล่ออก ไม่ใช่เพราะว่าเจ้าหรอกรึไง!”
ก่อนเข้าร่วมนิกายนิรันดร เขารู้สึกขัดแย้งเล็กน้อย ทว่ายิ่งเวลาผ่านมายิ่งรู้เรื่องนิกายนิรันดรมากเท่าไหร่ ก็ตระหนักได้ช้า ๆ แม้แต่ดำหนึ่งดำสองพนักงานเสิร์ฟอาหารก็เป็นทีมงานคุณภาพ!
เรื่องเช่นนี้ทำให้นายน้อยหยวนตะลึงเป็นอย่างมาก.
เจ้านิกายและศิษย์ คาดไม่ถึงว่าจะกล้าเป็นศัตรูกับทั้งโลก!
ไม่ต้องบอกเลยว่า ไม่มีอะไรเลยที่นิกายราชันย์มารจะเทียบได้!
ข้า!
หยวนเฟิง!
เทียบไม่ได้เลยจริง ๆ!
......
ด้วยการบำรุงหนอนกาลอากาศ เพื่อที่จะเชื่อมต่ออุโมงค์มิติไปยังพิภพเผ่าวิญญาณ เพื่อไปหยุดการโจมตี ทว่าก็ไม่สามารถรับประกันได้เช่นกันว่าจะทำได้ ดังนั้นจึงต้องเตรียมการรับมือเอาไว้ก่อน.
“เจ้าเมืองซุน.”
ภายในห้องโถง จุนซ่างเซียวที่ส่งศิลาวิญญาณเทียม 200,000 ออกมาให้ “นิกายนิรันดรจะเปิดเมืองการค้าขึ้นที่นี่ โปรดอนุญาตให้สร้างเมืองขึ้นที่ทะเลทรายเหลืองด้วย ที่แห่งนี้จะเป็นศูนย์ขายแร่ขนาดใหญ่.”
“เรื่องนี้.....”
ชายวัยกลางคนที่กลายเป็นเงียบไปในทันที.
เขามีนามว่าซุนซือเจิ้ง เป็นเจ้าเมืองหลวงต้าเทียน เป็นผู้ปกครองของจังหวัดเป่ยโม่แห่งนี้นั่นเอง.
ด้วยเปปป้าและหลี่ชิงหยางต้องการสร้างป้อมปราการณ์ขึ้น ทว่าที่นี่คือดินแดนของคนอื่น ๆ การจะสร้างเมืองต้องได้รับอนุญาตนั่นเอง.
ด้วยความแข็งแกร่งของจุนซ่างเซียวและนิกายนิรนดร สามารถที่จะข่มขู่อีกฝ่ายได้ ดังนั้นเจ้าเมืองซุนย่อมไม่กล้าขัด ทำได้แค่ตอบรับเท่านั้น.
“ต้องคิดอีกรึ?”
“ไม่ ไม่ ไม่เลย!”
เจ้าเมืองซุนที่รับหนึ่งแสนศิลาวิญญาณเทียมมาก่อนที่จะผลักกลับไป เอ่ยออกมาอย่างจริงจังว่า“ทะเลทรายเหลืองนั้นภูมิประเทศที่ย่ำแย่ไม่เหมาะที่จะอยู่อาศัย ในเมื่อเจ้านิกายคิดจะสร้างเมืองขึ้น แน่นอนว่าต้องใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก.”
“ตกลง.”
จุนซ่างเซียวยกมือประสาน “ขอบคุณเจ้าเมืองซุน!”
หลังจากอีกฝ่ายจากไป ซุนซือเจิ้งที่ส่ายหน้าไปมา เอ่ยออกมาว่า“ทะเลทรายเหลืองนั้นมีพายุทรายเกิดขึ้นตลอด เจ้านิกายจุนต้องการสร้างเมืองขึ้นที่นั่น นี่เขาไม่สบายอยู่รึ?”
......
ไม่กี่วันหลังจากนั้น.
หลี่ชิงหยางที่นำอุปกรณ์เครื่องมือไปยังทะเลทรายเหลือง พร้อมกับตรวจสอบ วางแผนสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้น.
“สร้างได้อิสระเลย.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
“ครับ!”
ด้วยเหตุนี้วัสดุก่อสร้างมากมาย จึงถูกส่งมายังทะเลทรายเหลือง.
เพราะว่าจะต้องสร้างป้อมปราการที่ทนทานและแข็งแกร่งขึ้น.
หลี่ชิงหยางที่รับผิดชอบในการก่อสร้าง เปปป้ารับผิดชอบเปิดพื้นที่ จุนซ่างเซียวเองก็ไม่ว่าง ได้สั่งหอค่ายกลทำการสร้างค่ายกลเคลื่อนย้าย เพื่อเชื่อมต่อไปยังนิกายนิรันดร เพื่อให้สามารถไปมา ได้อย่างรวดเร็ว.
“นี่คือโครงการใหญ่!”
เหล่าเจิ้นนำซ่างกวนซินเหยาและสมาชิก มาพร้อมกับเริ่มงานในทันที.
เพราะว่าทักษะมีจำกัด ระยะทางค่อนข้างไกล จึงต้องสร้างจุดเชื่อมต่อเป็นจุด ๆ ไป จนกระทั่งมาถึงจังหวัดเป่ยโม่.
“ถางจู่ฟ่าน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “อาวุธเหล่านี้จะต้องใส่จิตวิญญาณให้เร็วที่สุด.”
“อืม.”
ต้องไม่ลืมว่าฟ่านเย่จื่อที่ใส่จิตวิญญาณให้กับอาวุธเทวะให้กับพวกหลี่ชิงหยาง ทุก ๆ วัน แม้นว่าจะเหนื่อยล้า แต่กับมีความสุขเป็นอย่างมาก.
นิกายนิรันดรที่สงบก่อนหน้า ตอนนี้เริ่มวุ่นวายขึ้นมาทันที นั่นก็เพื่อเตรียมรับสงครามที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อนั่นเอง.
......
เวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว.
หนึ่งเดือนผ่านมา ทะเลทรายเหลือจังหวัดเป่ยโม่ ที่ปรากฏเมืองแห่งหนึ่งขึ้น หากมองแต่ไกลก็จะเห็นเป็นเหมือนกับราชสีที่กำลังหมอบอยู่บนทะเลทรายเหลือง.
ประตูขนาดใหญ่สี่แห่งสีทิศ มีอักขระ“เมืองนิรันดร” สลักเอาไว้.
“เจ้านิกาย.”
บนป้อมปราการหอคอย หลี่ชิงหยางเอ่ย “เมืองแห่งนี้ เพราะว่าใช้ป้องกัน ดังนั้นจึงมีพื้นที่อาศัยน้อย แต่มีค่ายทหารจำนวนมาก สามารถที่จะจุทหารหนึ่งล้านคนได้อย่างไม่มีปัญหา.”
“ไม่เลว ไม่เลว.”
จุนซ่างเซียวที่พยักหน้าอย่างพอใจ.
แม้นว่านิกายจะมีผู้จัดการมืออาชีพแล้ว ศิษย์ระดับสองก็ยังรักและจัดการเรื่องต่าง ๆ อย่างเป็นสุขและสมบูรณ์ ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง.