ตอนที่แล้วChapter 1085 นักสืบขึ้นสู่เวที
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1087 เจ้ายังมีศักดิ์ศรีเป็นเผ่าวิญญาณหรือไม่?

Chapter 1086 หันหน้ากลับมา.


“ลึกล้ำขนาดนี้เลยรึ?!”

ระหว่างทางไปยังจังหวัดเป่ยโม่ ฟางหลิงยวีที่ยากจะสะกดความตื่นเต้นเอาไว้ได้.

นางที่ถูกเฉือนข้อมือโดยลู่เชียนเชียน จุดตานเถียนก็ถูกทำลาย ไม่สามารถบ่มเพาะได้อีกแล้ว.

ทว่าหลังจากดูดซับพลังบ่มเพาะอาจารย์ พลังก็ฟื้นคืนมาช้า ๆ แม้แต่เหนือกว่าระดับจักรพรรดิยุทธ์ด้วยซ้ำ!

“สาวน้อย.”

เผ่าวิญญาณหมายเลขสามเอ่ย “หากไม่เพราะว่าเจ้าถูกทำลายพลังบ่มเพาะ ดูดซับพลังวิญญาณปราชญ์ยุทธ์ คงจะได้ประโยชน์มากกว่านี้.”

ฟางหลิงยวีที่ดวงตาร้อนขึ้นมาทันที.

ทรัพยากรที่ได้รับจากนิกายไท่เสวียนเซิ่ง ไม่ได้ทำให้ยกระดับได้รวดเร็วขนาดนี้เลย การดูดซับพลังของคนอื่น ๆ เพื่อยกระดับ เรื่องเช่นนี้ทำให้นางรู้สึกราวกับฝันไป!

“ข้าสามารถก้าวถึงครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ แม้แต่ระดับปราชญ์ยุทธ์ใช่ใหม?”

“ด้วยการมีข้าช่วย สามารถก้าวไปถึงระดับราชันย์ยุทธ์ก็ไม่มีปัญหา!”

ฟางหลิงยวีดีใจเป็นอย่างมาก.

“แน่นอน.”

เผ่าวิญญาณหมายเลขสามยังคงกล่าวเสริม “หากเจ้าต้องการยกระดับเร็ว ต้องดูดพลังให้มากกว่านี้ ทางที่ดีควรเป็นคนที่มีพลังบ่มเพาะมากกว่า!”

แน่นอนว่าเป้าหมายแท้จริงก็คือเปลี่ยนจากกาฝากให้กลายเป็นโฮสน์ ยิ่งร่างโฮสน์มีพลังบ่มเพาะสูงเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อมันเป็นอย่างมาก.

เผ่าวิญญาณหมายเลขหนึ่งก็ได้ล้างสมองไต่ลู่เช่นนี้เหมือนกัน.

ทว่าชายหมวกเขียวนั้นไม่ต้องการทำร้ายผู้บริสุทธิ์ จึงยกระดับพลังบ่มเพาะโดยเล็งเหยื่อไปที่สัตว์ร้าย ต้นไม้ใบหญ้าเท่านั้น.

ฟางหลิงยวีนั้นแตกต่าง.

นางที่สังหารได้แม้แต่คนที่เลี้ยงดูตัวเองมา เห็นชัดเจนว่านางเป็นคนที่มีจิตใจชั่วร้ายอมหิตเป็นทุนอยู่แล้ว.

ดังนั้น ระหว่างเส้นทางที่ไปยังจังหวัดเป่ยโม่ นางได้ดูดซับพลังของผู้ฝึกยุทธ์คนแล้วคนเล่า ทำให้พลังบ่มเพาะของนางเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง.

ลู่เชียนเชียน!

ข้ามีพลังแล้ว ข้าจะเอาคืนเจ้าอย่างแน่นอน.

ภายในใจของฟางหลิงยวีที่เต็มไปด้วยความแค้น ทำให้นางไม่สนใจผู้บริสุทธิ์แม้แต่น้อย นางจะทำทุกทางเพื่อให้นางแข็งแกร่งขึ้น.

ในเวลานั้นบนท้องฟ้า ปรากฏริ้วแสงที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง เพราะว่าได้เบาะแสจากหอฝนพรำ ทำให้จุนซ่างเซียวพุ่งตรงมายังจังหวัดเป่ยโม่ทันที.

