ตอนที่แล้วบทที่ 339 : วันสิ้นโลก (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 341 : วันสิ้นโลก (5)

บทที่ 340 : วันสิ้นโลก (4)


บทที่ 340 : วันสิ้นโลก (4)

"ย้อนเวลา?"

ดวงตาของนักเวทย์หญิงหรี่ลง

เฟรียซิสกล่าวต่อพลางมองไปรอบ ๆ

“หากย้อนเวลากลับไปตอนนั้นได้ ผลลัพธ์อาจแตกต่างออกไป จะเอาแต่นั่งอยู่เฉย ๆ แบบนี้หรือ? เราจะยอมแพ้โดยไม่รู้แม้กระทั่งตัวตนของศัตรูงั้นหรือ? แม้ความน่าจะเป็นที่จะสำเร็จมีน้อยมาก แต่เราไม่ควรลองดูหน่อยเหรอ?”

“จริงเหรอ?”

ดวงตาที่สับสนของราชาปีศาจหันไปทางนักบุญหญิง

นักบุญหญิงถอนหายใจ

“เทพธิดาได้ให้คำทำนายเช่นนั้นจริง…”

“แล้วทำไมเธอจึงปิดบังเอาไว้?”

"คือว่า……"

ใบหน้าของนักบุญซีดเผือด

ในที่สุด เมื่อเธอกำลังจะเอ่ยปากอีกครั้งภาพตรงหน้าก็พลันเลือนหาย

การมองเห็นของฉันพร่าเลือนลง พร้อมกับเสียงรบกวนแทรกเข้ามา แต่เสียงนั้นก็หายไปในไม่กี่วินาที และนักบุญหญิงก็พูดขึ้น

“ถึงจะเริ่มต้นใหม่ แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะเปลี่ยนผลลัพธ์ได้?”

เสียงนักบุญแผ่วเบา

“จบแบบนี้ไม่ดีกว่าหรือ?”

น้ำเสียงของเธอเบาลงกว่าเดิม

“เผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ในทาวน์เนียทั้งหมดได้ร่วมมือกัน! ในสงครามครั้งนั้น พวกเราไม่สามารถเอาชนะได้แม้แต่ครั้งเดียว…และท่านต้องการให้เรากลับไปที่นั่นอีกงั้นหรือ?”

ไม่มีใครโต้แย้ง

แม้แต่ชายหนุ่มที่นั่งหัวโต๊ะก็ยังหลับตา

“พวกเราทุกคนเหนื่อยล้ากันหมดแล้ว ฉันคิดว่าจบตรงนี้ดีกว่า”

"......"

บรรยากาศเริ่มสงบลง

ฉันพยักหน้าและสรุปบทสนทนา

คนเหล่านี้คือผู้พิทักษ์ที่พยายามปกป้องทาวน์เนีย

มนุษย์ สัตว์อสูร ไม่ว่าเชื้อชาติใดก็มารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ พวกเขาทั้งหมดร่วมมือกันต่อสู้ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่สามารถใช้พลังของตนเพื่อเอาชนะสงครามได้ และตอนนี้พวกเขามารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้และรอความตาย

ไม่มีความแตกต่างที่สำคัญอะไร

หากฮีโร่ระดับ 3 ดาวมาที่นี่และเห็นภาพเบื้องหน้า ทุกคนคงพยักหน้าเห็นด้วยโดยไม่ลังเล

ฉันหัวเราะเบา ๆ

หากมองดูภาพที่เห็นในตอนนี้

จะเห็นได้ชัดเจนข้อหนึ่งว่า…พวกเขากำลังหวาดกลัวสงคราม

“……ขี้ขลาด”

เฟรียซิสพึมพำ

ดวงตาสีทองของเธอเป็นประกาย

“พวกท่านคิดว่าไม่สามารถเอาชนะได้งั้นเหรอ? ปล่อยให้มันจบลงแบบนี้งั้เหรอ? อย่ามาล้อเล่น อย่ามาพูดจาเหลวไหล! ทหารของพวกท่านเองกำลังเฝ้ามองอยู่! พวกท่านกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน!”

เฟรียซิสเตะเก้าอี้ของเธอแล้วลุกขึ้นยืน

ใบหน้าซีด ๆ ของเธอบัดนี้แดงก่ำ

“ครั้งหนึ่ง ฉันเคยคิดว่าพวกท่านเป็นวีรบุรุษที่แท้จริง แต่ฉันคิดผิด...พวกท่านเป็นพวกใจแคบ!

ไม่ละอายใจตัวเองบ้างหรือ? ละอายใจบ้างไหม?!”

เฟรียซิสชักดาบออกมา

“ทำไมไม่มีใครยืนเคียงข้างฉัน? แม้โอกาสจะริบหรี่ แม้เพียงน้อยนิด หากมีทางพวกเราก็ควรลองดูสักครั้งไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่มีใครพูดอะไรเลย?!”

"......"

แต่ก็ยังไม่มีใครเอ่ยปากอะไรออกมา

"งั้นฉันจะทำ ฉันจะทำเอง ไม่ว่าจะร้อยครั้ง พันครั้ง! ฉันก็จะย้อนกลับไปแก้ไข แม้ร่างกายของฉันจะแหลกสลาย หากฉันสามารถช่วยเหลือผู้คนของฉันได้…ฉันก็จะทำ!!”

ณ ที่แห่งนี้ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าวีรบุรุษที่แท้จริงสำหรับเธอ

เฟรียซิสมองรูปปั้นเทพธิดาเบื้องหลังบัลลังก์ด้วยแววตาที่ลุกโชน

และเธอก็เล็งดาบสีเงินไปที่รูปปั้นเทพธิดา

“ท่านเทพธิดา หากท่านกำลังเฝ้ามองพวกเราอยู่ ได้โปรดรับฟังคำขอของฉันด้วย! อันตัวข้า เฟรียซิส อัล รักนา ขอรับข้อเสนอนี้แต่เพียงผู้เดียว หากไม่มีใครไป ฉันจะกลับไปยังที่แห่งนั้นเพียงลำพัง!”

ครืน

รูปปั้นเทพธิดาแฝดเริ่มสั่นไหว

ริมฝีปากของเทพธิดาที่ทำจากหินอ่อนเปิดออก และเสียงลึกลับก็ดังมาจากรูปปั้น

“ผู้สืบทอดเฟรียซิส....”

ไม่ใช่เสียงแหลมที่ทำให้รู้สึกหูอื้อ

น้ำเสียงนั้นใสราวกับสายลมที่พัดผ่าน

“บัดนี้ คำอวยพรได้สิ้นสุดลงแล้ว”

"สำหรับคนเหล่านั้น…"

เฟรียซิสมองกลับไปที่โต๊ะด้วยสีหน้าเย็นชา

“จงปล่อยให้พวกเขาจบสิ้น ณ ที่แห่งนี้”

“เดี๋ยว! ท่านกำลังพูดถึงอะไร?!”

กรึ้ก

ใบหน้าของรูปปั้นเทพธิดาฝาแฝดหันไปทางโต๊ะ

แสงสีแดงเปล่งประกายออกมาจากดวงตาทั้งสองคู่

“สำหรับผู้ที่ไม่คู่ควร พวกเขาสมควรได้รับคำสาป”

"อั่ก!"

ชายคนหนึ่งกุมหน้าอกของเขาเอาไว้

เขาครวญครางด้วยความเจ็บปวดและกระอักเลือดสีแดงเข้มออกมา เริ่มจากชายคนนั้น จากนั้นคนอื่น ๆ ก็เริ่มล้มลง แต่ล่ะคนก็อาเจียนเป็นเลือด

“ผู้สืบทอดบัลลังก์ทองคำ ข้าจะมอบพรแห่งเทพธิดาให้แก่เจ้า โอกาสอันไร้ที่สิ้นสุดจะถูกมอบให้เจ้า และวีรบุรุษผู้สูงศักดิ์จะตามมาช่วยเหลือเจ้าภายหลัง”

"......"

เฟรียซิสหลับตาลง

เบื้องหน้ามีมนุษย์และสัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังกระอักเลือด

“อ อะ อัก! เฟรียซิส!”

ชายหนุ่มผมบลอนด์กรีดร้อง แต่เฟรียซิสไม่ยอมลืมตา

และจากนั้น

ครืนนนน

พระราชวังทั้งหลังเริ่มสั่นสะเทือน

เสาล้มลงและแตกกระจายทีละต้น เพดานบางส่วนก็ถล่มลงมา

นี่อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการล่มสลาย พระราชวังกำลังจะพังทลาย

“จงรับความท้าทายนั้น จงรับมันไป และเอาชนะโชคชะตาของเจ้า บัลลังก์ทองคำเป็นของเจ้า”

พระราชวังพังทลายลงท่ามกลางเสียงของเทพธิดา

'อืม'

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้?

การกระทำของเฟรียซิสนั้นเหมาะสมแล้ว

ไม่มีใครในที่นี้คู่ควรกับการถูกเรียกว่าวีรบุรุษ

บางคำถามได้รับคำตอบแล้ว

สาเหตุที่เฟรียซิสเป็นตัวละครหลักในภารกิจนี้

กล่าวตรง ๆ คือ ทาวน์เนียอยู่รอบเธอ

วีรบุรุษที่ได้เลื่อนขั้นจะเข้าใจว่าเหตุใดพวกเขาจึงถูกเรียกตัวมาต่อสู้ที่นี่และต้องตั้งใจทำภารกิจให้สำเร็จ มันเป็นวิธีเสริมสร้างขวัญกำลังใจ

'ใช่'

ถ้าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง

ฉันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและยิ้มออกมา

ตอนนี้ไบฟรอสต์กำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง

“ฉันต้องเอาชนะมัน”

ก่อนที่ทุกสิ่งจะถูกฝังใต้ดิน ฉันชักดาบออกมา

แสงสีดำวูบวาบออกมาจากไบฟรอสต์ ยูเน็ตกล่าวว่าดาบเล่มนี้มีพลังแทรกแซงโชคชะตา ฉันคิดว่าการใช้มันตอนนี้คงจะเหมาะสม

ฉันคว้าไบฟรอสต์สีดำที่กำลังลุกไหม้

ฉันจับด้ามดาบไว้แน่น ตั้งท่า และฟาดฟันลงไป

ชึ้งงง!

สิ่งที่บดบังการมองเห็นของฉันแตกกระจายเหมือนเศษแก้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด