Chapter 1077 เรื่องของพวกเราเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
แท่นบูชา.
ต้าจวีซือที่ยืนอยู่ด้านหน้า ลูกโลกวิญญาณ จ้องมองการปะทุของคลื่นสัตว์อสูร ใบหน้าแทบทรุดลงในทันที“ทำไมฝูงสัตว์ร้ายถึงโผล่ที่จังหวัดซีเหนียนหยางกัน!”
“กล่าวให้ถูกต้อง!”
ชายชราเอ่ยกล่าวอย่างจริงจัง “อยู่ที่มนทลชิงหยาง!”
“มนทลชิงหยาง?”
ต้าจวีซือที่ผ่อนคลายลง กล่าวออกมาว่า“ที่นั่นมีนิกายนิรันดร มีเจ้านิกายจุน ปัญหาคงไม่ใหญ่.”
ในอดีตก็เคยมีคลื่นสัตว์เกิดขึ้นที่มนทลชิงหยางเช่นกัน.
ในเวลานั้นวุ่นวายไปทั้งโลก เหล่ายอดฝีมือที่เร่งรีบเดินทางด้วยความเร็วพุ่งออกไป ท้ายที่สุดก็พบว่า....ฝูงสัตว์ได้ถูกไล่ออกไปแล้ว.
หากเป็นสถานที่อื่น อาจะทำให้ต้าจวีซือร้อนใจได้.
การที่คลื่นสัตว์เกิดขึ้นที่มนทนชิงหยางทำให้เขาเบาใจ เพราะจุนซ่างเซียวคนผู้นี้ไม่ธรรมดา สามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน.
“ไม่ได้การแล้ว!”
ใครคนหนึ่งที่ตื่นตกใจเอ่ยออกมาว่า“ฝูงสัตว์เคลื่อนไหวไปยังจังหวัดอื่น!”
ต้าจวีซือที่จ้องมองลูกโลก สัญญาณคลื่นสัตว์ที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วจริง ๆ ตอนนี้กำลังออกจากจังหวัดซีเหนียนหยางแล้ว.
กำลังจะไปที่ใดกัน?
“ต้าจวีซือ!”
ยอดฝีมือคนหนึ่งเร่งรีบเอ่ยออกมา“เพิ่งได้รับข่าวว่า เจ้านิกายนิรันดร์ตอนนี้กำลังโจมตีนิกายไท่เสวียนเซิ่ง!”
ในแผ่นดินใหญ่ นิกายใหญ่ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในความแข็งแกร่งของแผ่นดิน ดังนั้นหากว่ามีปัญหาอะไร จะต้องได้รับข่าวมาในทันที.
ต้าจวีซือที่ใบหน้าเปลี่ยนสี สายตาที่จ้องมองลูกโลก สัญญาณเตรียมที่กำลังเคลื่อนที่ ราวกับนึกอะไรได้ กล่าวด้วยความตกใจ“เส้นทางนี้....คลื่นสัตว์ไม่ใช่ว่ากำลังจะไปโจมตีนิกายไท่เสวียนเซิ่งหรอกรึ?!”
“ต้าจวีซือ!”
ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งที่เข้ามารายงานอย่างรวดเร็ว “มีข่าวส่งมาจากจังหวัดซีเหนียนหยาง ศิษย์นิกายนิรันดรขี่ฝูงสัตว์อสูรฝูงใหญ่ กำลังเร่งรีบออกไปด้วยความเร็ว!”
เหล่านักบวชที่ได้ยินต่างก็สั่นสะท้าน กล่าวออกมาด้วยความตกใจ “นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”
......
“ตูมมมม!”
“ตูมมมม!”
“ตูมมมม!”
ด้านนอกนิกายไท่เสวียนเซิ่ง จุนซ่างเซียวและหลานจิงติงที่กลายเป็นริ้วแสง ปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง เกิดระเบิดดังกึกก้อง คลื่นสะท้อนที่พวยพุ่งกระเซ็นไปทุกที่.
มิติของทวีปชิงหยุนนั้นไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับพิภพสงคราม ไม่สามารถทนการต่อสู้ระดับนี้ได้ ในเวลานี้ไม่ต่างกับหายนะแน่นอน.
ห้องโถงนิกายที่ยังคงอยู่ชั่วคราว เจ้านิกายไท่เสวียนเซิ่งและเหล่าคนระดับสูงจ้องมองอย่างตะลึงงัน แววตาที่เผยความหวาดกลัวออกมา.
ไท่จางเหล่า.
คนที่แข็งแกร่งที่สุดในนิกาย!
ต่อสู้กับจุนซ่างเซียวนานขนาดนี้ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบแม้แต่น้อย.
เกี่ยวกับคน ๆ นี้ เกี่ยวกับนิกายนิรันดร พวกเขาต่างก็ได้ยิน ฝ่ายตรงข้ามที่ได้ชนะเลิศผู้นำพยัคฆ์มังกร เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเขา อย่างดีที่สุดก็เป็นเพียงแค่นิกายที่มีศักยภาพที่ดีเท่านั้น.
อย่างไรก็ตาม.
เหตุการณ์ที่พิภพสงคราม พวกเขาที่สร้างฐานที่มั่นระดับนครได้ สังหารยอดฝีมือมากมายจนพิภพต่าง ๆ หวาดผวา ตอนนี้ยังต่อสู้ได้อย่างไม่เสียเปรียบกับไท่จางเหล่า เรื่องนี้......เขาแข็งแกร่งขนาดนี้เลยอย่างงั้น!
“ข้า....ข้าพูดอะไรผิดอย่างงั้นรึ?”
เซี่ยซุยอวิ๋นในอ้อมกอดของซูเซียวโม่ ที่จ้องมองการต่อสู้ที่รุนแรง ใบหน้าของนางที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด.
ก่อนหน้านี้ หากนางตอบตกลงแต่งงาน เรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้น ทว่านางกับเอ่ยถึงเรื่องลู่เชียนเชียน ทันใดนั้นทุกอย่างก็กลับตาลปัตรไปในทันที.
ซูเซียวโม่ส่ายหน้าไปมา “ศิษย์พี่หญิงใหญ่คือศิษย์ลำดับหนึ่งของนิกาย มีความสำคัญทางใจกับเจ้านิกายมาก ถึงแม้นว่าจะถูกไล่ออกไปแล้ว แต่เรื่องที่นางถูกทำลายพลังบ่มเพาะก่อนหน้านี้ คงทำให้เจ้านิกายไม่ยอมแน่.”
“ศิษย์พี่หญิงใหญ่ที่เจ้าเอ่ยก็คือลู่เชียนเชียนงั้นรึ?”
“อืม.”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่นึกถึงสตรีที่เย็นชา ก็สั่นสะท้านขึ้นมา“ที่แท้ก็เป็นศิษย์พี่ลู่เองรึ?”
ศิษย์หลักที่มากพรสวรรค์ของนิกายไท่เสวียนเซิ่งในอดีต เป็นลู่เชียนเชียนนั่นเอง สำหรับศิษย์สายนอกแล้วถือว่าเป็นคนที่ทุกคนนับถือ ไม่เว้นแม้แต่นาง ครั้งหนึ่งนางที่รวบรวมความกล้าไปขอปรึกษาเรื่องวิถียุทธ์ด้วยเช่นกัน.
“นางสบายดีรึ?”
ซูเซียวโม่ที่ก้มหน้า กุมมือของนาง “หากเจ้าต้องการพบนาง ข้าสามารถนำเจ้าไปยังนิกายนิรันดรได้.”
ต่อหน้าการต่อสู้ที่รุนแรงหนักหน่วง ยังคิดที่จะจีบนางอยู่ ไม่เสียแรงที่ได้รับการสั่งสอนจากเหล่าเหว่ย.
ทันใดนั้นเซี่ยซุยอวิ๋นที่ตาขมึงทึง เร่งรีบสลัดตัวเองออกมา รักษาระยะห่างจากเขา ใบหน้ากลายเป็นเย็นชา“เจ้านิกายของเจ้า ตอนนี้เปิดศึกกับนิกายของข้าแล้ว เวลานี้พวกเราคือศัตรูกัน!”
“......”
ซูเซียวโม่ยกมือขึ้นกุมหน้าอก เอ่ยออกมาอย่างเศร้าสร้อย“เรื่องของพวกเขา พวกเราไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว!”
เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ย “นับจากวันนี้ เจ้าและข้าสองคนไม่เกี่ยวข้องกันอีก ครั้งหน้าที่เจอกันมีเพียงเจ้าหรือข้าเท่านั้นที่มีชีวิตรอด!”
“......”
ใบหน้าของซูเซียวโม่ที่กลายเป็นบิดเบี้ยวเล็กน้อย.
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้น เขาพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกอดเซี่ยซุยอวิ๋นเอาไว้.
ทว่านางที่ทั้งโกรธและอาย รวมพลังฟาดไปที่หน้าอกของอีกฝ่าย.
“ตูมมมม! ตูมมมม!”
พลังโจมตีที่รุนแรง ซูเซียวโม่ที่กระเด็นกระแทกก้อนหินใหญ่ พร้อมกับกระตุ้นพลัง กระอักโลหิตออกมา.
เซี่ยซุยอวิ๋นที่ตระหนักได้ว่าก่อนหน้านี้ นางไม่ได้ตั้งใจ ทว่าเพียงแค่ต้องการป้องกันตัวเอง ดังนั้นจึงเอ่ยออกมาว่า“เจ้า...เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ซูเซียวโม่กล่าวเสียงแผ่ว “หากเจ้าต้องการลงมือ ก็ทำเถิด!”
“ข้า....”
ดวงตาของเซี่ยซุยอวิ๋นที่น้ำตาคลอเบ้า.
ทั้งที่ชายคนนี้เป็นพวกหลอกลวง เห็นชัดเจนว่านางเกลียดเขา ทำไมนางที่ทำร้ายเขา จะต้องเจ็บปวดหัวใจด้วย.
ซูเซียวโม่“ข้า....หากว่าข้าต้องตกตายด้วยน้ำมือเจ้า ข้าก็ยินดี.”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่ยืนชะงัก ภายในใจที่ขัดขืน.
แม้นว่าหน้าตาของเขาจะเปลี่ยนไป น้ำเสียงและท่าทางก็ยังเป็นซูจินถัง เป็นโกวเซิ่งไม่ใช่รึ?
......
สถานการณ์ของทั้งสองที่อยู่ในภาวะอักอ่วน บนท้องฟ้าการต่อสู้ยังคงรุนแรง จุนซ่างเซียวและหลานจิงติงยังคงปะทะกันอยู่.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
เจ้านิกายไท่เสวียนเซิ่งและเหล่าคนระดับสูงไม่สามารถเป็นเพียงผู้ชมได้อีกต่อไป พวกเขาที่ปะทุพลังบ่มเพาะบินขึ้นไป.
เพื่อที่จะเข้าจัดการจุนซ่างเซียว.
เพื่อปกป้องนิกาย พวกเขาย่อมไม่สนว่าจะถูกดูแคลนว่าหมาหมู่!
“ซุยอวิ๋น.”
อาวุโสเซี่ยที่แค่นเสียงเย็นชา “รีบกลับมา!”
เซียซุยอวิ๋นที่ผละจากซูเซียวโม่ ก่อนที่จะพุ่งตรงไปยังนิกายไท่เสวียนเซิง.
ขณะที่นางก้าวไปสองสามก้าวก็หยุดลง ก่อนที่จะหันหน้ากลับมามอง พลางกัดริมฝีปาก “เรื่องของพวกเราเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว.”
ซูเซียวโม่ที่เอ่ยกล่าวเสียงดัง “เซี่ยซุยอวิ๋น จำเอาไว้! ข้าซูเซียวโม่หลอกทุกคนในนิกายไท่เสวียนเซิ่ง แต่มีเพียงเจ้าที่ข้าไม่เคยหลอก! ข้าจริงใจต่อเจ้าจริง ๆ!”
ในเวลานั้น เซี่ยซุยอวิ๋นที่น้ำตาไหลไม่หยุด.
ขณะนางก้าวออกไป ภายในใจที่รู้สึกเจ็บปวด จากนี้เมื่อนางกลับเข้านิกาย ต่อจากนี้ความรู้สึกที่มีจะถูกฝังเอาไว้ตลอดกาลแล้ว!
“ตูมมมม!”
“ตูมมมม!”
จุนซ่างเซียวและหลานจิงติงยังคงต่อสู้ปะกันอีกหลายกระบวนท่า ทว่าเวลานั้นเขาได้ตะโกนออกมาว่า“ซูเซียวโม่ เจ้าจะยอมให้สตรีของเจ้าจากไปรึ? เปิ่นจั้วอนุญาตให้เจ้านำนางจากไป จากที่นี่ได้!”
“ฟิ้ว!”
กล่าวจบ ซูเซียวโม่ที่พุ่งออกไปเป็นลูกศร กอดร่างเซี่ยซุยอวิ๋นที่สะอื้นก้าวกลับนิกาย กลายเป็นริ้วแสงบินออกไปด้วยความเร็วสูง.
“ปล่อยข้า.....”
“ไม่! ข้าจะกอดเจ้าไปตลอดกาล จวบจนฟ้าดินสลาย!”
“ฟิ้ว -----”
ในเวลานั้น ราชาสัตว์จื่อหลินที่บินมาแต่ไกล เห็นเจ้านิกายและปราชญ์ยุทธ์ขั้นสมบูรณ์ปะทะกันอยู่ รอบ ๆ ยังมียอดฝีมืออีกหลายคนที่ล้อมกรอบรอลอบโจมตีอยู่ เขาที่คำรามออกมาด้วยความโกรธ “เจ้านิกาย ข้ามาแล้ว!”
“ปัง!”
เสื้อผ้าของเขาที่ระเบิดออกมาในทันที.
เหมือนกับทุกครั้งที่เสื้อผ้าแตกออก เผยให้เห็นร่างที่เปลือยเปล่า เห็นแต่กางเกงในสีแดง.
ขณะเดียวกัน เหล่าคนระดับสูงของนิกายนิรันดรที่มุ่งตรงมาจากพื้นที่ไกลออกไป เคลื่อนทัพด้วยความเร็ว กองกำลังสัตว์ร้ายหลายแสนที่เป็นคาราวาน ฝุ่นผงจากการเคลื่อนที่ความเร็วสูง คละคลุ้งเต็มไปหมด.
“ครืนนนนนนน!”
จงอี้ขุนพลกองกำลังสัตว์ขี่หมาป่า ถือดาบเขี้ยวมังกรตะโกนเสียงดัง “จัดแถวตั้งทัพ เตรียมปะทะ!”
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
สมาชิกหอขี่หมาป่าหลายพันคนที่แปรขบวนหมาป่าหลายพันตนพุ่งออกไปตั้งแถว พร้อมกับนำคันศรเขี้ยวมังกรออกมา ด้วยความรวดเร็ว ขณะง้างสายคันศร
กองกำลังพยัคฆ์และกองกำลังสัตว์ขี่อื่น ๆ ที่ตามมา พร้อมกับนำดาบเขี้ยวมังกรออกมา.
ในครรลองสายตา กองกำลังที่ตั้งขบวนอย่างพร้อมเพียง พลังอำนาจที่มากล้นแผ่ออกมา พร้อมที่จะพุ่งเข้าสะบั้น ก่อสงครามที่รุนแรงขึ้นในทันที.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
เหล่าศิษย์หลักที่นำโดยหลี่ชิงหยางที่ปรากฏอยู่หน้าทัพ.
ขณะนั้นพวกเขาตระหนักได้ว่าซูเซียวโม่ ได้หนีออกไปแล้ว ตอนนี้มีเพียงทิศของเจ้านิกายที่กำลังต่อสู้อยู่.
ในเวลานั้น จุนซ่างเซียวที่เสียเปรียบเพราะถูกอีกฝ่ายรุมล้อม ตอนนี้กองกำลังศิษย์และสัตว์ร้ายมากมายได้ปรากฏขึ้นมาสนับสนุนแล้ว.
นิกายไท่เสวียนเซิ่งที่คงอยู่มาหลายพันปี เวลานี้ถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายกดข่มที่รุนแรงโถมทับ จนทำให้ศิษย์นิกายไท่เสวียนเซิ่งสั่นสะท้าน.