“เผ่าวิญญาณหมายเลขสาม จะต้องไปยังพื้นที่ผนึกค่ายกลอย่างแน่นอน ข้าสามารถไปรออีกฝ่ายที่นั่นได้เลย.”

“ฟิ้ว---”

บนท้องฟ้า จุนซ่างเซียวที่กำลังเดินทางอยู่นั้น.

ขณะรอการมาถึงของอีกฝ่าย เขาที่ได้นั่งสมาธิรอในจุดที่ซ่างกวนซินเหยาเคยติดตั้งค่ายกลก่อนหน้านี้.

“ฟู่ ฟู่!”

สายลมที่โกรกพัด ฝุ่นทรายที่ลอยละล่องไปทั่ว.

เพราะว่าโกวเซิ่งไม่ได้โคจรพลังวิญญาณปกป้อง ทำให้เขาได้กลายเป็นรูปปั้นทรายนั่งสมาธิในจุดดังกล่าว.

“ซ่า ซี่ ซา!”

“ซ่า ซี่ ซา!”

ไม่รู้ว่าผ่านมานานเท่าใด ฟางหลิงยวีที่ผ่าพายุทรายมา พร้อมกับเอ่ยถาม “อาวุโส ที่นี่รึ?”

“ไม่ผิด.”

เผ่าวิญญาณหมายเลขสามที่ตื่นเต้นเล็กน้อย.

เขารู้สึกว่านี่คือค่ายกลที่ราชันย์ค่ายกลได้ติดตั้งไว้ ขอเพียงทะลวงมันได้ เขาก็จะกลับแผ่นดินของตัวเองได้ ด้วยทักษะเทวะพิเศษจะทำให้เขาคืนกลับสภาวะที่แข็งแกร่งที่สุดได้ จากนั้นค่อยกลับมาที่นี่อีกครั้ง!

“แล้วข้าต้องทำอย่างไร?”ฟางหลิงยวีเอ่ย.

นางที่ถูกล้างสมองไปอย่างสมบูรณ์แล้ว สิ่งที่นางคิดมีเพียงแค่ผลประโยชน์ที่นางจะได้เท่านั้น.

แน่นอน.

ถึงแม้นว่านางจะรู้ว่า สิ่งที่นางทำนั้นอาจจะทำให้ทั่วทั้งทวีปประสบภัยพิบัติทั่วแผ่นดิน นางก็ไม่ลังเล เพราะว่าความปลอดภัยของโลกเกี่ยวอะไรกับข้า ข้าต้องการแข็งแกร่ง ต้องการเหยียบย่ำลู่เชียนเชียนให้อยู่แทบเท้าก็เท่านั้น!

“เจ้าเข้าไปอีก.”

หมายเลขสามเอ่ย “ข้าจะต้องปลดค่ายกล!”

“ตกลง!”

ฟางหลิงยวีก้าวเข้าไปอีก.

ในเวลานั้นนางที่ก้าวเดินไปพร้อมกับยืนอยู่ใกล้ ๆ ก้อนหินก้อนหนึ่ง.

“สาวน้อย!”

เผ่าวิญญาณหมายเลขสามเอ่ย “ให้ข้าควบคุมร่างเจ้า ข้าจะช่วยเจ้าเปิดค่ายกลให้ได้รับสมบัติที่ยิ่งใหญ่เทียมสวรรค์และปฐพี!”

สมบัติที่ยิ่งใหญ่เทียมสวรรค์และปฐพี?

ฟางหลิงยวีที่แววตาลุกโชนด้วยเปลวเพลิง พร้อมกับผ่อนคลายจิตใจ.

แม้นว่านางจะเป็นคนที่โหดเหี้ยมอมหิต ทว่าความฉลาดดูเหมือนว่าจะด้อยกว่าไต่ลู่เล็กน้อย อย่างน้อยก็ไม่สามารถตระหนักได้ว่า วิญญาณที่สิงร่างนางนั้นมีเจตนาร้าย.

“ฟู่ ฟู่!”

พลังสีเขียวที่สาดกระเซ็นไปทั่วทุกสารทิศ ปกคลุมพื้นทรายเอาไว้.

