Chapter 1059 เกินไปอย่างงั้นรึ
ราชันย์เจิ้นเหว่ยถูกสังหาร เผ่าวิญญาณหมายเลขสองถูกดูดไปแล้ว!
กล่าวได้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้ ได้มาถึงบทสรุปเรียบร้อยแล้ว.
บอสใหญ่ที่แท้จริง ได้ถูกเครื่องดูดฝุ่นดูดไปแล้ว ไม่มีอะไรน่าหวาดกลัวอีกต่อไปแล้ว.
ที่น่าสะพรึงที่สุด.
ในเวลานี้เผ่าวิญญาณหมายเลขสองที่ถูกนำเข้าไปในหอคอยสะกดวิญญาณต้นกำเนิดสวรรค์ เผ่าวิญญาณหมายเลขหนึ่งจ้องมองไปยังหมายเลขสอง.
คนบ้านเดียวกันมองเห็นกัน น้ำตาอาบ!
“เจ้า......”
“เจ้า......”
ทั้งสองที่ไม่ลังเลที่อุทานออกมาพร้อมกัน แม้แต่กระโดดเข้าหากันกอดกันพร้อมกับปาดน้ำตา.
กล่าวได้ว่าความสำเร็จของหมายเลขสองนั้นเหนือกว่าหมายเลขหนึ่งโดยสิ้นเชิง เขาสามารถครอบครองพลังที่แข็งแกร่งเกือบไปถึงเป้าหมาย ต่างจากหมายเลขหนึ่งที่สิงร่างไต่ลู่ลิบลับ!
อย่างไรก็ตาม จุดจบของพวกเขาก็แทบจะเหมือน ๆ กัน.
ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะโดดเด่นเพียงใด สุดท้ายก็เป็นผู้แพ้.
“เผลี๊ยะ!!!”
แส้ที่ฟาดออกไปเสียงดังสนั่นทันที!
“อ๊ากกกกก ------”
เผ่าวิญญาณหมายเลขสองที่ร้องโอดโอยกลิ้งไปมาบนพื้น.
“เผลี๊ยะ!!!”
“เผลี๊ยะ!!!”
อ้ายยาที่ฟาดแส้อย่างไม่ปราณี ดวงตาของโลลิน้อยที่เบิกกว้างเอ่ยออกมาว่า“พูด! พูดออกมา!”
“ข้า! พูดแล้ว!”
“อ๊ากกก!!”
หมายเลขสองที่ร้องเจ็บปวดทรมาน.
อ้ายยาที่หยุดมือ จ้องมองไปยังจุนซ่างเซียว “จูเหริน จะถามอะไรเขารึ?”
ระบบ: “......”
ยังไม่ถามเลย ก็ลงมือทรมานแล้ว เผยให้เห็นความโหดร้ายที่น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก!
จุนซ่างเซียวที่นั่งลง บนหลังหมายเลขหนึ่ง เอ่ยออกมว่า“ในจังหวัดตงไห่ยวี ยังมีพวกเจ้าอีกใหม.”
ครั้งนี้เขาข้ามทะเลมา ช่วยปรมาจารย์ฟ่าน เป็นเรื่องบังเอิญที่จับเผ่าวิญญาณได้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้ผลประโยชน์ไม่น้อย หากหาตัวที่สามหรือสี่พบจะดียิ่งขึ้นไปใหญ่.
“ไม่มีแล้ว!”
ภายใต้แส้กำราบวิญญาณ เผ่าวิญญาณหมายเลขสองที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น ดังนั้นจึงไม่กล้าแข็งขืนแม้แต่น้อย.
“มั่นใจรึ?”
“มั่นใจ!”
จุนซ่างเซียวลุกขึ้น เอ่ยออกมาว่า“อ้ายยา เจ้านี่มอบให้เจ้าชำระล้างก็แล้วกัน.”
“รับทราบ!”อ้ายยาที่ยืนตรงเหมือนกับทหารพลางยกมือเคารพเหมือนกับทหารเช่นกัน “รับรองภารกิจสมบูรณ์!”
“เผลี๊ยะ เผลี๊ยะ เผลี๊ยะ!”
“อ๊ากกกกก!”
เสียงเผ่าวิญญาณในหอคอยเทียนหยวน ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมานดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า.
หมายเลขหนึ่งที่เวลานี้หดตัวอยู่ในมุม รออยู่เงียบ ๆ เกรงกลัวว่าจะมาถึงตาของเขาเป็นอย่างมาก.
......
เมืองเจิ้นเหว่ย.
ในเวลานี้ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ.
ทหารหลายแสนคนที่ยืนนิ่งงงงวยอยู่กับที่.
ราชันย์เจิ้นเหว่ยที่เป็นเหมือนกับเทพสวรรค์สำหรับพวกเขา ตอนนี้ถูกกุดหัวไปแล้ว ทำให้พวกเขาสูญเสียศรัทธาทั้งหมดไปในทันที จนเหมือนกับร่างไร้วิญญาณไปแล้ว.
บนกำแพงเมือง จุนซ่างเซียวที่ร่อนลง พร้อมกับโบกมือคว้าร่างของราชครูที่ตัวสั่นงันงก พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า“บอกทุกสิ่งที่เจ้ารู้มา.”
ทุกอย่างที่ข้ารู้?
ราชครูที่ครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเข้าใจความหมายของฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นจิตใจที่สั่นไหวด้วยความหวาดกลัว เอ่ยกล่าวออกมาเสียงดัง“คนของอาณาจักรเจิ้นเหว่ยที่ได้รับประทานพลัง จะถูกควบคุม หากจำเป็นก็จะถูกใช้เป็นพลัง!”
“ในสายตาขององค์ราชันย์!”
“พวกเราเป็นเพียงเครื่องมือที่จะทำให้ก้าวสู่ความยิ่งใหญ่เท่านั้น รวมทั้งข้าด้วย!”
ประชาชนอาณาจักรเจิ้นเหว่ยที่รู้ดีว่าอีกฝ่ายนั้นลงมือจัดการราชันย์ของพวกเขา แต่เพราะอีกฝ่ายช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้ชัดเจน แม้แต่ไม่ลังเลสังหารปิศาจร้ายก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาชะงักงัน.
และยิ่งได้ยินคำพูดของราชครูเมื่อครู่นี้ทำให้กลายเป็นเงียบงันตะลึงไปตาม ๆ กัน.
ประชาชนและทหารจะรับรู้และเข้าใจอย่างไรนั้นนะรึ?
จุนซ่างเซียวหาได้สนใจ แต่อย่างน้อยก็ต้องการให้พวกเขานั้นรับรู้ความจริงด้วย.
......
“ตูมมมมม!”
ภายในวังหลังเขตแดนหวงห้าม ศิลาขนาดใหญ่ที่ถูกยกออกมาช้า ๆ.
“จูเหริน!”
เปปป้าที่ปล่อยพลังปฐพีออกมา กล่าวออกมาว่า”สมบัติทั้งหมดอยู่ด้านใน.
เป็นความจริงทีจุนซ่างเซียวข้ามน้ำข้ามทะเลมา นี่ต่างหากเล่าคือความตั้งใจที่แท้จริง!
สมบัติของอาณาจักรแห่งหนึ่ง มีมากมายมหาศาล กล่าวได้ว่ามากมายจนทำให้หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อรู้สึกตาลายเล็กน้อย.
สำหรับโกวเซิ่งแล้ว แน่นอนว่าต้องกวาดเรียบ.
......
นอกเมือง.
จุนซ่างเซียวและคนอื่น ๆ กำลังจะจากไป.
“พี่ชาย!”
บนกำแพงเมือง มีเสียงของเด็ก ๆ ที่ดังขึ้น.
เพราะว่ายังเด็กอยู่ เลยไม่ได้ถูกล้างสมอง จิตใจของพวกเขาที่ใสบริสุทธ์ คนกลุ่มนี้ปกป้องเมืองและพ่อแม่ของเขา ถือเป็นวีระบุรุษ!
“เจ้าอันธพาลน้อย.”
จุนซ่างเซียวที่ตะโกนกลับไป “จำเอาไว้ การฝึกฝนวิธียุทธ์นั้นเพื่อปกป้องครอบครัว ไม่ไช่เพื่อทำร้ายพวกเขา!”
เสียงของเขาที่ก้องไปทั่วเมืองเจิ้นเหว่ย ประทับลงไปในใจของเหล่าเด็กไร้เดียงสา.
“พี่ชาย!”เด็กคนหนึ่งที่ตะโกนไล่หลัง“หลังจากข้าโตขึ้น ข้าจะต้องไปยังจังหวัดซีเหนียนหยางหาท่านแน่นอน!”
จุนซ่างเซียวที่หยุด มุมปากที่ยกยิ้ม.
“อันธพาลน้อย!”
“เปิ่นจั้วจะรอเจ้า!”
“พี่ชาย ข้ามีนามว่าเย่เฟิง เย่เฟิง เย่เฟิงนะ!”
......
“ฟิ้ว-”
บนท้องฟ้าจังหวัดตงไห่ยวี เรือรบตงกู่ที่พุ่งออกไปด้วยความเร็ว.
ฟ่านเย่จื่อที่ถูกช่วยมา ตอนนี้กำลังอุทานเสียงสั่น“นี่มันสุดยอดเกินไปแล้ว เรือสามารถบินบนท้องฟ้าได้!”
“เจ้านิกาย.”
หลี่ชิงหยางที่ก้าวเข้ามาในห้องโดยสาร “พวกเราจะกลับแผ่นดินใหญ่เลยรึ?”
จุนซ่างเซียวที่ยกน้ำชาขึ้นจิบ เอ่ยออกไปว่า“อาณาจักรเจิ้นเหว่ยที่มีความทะเยอทะยานสูงมาก พวกเขาเกือบที่จะรวมจังหวัดตงไห่ยวีได้แล้ว เปิ่นจั้วลงมือกับพวกเขาวันนี้ อีกสามอาณาจักรก็เท่ากับปลอดภัย ไม่ใช่ว่าพวกเขาควรจะตอบแทนพวกเราสักหน่อยรึ?”
หลี่ชิงหยาง.”
......
อาณาจักรเลี่ยเหยี่ยน เมืองเลี่ยเยี่ยน.
ราชันย์ของอาณาจักรที่ยืนอยู่ด้านหน้าวังหลวง ขาสั่นงันงก เพราะว่าเงยหน้าขึ้นมองเห็นหัวของราชันย์เจิ้นเหว่ยบนตำหนัก!
เหล่าข้าราชบริพารหลายร้อยคนที่ใบหน้าหวาดผวาซีดเซียวเช่นกัน.
หลายปีมานี้ ราชันย์เจิ้นหยางที่เหมือนกับอสุรกาย ทำให้พวกเขาจำต้องร่วมมือกับพันธะมิตรกับอาณาจักรอื่น ๆ คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนส่งศีรษะศัตรูที่ร้ายกาจมาให้พวกเขา.
“ทุกท่าน.”
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ในตำหนัก นิ้วทั้งสอบที่เคาะเบา ๆ ที่พนักพิง “เผด็จการที่จะรวมจังหวัดตงไห่ยวีถูกจุนโหมวสังหารไปแล้ว พวกเจ้าไม่ต้องกังวลอะไร ให้ส่งมอบทรัพยากรฝึกยุทธ์มาให้คิดว่าเกินไปอย่างงั้นรึ?”
เขายังไม่ได้เก็บดาบหนานโชว ตอนนี้ไม่ได้ทำอะไร กลิ่นอายที่ไร้ที่เปรียบได้กดทับไปทั่ววังหลวงแห่งนี้แล้ว.
“.....ไม่เกินเลย!”
ราชันย์เลี่ยหยางที่กล่าวเสียงสั่น.
“จุนซ่างเซียวรีบ รีบส่งมาให้เร็ว.”
“รอสักครู รอสักครู!”
......
หลังจากเก็บเกี่ยวจนหมดแล้ว จุนซ่างเซียวก็บังคับเรือรบตงกู่มุ่งหน้าสู่อาณาจักรชิงเสวียนและหู่เย่ทีและแห่ง ๆ พวกเขาที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่ส่งมอบทรัพยากรออกมาแต่โดยดี.
หลังจากจัดการทุกอย่างจนเสร็จสรรพ พวกเขาก็ออกมาที่ชายฝั่งตงไห่ อำนาจของดาบหนานโชวก็หมด ร่างกายของเขาก็แทบหมดแรงไปเหมือนกัน.
“เฮ้อ.”
จุนซ่างเซียวที่นอนที่ห้องโดยสาร พลางถอนหายใจ “หากไม่มีผลข้างเคียงจะดีกว่านี้.”
ไม่ต้องสงสัยว่าหลังจากจัดการราชันย์เจิ้นเหว่ยแล้ว เขาก็เร่งรีบไปปล้นอาณาจักรทั้งสามอย่างเร่งรีบ เพราะมีเวลาจำกัดนี่เอง.
“เจ้านิกาย.”
หลี่ชิงหยางเอ่ย “อาวุโสโหลวมา!”
“โอ้ว?”
จุนซ่างเซียวที่พยุงกายขึ้นยืน พบว่าโหลวจื่อหลงที่จากไปก่อนหน้านี้เดินทางออกมาจากป่าโบราณ ที่ด้านหลังของเขานั้นสะพายกระสอบใหญ่เอาไว้.
หลี่ชิงหยางที่กล่าวเสียงเบา “เจ้านิกาย ที่ด้านในนั้นเป็นโครงกระดูก.”
“เพื่อนรัก.”โหลวจื่อหลงที่เดินมา พร้อมกับเอ่ยพึมพำ “หลายปีมานี้ลำบากเจ้าแล้ว วันนี้ข้าจะพาเจ้ากลับบ้านเอง......”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา พร้อมกับสั่งหลี่ชิงหยางนำเขาขึ้นมา เขาที่เงยหน้าจ้องมองไปบนทะเลที่ไกลออกไป“กลับบ้านกัน!”
“เจ้านิกาย.”
หลี่ชิงหยางกล่าวเตือน “นายน้อยหยวนกำลังซ่อนตัวอยู่ใกล้ ๆ นี้.”
“เชิญมา.”
“กลับจังหวัดซีเหนียนหยางด้วยกัน.”
“รับทราบ!”
......
ข้ามีนามว่าหยวนเฟิง.
ข้าวางแผนที่จะเข้าร่วมอีกสามอาณาจักร ทว่าระหว่างทางก็พบเรือเหาะของอีกฝ่ายเขาอีก ทำให้ข้าตระหนักได้ในทันที ว่าอาณาจักรเหล่านั้นจบสิ้นแล้ว ขณะปรึกษาพูดคุยกับเหล่าหลิน ข้าตัดสินใจที่จะไปยังทะเลทิศใต้ หรือทะเลตะวันตก.
แต่ว่า......
ข้าก็พบเขาอีกแล้ว แม้แต่ถูกเชิญกลับแผ่นดินใหญ่อีก!
“โอ้วสวรรค์!”
“ช่วยข้าด้วย!”