Chapter 1070 เทียบกับโกวเซิ่ง ทำไมถึงได้ต่างกันนัก
เย่ซิงเฉินที่เป็นพวกคออ่อนอย่างแท้จริง เพียงแค่แก้วเล็ก ๆ ก็ทำให้เขาหลงทางก้าวไปนอนยังคอกแกะแล้ว.
โชคดีที่หลี่ชิงหยางดึงเขาออกมา ไม่เช่นนั้นคงไม่อยู่ที่นอนของตัวเองแน่.
ได้ยินเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก!
อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้ามาในค่ายกลรวมวิญญาณก็ทำให้ความเจ็บช้ำหายไปจนสิ้น.
ในเวลานี้การดูดซับพลังวิญญาณมันรวดเร็วมากกว่าเดิมหลายเท่า.
สุราเมามายา กายาชีพจรวิญญาณ ตลอดจนเม็ดยารวมวิญญาณนั้นไม่ขัดแย้งกัน มันยังช่วยส่งเสริมกันด้วย ทำให้อัตราการดูดซับพลังวิญญาณเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล!
ด้วยความเร็วนี้ แม้แต่เหออู๋ตี้ที่มีรากวิญญาณเหนือเทวะยังเทียบไม่ได้.
นอกจากนี้นับตั้งแต่ถูกนำเข้าสู่หอหลิงเหยี่ยน ยิ่งทำให้ผลของการดูดซับพลังวิญญาณของเขาเร็วขึ้นกว่าเดิมอีก เขากลายเป็นศิษย์ที่มีความแข็งแกร่งที่สุด หากว่ามีสุราเมามายาช่วย ยิ่งเพิ่มพูนเท่าทวี.
ด้วยเหตุนี้.
แม้แต่ตัวเขาก็ยังคงสงสัย!
เพราะว่าเจ้านิกายได้เอ่ยเกี่ยวกับสุราที่เพิ่มพูนการรับรู้พลังวิญญาณ เพียงแค่หนึ่งแก้วก็ส่งผลตลอดทั้งวัน หากมันคือผลเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเขาจะต้องจิบสุราทุกวันอย่างงั้นรึ?
ครั้งนี้มีหลี่ชิงหยางช่วยพาเขากลับห้อง แล้วหลังจากนี้ล่ะ เขาไม่ต้องแวะเวียนไปเล้าเป็ดเล้าไก่เป็นประจำ น่าขายหน้าอย่างยิ่ง!
“น่ารังเกียจ!”
ราชันย์รัตติกาลยิ่งคิด ก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น.
เพื่อรักษาภาพพจน์ เขาที่ตัดสินใจหนักแน่นเพื่อ ที่จะเลิกดื่ม แต่เวลานี้กับพบว่าผลจากการดื่มสุราเมามายานั้นเพิ่มการดูดซับพลังวิญญาณยกระดับการบ่มเพาะของเขาได้มากกกว่าเดิมมาก!
แพ้แล้ว เขาแพ้อีกแล้ว.
ดื่ม หรือไม่ดื่มดี เย่ซิงเฉินทำใจอย่างยากลำบาก.
“เฮ้อ.”
เขาส่ายหน้าไปมา “ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้!”
......
นิกายที่มีนายน้อยหยวนบริหาร ทำให้จุนซ่างเซียวสบายมาก หลายครั้งก็จะไปนั่งตกปลา แม้แต่ตระเวนไปทั่วนิกาย.
“เชียนเชียน!”
วันหนึ่งเขาที่เข้าไปขวางลู่เซียนเซียนเอ่ยออกมาว่า“เจ้าช่วยข้าล้างอะไรหน่อยได้ใหม?”
“ล้างอะไร?”
“ชอบข้า.”
[ 洗 xǐ ล้าง 喜 xǐ ชอบ คำพ้องเสียง อ่านสี่เหมือนกัน]
“แก๊ก แก๊ก แก๊ก ----”
ไอเย็นที่ปะทุแช่แข็งเขาไปในทันที.
“เฮ้อ.”
หลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อผ่านมาพอดี.
ทั้งสองที่โคจรวิชาธาตุไฟคันฉ่องสวรรค์ห้าธาตุ ละลายน้ำแข็งให้กับเจ้านิกาย.
จุนซ่างเซียวหลังจากหลุดจากการแช่แข็ง ตัวสั่นงันงง กล่าวคำรามในใจ“สตรีนางนี้กล่าวล้อเล่นด้วยไม่ได้เลย สงสัยต้องพยายามให้มากกว่านี้!”
“ยอมแพ้เถอะ.”ระบบกล่าวเตือน.
......
นิกายนิรันดรที่อยู่ในความสงบ ศิษย์ทุกคนที่บ่มเพาะอย่างจริงจัง เหล่าคนระดับสูงก็ทำหน้าที่ของตัวเองไปเช่นเดียวกัน.
โลกภายนอกเองก็อยู่ในความสงบเช่นกัน.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิกายราชันย์มาร ที่มุดหัวอยู่ในหุบเขาข้ามวิญญาณไม่โผล่ออกมาอีกเลย.
ด้วยถูกจุนซ่างเซียวปล้นไปสองครั้ง หนำซ้ำเจ้านิกายยังถูกไม้เท้าแม่น้ำและขุนเขานำทาง ของจุนซ่างเซียวทิ่มเข้าให้ กล่าวได้ว่าเสียหายจนถึงรากฐาน ตลอดจนเหล่ายอดฝีมือที่เข้าไปในพิภพสงครามก็กลับออกมาอย่างปลอดภัยด้วย.
ทำให้นิกายราชันย์มารไม่กล้าออกมาสร้างปัญหา ทำให้ทวีปชิงหยุนอยู่ในความสงบ.
ภายใต้ความสงบนั้น ปรากฏคลื่นใต้น้ำ ที่ยังคงความรุนแรงอยู่!
โดยเฉพาะด้านหลังค่ายกลของจังหวัดเป่ยโม่ ที่ซ่างกวนซินเหยาเสริมพลังไว้.
เผ่าวิญญาณที่พยายามแก้ปัญหากันอย่างเร่งด่วนเพื่อที่จะทะลวงค่ายกลให้ได้ภายในหนึ่งปี ไม่เช่นนั้นจะต้องตัดหัวไปมอบให้กับจักรพรรดินีเหม่ยกุย.
จุนซ่างเซียวที่ไม่รู้สถานการณ์.
อย่างไรก็ตาม เขาที่กำลังครุ่นคิดอยู่เหมือนกัน ในทวีปชิงหยุนนั้นยังมีเผ่าวิญญาณอีกหรือไม่?
“จะต้องมีอย่างแน่นอน.”
“ไม่เช่นนั้นแผ่นดินในอดีตคงไม่เสียหายหนักขนาดนี้!”
“พวกมันอาจจะยังไม่ตื่น หรือกำลังซุ่มโจมตีอยู่ในพื้นที่ลับอยู่.”
จุนซ่างเซียวที่เอ่ยกล่าวออกมาอย่างจริงจัง“จะต้องเพิ่มสายข่าวมากกว่านี้ จะต้องเฝ้ามองให้ได้อย่างทั่วถึง!”
ด้วยเหตุนี้ เขาที่เดินทางไปยังหอฝนพรำ พูดคุยกับลี่ลั่วชิวเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้แต่พูดกระเซ้าเย้าแหย่เป็นระยะ ๆ อยู่เช่นกัน.
จนกระทั่งวันหนึ่ง.
“เจ้านิกาย.”
ลี่ลั่วฉิวเอ่ยออกมาว่า“ได้รับข่าวมาว่า เหล่านักบวชได้พิจารณาเรื่องของพิภพสงคราม จะส่งความขอบคุณท่าน ด้วยศิลาเทียมห้าล้าน.”
“5 ล้าน?”
จุนซ่างเซียวที่กรอกตาไปมา “ตระหนี่ไปหรือไม่?”
กล่าวได้ว่า อย่าว่าแต่ห้าล้านศิลาวิญญาณเทียมเลย แม้แต่ห้าล้านศิลาวิญญาณธรรมชาติ ยังไม่อยู่ในสายตาของเขาแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อคนอื่นมอบให้ เขาย่อมต้องรับมาอย่างยินดีแน่นอน.
ดังนั้น ต้นเดือน เขาก็ได้ต้อนรับเหล่าคณะนักบวช เพื่อรับศิลาวิญญาณเทียมห้าล้าน.
เรื่องดังกล่าวนี้ได้ประกาศไปทั่วทวีปชิงหยุน นับว่าสร้างชื่อเสียงให้กับนิกายนิรันดรเป็นอย่างมาก.
แทบจะในทันที ชื่อเสียงของจุนซ่างเซียวและนิกายนิรันดรก็กลายเป็นนิกายชั้นยอดในสายตาของทุกคนไปแล้ว.
ชื่อเสียง โกวเซิ่งหาได้สนใจนัก เขาที่สนใจเพียงนิกายของเขาจะต้องแข็งแกร่งที่สุด จะต้องเป็นนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปชิงหยุนให้ได้!
“ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!”
อาวุธเขี้ยวมังกรต่าง ๆ ภายใต้การควบคุมโดยเซียวจุ้ยจื่อ ผลิตเสร็จในแต่ละวัน มากขึ้นและก็มากขึ้นมีจำนวนหลายพันแล้ว ตอนนี้ได้มอบให้กับสมาชิกหอสัตว์ขี่สงคราม.
เสวี๋ยเหรินกุยและเถาหยวนสองคนที่ฝึกฝนกองกำลังสัตว์ขี่ จนกลายเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งในการรบเป็นอย่างมาก.
ศิษย์นิกายนิรันดรที่เพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ และความแข็งแกร่งเองก็พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้กองกำลังสัตว์ขี่หลายพันคน ต้องบอกว่าพลังรบของพวกเขาไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง.
แน่นอน.
จุนซ่างเซียวยังไม่ได้ออกไปพิชิตโลก ถึงเวลานี้เขาจะมีพลังพอที่จะรวมจังหวัดทั้งเก้าได้ก็ตาม.
กล่าวได้ว่าการให้เสวี๋ยเหรินกุยและเถาหยวนฝึกกองกำลังทหาร นั่นก็เพื่อปกป้องตัวเอง หรือหลังจากนี้ค่อยคิดอีกที.
......
“เจ้านิกาย.”
วันหนึ่ง ลี่ลั่วฉิวที่เร่งรีบเข้ามาหา พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า“เซียวโม่ส่งข่าวมา ขณะออกไปหาประสบการณ์ที่ถ้าอสูรมังกรได้พบเข้ากับอันตราย ขอให้เจ้านิกายส่งคนไปช่วย.”
“เขาไม่ได้ปิดด่านอย่างงั้นรึ? ออกมาเมื่อไหร่กัน?”จุนซ่างเซียวที่ตะลึงงัน.
ลี่ลั่วฉิวที่เอ่ยขอโทษ“ตั้งแต่ที่เหล่ายอดฝีมือกลับมาจากพิภพสงคราม หลังจากที่เจ้านิกายไปยังทะเลตงไห่ยวี เสี่ยวโม่ก็ออกมาแล้ว เพราะว่ายุ่งวุ่นวาย เลยลืมรายงานท่าน.”
“อันตรายหรือไม่?”
“เซียวโม่หวังให้เจ้านิกายส่งถางจู่จื่ออกมา หรือให้ท่านไปด้วยตัวเอง.”
ใบหน้าของจุนซ่างเซียวกลายเป็นจริงจังขึ้นมาในทันที.
การให้เขาหรือถางจู่จื่อไปช่วยเช่นนี้ แน่นอนว่าอยู่ในสถานการณ์อันตรายเป็นอย่างมาก.
“เปิ่นจั้วไปเอง.”
จุนซ่างเซียวที่ไม่กล่าวอะไรอีก เร่งรีบบินออกจากนิกายนิรันดร มุ่งหน้าสู่ถ้ำอสูรมังกรด้วยความเร็ว เขาที่ได้แต่ส่ายหน้าไปมา “นิกายไท่เสวียนเซิ่งป่วยรึอย่างไร ถึงได้ส่งศิษย์ไปยังพื้นที่รับอันตรายขนาดนั้น!”
เพื่อที่จะให้ศิษย์เพิ่มพลังบ่มเพาะมากขึ้น นิกายต่าง ๆ ก็จะส่งศิษย์ออกไปหาประสบการณ์เป็นเรื่องปรกติทั่วไป.
เหมือนกับนิกายนิรันดร ถึงแม้นว่าจะอยู่ในนิกาย ทว่าก็ได้ส่งศิษย์ระดับสูงออกไปหาประสบการณ์ที่พิภพสงคราม!
......
ถ้ำอสูรมังกร.
หนึ่งในพื้นที่ลับที่อันตรายที่สุดในทวีปชิงหยุน.
“ตูมมม!ตูมมม! ตูมมมม!”
ในเวลานั้น เกิดเสียงระเบิดติดต่อกันเรื่อย ๆ ในถ้ำที่มีเส้นทางเข้ามากมาย เห็นชัดเจนว่าเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงมาก ผืนปฐพีที่สั่นไปมาไม่หยุด.
ลึกเข้าไปยังเส้นทางหนึ่ง เห็นเพียงซูเซียวโม่ที่ปลดปล่อยพลังระดับจักรพรรดิยุทธ์ออกมาแล้วแต่ก็ได้แต่หลบสัตว์ร้ายที่มีระดับจักรพรรดิยุทธ์ขั้นที่เก้าครั้งแล้วครั้งเล่า.
“โฮกกก!”
“โฮกกก!”
สัตว์วิญญาณที่รูปร่างเหมือนกับมังกร ขณะพ่นเพลิงโจมตีออกมา.
“ครืนนนนน!”
ซูเซียวโม่ที่รวมพลังไว้ที่เท้าพร้อมกับวิ่งหนีหลบหลีกออกมา ทว่าก็ยังถูกกระแทกลอยออกไปหลายสิบจั้ง ชนผนังเสียงดังสนั่น.
ที่ห่างออกมาเซี่ยซุยอวิ๋นที่บาดเจ็บถึงกับตื่นตะลึงไปเหมือนกัน.
ทำไมเขาถึงได้แข็งแกร่งเพียงนี้ สามารถที่จะรับมือกับสัตว์วิญญาณขั้นสูงได้!
หากแต่นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ!
เซี่ยซุยอวิ๋นที่กำหมัดแน่น ตะโกนออกไปเสียงดัง “เจ้าหนีไปก่อน ทิ้งข้าเอาไว้!”
“เซี่ยซุยอวิ๋น จำคำพูดของข้าเอาไว้!”
ซูเซียวโม่ที่หลุดออกมาจากหนัง ก่อนที่จะเอ่ยกล่าวกับนางอย่างหนักแน่น “บุรุษที่แท้จริงจะไม่ทอดทิ้งสตรีของตน!”
แววตาของเซี่ยซุยอวิ๋นที่ตื่นตะลง ใบหน้าที่ขาวซีดกับมีสีแดงระเรื่อ.
คำพูดที่จุนซ่างเซียวไม่สามารถพูดออกมาได้ ตอนนี้มันออกมาจากปากของซูเซียวโม่เรียบร้อยแล้ว.
เฮ้อ!
เทียบกับโกวเซิ่งแล้ว ทำไมมันถึงได้แตกต่างกันมากมายนัก!
****
คำอธิบาย: มุขนี้เสี่ยวตรงคำพ้องเสียงว่า “xǐ”
ในประโยคแรก ถ้าแปลเป็นภาษาไทยตะแปลว่า ..
เธอช่วยฉันซักหรือล้างของหน่อยได้ไหม?
ประโยคที่สอง แปลว่า .. ซักหรือล้างอะไร?
ประโยคสุดท้าย แปลว่า .. “ชอบฉัน”
แต่อย่างที่เหล่าซือบอกคะ
มุขนี้เสี่ยวตรงคำพ้องเสียงว่า “xǐ”
คำว่า ซักหรือล้าง ในภาษาจีน คือคำว่า 洗 xǐ
ส่วนคำว่า ชอบ ในภาษาจีน คือคำว่า 喜欢 xǐhuan
ก็จะเหมือนเวลาเราพูดภาษาไทยว่า ..
“สี่” เสินเมอะ?
“สี่”ฮวน หว่อ
ที่มา Facebook