ฟางหลิงยวีที่ถูกควบคุม ดวงตาของนางที่ค่อย ๆเปลี่ยนไป

“อิ อิ อิ!”

เผ่าวิญญาณหมายเลขสามที่เผยยิ้มอย่างแปลกประหลาด“นั่งมนุษย์ผู้หญิงนี้หลอกง่ายจริง ๆ ไม่ต้องพยายามควบคุมร่างกายเลย ขอเพียงทะลวงค่ายกล กลับแผ่นดินเผ่าวิญญาณได้ ถางจู่จะกลับมาอีกครั้ง จะทำให้โลกนี้หายไปเลย!”

“เจ้าเกลอ.”

“หันหน้ากลับมา.”

เผ่าวิญญาณหมายเลขสามที่หัวเราะแปลก ๆ ชะงักตะลึงงัน ก่อนที่จะหันหน้ากลับไปโดยไม่ได้ตั้งใจ.

“แปะ!”

จุนซ่างเซียวที่ถือท่อดูด พร้อมกับประทับไปยังใบหน้าอีกฝ่าย เอ่ยออกมาว่า“คิดจะกลับแผ่นดินเผ่าวิญญาณารึ? เจ้าฝันกลางวันอยู่ชัด ๆ!”

เผ่าวิญญาณหมายเลขสามที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดี เวทย์เปลี่ยนรูป เครื่องดูดฝุ่น โหมดที่แข็งแกร่งที่สุดก็ดูดร่างวิญญาณออกมาจากร่างฟางหลิงยวีทันที ก่อนที่จะผนึกเอาไว้ในถังเก็บฝุ่น.

“ฟิ้ว!”

จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา เอ่ยออกไปว่า“เสร็จไปอีกหนึ่ง.”

ด้วยเหตุนี้ เผ่าวิญญาณที่น่าพรั่นพรึง เกือบทำให้โลกพังทลาย ตอนนี้ถูกจัดการไปสามตนแล้ว.

เผ่าวิญญาณหมายเลข 1 เผ่าวิญญาณหมายเลขสอง  แน่นอนว่าคงจะดูแคลนอย่างแรงแน่ว่าโดนจัดการง่ายไปไหม ต้องไม่ลืมว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่งไม่น้อย หนึ่งในนั้นเป็นถึงผู้ยิ่งใหญ่ที่จังหวัดตงไห่ยวีเลย.

หากแต่เผ่าวิญญาณก็เหมือน ๆ กัน.

ถูกจัดการไปทั้งหมดเช่นเดิม.

“พรึด โครม!”

ฟางหลิงยวีที่ทรุดลงไปนอนบนพื้น แววตาค่อย ๆ กลับมามีประกาย ทันใดนั้นนางก็รู้สึกหนาวนสะท้านไปทั้งร่าง ก่อนที่จะพบอะไรบางอย่าง ที่ทำให้ตัวเองต้องตกใจ....คาดไม่ถึงว่าร่างของนางจะเปลือยเปล่า!

เกิดอะไรขึ้น? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?

ในเวลานั้น! ฟางหลิงยวีก็พบจุนซ่างเซียวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ และถืออาวุธที่แปลกประหลาดอยู่.

“ฆ่าได้แม้แต่อาจารย์ของตัวเอง เจ้ามันปิศาจชั่วร้าย สุดอมหิต”โกวเซิ่งที่นำดาบมังกรเขียวออกมา เพราะว่าอำนาจความเที่ยงธรรมของปรมาจารย์กวน เหมาะที่จะใช้ลงโทษผู้เยาว์ใจมารอย่างยิ่ง!

“เจ้า...เจ้าต้องการอะไร!”

ฟางหลิงยวีที่แววตาตื่นตะลึง สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความตายที่แผ่เข้ามา.

“ฟิ้ว!”

จุนซ่างเซียวที่เหวี่ยงดาบ ฝุ่นทรายที่ลอยฟุ้ง ก่อนที่จะมาวางพาดบนคอของนาง.

“เชียนเชียนไม่สังหารเจ้า เปิ่นจั้วจึงต้องมาด้วยตัวเอง.”

จุนซ่างเซียวทีเอ่ยออกมาเล็กน้อย เหมือนกับนักฆ่าที่ไร้ความรู้สึกใด ๆ.

“.....เจ้านิกายจุน...อย่าสังหารข้า....”ฟางหลิงยวีที่กล่าวเสียงสั่น แม้แต่ร้องเสียงดังในใจ ให้อาวุโสที่อยู่ในร่างออกมาช่วย ทว่ากับไร้ซึ่งเสียงตอบรับ แววตาของนางที่สิ้นหวังเป็นอย่างมาก.

ข้ายังสาว!

ข้าตายไม่ได้!

นางตอนนี้ต้องการมีชีวิต แม้แต่คุกเข่าลงบนพื้น ขอร้อง “เจ้านิกายจุน! ขอเพียงท่านไว้ชีวิตข้า ข้ายินดีเป็นวัวเป็นควาย เป็นสาวใช้เป็นทาส รับใช้ทานชั่วชีว.....”

“พรึด ซี่ -----”

ริ้วดาบที่ตวัดผ่าน ฝุ่นทรายที่ลอยคลุ้ง.

โลหิตที่สาดกระจายไปทั่วผืนทรายเช่นกัน.

“พรึด โครม! โครม!”

ร่างและศีรษะของฟางหลิงยวีที่หล่นลงพื้น แววตาที่ยังเผยท่าทางขอความเมตตาอยู่.

กับการกระทำของนางที่ไม่สามารถที่จะไว้ชีวิตได้เลย.

จุนซ่างเซียวที่สะบัดโลหิตออกจากใบดาบ เอ่ยออกมาเล็กน้อย “บิดาไม่ขาดวัวควายรับใช้ แม้แต่สาวใช้ก็ตาม.”

“โฮสน์ไม่ได้ขาดอะไร”ระบบที่กล่าวล้อ “สิ่งที่ขาดคือเชาว์อารมณ์(อีคิว)ไงล่ะ.”

......

“ฟู่ ฟู่!”

“ฟู่ ฟู่ ซูมมมม!”

เปลวเพลิงที่ลุกโชน เผาไหม้ร่างของฟางหลิงยวีให้ไหม้กลายเป็นเถ้า.

ครั้งนี้ตายจริง ๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะกลับมาสร้างปัญหาได้อีกแล้ว.

“ฟิ้ว!”

จุนซ่างเซียวที่เก็บดาบมังกรเขียว.

ขณะจะจากไป ทันใดนั้นต้องหยุดชงักลง ก่อนที่จะหันหน้าไปมองค่ายกล ที่พลังดูเลือนลางมืดมัวสั่นเป็นระลอกเล็กน้อย.

“นี่มัน....”

จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา เอ่ยออกไปว่า“เผ่าวิญญาณอีกฝั่งกำลังทะลวงค่ายกลอย่างงั้นรึ?”

......

“เยี่ยม!”

ทวีปของเผ่าวิญญาณ ที่อีกฝั่งของทางเชื่อมมิติมายังทวีปชิงหยุน เผ่าวิญญาณคนหนึ่งที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ“ถางจู่ห้าฟื้นคืนสติแล้ว หากพวกเราร่วมมือโจมตีจากด้านในและด้านนอกจะต้องทะลวงค่ายกลได้แน่!”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

“ท้ายที่สุดก็ไม่ต้องส่งมอบศีรษะให้กับจักรพรรดินีแล้ว!”

เหล่ายอดฝีมือเผ่าวิญญาณต่างก็ตื่นเต้นดีใจ.

อย่างไรก็ตาม พวกเขาคงคาดไม่ถึง ถางจู่ห้าของพวกเขาที่ฟื้นคืนสตินั้น ยังไม่มีโอกาสร่วมมือทะลวงจากด้านในแต่อย่างใด เพราะว่าตอนนี้ได้ถูกจุนซ่างเซียวจับตัวไปแล้ว.

เพราะความวิตกที่ถูกจักรพรรดินีเหม่ยกุ้ยกดดัน ทำให้พวกเขาต้องเร่งมืออย่างหนัก จนทำให้โกวเซิ่งมาพบปัญหาเข้า ในเวลานั้นเขาที่สีคางไปมาคุยกับตัวเอง “ค่ายกลนี้มีพลังผันผวนดูไม่เสถียรแล้ว คงต้องให้ซินเหยามาตรวจสอบดูแล้วว่ากำลังมีใครทะลวงเข้ามาหรือไม่?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด