Chapter 1061 นักโทษใหม่ของเจาโตวโตว
หลังจากไปสร้างหายนะใหญ่ที่จังหวัดตงไห่ยวีแล้ว เขาก็กลับมาด้วยความเบาสบายพอใจกับการเก็บเกี่ยวเป็นอย่างมาก.
แม้นว่าจะได้รับผลจากการปลดปล่อยดาบหนานโชวทำให้อ่อนแอ ทว่าด้วยการมีพวกหลี่ชิงหยางอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาใด ๆ.
ปรมาจารย์ฟ่านและนายน้อยหยวนที่ตื่นตะลึงไม่แพ้ ๆ กัน.
ก่อนหน้านี้เมื่อเดินทางมาพวกเขาที่เสี่ยงภัยแทบเอาตัวไม่รอด ทว่ากับเรือเหาะในขากลับไม่เพียงแค่รวดเร็ว ทว่าปลอดภัยสุด ๆ แทบจะไม่เจออุปสรรคเลย!
“นายน้อย!”
เหล่าหลินท้ายที่สุดก็มีโอกาส ได้เอ่ยปากออกมา“ที่จริง ท่านสามารถที่จะเข้าร่วมนิกายนิรันดรได้ อย่าลืมว่า......”
หยวนเฟิงเอ่ย “เหล่าหลิน ข้าจะไม่รับใช้จุนซ่างเซียว!”
ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องสวมชุดนักโทษ ถูกส่งเข้าคุกนิกายนิรันดรแทน.
“กึก ซี่!”
ประตูห้องขังที่ปิดลง นายน้อยหยวนที่ก้าวเข้ามาในคุก.
เห็นนักโทษใหม่ที่ถูกส่งเข้ามา เจาโตวโตวที่ก้าวออกมาจากมุม พร้อมกับเผยยิ้มทักทาย“สหาย เจ้าถูกส่งเข้ามาได้อย่างไร?”
“......”
นายน้อยหยวนไม่ตอบ ใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความขมขื่น.
เขาที่เคยสร้างปัญหาไปทั่วทุกสารทิศ ท้ายที่สุดวันนี้กลับกลายเป็นนักโทษโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้!
“ไม่ต้องเศร้าไป.”
เจาโตวโตวที่ก้าวไปตบไหล่เขา พร้อมกับกล่าวให้กำลังใจ“ชีวิตของแต่ละคนย่อมต้องเผชิญกับปัญหาร้อยแปด บุรุษที่แท้จริงเท่านั้นที่ล้มแล้วสามารถลุกขึ้นกลับมาได้!”
“ขอเพียงหัวใจของเจ้ามีแสงสว่าง ไม่ว่าจะเป็นความมืดใดก็ล้วนแต่ผ่านไปได้.....”
“หุบปาก!”
ไต่ลู่ที่นั่งอยู่ไกลออกไปตะโกนขัดเขาในทันที.
หลายวันนี้ เขาถูกคำพูดเจาโตวโตวที่พูดกรอกหูหลอกหลอน จนจิตใจแทบพังทลายลงแล้ว.
นายน้อยหยวนที่จ้องมองไต่ลู่ ไต่ลู่จ้องมองเขา.
......
นิกายนิรันดร ห้องโถงใหญ่.
เจียงเซีย ลี่ลั่วฉิวที่เข้ามารายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ของนิกายช่วงที่เขาไม่อยู่.
จุนซ่างเซียวที่พยักหน้ารับฟัง ใบหน้าเผยความพึงพอใจออกมา.
นิกายของเขาเริ่มเข้ารูปเข้ารอย มั่นคง หลาย ๆ เรื่องที่เจ้านิกายไม่ต้องลงมือเอง ก็สามารถก้าวไปได้เอง.
“รบกวนทุกคนแล้ว.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
“เจ้านิกาย.”เจียงเซี่ยเอ่ย “เรื่องนี้พวกเราควรทำอยู่แล้ว.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ขอให้ทำเช่นนี้ตลอดไป ช่วยยกระดับนิกายนิรันดรอย่างมีความสุข ให้ก้าวไปด้านหน้า แข็งแกร่งทรงพลังด้วยกัน!”
หลังจากรายงานทุกอย่างแล้ว ทุกคนก็ถอยกลับไป.
“ถางจู่ลี่ รอก่อน.”
ลี่ลั่วฉิวขณะจะก้าวออกจากห้องโถง จุนซางเซียวก็กล่าวเรียก นางที่หันหลังกับมา “เจ้านิกาย มีเรื่องอะไรรึ?”
โกวเซิ่งที่เอ่ยกล่าวออกมาว่า“เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับดวงดาวหรือไม่?”
“ดวงดาว?”
หลี่ลั่วฉิวถึงกับตะลึงงัน “ไม่รู้เลย.”
จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางจริงจังกล่าวออกมาว่า“แตกต่างเหมือนกับเธอคือดวงดาวอยู่บนฟ้า ต่างกับข้าเป็นแค่ดวงตาอยู่บนพื้นดิน.”
ลี่ลั่วฉิวที่ดวงตาเบิกกวางกลมโต.
เจ้านิกายเดินทางไปยังจังหวัดตงไห่ยวี สมองถูกลาดีดมาอย่างงั้นรึ? ถึงได้พ่นคำอะไรที่เพี้ยน ๆ แบบนี้ออกมากัน?
จุนซ่างเซียวเอ่ยถาม“เป็นอย่างไร? ประทับใจหรือไม่?!”
เพราะว่าคะแนนสนับสนุนเกินมา เขาได้รีเฟรชร้านค้าระหว่างทางและได้ซื้อตำรา“รสพิลาสคำบอกรัก”มา หลังจากอ่านบนกลอนและร้อยแก้วมาแล้ว เขาก็เลยทดสอบลองดูสักหน่อย.
มันจะได้ผลรึไม่?
จุนซ่างเซียวไม่ค่อยเชื่อนัก.
ดังนั้นเขาจึงลองทดสอบใช้จริงเลย โดยทดลองกับถางจู่ลี่ ใช้คำพูดที่ได้อ่านจากตำราบอกรักดูทันที.
ลี่ลั่วฉิวที่เงียบไปชั่วขณะ ก่อนที่จะยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะ “เจ้านิกาย ท่านไม่รู้สึกอับอายบ้างรึ?”
เห็นชัดเจนว่าคำพูดหวานเลี่ยนที่ใช้กันในโลกเดิมนั้นเหมือนกับเป็นเหมือนกับมุขตลกในโลกแห่งนี้ กลายเป็นเรื่องขบขันสำหรับถางจู่ลี่ที่เป็นมือสังหารมาก่อนเท่านั้น.
“......”
จุนซ่างเซียวที่ยกมือขึ้นบีบขมับ พร้อมกับอุทานเสียงดังในใจ“สัด จริง ๆ ด้วย ตำราบ้านั่น ก็แค่ของหลอกเด็กเท่านั้น!”
ระบบเอ่ย “ไม่ แท้จริงนั้น เมื่อโฮสน์ใช้มันไร้เสน่ห์ต่างหาก.”
“ไปให้พ้นเลย!”
......
หลังจากเสร็จการประชุม จุนซ่างเซียวก็ก้าวเข้าไปในดินแดนลับกาลอากาศ เพื่อที่จะฟื้นฟู่สภาพตัวเอง.
จากนั้น เขาก็เดินทางไปยังสวนที่รองรับแขก.
“ปรมาจารย์ฟ่าน.”
จุนซ่างเซียวนั่งลง พลางเผยยิ้ม “อาศัยอยู่ที่นี่คุ้นเคยหรือยัง?”
ฟ่านเย่จื่อที่พูดไม่ออก.
เจ้านิกายนิรันดรคนที่ช่วยเขา เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ทว่าก็รู้สึกขอบคุณเช่นกัน ต้องไม่ลืมว่าอีกฝ่ายนำเขากลับแผ่นดินใหญ่มา หากแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมปล่อยเขาไป แม้แต่นำเขามาที่นิกายนิรันดร ให้อยู่ที่นี่ไม่สามารถไปใหนได้.
เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกขังไว้ใช่หรือไม่?
“เจ้านิกายจุน.”
ฟ่านเย่จื่อยกมือประสานไปด้านหน้า “นิกายของท่านพลังฟ้าดินหนาแน่นมาก บรรยากาศยอดเยี่ยม ถือได้ว่าเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะที่จะอยู่อาศัย.”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็อย่าไปใหนเลย.”จุนซ่างเซียวที่เผยยิ้มออกมา.
ฟ่านเย่จื่อที่หวาดผวาขึ้นมาในทันที.
“ปรมาจารย์ฟ่าน.”
ใบหน้าของจุนซ่างเซียวที่เผยความจริงจังออกมา “หอตีเหล็กของนิกายนิรันดร ยังขาดถางจู่อยู่ หากท่านไม่........”
“เจ้านิกายจุน!”ฟ่านเย่จื่อเร่งรีบกล่าวขัด “ฟ่านโหมวนั้นไม่แย่แสชื่อเสียงและวาสนา เป็นคนอิสระ ทุกหนแห่งคือบ้าน ยากที่จะประจำอยู่นิกายใดได้ โปรดขอร้องเรื่องอื่นเถิด!”
เขาคือช่างตีเหล็ก ไม่ต้องการถูกจำกัด เพื่อที่จะแสวงหาสิ่งที่เขาฝัน จึงต้องการตะเวนไปทั่วทุกสารทิศ ไม่ต้องการเข้าร่วมนิกายหรือกลุ่มอิทธิพลใด.
“ไม่คิดหน่อยเลยรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ฟ่านเย่จื่อที่ยกมือประสาน “เจ้านิกายช่วยเหลือฟ่านโหมว ฟ่านโหมวซาบซึ้งยิ่งนัก หากมีโอกาสวันหน้า จะต้องตอบแทนอย่างแน่นอน!”
คำพูดดังกล่าว เห็นชัดเจนว่าเขาต้องการจากไป.
เขาที่ถูกขังเอาไว้ที่จังหวัดตงไห่ยวีสิบปี ตอนนี้กลับมาได้อย่างยากลำบาก เขายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องการทำ ยกตัวอย่างไปหาสหายเก่า หรือเยี่ยมเยือนเหล่าญาติ ๆ.
“ตกลง.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ชิงหยาง จุ้ยจื่อส่งปรมาจารย์ฟ่านลงเขา.”
เขาต้องการคนมีความสามารถในเมื่ออีกฝายไม่ยอม ก็ไม่สามารถที่จะบังคับได้.
“รับทราบ!”
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อที่ก้าวเข้ามา พร้อมกับยกแขนเขาคนละข้าง นำฟ่านเย่จื่อออกไป.
“ทั้งสองประตูไม่ได้อยู่ทางนั้นไม่ใช่รึ? แล้วจะพาฟ่านโหมวไปใหน?”
“ถึงแล้วจะรู้เอง.”
“โอ้ว.”
“กึก ซี่!”
“กึก ซี่!”
......
ภายในคุก ปรมาจารย์ฟ่านที่ยืนแสดงท่าทางงงงวยอยู่.
ก่อนหน้านี้เขาที่รู้สึกเหมือนกับถูกกังขังเอาไว้ ตอนนี้กลายเป็นผู้ต้องขังอย่างชัดเจนไปซะแล้ว เหตุผลนั้นเพราะปฏิเสธการรับสมัครของจุนซ่างเซียวนั่นเอง.
เจาโตวโตวที่เผยยิ้มออกมา “นักโทษใหม่อย่างงั้นรึ?”
“ตาแก่.”
“เข้ามาด้านในได้อย่างไร?”
“......”
ปรมาจารย์ฟ่านที่ยืนเซ่อ อยู่ด้านหน้าประตูจับกรงโลหะ พลางตะโกนดัง“เจ้านิกายจุน ปล่อยข้า!”
“เลิกตะโกนได้แล้ว.”
เจาโตวโตวที่นอนลงบนเตียงเอ่ยออกไปว่า“เจ้าถูกขังในคุกแล้ว หากว่ามีคนเอาเงินค่าไถ่มาไถ่ตัวอาจจะสามารถจากไปได้ ไม่เช่นนั้นก็อยู่ที่นี่ตลอดไปเถอะ.”
เขาที่เผยท่าทางเจ็บปวดขึ้นมาทันที.
ปรมาจารย์ฟ่านที่นั่งลงอย่างเศร้าสร้อย เงยหน้าพลางถอนหายใจ“หนีเสือปะจระเข้ชัด ๆ อ๊าก!”
ด้วยเหตุนี้.
นักโทษในคุกนิกายนิรันดรก็มีอยู่ด้วยกันสี่คนแล้ว.
เจาโตวโตวจอมหลอกหลอน ชายหมวกเขียวที่ดื้อรั้น นายน้อยหยวนยอดกุนซือ ตลอดจนปรมาจารย์ตีเหล็กฟ่านเย่จื่อ.
จากนี้จะเป็นใครกัน?
สี่คนสี่ความสามารถ ใครจะได้ออกจากคุกเป็นคนแรกกัน?