Chapter 1069 อาวุธเทวะของเป่ยซิงเฉิน
เย่ซิงเฉิน หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและหลิวหว่านซี คือคนที่อยู่ในหอหลิงเหยี่ยนเรียบร้อยแล้ว.
จากเริ่มต้นที่มีแต้มบุญหลักหน่วย เพียงไม่นานกับมีแต้มเต็ม เห็นชัดเจนว่าอาหนิวนั้นช่วยเหลือนิกายเป็นอย่างมาก.
จุนซ่างเซียวที่รู้สึกพอใจ จึงได้ซื้ออาวุธเทวะเฉพาะให้กับเขาในทันที.
อาลัยอาวรณ์ สังเวยสวรรค์.
เพียงแค่ชื่อของมัน ก็รู้สึกร้ายกาจแล้ว.
อย่างไรก็ตาม เอ่ยถึงอาวุธเทวะในหออาวุธเทวะ ที่หายากและพิเศษ รูปร่างของมันบางทีก็ดูน่าขันไปเหมือนกัน.
“ซิงเฉิน.”
จุนซ่างเซียวนั่งอยู่ในห้องโถง ใบหน้าเผยความพึงพอใจกล่าวออกไปว่า“หลายวันมานี้เจ้าทำเพื่อนิกายไม่น้อย เปิ่นจั้วตัดสินใจมอบอาวุธเทวะให้กับเจ้า.”
เย่ซิงเฉินที่ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาในทันที.
นับตั้งแต่เห็นอาวุธเทวะของหลี่ชิงหยาง เขาที่ไม่ลังเลเลยที่จะทิ้งศักดิ์ศรีของอดีตราชันย์ไป พร้อมกับไปแบกอิฐสร้างกำแพง ฐานที่มั่นทวีปชิงหยุนในพิภพสงครามอย่างแข็งขัน!
ตอนนี้ ท้ายที่สุด....ความตั้งใจของเขาก็สัมฤทธิ์ผล!
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่โบกมือ ริ้วแสงที่พุ่งออกไปก่อนที่จะหล่นวางที่ด้านหน้าเย่ซิงเฉิน“มันมีนามว่า”อาลัยอาวรณ์ สังเวยสวรรค์“นับจากวันนี้เป็นอาวุธเทวะของเจ้า.”
“อาลัยอาวรณ์ สังเวยสวรรค์?”
ดวงตาของอาหนิวที่เป็นประกายเข้าไปอีก.
อย่างไรก็ตามขณะแสงที่เจิดจ้าค่อย ๆ หายไป หลังจากเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของมันแล้ว ใบหน้าท่าทางของเขาที่กลายเป็นโง่งมทันที.
ในครรลองสายตาเป็นไหสุราที่มีขนาดใหญ่มาก และยังมีคำว่า อาลัยอาวรณ์ สังเวยสวรรค์สลักอยู่รอบ ๆ ไหสุรา ขนาดใหญ่ของมันนั้นสามารถสะพายหลังได้พอดีเลย.
ไหสุรา?
ต้องเรียกว่าโคตรไหสุรา!
เย่ซิงเฉินที่มุมปากกระตุกไปมาอย่างรุนแรง.
“ซิงเฉิน.”จุนซ่างเซียวเอ่ยอย่างจริงจัง.“อาวุธเทวะของเจ้าแม้นว่าจะแปลกประหลาดเล็กน้อย ทว่ามันแข็งแกร่งมาก.”
อาลัยอาวรณ์สังเวยสวรรค์ ไม่ได้ด้อยกว่ากระทะของเซียวจุ้ยจื่อแน่นอน.
ทว่าสิ่งที่เย่ซิงเฉินแทบทรุดนั้น เพราะเขาเป็นพวกคออ่อน หากว่าให้แบกสุรา ไม่ได้เป็นการย้ำเตือนว่าเขานั้นเป็นพวกคอสุราไปแล้วหรอกรึ?!
ที่จริง จุนซ่างเซียวที่เลือกอาวุธเทวะรูปลักษณ์ไหสุรา หวังที่จะให้เขาสามารถก้าวข้ามผ่านจิตมารของเขาไปให้ได้ด้วย!
“เจ้านิกาย!”
เย่ซิงเฉินที่แทบทรุดเอ่ยออกมาว่า“ข้าขอเปลี่ยนได้ไหม?”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ศิษย์แต่ละคนมีอาวุธเทวะเพียงอย่างเดียว อย่างอื่นไม่มีแล้ว.”
“......”
เขาที่พยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้รับมันมา สุดท้ายแล้ว...เย่ซิงเฉินที่ต้องยกมันขึ้นมา จับปากไหสุรา.
หากแต่เมื่อคิดถึงกระทะของเซียวจุ้ยจื่อ หรือนวมสีชมพูของราชาสัตว์จื่อหลิน ไหสุราก็ดูดีกว่า อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ถือว่าขายหน้าแต่อย่างใด.
“ฟิ้ว!”
ขณะที่เขาส่งจิตสำนึกเข้าไป ความรู้บางอย่างก็ไหลเข้ามาในสมองของเขาทันที.
ในเวลาต่อมา เย่ซิงเฉินก็เข้าใจวิธีใช้และทักษะจิตสังหารพิฆาตได้ ความเศร้าใจก่อนหน้านี้หายไป กลายเป็นเปล่งประกายในทันที!
แม้นว่ามันจะมีรูปลักษณ์เหมือนกับไหสุรา ทว่าก็ไม่ได้นำมาใช้ใส่สุราจริง ๆ....ไม่ คนที่คิดจะเอามาใส่คงเป็นแค่คนป่วยเท่านั้น.
ใช่แล้ว!
อาลัยอาวรณ์สังเวยสวรรค์นั้นก็คืออาวุธติดใบมีด!
เมื่อปลดปล่อยมันออกมา ก็จะสามารถยิงออกไปสะบั้นศีรษะของศัตรูได้อย่างง่ายดาย.
เย่ซิงเฉินที่ชอบที่จะโจมตีสังหารเพียงกระบวนท่าเดียว กับอาวุธที่กุดหัวได้ในทันที เป็นสิ่งที่เขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก.
......
ที่หลังเขา.
สถานที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง.
เย่ซิงเฉินที่นั่งอยู่บนศิลายักษ์ด้วยท่าทางอหังการ ที่ด้านหลังแบกไหสุราใหญ่ที่มีโซ่รัดพัน.
“ศิษย์น้องเย่แบกไหสุราไว้ด้านหลังอย่างงั้นรึ?”
“ได้ยินมาว่ามันคืออาวุธเทวะที่เจ้านิกายมอบให้!”
หลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อที่จ้องมองกันและกัน ขณะชำเลืองมองเย่ซิงเฉิน.
“พี่ชายอาหนิว.”
ฮุยเอ๋อที่ลอบมองเขาไกล ๆ ใบหน้าเผยยิ้ม.
นางที่เป็นสตรีธรรมดาที่เป็นคู่หมั้นของเป่ยอาหนิว นับตั้งแต่เข้าร่วมนิกายนิรันดร นางก็ฝึกฝนบ่มเพาะอยุ่ตลอด ทำตัวจืดจาง ไม่เข้าไปรบกวนเย่ซิงเฉินแต่อย่างใด.
อย่างไรก็ตาม นางก็แอบมองเขาไม่เคยห่างตลอด อยู่ในมุมลับ ๆ จ้องมองเขาอย่างมีเยื่อใย.
ความรักความรู้สึกเป็นเรื่องยากจะเข้าใจ.
ฮุยเอ๋อ ที่รู้ว่าพี่อาหนิวไม่ได้สนใจนางแล้ว แต่ก็ยังหวังที่จะอาศัยอยู่ในนิกายนิรันดร เพียงแค่มองห่าง ๆ ก็พอใจแล้ว.
“ฟิ้ว!”
เย่ซิงเฉินที่โบกมือขวา พลังวิญญาณที่พวยพุ่ง ไหสุราด้านหลังที่เปล่งแสง ก่อนที่จะมีบางอย่างพุ่งบินออกไป.
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมมม-”
เป็นไหสุราที่กลายเป็นริ้วแสงพุ่งออกไปเป็นริ้วเงาพุ่งกระแทกหินทะลุเป็นรูผ่านลึกเข้าไป.
“เร็วมาก!”
“หากไม่ปล่อยจิตสัมผัสไปก่อนหน้านี้ บางทีคงจะไม่รู้ด้วยว่าเป็นอะไร!”
หลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อที่เผยความประหลาดใจ.
“ครืนนนนนน!”
ในเวลาต่อมา เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง.
เย่ซิงเฉินที่โบกมือขวา ก่อนที่อาลัยอาวรณ์ สังเวยสวรรค์จะลอยคืนกลับมา และไปอยู่ด้านหลังของเขาเช่นเดิม.
ก้อนหินใหญ่แตกร้าวเป็นใยแมงมุมกระจายไปทั่ว.
“เฮ้ย!”
ลี่เฟยอุทานออกมาด้วยความตกใจ“นี่ไม่ใช่ไหสุราแล้ว มันคืออาวุธลับต่างหาก!”
“ฟิ้ว!”
เย่ซิงเฉินที่โบกมือ อาลัยอาวรณ์ สังเวยสวรรค์ก็บินออกไปอีกครั้ง.
ความเร็วครั้งนี้ค่อนข้างช้า ทุกคนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทว่าขณะที่ลอยออกไปไกล ไหสุราที่ขยายออกมาในทันที.
“ฟู่ ฟู่-”
กลิ่นอายที่แหลมคมพวยพุ่งระเบิดออกไปรอบ ๆ!
ในเวลาต่อมา ไหสุราขนาด 3-5 จั้ง มันได้สร้างเมฆสีดำขยายออกไปปกคลุมยอดเขา ก่อนที่จะปลดปล่อยลูกเห็บใบมีดลงมา.
“......”
ทุกคนที่จับจ้องมองถึงกับมุมปากกระตุก.
บนยอดเขาที่ถูกไหสุราลอยอยู่ข้างบน เป็นภาพที่ดูแปลกประหลาด.
“ตูมมมมมมมม!”
เกิดระเบิดเสียงดังกึกก้อง พื้นที่พังทลายเสียหายเป็นบริเวณกว้าง.
อาลัยอาวรณ์ สังเวยสวรรค์ที่ลอยกลับมาด้านหลังเย่ซิงเฉิน หลุมบ่อ มากมายที่ปรากฏบนยอดเขา.
มันสามารถปล่อยออกไปโจมตีด้วยความเร็ว และยังขยายขนาดปล่อยอาวุธลับที่ทรงพลังได้อีก!
แน่นอน.
เย่ซิงเฉินเพียงแค่ทดสอบเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจทำลายยอดเขาและศิลารอบ ๆ ดังนั้นจึงไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริงออกมา.
“ไม่เลว ไม่เลว.”แววตาของเขาที่เผยความพึงพอใจเป็นอย่างมาก.
แม้นว่าอาลัยอาวรณ์ สังเวยสวรรค์จะมีรูปร่างน่าหงุดหงิดสักหน่อย แม้นว่าจะไม่เข้ากับเขาที่คออ่อน เมาที่ไรต้องไปหลับหน้าห้องน้ำหรือคอกเป็ดไก่ทันที ทว่าพลังของมันก็รุนแรง ถูกใจเขายิ่งนัก.
เรื่องสุรา!
เป็นดั่งขุนเขาใหญ่!
ที่เปิ่นตี้จะก้าวข้ามผ่านไป!
เวลาอาหารตอนเย็น ขณะที่อดีตราชันย์รัตติกาลกำลังนั่งกินอาหารอยู่นั้น ก็มีแก้วสุราเล็ก ๆ ที่ถูกวางไว้ด้านหน้า มันส่งกลิ่นอายปะทุอบอวลไปทั่ว.
เจ้านิกายที่เป็นคนรินสุราแล้ววางไว้ด้านหน้าให้เขานั่นเอง!
“จุ้ยจื่อ ซิงเฉิน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ช่วงเวลาที่พวกเจ้าออกไปด้านนอกนั้น นิกายได้รับคนหมักสุรามา สุราที่เขาบ่มนั้น ศิษย์ทุกคนต่างก็ได้ชิมแล้ว พวกเจ้าลองชิมดู.”
“คนหมักสุรา?”
เย่ซิงเฉินที่ขมวดคิ้วไปมา ราวกับคิดว่าตัวเองได้พบเข้ากับศัตรูโดยกำเนิดเข้าเสียแล้ว!
“เจ้านิกาย.”
เขายกมือขึ้นและเอ่ยออกมาอย่างภาคภูมิ “ศิษย์เลิกดื่มสุราแล้ว.”
ด้วยความน่าอายเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาที่ปฏิญาณว่าจะเลิกดื่มไปเลยดีกว่า.
ถึงแม้นว่าสุราชั้นดีจะวางอยู่ตรงหน้า ข้าเย่ซิงเฉินก็จะไม่ดื่ม!
“สุรานี้มีนามว่าเมามายา.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ไม่ได้ดื่มให้เมา แต่เพื่อเพิ่มพลังวังชา.”
“ฮึ.”
เย่ซิงเฉินแค่นเสียง.
พูดโม้เกินจริงคิดที่จะหลอกเปิ่นตี้อยู่รึอย่างไร.
“แน่นอน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “หลังจากดื่มเมามายาแล้ว จะสามารถยกระดับการรับรู้พลังฟ้าดินได้ ตลอดทั้งวัน.”
เซียวจุ้ยจื่อที่เผยท่าทางประหลาดใจ“ลึกล้ำขนาดนั้นเลยรึ?”
“ลองดู.”
“ครับ!”
เซียวจุ้ยจื่อที่เป็นคนคอแข็งอยู่แล้ว นอกจากนี้สุรานี้ก็ไม่เลว ดังนั้นจึงไม่หวั่นเกรงที่จะทดสอบ พร้อมกับยกกระดกดื่มทันที จนกระทั่งสัมผัสรู้ของเขาที่สัมผัสได้ถึงพลังฟ้าดินได้เพิ่มขึ้น จึงเอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ“เจ้านิกาย ศิษย์ขอไปยังค่ายกลรวมวิญญาณก่อน!”
หลังจากเห็นท่าทางของเซียวจุ้ยจื่อแล้ว เย่ซิงเฉินก็กลายเป็นจริงจังทันที.
หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายดื่มเมามายา เขาก็มองเห็นพลังฟ้าดินที่พลุ่งพล่านรอบ ๆ ร่างของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าสุรานี้จะช่วยยกระดับการรับรู้ เป็นความจริง!
“ซิงเฉิน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ไม่ยอมดื่มสุราที่พรรคพวกรินไห้ จะไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยรึ?”
“ใช่แล้ว!”
ลี่เฟยและเถียนซีปรากฏที่ทางเข้าโรงอาหาร ก่อนที่จะเผยยิ้มอย่างคาดหวัง.
“ฮึ.”
เย่ซิงเฉินที่ยกสุราขึ้น.
สายตาที่จับจ้องมองสุราเมามายา.
ขณะที่มันเข้ามาในปาก ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมกรุ่น!
ทว่าเมือสุราลงท้องแล้ว อาการคออ่อนของเขาก็แสดงผลทันที ราชันย์รัตติกาลก็จำอะไรไม่ได้อีกต่อไปในทันที.
......
“แฮกๆ......”
เสียงหายใจหอบที่สูดลึก เย่ซิงเฉินที่กุมศีรษะของตัวเองไปมา.
กว่าความทรงจำจะคืนกลับ ก็ตระหนักได้ว่าตัวเองเพิ่งดื่มมาแล้ว ก่อนที่จะหันหน้ากวาดตามองไปรอบ ๆ.
สภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย เตียงที่คุ้นเคย.
ใช่แล้ว.
ห้องของเขาเอง!
“ฟู่!”
เย่ซิงเฉินที่พ่นลมหายใจ “โชคดี โชคดีจริง ๆ.”
“กึก ซี่!”
ในเวลานั้นหลี่ชิงหยางที่เห็นเขาก้าวออกมาจากห้องพอดี ก่อนที่จะเอ่ยเสียงเบา“ศิษย์น้องเย่ เจ้าดื่มสุราแล้วไม่ควรจะไปยังคอกแกะนะ ข้าต้องใช้เวลาและพลังมากมายนำเจ้ากลับมาในห้อง.”
“วึ้ง!”
เย่ซิงเฉินถึงกับยืนเซ่อ ราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางกบาล.