ตอนที่แล้วบทที่ 50 ผลวิเศษแห่งไท่อัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 52 พิทักษ์เกาะไท่อัน

บทที่ 51 ผลยิ้มหน้ามนุษย์


"ผลไท่อันที่ต้องส่งมอบตามกำหนดปีละ 30 ผล ที่เหลือสามารถเก็บไว้เอง ก็ถือเป็นสวัสดิการของตำแหน่งผู้พิทักษ์เกาะแล้ว"

"เฉลี่ยแล้วทุกปีจะเก็บผลไท่อันไว้ได้ 2 ผล ที่กระจกเทียนเสวียน ราคาผลไท่อันมักอยู่ราวๆ 90 ถึง 100 คะแนนผลงาน"

"ดังนั้น รวมๆ กันแล้ว ค่าตอบแทนของเพื่อนน้อยในฐานะรักษาการณ์ผู้พิทักษ์ก็ถือว่าไม่น้อยเลย" เหอเจิ้งเฮ่ายิ้มแย้มแนะนำให้หลี่ฟานฟัง

หลี่ฟานพยักหน้า ถึงแม้เหอเจิ้งเฮ่าจะใช้เล่ห์เหลี่ยมอยู่บ้าง แต่สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง

ในเกาะหมื่นเซียน ผู้ฝึกเซียนขั้นฝึกปราณผู้ที่มีรายรับปีละ 1000 คะแนนผลงานนั้นหาได้ยากยิ่งนัก

เรื่องนี้เหอเจิ้งเฮ่ากินเนื้อ พลอยให้หลี่ฟานได้ดื่มน้ำซุปไปด้วย

"ยังต้องขอบคุณท่านอาจารย์อีกมาก" หลี่ฟานกล่าวพร้อมกอดมือคำนับ

"พูดเรื่องอื่นดีกว่า เจ้าเป็นศิษย์ที่มาจากเกาะที่ข้าปกป้อง ข้าช่วยส่งเสริมเจ้าก็สมควรอยู่แล้ว เพียงต่อไปเมื่อเจ้าฝึกฝนมีความก้าวหน้า ก็อย่าทำให้ข้า...่" เหอเจิ้งเฮ่าพูดค้าง

เปล่งเสียง 'เอ่' เบาๆ ด้วยท่าทีแปลกใจ จ้องมองหลี่ฟาน "เจ้าทะลุด่านสู่ขั้นฝึกปราณระดับกลางแล้วหรือ?"

หลี่ฟานตกใจ ไม่คิดว่าแม้จะใช้ยันต์ซ่อนพลังแล้ว อีกฝ่ายยังสามารถมองเห็นได้

หลี่ฟานพยักหน้ารับตรงๆ ว่า "ใช่ ข้ากับเสี่ยวเฮิงมีความสนิทสนมกันมาก ก่อนที่เขาจะออกเดินทาง เขาได้ฝากคัมภีร์วิชาธาตุน้ำไว้ให้ข้าด้วย ข้ากับคัมภีร์วิชานี้เข้ากันอย่างยิ่ง ฝึกฝนแล้วก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เมื่อสองสามวันก่อนเพิ่งทะลุด่านพอดี"

"เอ้อ เพื่อนน้อยมีความระมัดระวังในการทำสิ่งต่างๆ สินะ หากไม่ใช่ว่าคัมภีร์วิชาของข้ามีความพิเศษ เกือบจะมองไม่ออกเลย ใช้ยันต์ซ่อนพลังใช่ไหม?"

หลี่ฟานพยักหน้า

"ก็น่าเข้าใจได้ อย่างไรก็ดีกว่าไม่ระวัง วงการเซียนนี่คนใจคดมีไม่น้อยเลยล่ะ..." เหอเจิ้งเฮ่าพูดอยู่ แต่พลันสังเกตเห็นสายตาของหลี่ฟานที่มองมาดูแปลกๆ รีบไอแก้เก้ออย่างกะทันหัน เปลี่ยนหัวข้อสนทนา "ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีความสัมพันธ์ดีกับเสี่ยวเฮิงถึงขนาดนั้น แม้กระทั่งฝากฝังคัมภีร์วิชาไว้ให้เจ้าด้วย"

"เสี่ยวเฮิงนี่เป็นคนที่มีพรสวรรค์โดดเด่นจริงๆ ฝึกฝนมาเพียงไม่กี่ปี ก็จะก้าวเข้าสู่ขั้นสร้างฐานได้แล้ว ช่างเป็นผู้ที่มีอนาคตไกลเหลือคณานับ!" เห็นได้ชัดว่าเหอเจิ้งเฮ่าให้ความสนใจเสี่ยวเฮิงมาโดยตลอด ตอนนี้พูดถึงก็รู้สึกซาบซึ้งและอิจฉายิ่งนัก

"ในอนาคตการก้าวสู่ขั้นแก่นทองคำ หรือแม้กระทั่งขั้นหล่อหลอมร่างทารกก็ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ เพื่อนน้อยเจ้ามีความสนิทชิดเชื้อกับเขาเช่นนี้ นับว่ามีวาสนายิ่งนัก"

เหอเจิ้งเฮ่ากล่าวด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นอย่างยิ่ง

"ได้พบกับท่านอาจารย์ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดียิ่งเช่นกัน" หลี่ฟานประจบสอพลอตามน้ำ

พอได้ยินดังนั้น เหอเจิ้งเฮ่าก็หัวเราะเสียงดัง ดูมีความสุขอย่างมาก

ในตอนนั้นเอง เขาหยุดฝีเท้า หันมองไปยังทิศทางใดทิศทางหนึ่งในเมือง "พอดีเลย ตอนนี้มีผลไท่อันหนึ่งผลสุกแล้ว ข้าจะสาธิตการเก็บเกี่ยวผลไท่อันให้เพื่อนน้อยดูสักหน่อย"

หลี่ฟานพยักหน้า เดินตามเหอเจิ้งเฮ่ามาที่หน้าเรือนหลังหนึ่ง

ยังไม่ทันเข้าไปในลานเรือน ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ครวญครางเป็นระยะๆ ดังออกมา

พอเดินเข้าไปด้านใน หลี่ฟานพบว่ามีผลไม้หน้ามนุษย์สิบกว่าผลคุกเข่าอยู่ในเรือน ทุกผลสวมชุดขาวไว้ทุกข์

ตรงกลางมีโลงศพ ซึ่งมีผลยิ้มหน้ามนุษย์ที่ดูเหมือนหลับอยู่นอนเอนตัวอยู่ในนั้น

ผลไม้นั้นหลับตา ปากเบี้ยวแสยะยิ้มแปลกประหลาด ร่างกายไม่ไหวติง

ผลไม้หน้ามนุษย์ทั้งหมดในเรือนไม่มีผลไหนรู้ตัวว่าหลี่ฟานและเหอเจิ้งเฮ่าเดินเข้ามา มีแต่คร่ำครวญเศร้าโศกในการจากไปของญาติ

ภาพที่ปรากฏตรงหน้านี้แลดูทั้งขบขันและสะพรึงกลัว

เมื่อเดินเข้าไปใกล้ หลี่ฟานได้กลิ่นหอมประหลาดลอยออกมาจากโลงศพ

เหอเจิ้งเฮ่ามายืนข้างโลงศพ ท่องบทอะไรบางอย่าง แล้วยื่นนิ้วจิ้มไปบนหน้าผากของผลยิ้มในโลงศพ

แสงนวลห่อหุ้ม ผลยิ้มค่อยๆ ลอยขึ้นจากโลง ลอยอยู่กลางอากาศ

จากนั้นก็ค่อยๆ หดตัวเล็กลง กลายเป็นผลไม้เม็ดเล็กๆ สีแดงสดเม็ดหนึ่ง

พร้อมกับการก่อตัวของผลไท่อัน ผลไม้หน้ามนุษย์ที่สวมชุดไว้ทุกข์เหล่านั้นก็เงียบกริบลงในพริบตา

ชุดขาวไว้ทุกข์บนร่างพวกมันค่อยๆ หายไป สีหน้าก็เปลี่ยนจากความเศร้าโศกเป็นงุนงงสับสน

เหม่อมองไปรอบตัวอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายพวกผลไม้เหล่านั้นก็กระจัดกระจายไปโดยไม่พูดอะไร

"เป็นอย่างไรบ้าง?" เหอเจิ้งเฮ่าส่งผลไท่อันให้หลี่ฟาน

"ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก" ภาพการเก็บเกี่ยวผลไท่อันนี้ทำให้หลี่ฟานรู้สึกขนลุกโดยไม่ทราบสาเหตุ ได้แต่ฝืนตอบไป

หลี่ฟานถือผลไท่อันเม็ดนี้อยู่ในมือ สังเกตอย่างพิถีพิถัน

ผลไม้นี้มีรูปร่างคล้ายกับแอปเปิ้ลในความทรงจำ เพียงแต่มีสีแดงจัดจนเกือบระคายตา

อีกทั้งมีกลิ่นหอมลอยออกมาจากผลไท่อันอย่างต่อเนื่องไม่หยุด

กลิ่นหอมนี้ราวกับจะแทรกซึมเข้าไปในจิตวิญญาณได้ หลี่ฟานได้กลิ่นแล้วอดกลืนน้ำลายไม่ได้

"เพื่อนน้อยเจ้ายังไม่เคยกินผลไท่อันใช่ไหม ลองชิมดูสักหน่อยเถอะ" เหอเจิ้งเฮ่าแนะนำ

"ของที่เพิ่มพูนอายุขัย ย่อมดึงดูดใจพวกเราผู้ฝึกเซียนโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ยิ่งอดทนได้นานเท่าไหร่ แรงดึงดูดก็ยิ่งแรงขึ้นไปอีก" เหอเจิ้งเฮ่าเห็นท่าทีลังเลของหลี่ฟาน ก็ยิ้มและเสริมขึ้น

แน่นอนว่ากลิ่นนั้นคล้ายกับจะมีผลสะสมได้ ยิ่งหลี่ฟานลังเลใจมากเท่าไหร่ กลิ่นก็ยิ่งฉุนขึ้นเท่านั้น

เมื่อกลิ่นหอมชวนเชื่อ ความหิวอย่างรุนแรงก็พลุ่งพล่านขึ้นมาจากส่วนลึกของจิตใจ

ดังนั้น หลังผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่ฟานไม่ลังเลอีกต่อไป กลืนผลไท่อันนี้ลงท้องไปทั้งผล

ความหิวหายไปในทันที ถึงแม้จะเป็นผลเล็กๆ แต่หลังจากหลี่ฟานกินเข้าไปแล้ว ก็เรอออกมาอย่างอิ่มหนำ เหมือนเพิ่งกินอาหารเต็มโต๊ะมาอย่างไรอย่างนั้น

หลี่ฟานตรวจดูแถบข้อมูล【หวนเจิน】 ของตัวเอง ก็พบว่าอายุขัยทางกายภาพเพิ่มขึ้น 5 ปีจริงๆ

หลี่ฟานความืออย่างเอร็ดอร่อย ลิ้มรสชาติผลไท่อัน "นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเจอของวิเศษเพิ่มพูนอายุขัย ช่างไม่ธรรมดาเลยจริงๆ แต่รูปลักษณ์มันแปลกไปหน่อย หน้าตาเหมือนคนเสียเหลือเกิน ดูแปลกๆ ชอบกล"

เหอเจิ้งเฮ่ายิ้มตอบ "ก็ผลไท่อันนี้กลายมาจากคนนี่นา ย่อมจะมีหน้าตาเหมือนคนอยู่แล้ว"

สีหน้าของหลี่ฟานชะงักค้างในทันที

หลี่ฟานข่มความปั่นป่วนในท้องลงไป ถามด้วยท่าทีตกตะลึงอย่างยิ่ง "ผลไท่อันทั้งเมืองนี้คือคนจริงๆ งั้นหรือ?"

เหอเจิ้งเฮ่าดูไม่ยินดียินร้ายกับปฏิกิริยาของหลี่ฟานเท่าไหร่

แต่ถึงอย่างไร หลี่ฟานก็เพิ่งเข้ามาในโลกเซียนได้ไม่นาน เขาพอเข้าใจได้ จึงอธิบายต่อ "พูดอย่างเคร่งครัดตามความหมายแล้ว ผลไท่อันก็คือผลไม้เท่านั้น ไม่ใช่มนุษย์"

หลี่ฟานได้ฟังก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกบ้าง แต่ยังคงมีความกังวลใจอยู่ "แล้วที่ว่ากลายมาจากคนนั่นหมายความว่ายังไง?"

"เรื่องนี้ก็ต้องย้อนไปถึงที่มาของผลไท่อันแล้วล่ะ" เหอเจิ้งเฮ่าพาหลี่ฟานเดินกลับขึ้นไปด้านบนของเมือง พลางกล่าว

"500 ปีก่อน เกาะไท่อันนี้ยังเป็นเพียงเกาะปกติธรรมดามากๆ เกาะหนึ่ง ทะเลรอบเกาะไม่มีของมีค่าอะไรเป็นพิเศษ บนเกาะก็มีเพียงชาวบ้านธรรมดาไม่กี่พันคนอาศัยอยู่ ใช้ชีวิตที่นี่สืบทอดกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า"

"เกาะเล็กๆ แบบนี้ในทะเลชงอวิ่นมีอยู่มากมาย"

"แต่ตั้งแต่วันหนึ่ง ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน"

"ช่วงแรกๆ ผู้คนบนเกาะรอบๆ พบว่า ช่วงนี้พบเห็นผู้อาศัยบนเกาะไท่อันน้อยลงไปมาก ก่อนหน้านี้เคยมีพ่อค้าจากเกาะมาค้าขายกันบ้าง แต่นี่ผ่านมาตั้งหนึ่งปีแล้ว ไม่เห็นร่องรอยของพวกเขาเลย"

"ด้วยแรงกระตุ้นจากความอยากรู้อยากเห็น ชาวเกาะจึงแล่นเรือมาสำรวจเกาะไท่อัน เพื่อหาคำตอบ"

"แต่ใครจะไปรู้ คนที่มาถึงกลับหายสาปสูญไปหมด"

"รู้ว่าเกิดปัญหาขึ้น ผู้คนรีบรายงานเรื่องนี้ไปยังผู้พิทักษ์เกาะในตอนนั้นทันที"

"คราวนั้น ผู้พิทักษ์เกาะก็เป็นผู้ฝึกเซียนขั้นแก่นทองคำแล้ว ถึงอย่างนั้น หลังจากได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเกาะไท่อัน เขาก็ยังจมอยู่ในความหวาดกลัวอย่างถอนตัวไม่ขึ้น"

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด