บทที่ 39 : เจ้าคู่ควรหรือ?
บทที่ 39 : เจ้าคู่ควรหรือ?
ในขณะนี้, ชายชุดดำสามคนก็เคลื่อนไหวทันที
แสงสีดำอันน่าสะพรึงกลัวสามดวงระเบิดออก เปล่งรัศมีอันน่าสะพรึงกลัวที่ทำให้ผู้คนตกตะลึง
บุคคลทั้งสามนี้รวมตัวกันและได้ก่อร้างสร้างรูปแบบการประสานงานที่เหนือชั้น
ใครก็ตามที่มีสายตาที่เฉียบคมก็จะรู้ได้ทันทีว่าหากผู้ต่อกรอยู่ระดับต่ำกว่าอาณาจักรพระราชวังสีม่วงย่อมไม่มีมิอาจสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น, เหตุผลที่เหล่าองค์ชายล้มเหลวในการโจมตีวังชั้นในนั้นก็เป็นเพราะชายชุดดำทั้งสามคนนี้
ผู้ผู้ฝึกตนครึ่งก้าวอาณาจักรพระราชวังสีม่วงทั้งสาม เกือบจะเรียกได้ว่าไร้เทียมทานในพระราชวังนี้เลยทีเดียว
เเละเมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้…..แม้แต่ดวงตาอันสวยงามของเซี่ยจือซวน ก็เผยให้เห็นถึงความจริงจังเช่นเดียวกัน
เนื่องจากข้อบังคับของราชวงศ์ ลุงจงจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างแน่นอน…..มิฉะนั้น หากมีการละเมิดกฎ, กลุ่มผู้ฝึกตนอาณาจักรพระราชวังสีม่วงของราชวงศ์ก็จะลงมือทันที
เเละในเวลานั้นเธอจะไม่มีโอกาสได้ขึ้นสู่ไปสู่จุดสูงสุด
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าเซี่ยจือซวนจะต้องพบกับจุดจบของเธอด้วยน้ำมือของชายทั้งสาม...
ทันใดนั้น ด้านหน้าของเธอก็มีสตรีถือดาบยาวปรากฏกายขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อทุกคนเห็นหญิงสาวผู้นี้ชัดๆเต็มสองตา…..พวกเขาต่างก็ตกตะลึงทันที
และเมื่อเย่ว์ไห่มองเห็นบุคคลนี้ ปากของเขาก็อ้าค้างจนพูดออกมาไม่ได้
“รู่ชวง! เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ขณะที่เขากำลังสับสนอยู่, เย่ว์รู่ชวงก็ได้เคลื่อนไหวเเล้ว
ดาบยาวของเธอกวาดไปมาในอากาศ…..ทันใดนั้นมันก็ตามมาด้วยเจตนาดาบอันน่าสะพรึงกลัวที่ทะยานพุ่งผ่านอากาศ
ฟ้าว~!
ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงครวญครางอู้อี้สามครั้งติดต่อกัน
ทุกคนที่สังเกตอย่างใกล้ชิดจะเห็นว่าผู้ฝึกตนทั้งสามทีเซี่ยหวู่เจี๋ยส่งมานั้น ล้วนถูกคมดาบของเย่ว์รู่ชวงสังหารจนหมดสิ้น
………..!!!!!
ฉากนี้ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างตกตะลึงพร้อมกันหมด
ใครจะไปจินตนาการได้ว่าผู้ฝึกตนครึ่งก้าวอาณาจักรพระราชวังสีม่วงทั้งสามคนจะถูกสตรีผู้นี้สังหารในดาบเดียว?
หากไม่ใช่เพราะรัศมีที่เล็ดลอดออกมาจากนาง….จนเห็นได้ชัดว่านางอยู่ในอาณาจักรปราการสวรรค์ขั้นที่เก้าเท่านั้น
พวกเขาคงจะคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญของอาณาจักรพระราชวังสีม่วงผู้ทรงอำนาจ
………
ณ ขณะนี้
เซี่ยหวู่เจี๋ย มองไปที่ลูกน้องของเขาที่ถูกสังหารด้วยความตกตะลึง
จากนั้นเขาก็หันมามองดูใบหน้าเย็นชาหากแต่งามประณีตของเย่ว์รู่ชวง
ในใจลึกๆของเขาอดรู้สึกหลงใหลอย่างช่วยไม่ได้
เขาหายใจเข้าลึกๆ….จ้องมองดูเย่ว์รู่ชวงแล้วพูดว่า
"แม่นาง, ข้าไม่รู้ว่าเซี่ยจือซวนเสนอผลประโยชน์อะไรเจ้าได้บ้าง…..เเต่ถ้าหากเจ้ายินดีที่จะย้ายมาร่วมกับเปิ่นหวาง, ข้าก็ยินดีที่จะมอบตำแหน่งฮองเฮาให้แก่เจ้า, และเรามาแบ่งปันเกียรติยศนี้ร่วมกัน”
“แม่นางคิดเห็นเช่นไร?”
เมื่อเขาตระหนักได้ว่าเขาได้พบสตรีที่ทำให้เขาตกอยู่ในห้วงอภิรมณ์…..ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะเสนอตำแหน่งฮองเฮาให้เธอ
อย่างไรก็ตาม, คำตอบที่เขาได้รับคือการที่เย่ว์รู่ชวงส่ายศีรษะโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอไม่เเม้เเต่จะมองเซี่ยหวู่เจี๋ยด้วยซ้ำ…..ทำราวกับว่าเขาไม่มีตัวตน
เในฐานะบุตรชายของฮองเฮา, เซี่ยหวู่เจี๋ยจะเคยประสบความอัปยศอดสูเช่นนี้ได้อย่างไร?
ใบหน้าของเขาในตอนนี้จึงน่าเกลียดเป็นอย่างมาก
น่าเสียดายที่เซี่ยจือซวน…..ไม่ได้ให้โอกาสเขาพูดมากกว่านี้
“เมืองหลวงทั้งหมดถูกล้อมและถูกกวาดล้างโดยเปิ่นกงแล้ว, ผู้ติดตามที่เจ้าไว้ใจก็ถูกเปิ่นกงสังหารหมดเเล้วเช่นกัน……เซี่ยหวู่เจี๋ย เจ้ามีอะไรจะพูดอีกไหม?”
เซี่ยจือซวนเยาะเย้ยเขาอย่างเย็นชา ……ไม่มีการแสดงความรักต่อพี่น้องเลยสักนิด
ในราชวงศ์, ความรักในครอบครัวเป็นเรื่องตลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
แม้แต่ระหว่างพ่อกับลูกมันยังเป็นไปไม่ได้…..ไม่ต้องพูดถึงพี่น้องต่างมารดาเลย
เเละเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เซี่ยหวู่เจี๋ยก็เงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะออกมา
"ฮ่าฮ่าฮ่า เซี่ยจือซวน เจ้าคิดว่าเจ้าชนะแล้วจริงๆงั้นหรือ”
“ท่านบรรพบุรุษ…..โปรดออกมาจัดการนังนี่ด้วยเถิด”
ด้วยคำพูดเหล่านี้, การแสดงออกของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันที
เเละทันใดนั้น, พวกเขาทุกคนก็สัมผัสพลังที่เพิ่มขึ้นได้อย่างกะทันหัน…..เเละพลังนี้เป็นเอกลักษณ์ของผู้ฝึกตนอาณาจักรพระราชวังสีม่วง
ต่อหน้าต่อตาทุกคน, ชายชราคนหนึ่งซึ่งอยู่ในขอบเขตอาณาจักรพระราชวังสีม่วงก็ได้บินลงมาจากท้องฟ้าและมายืนอยู่ต่อหน้าเซี่ยจือซวน
เมื่อเห็นชายชรา เซี่ยอู๋เจี๋ยก็รีบทำความเคารพเขาทันที
"ข้าขอคารวะ ท่านบรรพบุรุษ!"
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา, บรรพบุรุษเฒ่าก็เพิกเฉยต่อตัวตนของเขาและจ้องมองไปที่เซี่ยจือซวน
“ราชวงศ์ต้าเซี่ย, ไม่อาจให้สตรีถือครอง……เซี่ยจือซวน เจ้าไม่ควรมักใหญ่ใฝ่สูงเช่นนี้”
“จงปิดผนึกทักษะการต่อสู้ของเจ้าซะ…..และเตรียมตัวแต่งงานเชื่อมไมตรีกับราชวงศ์ต้าเสวี่ย!”
บรรพบุรุษเฒ่าไม่พูกฮั่มทำเพลง, เขาประกาศอนาคตและชะตากรรมของเซี่ยจือซวนโดยตรง
เเละเมื่อได้ยินสิ่งนี้…..ทุกคนรอบๆก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจพร้อมๆกัน
แน่นอนว่าไม่เคยมีผู้ใดในราชวงศ์ต้าเซี่ยให้สตรีก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดินี …….เเละเซี่ยจือซวนก็เหมือนจะไม่รู้ถึงการคงอยู่สัตว์ประหลาดเฒ่าประจำราชวงศ์!
ชั่วครู่หนึ่งพวกเขามองไปที่เซี่ยจือซวนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยรู้สึกเสียดาย
อย่างไรก็ตาม, เมื่อได้ยินคำพูดของบรรพบุรุษเฒ่า…..เซี่ยจือซวนกลับไม่ได้สนใจเขาเลยสักนิด
“คิดจะปิดผนึกทักษาะการต่อสู้ของข้า…..ฝันไปเถอะ”
“เซี่ยไห่ เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้รึว่าเจ้าคิดอะไรอยู่?”
“เหตุผลเดียวที่เจ้าอยากให้เซี่ยอู๋เจี๋ยขึ้นเป็นฮ่องเต้, ก็เพราะเขาและมารดาของเจ้ามาจากตระกูลเดียวกัน…..ตอนนี้เจ้าเลิกเสแสร้งแกล้งเป็นผู้ทรงธรรมได้แล้ว!”
เมื่อได้ยินคำตำหนินี้, เซี่ยไห่ก็เบิกตากว้างด้วยความโกรธ
เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้มาหลายปีแล้วนับตั้งแต่เขาประสบความสำเร็จในการทะลวงเข้าสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วง
เเต่ตอนนี้กลับมีผู้เยาว์กล้ามาตำหนิผู้อาวุโสเช่นเขาแบบนี้……นั่นยิ่งทำให้เขาโกรธเคืองมากขึ้นไปอีก
“นางแพศยา…..ไม่ว่าเจ้าจะพูดอะไร สตรีก็ไม่อาจขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้”
“นี่เป็นการตัดสินใจของข้าและเหล่าบรรพบุรุษ…..ผู้ฝึกตนอาณาจักรพระราชวังสีม่วงคนอื่นๆ ก็ไม่ยอมเช่นกัน”
“ในเมื่อเจ้าปฏิเสธที่จะปิดผนึกทักษะการต่อสู้…..ก็อย่าตำหนิบรรพบุรุษผู้นี้ที่ต้องลงมือ!”
หลังจากพูดจบ เขาก็ส่งเสียงคำรามดังๆออกมา
จากนั้นมือใหญ่ของเขาก็เอื้อมมือไปเบื้องหน้า ควบแน่นพลังงานวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนและคว้าไปทางเซี่ยจือซวน
ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวของอาณาจักรพระราชวังสีม่วงปะทุขึ้น เเละกดลงบนร่างกายของเซี่ยจือซวนจนทำให้เธอรู้สึกถึงความกดดันอันมหาศาล
ภายใต้แรงกดดันของอาณาจักรพระราชวังสีม่วง, แม้แต่การต่อต้านหรือการเคลื่อนไหวก็กลายเป็นเรื่องยากมากสำหรับเธอ
ในขณะที่มือใหญ่กำลังจะคว้าตัวเซี่ยจือซวน ในยามนี้เย่ว์รู่ชวงก็ได้เคลื่อนไหวเเล้ว
ดาบของเธอตัดผ่านในเเนวนอน ปราณดาบหลุดออกจากฝัก และเสียงหวีดหวิวของคมดาบที่พัดผ่าอากาศก็ดังกึกก้องในหูของทุกคน
พร้อมกับเสียงดังนี้, ทุกคนก็เห็นว่าดาบของเย่ว์รู่ชวงฟันทะลุผ่านฝ่ามือนี้โดยตรง
ฝ่ามือพลังวิญญาณแตกหัก, ปราณดาบอันคมกริบอย่างน่าอัศจรรย์ได้ส่งผลให้เซี่ยไห่ผละมือจากเป้าหมายและหันไปจ้องมองนางแทน
“เย่ว์รู่ชวง…..เจ้าช่างน่าสนใจนัก”
“หลังจากผ่านไปหลายปี ในที่สุดเจ้าก็สามารถหาวิธีที่จะทะลวงผ่านอาณาจักรควบแน่นแกนกลางได้จริงๆ”
ในฐานะอัจฉริยะชั้นนำของต้าเซี่ยเเละเป็นผู้ที่ได้รับการเลือกจากเมืองโบราณชางหยวนให้เป็นนักบุญหญิงในอดีต…..เซี่ยไห่จึงรับรู้ถึงตัวตนของเย่ว์รู่ชวงและเขายังเคยไปพบเธอโดยเฉพาะอีกด้วย!
เเต่เมื่อได้ยินคำพูดของเขา…. การแสดงออกของเย่ว์รู่ชวงก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น
บนใบหน้าที่สวยงามของเธอจ้องมองไปที่เซี่ยไห่เเละเธอก็พูดอย่างสงบ
"ข้าแนะนำให้ท่านหยุดเสียตั้งแต่ตอนนี้…..มันยังพอมีทางคุยกันได้"
เมื่อได้ยินสิ่งนี้เซี่ยไห่ก็โกรธขี้นอีกครั้ง
"หยิ่งผยองนัก, ข้ายอมรับว่าเจ้ามีพรสวรรค์อยู่บ้าง…..แต่น่าเสียดายที่เจ้ายังไม่ทะลุผ่านอาณาจักรพระราชวังสีม่วง, ดังนั้นการปราบปรามเจ้า สำหรับข้านั้นง่ายพอๆกับพลิกฝ่ามือ”
“คุกเข่าลง!”
หลังจากพูดแล้วด้วยความโกรธ เขาก็เคลื่อนไหวทันที
พลังอันน่าสะพรึงกลัวของอาณาจักรพระราชวังสีม่วงปะทุขึ้นอย่างสมบูรณ์ในยามนี้
แรงผลักดันนี้น่ากลัวจนทำให้ผู้คนต่างถอยหนี…..เพราะพวกเขากลัวว่าจะได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ของทั้งสองคน
อย่างไรก็ตาม เมื่อแรงผลักดันนี้ไปถึงเย่ว์รู่ชวง มันก็ถูกทำลายสิ้นซากด้วยเจตนาดาบอันน่าสะพรึงกลัวที่ปลดปล่อยออกมาจากเธอ
“ปราบข้า?.....คิดว่าเจ้าคู่ควรหรือ?”
หลังเสียงเย็นชาของเย่ว์รู่ชวงก้องกังวาน
ในช่วงเวลาถัดมาร่างอันสง่างามก็ทะยานขึ้นไปในอากาศ และทำการโจมตีเซี่ยไห่โดยตรง!
………………………