Chapter 1063 อาวุธที่ขาดจิตวิญญาณ
ฟ่านเย่จื่อยอมจำนน.
ไม่ใช่เพราะความอร่อยของอาหาร แต่เพราะความเป็นเลิศของอาวุธ.
เขาที่ก้าวไปบนเส้นทางตีเหล็ก การเห็นกระบี่หานเฟิง กระบี่หานมั่ง และอาวุธต่าง ๆ อีกมากมาย ถึงแม้นว่าจะเป็นเขาก็ตาม ไม่สามารถที่จะทำได้ถึงระดับนี้ได้แต่!
ผู้เชี่ยวชาญ!
ผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ!
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายเอ่ยว่าเข้าใจทักษะที่ทิ้งเอาไว้จากตำราโบราณเพียงแค่ 20%!
ทำให้ฟ่านเย่จื่อตื่นตะลึงโดยสมบูรณ์ เรื่องเช่นนี้มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
หากว่าเขาได้ศึกษาตำราของคู่รักนั่นได้ วิชาตีเหล็กของเขาจะโผทะยานขึ้นไปอีกแน่!
แม้นว่าฟ่านเย่จื่อถูกซูฮกว่าเป็นช่างตีเหล็กอันดับหนึ่ง ทว่าก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองอยู่บนจุดสูงสุดแม้แต่น้อย เขายังคงมีใจที่เป็นเหมือนกับช่างฝึกหัดตลอดเวลา.
กล่าวได้ถูกอาวุธดึงดูดจากจำนวนอาวุธน้อยนิดที่โกวเซิ่งนำออกมาเท่านั้น.
กระบี่หานเฟิงระดับต้น เพียงเท่านี้ก็ทำให้ปรมาจารย์ฟ่านยอมเปิดใจแล้ว.
ดังนั้นความหนักแน่นไม่ได้น่าหวาดกลัว เมื่อพบกับเงื่อนไขที่เหมาะสม!
“กึก ซี่!”
ประตูคุกที่เปิดออก แสงแดดอุ่น ๆ ที่ทอแสงส่องเข้ามา.
ไต่ลู่ เจาโตวโตวและนายน้อยหยวนที่จ้องเขม็ง ฟ่านเย่จื่อที่เข้ามาห้องขังทีหลังและออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน.
“ทั้งสาม.”
เขาที่หยุดที่ด้านหน้าประตู เอ่ยออกมาว่า“การได้พบกันในช่วงเวลาสั้น ๆ ถือเป็นวาสนา ไว้พบกันใหม่ในยุทธภพ!”
“......”
ไต่ลู่โกรธเกรี้ยวจนควันออกหู.
บิดาไม่มีวาสนากับเจ้าหรอก! ลาขาด อย่าได้เจอกันอีกเลย!
เจาโตวโตวที่เผยความอิจฉาออกมามากมาย คิดในใจ หากเจ้านิกายเอ่ยปากรับตน เขาจะตอบรับอย่างไม่ลังเลเลย!
......
ในวันนั้น.
ฟ่านเย่จื่อที่กลายเป็นถางจู่หอตีเหล็ก.
หลังจากนั้น เขายิ่งตื่นตกใจเข้าไปอีก เพราะว่าศิษย์สายนอกทั่วไปนั้น ทุกคนต่างก็มีกระบี่หานเฟิงและหานมั่งกันทั้งหมด!
“โอ้วสวรรค์!”
“สามารถสร้างอาวุธที่เหมือน ๆ กันออกมา คุณภาพเท่ากัน นี่ทำได้อย่างไร!”
ฟ่านเย่จื่อที่ตระเวนไปรอบ ๆ นิกาย หลังจากพบศิษย์คนใด หลังจากประเมินอาวุธของพวกเขา ใบหน้าของเขาที่สั่นไปมาไม่หยุด.
แน่นอน.
ที่เรียกว่าการตีเหล็กนั้น ไม่ใช่แค่สร้างอาวุธเท่านั้น ยังหมายถึงการซ่อมบำรุงอาวุธด้วยเช่นกัน.
ศิษย์สายในที่สวมเซ็ตเจิ้นหยางประลองกันที่ลานยุทธ์ ความรุนแรงที่ดังกึกก้อง ทำให้ฟ่านเย่จื่อพุ่งออกไปทันที ก่อนที่จะลูบ ๆ ครำ ๆ พร้อมกับอุทานออกมาด้วยความตกใจ.“สมบูรณ์! สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง!”
ระยะเวลานี้ ศิษย์นิกายนิรันดรรู้สึกผวาเศร้าใจไปตาม ๆ กัน.
เพราะถางจู่ฟ่านที่ไม่เพียงประเมินอาวุธพวกเขา ยังลูบ ๆ คลำ ๆ ชุดเกราะของพวกเขาด้วย ราวกับคนเสียสติ ทำให้พวกเขาขนลุกเกรียวเสียวสันหลังกันเลย.
“ว๊ากกกก!”
ในห้องน้ำ ขณะศิษย์ชายกำลังยิงปืนน้ำอยู่นั้น แทบจะยกกางเกงขึ้นไม่ทัน ก่อนที่จะวิ่งออกมาพร้อมกับตะโกนด้วยความตกใจ“มาอยู่นี่ได้อย่างไร!”
หากพูดถึงการตีเหล็กและอุปกรณ์แล้ว ฟ่านเย่จื่อถือว่าเป็นคนเสียสติทันที หลังจากตระเวนประเมินอุปกรณ์ทั้งนิกายนิรันดร เขาก็ยิ่งรู้สึกอับอายมากขึ้นเท่านั้น.
อย่างไรก็ตาม.
อาวุธยุทโธปกรณ์หลังจากประเมินมาหลายวัน เขาก็พบข้อบกพร่องได้.
“เจ้านิกาย.”
ในห้องโถง ฟ่านเย่จื่อกล่าวอย่างภาคภูมิ “อุปกรณ์ที่ท่านตีขึ้นมา แม้นว่าจะสมบูรณ์แบบ ทว่าหลังจากตรวจสอบมาหลายวันเหล่าฟู่พบว่า มันยังขาดอะไรบางอย่างอยู่.”
“ขาดสิ่งใดรึ?”
“ขาด.....”ฟ่านเย่จื่อที่หยุดเล็กน้อยและเอ่ยอย่างจริงจัง“จิตวิญญาณ!”
จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางตกใจขึ้นมาเหมือนกัน.
ฟ่านเย่จื่อเอ่ย “อาวุธแต่ละชิ้นที่ช่างตีเหลกสร้างมันขึ้นมา หลังจากขึ้นรูปเสร็จสิ้นแล้ว มันจะมีจิตวิญญาณคงเหลืออยู่ ทว่าฟ่านโหมวไม่เห็นจิตวิญญาณของเจ้านิกายในนั้นเลย.”
“กระบี่หานเฟิง แม้นว่าจะสร้างมาได้คุณภาพที่เหมือนกัน แต่เพราะว่ามันขาดจิตวิญาณ ทำให้ดูไม่สมบูรณ์แบบ!”
“แน่นอน.”
“ปัญหานี้ ไม่ได้หนักหนาอะไรนัก.”
ทว่าสำหรับยอดยุทธ์ที่ผูกพันกับอาวุธนั้น หากใช้อาวุธที่ไม่มีจิตวิญญาณ จะทำให้ส่งผลทำให้ไม่สามารถใช้พลังของมันออกมาได้ถึงจุดสูงสุด.”
อาวุธหานเฟิงและอาวุธหานมั่งเป็นอาวุธที่ตีขึ้น ผลิตออกมาจากฟังก์ชันหอตีเหล็ก เป็นงานที่ผลิตออกมาเหมือนกับปั้มออกจากเครื่องจักรกล มันย่อมแตกต่างจากที่ตีขึ้นจากปรมาจารย์ตีเหล็กที่ค่อย ๆ บรรจงทุ่มแรงใจและใส่จิตวิญญาณลงไป.
กล่าวตามตรง.
ของผลิตจากเครื่องจักรกลและของทำมือ เป็นเรื่องทั่วไปที่จะแตกต่างกัน.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ที่จริงปัญหานี้เปิ่นจั้วพอจะตระหนักได้เช่นกัน ทว่าความสามารถที่มีจำกัดจึงยากที่จะแก้ไขได้ ไม่รู้ว่าถางจู่ฟ่านมีวิธีหรือไม่?”
“มี!”ฟ่านเย่จื่อเอ่ย.
จุนซ่างเซียวเอ่ยออกมาด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจ “วิธีอันใดรึ?”
“ฟ่านโหมวที่มีวิธียุทธ์ไม่ได้สูงนัก ทว่ากับมีพรสวรรค์ทางด้านตีเหล็ก หลังจากฝึกฝนมาหลายร้อยปี ก็สามารถสร้างทักษะที่เรียกว่าหล่อวิญญาณฉีขึ้นมาได้.”ฟ่านเย่จื่อเอ่ย.
“หล่อวิญญาณฉี?”
“การบ่มเพาะของวิธียุทธ์ก็มีปราณวิญญาณ วิถีกระบี่ก็มีปราณกระบี่ แม้แต่บัณฑิตยังมีปราณนักเขียนเลย สำหรับปราณหลอมนั้นก็คือปราณวิญญาณของนักตีเหล็กนั่นเอง.”
จุนซ่างเซียวพอที่จะเข้าใจได้.
ฟ่านเย่จื่อเอ่ย “หากเจ้านิกายตีอาวุธเหล่านั้นขึ้นมาได้ พร้อมกับมีทักษะหล่อวิญญาณฉีแล้วล่ะก็ เมื่อใส่จิตวิญญาณลงไป แม้นว่าจะไม่ได้ยกระดับขึ้นมามากมาย และไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ทว่าหากยอดฝีมือได้มันไปจะสามารถผสานเข้ากับมันได้อย่างสมบูรณ์และทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า!”
ผู้เชี่ยวชาญ!
นี่สิที่เรียกว่าผู้เชี่ยวชาญ!
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เปิ่นจั้วได้หลอมกระบี่หานเฟิง ให้กับศิษย์เกือบทุกคน การที่จะหลอมวิญญาณฉีเข้าไป บางทีจะต้องใช้เวลานหรือไม่?”
“เพียงไม่นาน.”
ฟ่านเย่จื่อที่กล่าวออกมาอย่างภาคภูมิ “ด้วยการหลอมวิญญาณฉีของฟ่านโหมว วันเดียวก็สามารถทำได้หลายร้อยชิ้นไม่ยาก.”
วันละหนึ่งร้อย.
ร้อยวันก็เท่ากับหนึ่งหมื่น!
อาวุธที่หลอมขึ้นมาหลายแสน ไม่ต้องใช้เวลา 3-5 ปีเลยรึ?
อย่างไรก็ตาม เขามีเขตแดนลับการอากาศ ถ้าให้อีกฝ่ายเข้าไปหลอมวิญญาณฉีด้านใน จะทำให้เพิ่มจิตวิญญาณได้เร็วขึ้นหรือไม่?!
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “คงต้องรบกวนถางจูฟ่านในการหลอมวิญญาณฉี เพิ่มจิตวิญญาณให้กับอาวุธแล้ว!”
ฟ่านเย่จื่อเอ่ย “ฟ่านโหมวเองก็ใจร้อนเช่นกัน!”
การที่เห็นอาวุธที่สมบูรณ์ แต่ยังขาดจิตวิญญาณ ทำให้สัญชาตญาณของช่างตีเหล็กมันลุกโชน ต้องการจัดการจุดอ่อนนี้ให้หายไปโดยเร็ว!
......
หอตีเหล็ก.
“ฟู่ ฟู่!”
แตกต่างจากกลิ่นอายของวิถียุทธ์ ภายในห้องนั้น กระบี่หานเฟิงที่ลอยอยู่ มันกำลังซึมเข้าไปในอาวุธเหล่านี้.
“นี่คือการหลอมวิญญาณฉีอย่างงั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวที่เฝ้ามองด้วยความอัศจรรย์ใจ.
“ฟิ้ว!”
เพียงไม่นานหลังจากนั้น กระบี่หานเฟิงที่ถูกปราณตีเหล็กปกคลุมก่อนค่อย ๆ ล่วงหล่นลงบนพื้นที่ทั่งตีเหล็ก.
ฟ่านเย่จื่อที่ลืมตาขึ้น มือทั้งสองที่วางผสานกัน หนวดของเขาที่โบกสะบัดไปตามอากาศที่แผ่ออกไปเป็นระลอกคลื่น.
“หวึ่ง หวึ่ง หวึ่ง!”
ปราณตีเหล็กที่แบ่งออกเป็นสองสวน ส่วนหนึ่งที่รวมกันเป็นเหมือนกับค้อนโลหะ เริ่มที่จะฟาดลงบนกระบี่หานเฟิง ส่งเสียงดัง กิ๊งก่อง เบา ๆ.
“เฮ้ย!”
จุนซ่างเซียวที่สะดุ้งตกใจ“ทำแบบนี้ได้ด้วย? ถือว่าเป็นประสบการณ์เลย!”
ค้อนที่ตีลงบนกระบี่หานเฟิง พร้อมกับส่งปราณตีเหล็กเข้าไปในคมดาบดังกล่าว.
เพียงไม่นานหลังจากนั้น.
ฟ่านเย่จื่อก็ดึงปราณตีเหล็กคืนไป.
กระบี่หานเฟิงที่หลอมขึ้นใหม่ คมดาบส่องประกายรัศมีแสงบาง ๆ ออกมา เห็นชัดเจนว่ามันเปลี่ยนไปจริง ๆ!
“ร้ายกาจ ร้ายกาจ!”จุนซ่างเซียวที่ยกนิ้วให้.
“เฮ้อ.”
ฟ่านเย่จื่อถอนหายใจ“ทักษะตีเหล็กของข้านั้นมีขีดจำกัด หากก้าวสู่ระดับที่สูงกว่านี้ อย่าว่าแต่หลอมจิตวิญญาณเลย แม้แต่ใส่วิญญาณเทียมก็ไม่มีปัญหา.”
จุนซ่างเซียวที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต “สามารถใส่จิตวิญญาณเทียมได้ด้วยรึ?”
“อืม!”
ฟ่านเย่จื่อเอ่ย“วิธีตีเหล็กหากก้าวสู่ระดับสมบูรณ์ ในตำราโบราณได้บันทึกเอาไว้อยู่เช่นกัน น่าเสียดายทวีปชิงหยุนไม่เคยปรากฏ บางทีอาจจะเป็นแค่ข่าวลืม.”
จุนซ่างเซียวเอ่ยปลอบใจ“ขอเพียงระดับนั้นมีอยู่จริง สักวันหนึ่งปรมาจารย์ฟ่านจะต้องไปถึงอย่างแน่นอน.”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
ฟ่านเย่จื่อหัวเราะลั่น เอ่ยออกไปว่า“ขอให้สมพรปาก.”
ภายใต้เสียงหัวเราะมีความขมขื่นและช่วยไม่ได้ แฝงอยู่ด้วย เพราะว่าเขารู้ดี หากว่าระดับสมบูรณ์แบบนั้นมีอยู่จริง คงไม่มีอยู่ในโลกนี้ มีเพียงแค่ต้องแยกมิติก้าวขึ้นสู่พิภพเบื้องบนเพื่อแสวงหาเท่านั้น!