Chapter 1073 ใครทำร้ายศิษย์ข้า?
ด้วยการกินเม็ดยาฟื้นฟู อาการบาดเจ็บทั้งหมดก็ฟื้นคืนกลับมา ไม่ว่าจะเป็นฟางหลิงยวีหรือศิษย์สายในทั้งสี่ ต่อหน้าเขาก็ไม่ต่างขยะ สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย.
เซี่ยซุยอวิ๋นที่ยืนเซ่อไปเหมือนกัน.
นี่เขาไม่ได้บาดเจ็บเลยอย่างงั้นรึ? ตอนนี้กลิ่นอายของเขาที่แผ่ออกมาไม่ได้มีอาการบาดเจ็บใด ๆ เลย?
บางที....อาจจะเกี่ยวข้องกับเม็ดยาที่เขากลืนเข้าไป?
ศิษย์สายในทั้งสี่คนที่นอนเจ็บปวดบนพื้นต่างก็เผยความสงสัยเช่นกัน เรื่องแบบนี้มันเหลือเชื่อไปแล้ว.
ฟางหลิงยวีที่ไม่มีเวลาครุ่นคิดถึงปัญหาอื่น ตอนนี้คิดเพียงว่าจะหลีกหนีไปจากสถานะการณ์ยากลำบากนี้ได้อย่างไร!
“ซูจินถัง!”
นางที่กัดฟัน “เจากล้าทำร้ายศิษย์พี่ในนิกาย หากอาวุโสรู้ จะต้องลงโทษเจ้าหนักอย่างแน่นอน!”
ซูเซียวโม่ที่ยกกระบี่ขึ้นเชยคางของนาง พร้อมกับเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย “การโจมตีของเจ้าก่อนหน้านี้ ไม่เกรงว่าจะสังหารข้าแล้วถูกลงโทษบ้างรึ? ตอนนี้มาเอ่ยที่จะให้อาวุโสลงโทษข้า มันน่าหัวเราะไปหน่อยมั้ง.”
ฟางหลิงยวี“......”
“ตูมมม! ตูมมมม!”
ซูเซียวโม่ที่กดมือออกไปผนึกลมหายใจและพลังบ่มเพาะของนาง ตลอดจนศิษย์สายในทั้งสี่คนเองก็ถูกผนึกเช่นกัน.
“พรึด โครม! พรึด โครม!”
ฟางหลิงหยวีและคนอื่น ๆ ที่นอนหมดแรงบนพื้น.
ซูเซียวโม่ที่มาโผล่ที่ด้านหน้าเซี่ยซุยอวิ๋น เอ่ยออกมาว่า“สถานที่แห่งนี้ไม่เหมาะที่จะอยู่นาน พวกเรารีบไปกันเถอะ.”
สัตว์วิญญาณประเภทมังกร ที่มีอยู่มากมาย หากว่ามันมารวมตัวกัน เกรงว่าพวกเขาจะต้องไม่สามารถหนีออกไปได้แน่.
“พวกเขาล่ะ?”
“พวกเขาก็หาทางเอาเอง.”
ใบหน้าของซูเซียวโม่ที่ไร้ความรู้สึก.
เขาไม่ได้เอ่ยว่า จะไว้ชีวิตพวกเขา.
หากแต่เขาก็ไม่ต้องการจะสังหารศิษย์นิกายไท่เสวียนเซิ่งด้วยตัวเอง ทว่าต้องการยืมมีดฆ่าคนเหมือนกับที่พวกเขาทำนั่นเอง
“ไม่ได้!”
เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ย “พวกเขาจะต้องตายที่นี่แน่!”
หัวใจของนางยืนอยู่ฝั่งซูเซียวโม่ ทว่าฟางหลิงยวีและคนอื่น ๆ ต่างก็เป็นคนนิกายเดียวกัน ยากจะที่จะปล่อยให้พวกเขาเสี่ยงตายได้.
ซูเซียวโม่ที่ส่ายหน้าไปมาเอ่ยออกไปว่า“เจ้าคิดว่า พวกเขาเจอพวกเรา เป็นเรื่องบังเอิญอย่างงั้นรึ? เจ้าคิดว่าสัตว์วิญญาณที่ควรจะอยู่ในเขตด้านในจะออกมาพบกับพวกเราโดยบังเอิญอย่างงั้นรึ?”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่ออกมา“สัตว์วิญญาณนั่นพวกศิษย์พี่ฟางล่อมาอย่างงั้นรึ?”
ซูเซียวโม่ที่มองฟางหลิงยวีที่นอนบนพื้น“สตรีสารพัดพิษนี้ ก่อนหน้านี้คิดจะสังหารข้าอยู่แล้ว ดังนั้นการกระทำของนางไม่มีอะไรน่าประหลาดใจแม้แต่น้อย.”
“......”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่กลายเป็นเงียบ.
ศิษย์พี่หญิงฟางที่จิตสังหารมากมาย ก่อนหน้านี้.
หากไม่เพราะว่าซูจินถังฟื้นคืนอาหารบาดเจ็บทันที ตอนนี้คงถูกนางสังหารไปแล้ว.
“เมื่อต้องการจะสังหารคน ก็ต้องเตรียมถูกสังหารด้วยเช่นกัน.”ซูเซียวโม่เอ่ยออกมาเล็กน้อย.“วันนี้ให้พวกเขาอยู่ในถ้ำอสูรมังกร จะรอดชีวิตได้หรือก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาก็แล้วกัน.”
เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ย “หากพวกอาวุโสรู้ บางทีเจ้าคงจะประสบความยากลำบากได้.”
“ไม่เป็นไร.”
ซูเซียวโม่ที่หันหลังกลับ จับแขนนางอย่างอบอุ่น “ขอเพียงแค่มีเจ้า ไม่ว่าที่ใดข้าก็พึงพอใจแล้ว.”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่ก้มหน้าเผยท่าทางเขินอาย กล่าวเชิงโกรธเล็กน้อย “กระล่อน!”
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้น ริ้วแสงหนึ่งที่พุ่งมา.
หญิงชราที่ยืนอยู่ด้านหน้าทางเข้า จากชุดแล้วเห็นชัดเจนว่าเป็นคนระดับสูงของนิกายไท่เสวียนเซิ่ง.
เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ “อาวุโสฉู่!”
ซูเซียวโม่ที่ขมวดคิ้วไปมา.
เขาไม่เคยเห็นหญิงชราคนนี้เลย ทว่าเคยได้ยินว่าอาจารย์ของฟางหลิงยวีมีแซ่ว่าฉู่ มีพลังบ่มเพราะปราชญ์ยุทธ์แล้ว ถือว่าเป็นตัวตนระดับสูงในนิกายไท่เสวียนเซิ่ง.
“อา....อาจารย์.....”
ฟางหลิงยวีที่เอ่ยเสียงเบาอ่อนแรง จ้องมองไปยังซูเซียวโม่ด้วยความเกลียดชัง.
เจ้าหนู!
ข้าจะดูว่าเจ้าจะโอหังไปได้สักกี่น้ำ!
รอยกระบี่ที่ถูกทิ้งเอาไว้ อาจารย์ของนางต้องมองเห็น.
กับศิษย์พรสวรรค์ในนิกายไท่เสวียนเซิ่งจะได้รับการฝึกฝนอย่างดี และยังได้รับอภิสิทธิ์มากมายกว่าคนอื่น ๆ.
อาวุโสฉู่ที่จ้องมองฟางหลิงยวี เห็นแก้มของนางมีรอยกระบี่สองรอย จึงได้เอ่ยออกมาวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“ใครทำร้ายศิษย์ของข้า?”
“ฟู่ ฟู่!”
กลิ่นอายระดับปราชญ์ยุทธ์ ที่ฟุ้งกระจายไปคลุมทั่วทั้งถ้ำ!
“อาจารย์...อาจารย์....”ฟางหลิงยวียกแขนขึ้นชี้ไปยังซูเซียวโม่ “เป็น....เป็นมัน!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมม---”
กลิ่นอายของอาวุโสฉู่ที่โหยหวนกดทับลงไป.
ซูเซียวโม่ที่ผลักเซี่ยซุยอวิ๋นออกไป รับแรงกดดันเพียงลำพัง ไหล่ของเขาที่ราวกับแบกภูเขาทั้งลูกเอาไว้ ใบหน้าบิดเบี้ยว.
เขาที่เพิ่งก้าวไปสู่ระดับจักรพรรดิยุทธ์ อย่าว่าปราชญ์ยุทธ์เลย ต่อเป็นครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ก็ไม่สามารถแบกรับได้!
“อาจารย์!”
ฟางหลิงยวีเอ่ย “มันปิดผนึกชีวิตศิษย์...มันวางแผนให้พวกเรา...ถูกสัตว์ร้ายในนี้สังหาร....”
เป็นความจริง.
อาวุโสฉู่ที่ได้ยินคำพูดดังกล่าวก็โกรธเกรี้ยว พลังบ่มเพาะปราชญ์ยุทธ์ที่ถูกส่งออกมารุนแรงมากขึ้น!
“อ๊ากกกก!”
ซูเซียวโม่ที่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด.
ในเวลานี้ เขารู้สึกเสียใจ เสียใจที่ใส่ใจเซี่ยซุยอวิ๋น ไม่เร่งรีบสังหารฟางหลิงยวีไปก่อนหน้านี้.
“อาวุโสฉู่!”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่ร้อนรน เร่งรีบเอ่ยออกมาว่า“เข้าใจผิดแล้ว เรื่องนี้ศิษย์สามารถอธิบายได้!”
อาวุโสฉู่แค่นเสียงเย็นชา“เรื่องนี้ชัดเจนแล้ว ไม่ต้องอธิบายอีก เจ้าเด็กนี้วางแผนทำลายพวกเดียวกัน วันนี้ข้าจะทำลายพลังบ่มเพาะ นำกลับนิกายรับโทษอีกครั้ง!”
ฟางหลิงยวีเป็นศิษย์รักของนาง เป็นศิษย์หลักที่นิกายไท่เสวียนเซิ่งที่ฝึกฝน ตอนนี้ถูกอีกฝ่ายทำลาย ไม่ว่าเรื่องจะเป็นอย่างไร ก็ไม่สามารถอภัยได้ จะต้องลงโทษอีกฝ่ายให้หนัก!”
“นังแก่!”
ซูเซียวโม่ที่ระงับอาการบาดเจ็บเอ่ยออกมาว่า“เจ้า....หากเจ้ากล้าทำร้ายข้า อาจารย์ของข้าไม่อภัยเจ้าแน่! ไม่แม้แต่นิกายไท่เสวียนเซิ่งจะรับได้!”
ถึงแม้นว่าเวลานี้จะตกอยุ่ในภาวะวิกฤติ ทว่าเขาก็ไม่หวาดกลัว ยังคงเชิดหน้าเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ!
“ตาเฒ่าจุนเทียนนะรึ?”
อาวุโสฉู่รับรู้ความหมายของซูเซียวโม่ ก่อนที่จะเอ่ยเหยียดหยัน “แม้นว่าครึ่งก้าวปราชญ์สองวิถียุทธ์และกระบี่จะยอดเยี่ยม ทว่าก็ไม่มีทางจะกล้ามาหาเรื่องนิกายไท่เสวียนเซิ่ง.”
“ไม่ ไม่ ไม่.”
“กล่าวให้ถูกด้วย ปราชญ์สองวิถียุทธ์และกระบี่ต่างหาก.”
ในเวลานั้น เสียง ๆ หนึ่งที่ดังขึ้นทันที.
อาวุโสฉู่ที่ใบหน้าเปลี่ยนสี จับจ้องมองออกไปพบว่าที่ทางเข้านั้นไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใด ปรากฏชายชราที่รูปลักษณ์เหมือนกับปราชญ์.
“ฟู่ ฟู่!”
อำนาจปราชญ์ยุทธ์และกระบี่ที่ปะทุขึ้นมาทันที แรงกดดันที่ปัดเป่าแรงกดดันของนางที่ปลดปล่อยออกมาก่อนหน้านี้หายไปจนหมด.
กึก! ครืนนนน! ครืนนน!
แรงกดดันที่ผลักพลังของนางออกไปทั้งหมด แม้แต่ร่างของอาวุโสฉู่ก็ยังถอยออกไปสองสามก้าว ใบหน้าของนางที่เปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมกับอุทานออกมา“ปราชญ์ยุทธ์! ปราชญ์กระบี่!”
“ฟู่!”
ซูเซียวที่ผ่อนคลายลง กล่าวออกมาด้วยความดีใจ“อาจารย์!”
เขาที่ลอบตื่นเต้นดีใจ โชคดีที่ขณะที่พบกับสัตว์วิญญาณก่อนหน้านี้ เป็นกังวลจึงได้แจ้งให้เจ้านิกายส่งคนมาช่วย!
“โง่!”
ซูเซียวโม่ที่จ้องมองไปยังฟางหลิงยวี กล่าวหยัน คิดในใจ“คิดว่าบิดาจะรอคอยรอรับความตายเฉย ๆ รึอย่างไร?”
“นังแก่.”
จุนซ่างเซียวในรูปลักษณ์ตาเฒ่าจุนเทียนเอ่ยออกมาว่า“กล้าข่มเหงศิษย์ของข้า นิกายไท่เสวียนเซิ่งต้องมีคำอธิบายแล้ว ไม่เช่นนั้นเหล่าฟู่คงไม่มีทางยอมง่าย ๆแน่.”
“......”
อาวุโสฉู่ที่หลั่งเหงื่อที่เย็นยะเยือบออกมา.
กลิ่นอายสองวิถีที่ปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่ นางไม่สามารถต้านเอาไว้ได้เลย!
“เข้าใจผิดแล้ว!”
นางที่เร่งรีบเอ่ยกล่าวออกมาทันที “เข้าใจผิดแล้ว!”
อาวุโสฉู่ที่เพิ่งตัดผ่านระดับเป็นปราชญ์ยุทธ์ ต่อหน้านาง ปราชญ์ยุทธ์สองวิถียุทธ์และกระบี่ขั้นที่สองแล้ว นางย่อมรู้ดีว่าควรจะจัดการอย่างไร.
“อาจารย์!”
ซูเซียวโม่ที่ชี้ไปยังฟางหลิงยวี กล่าวออกมาด้วยความโกรธ “สตรีนางนี้ล่อสัตว์วิญญาณเข้ามาในถ้ำโดยตั้งใจ เพื่อที่จะยืมมีดฆ่าคน โปรดให้ความยุติธรรมให้กับศิษย์!”
“ใช่!”
“นางคือฟางหลิงยวี!”
ท้ายที่สุดเขาก็ต้องเอ่ยนามของนางออกมา.
ใบหน้าของจุนซ่างเซียวที่กลายเป็นมืดครึ้ม พร้อมกับยกมือขึ้น.
“ฟู่ ฟู่!”
พลังวิญญาณที่ปะทุขึ้นมานั้น ได้ปกคลุมไปยังร่างของฟางหลิงยวี ผลักนางปะทะกับกำแพง.
“โครม!”
“เดิมทีเจ้าก็คือฟางหลิงยวี!”
“ครืนนนนนน!”
“เป็นเจ้านี่เองที่เป็นศัตรูคู่แค้นกับศิษย์หญิงใหญ่ของเปิ่นจั้ว!”
“......”
ซูเซียวโม่ที่หวาดผวา.
เจ้านิกายหรือว่าลืมแล้วว่า ตัวเองตอนนี้อยู่ในสถานะตาเฒ่าจุนเทียน!