ตอนที่แล้วบทที่ 37 : คะแนนโชคลาภสิบล้านคะแนน, การปรับปรุงอย่างบ้าระห่ำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 39 : เจ้าคู่ควรหรือ?

บทที่ 38 : การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของต้าเซี่ย


บทที่ 38 : การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของต้าเซี่ย

ในฐานะผู้หญิงคนที่สี่ของเย่หวู่ชาง

หลังจากผ่านไปสามวันสีคงหมิงเยว่ก็เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงของเย่หวู่ชาง ถึงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้เช่นนี้

นั้นก็เพราะว่าสัตว์ร้ายตัวนี้ดุร้ายมากเกินไป​

รูปร่างของเขาดูผอมบางเล็กน้อย, แต่ด้วยพลังการต่อสู้ที่น่าเกรงขาม…..เขาเรียกได้ว่าเป็นเครื่องจักรที่สามารถเคลื่อนไหวได้ตลอดกาล

เป็นเวลาสามวันติดต่อกันเเล้วที่เย่หวู่ชางไม่ยอมให้เธอลุกจากเตียง

เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจาก​ร้องขอความช่วยเหลือ​อย่างสิ้นหวังจากจ้าวชิงเกอและโม่ซีจุน

ในท้ายที่สุดด้วยพลังแห่งการสามัคคีของทั้งสามสาว

แม้ขาของพวกนางจะสั่นเทา ร่างกายของพวกนางจะกระตุกเป็นเวลาถึงครึ่งชั่วโมง…..เเต่ด้วยวิธีนี ดูเหมือนว่าเย่หวู่ชางยังคงไม่พอใจ

หากไม่ใช่เพราะเห็นคำอ้อนวอนและความหวาดกลัวอันบางเบาในสายตาของหญิงสาวทั้งสามคน เขาคงไม่ยอมปล่อยพวกนางไปง่ายๆ

อย่างไรก็ตาม, มันก็ยังคงมีประโยชน์อย่างมากในการบ่มเพาะพลังแบบคู่กับเย่หวู่ชาง

ตัวอย่างเช่น ในครั้งแรกของสีคงหมิงเยว่…การฝึกตนของเธอก็ก้าวหน้าไปถึงระดับที่ห้าของอาณาจักรปราการสวรรค์ได้ในทันที​

ฉากนี้ทำให้นางรูสึกเจ็บปวดและมีความสุขไปพร้อมๆกัน

หลังจากออกมา​จากห้องของสีคงหมิงเยว่…..เย่หวู่ชางก็กลับไปที่ห้องของเขาและเริ่มการฝึกตนอีกรอบ

การรับพรหมจรรย์​ของสีคงหมิงเยว่ก็เป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่สำหรับเย่หวู่ชางเช่นกัน​

ด้วยพลังของมัน…..เขาก็ก้าวหน้าอีกครั้งจนห่างจากขั้นที่ห้าเพียงก้าวเดียว

เเละในระหว่างการฝึกตนของเขา…..เหตุการณ์ที่น่าตกใจก็ได้ปะทุขึ้นในเมืองหลวงของราชวงศ์ต้าเซี่ย

ปรากฎว่าฮ่องเต้ได้สิ้นพระชนม์ไปแล้ว, แต่องค์ชายสี่ซึ่งเป็นบุตรชายของฮองเฮาเลือกที่จะปกปิดข่าวนี้เอาไว้

พวกเขาทั้งสองร่วมมือกันและติดสินบนคนในวัง

หลังจาก​นั้น, องค์ชายสี่ก็ออกคำสั่งภายใต้หน้ากากคำสั่งของฮ่องเต้

องค์ชายองค์อื่นๆต่างพบว่าคำสั่งเหล่านนั้นที่ออกมาเริ่มน่าสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ…..เพราะคำสั่ง​ส่วนมากจะเป็นประโยชน์​ต่อองค์ชายสี่

ในขณะนี้…..องค์ชายสี่ก็เอาชนะใจ​ข้าราชบริพารอย่างเงียบๆ และเริ่มกำจัดผู้เห็นต่าง

ในที่สุดบรรดาองค์ชายก็ไม่อาจนิ่งเฉย​อยู่​ได้…..และเลือกที่จะเข้าบุกเข้าไปในพระราชวังอย่างกล้าหาญ

แต่น่าเสียดายที่พวกเขาตกอยู่ในการซุ่มโจมตีขององค์ชายสี่โดยไม่คาดคิด

องค์ชายจำนวนมากรวมทั้งองค์ชายสิบสี่ เฉกเช่นเดียวกับผู้ฝึกตนที่พวกเขาพามา……ล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส

ในยามนี้เซี่ยอู๋เจี๋ย องค์ชายสี่ของต้าเซี่ย กำลังนั่งบนบัลลังก์……ทำราวกับว่าเขาเป็นฮ่องเต้ที่กำลังจ้องมองลงไปที่องค์ชายคนอื่นด้วยท่าทางที่เหนือกว่า

ยามนี้พวกองค์​ชาย​กำลังนอนอยู่บนพื้น เเละไม่สามารถขยับตัวได้

ใบหน้าของพวกเขาซีดเซียว และมีเลือดไหลที่มุมปาก

เมื่อเห็นเช่นนี้ เซี่ยอู๋เจี๋ยก็ไม่ปกปิดความคิดในใจของเขาได้อีกต่อไป

“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเจ้าคงไม่คิดสินะว่าผู้ที่ได้คลองบัลลังก์…..ท้ายที่สุดแล้วจะเป็นเปิ่นหวาง!”

ฉากนี้ทำให้ดวงตาขององค์ชายคนอื่นเปลี่ยนเป็นสีแดง และหวังว่าจะฉีกองค์​ชาย​สี่ออกเป็นชิ้นๆ

เซี่ยหวู่เฟิงองค์ชายสิบสี่ จ้องมองเขาด้วยความโกรธเเละพูดว่า​

“เซี่ยอู๋เจี๋ย, เจ้าทำเเบบนี้มันทำให้เกียรติของฮ่องเต้องค์ก่อนเสื่อมเสีย……บรรพบุรุษจะไม่ปล่อยให้เจ้าทำเรื่องอยุติธรรมเช่นนี้แน่!”

เซี่ยอู๋เจี๋ย เหลือบมองเขาอย่างเย็นชาและยืนคอขึ้นตรง

“ฮึ่ม, บรรพบุรุษสนใจแต่ผลลัพธ์พวกเขาไม่สนใจวิธีการหรอก”

“เจ้าเชื่อว่าที่ไอ้แก่นั้นที่ขึ้นครองราชมาตั้งนานเเล้ว…..เเต่กลับไม่สามารถ​ทะลวงผ่านอาณาจักรปราการสวรรค์ได้เพราะขาดพรสวรรค์หรือไงกัน?”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ องค์ชายหลายคนก็มองมาที่องค์​ชาย​สี่ด้วยความตกใจ

เเละเมื่อเห็นสิ่งนี เซี่ยอู๋เจี๋ยก็เยาะเย้ยอย่างเย็นชา

"ใช่แล้ว เป็นฝีมือของมารดาเปิ่นหวางเอง…..หาไม่ใช่เพราะมารดาของข้าวางยาพิษที่ออกฤทธิ์อย่างช้าๆใ้ห้ไอ้แก่นั่นกินอยู่ตลอดเวลา, เเถมยังใช้ผู้หญิงสวยๆหลายคนคอยสกัดแก่นแท้ของเขา……ไม่เช่นนั้นป่านนี้เขาคงทะลวง​ผ่านอาณาจักร​ได้ไปนานแล้ว!"

“ส่วนพวกเจ้าทุกคนก็เป็นเพียงขยะที่เกิดจากสตรีขยะที่ไอ้เเก่นั่นรวบรวมมา……เเล้วพวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะสามารถอาจเอื้อมมาเตะต้องบังลังก์ของข้าได้งั้นรึ?”

“พวกเจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไปเเล้ว…. บัลลังก์นี้เป็นของเปิ่นหวางแต่เพียงผู้เดียว!”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้, เซี่ยหวู่เฟิงก็จ้องมองเขาด้วยความโกรธทันที​

"เซี่ยอู๋เจี๋ย เจ้ากล้าฆ่าท่านพ่อ…..การกระทำเลวร้าย​ถึงเพียงนี้เจ้าจะไม่มีวันได้ตายดี!"

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ แสงเย็นวาบก็ปรากฏ​ขึ้นมาในดวงตาของเซี่ยอู๋เจี๋ย

จากนั้น, เขาก็ชักดาบยาวออกและแทงเข้าที่หน้าอกของเซี่ยหวู่เฟิงโดยตรง!

ดวงตาของเซี่ยหวู่เฟิงเบิกกว้าง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเซี่ยอู๋เจี๋ยจะฆ่าเขาแบบนี้!

ส่วนดวงตาของเซี่ยอู๋เจี๋ยนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา เเละปราศจากอารมณ์ใดๆ

“ไม่ว่าเปิ่นหวางจะตายดีหรือไม่…..เจ้าก็ไม่มีโอกาสได้แม้แต่จะมองดู!”

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ดึงดาบออกมา และร่างกายที่ไร้ชีวิตของเซี่ยหวู่เฟิงก็ล้มลงพร้อมสูญเสียสัญญาณแห่งชีวิต

ยามมองดาบที่ชะโลมโลหิต ดวงตาของเซี่ยอู๋เจี๋ยกลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้นระคนยินดี

เขาชักดาบยาวออกมาชิมรสเลือดบนดาบ: "รสดี!"

ฉากนี้ทำให้หนังศีรษะของผู้คนนับไม่ถ้วนรู้สึกเสียววาบ

แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือพวกเขาต่างก็กังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของตัวเอง

ด้านหลังองค์ชายสิบสี่….เย่ว์ไห่หัวหน้าตระกูลเย่ว์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็อดไม่ได้ที่จะหลับตาลงอย่างขมขื่น​

หลายปีของการสนับสนุน, หลายปีของการถูกดูดซับทรัพยากร…..ทั้งหมดนี้กลับกลายเป็นความว่างเปล่าในชั่วพริบตา

ยิ่งกว่านั้น แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังตกอยู่ในอันตรายอันใหญ่​หลวง…..ตอนนี้ไม่ว่าใครจะขึ้นครองบัลลังก์ พวกเขาก็คงไม่ยอมปล่อยให้ตระกูล​มารดาขององค์ชายสิบสี่มีชีวิตรอด

เเละเมื่อได้เห็นความตื่นตระหนกและความกลัวในสายตาของทุกคน….เซี่ยอู๋เจี๋ยก็ยิ่งภูมิใจมากยิ่งขึ้น

เขาหันไปหาองค์ชายคนต่อไป….เเละเตรียมที่จะเหวี่ยงดาบ

เเต่ทันใดนั้นเอง

ปราณดาบเส้นหนึ่งก็พุ่งเข้ามาและกระแทกดาบยาวจนหลุดออกจากมือของเขาโดยตรง

"ใครกัน?" เซี่ยอู๋เจี๋ยคำรามด้วยความโกรธ

ในเวลาเดียวกันเขาก็หลบไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังผู้​ฝึกตนชุดดำทั้งสอง

หลังจาก​นั้นประตูก็เปิดออกกว้าง และเซี่ยจือซวนในชุดเกราะก็เดินเข้ามา

เมื่อเห็นเซี่ยจือซวน ดวงตาของเซี่ยอู๋เจี๋ยก็หรี่ลงทันที​

"เป็นเจ้าเองหรือเซี่ยจือซวน เจ้าไม่ได้ถูกส่งไปที่ชายแดนหรือ?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ องค์ชายอีกคนก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย

"ฮ่าฮ่าฮ่า เซี่ยอู๋เจี๋ย….นี่เจ้ามองเเผนการของนางไม่ออกงั้นเหรอ?”

“องค์หญิงของพวกเรารอเวลามาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มาโดยตลอด​ยังไงล่ะ​!”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้เซี่ยอู๋เจี๋ยก็ตกใจเช่นกัน…. และเขาก็แอบสาปแช่งตัวเองที่ไม่รวมเซี่ยจือซวนไว้ในแผนการ​ของเขา

“เซี่ยจือซวน เจ้าต้องการที่จะขึ้นครองบัลลังก์ด้วยงั้นหรือ?”

“เจ้าต้องการที่จะปกครองต้าเซี่ย ในฐานะจักรพรรดิ​นี​รึไง?”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้เซี่ยจือซวนก็เหลือบตามององค์ชายหลายองค์ด้วยหางตา…..จากนั้นจึงถอนสายตาออกไป

“จะเป็นอะไรหากสตรี​จะขึ้น​ครอง​อำนาจ?”

“จักรพรรดินีองค์ที่สามของราชวงศ์ต้าเฟิง, เฟิงเพียวซู และจักรพรรดินีผู้ก่อตั้งราชวงศ์เว่ยหยาง ต่างก็เป็นสตรีทั้งคู่……เเล้วทำไมเปิ่นกงผู้นี้จึงจะปกครองต้าเซี่ยไม่ได้?”

เสียงอันสงบของเซี่ยจือซวนดังก้อง ประกาศความทะเยอทะยานของเธอ

เเละเมื่อได้ยินคำพูดยืนยันของเธอ ทุกคนต่างก็ตกตะลึง

ณ ขณะนี้, ใบหน้าของเซี่ยอู๋เจี๋ยแดงก่ำ…..และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า​อันเย็นเยือก

"เซี่ยจือซวน เจ้าบ้าไปแล้ว…..บรรพบุรุษจะต้องไม่เห็นด้วยกับการที่สตรีอย่างเจ้าจะมาครอบครอง​บัลลังก์​!"

เมื่อได้ยิน​เช่นนี้, เซี่ยจือซวนก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มออกมา

“พวกเขาไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย!”

“บังอาจนัก, กล้าดียังไงไม่เคารพบรรพบุรุษ…..จับนางไว้”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา……ร่างชุดดำสามคนก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเซี่ยอู๋เจี๋ย

ในแต่ละก้าวที่ร่างชุดดำเดินออกมา…..ออร่าของพวกเขาน่ากลัวเป็นพิเศษจนทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจ

เนื่องจากการฝึกตนของร่างชุดดำทั้งสามนี้อยู่ที่ระดับครึ่งก้าวอาณาจักรพระราชวังสีม่วง

ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจ

เพราะในอาณาจักรต้าเซี่ย, มีผู้​ฝึกตนไม่เกินร้อยคนที่อยู่​ในอาณาจักรราชวังสีม่วง

ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนใหญ่ยังอยู่ที่ขั้นแรกหรือขั้นที่สองเท่านั้น

เเละสิ่งที่สำคัญที่สุด…..ที่นี่คือพระราชวังของอาณาจักรต้าเซี่ย ซึ่งแยกออกจากโลกภายนอก

นอกเหนือจากกฎระเบียบของราชวงศ์แล้ว, ผู้​ฝึกตนอาณาจักรพระราชวังสีม่วง ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาแทรกแซงในการต่อสู้เพื่อชิงบัลลังก์ (ครึ่งก้าวเเทรกเเซ​งได้)​

ดังนั้น แม้ว่าผู้​ฝึกตนในอาณาจักรพระราชวังสีม่วงนอกพระราชวัง​จะวิตกกังวล……แต่พวกเขาก็ทำได้เพียงรอดูผลลัพธ์ที่บ้านเท่านั้น

ในสถานการณ์​เช่นนี้, ผู้​ฝึกตนครึ่งก้าวอาณาจักรพระราชวังสีม่วงจึงมีค่าอย่างยิ่ง

ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า เซี่ยอู๋เจี๋ยจะมีผู้​ฝึกตนครึ่งก้าวอาณาจักรพระราชวังสีม่วงถึงสามคนคอสนับสนุน

​นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

ชั่วขณะหนึ่ง…..ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างรู้สึกสิ้นหวังอยู่ในใจ

……………………………..

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด