Chapter 1057 ไม่ มันยังไม่จบ
“อ๊ากกก!”
ปรมาจารย์ฟ่านที่โกรธเกรี้ยว หดหู่ “ใครทำลาย ใครทำลายกัน!”
เขาตะโกนลั่น แทบกระโดดลงจากหอคอยกำแพงเมือง.
“ดูเหมือนว่า เขาคือ ฟ่านเย่จื่อจริง ๆ สินะ.”
จุนซ่างเซียวสามารถยืนยันได้ทันที เพราะว่าอีกฝ่ายทันทีที่เห็นอาวุธที่ตัวเองสร้างขึ้นมาก็กระอักโลหิต แววตาท่าทางที่เศร้าสุดจิตสุดใจ เรื่องแบบนี้ยากที่จะสามารถแสดงออกมาได้.
“ฟิ้ว!”
ร่างกายของเขาที่หายไป ไปปรากฏขึ้นที่บนกำแพงเมืองทันที.
“......”
ราชครูที่กลายเป็นงงงวยทันที เพื่อแผนการนี้เขาได้วางค่ายกลป้องกันรอบ ๆ เอาไว้ ทำไมถึงได้เข้ามาง่ายดายขนาดนี้กัน!
จุนซ่างเซียวโบกมือ!
“เผลี๊ยะ!”
ราชครูที่หน้าหัน ลอยกระเด็นออกไปในทันที.
กล้าใช้ตัวประกันข่มขู่จุนซ่างเซียว โชคดีเท่าไหร่แล้วที่ถูกตบหน้าเท่านั้น!
จุนซ่างเซียวที่แผ่พลังวิญญาณออกไป ทำลายโซ่ตรวนที่มัดร่างของปรมาจารย์ฟ่านทันที“ปรมาจารย์ฟ่าน เปิ่นจั้วได้รับขวดลอยน้ำของท่าน ไม่หวั่นเกรงต่อระยะทางเดินทางไกลมาช่วยทันที!”
“ขอบคุณผู้กล้า!”
ฟ่านเย่จื่อที่ยกมือประสาน น้ำตาคลอเบ้า......
เห็นอาวุธของเขาที่พังทลายต่อหน้า น้ำตามันไม่สามารถควบคุมเอาไว้ได้เลยจริง ๆ.
จุนซ่างเซียวที่สอบถามออกไป “ปรมาจารย์ฟ่านเอ่ยขอความช่วยเหลือ ระบุว่ามีแผนการใหญ่ ที่คุกคามคนเก้าจังหวัดคืออะไรอย่างงั้นรึ?”
ฟ่านเย่จื่อที่ปาดน้ำตาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเอ่ยกล่าวอย่างจริงจัง “สิบปีที่แล้ว มีศิลาเทพจากพิภพเบื้องบนหล่นลงมายังจังหวัดตงไห่ยวี และราชันย์เจิ้นเหว่ยได้รับมันมา จึงได้เชิญข้าและเหล่าช่างตีเหล็กคนอื่น ๆ............”
ในเวลานั้น ดวงตาของเขาที่ค่อย ๆ เบิกกว้างขึ้นมาช้า ๆ.
“หืม?”
จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา ก่อนที่จะหันหลังกลับไป.
ราชันย์เจิ้นเหว่ยที่บาดเจ็บหนัก หนีบขาลุกขึ้นยืนอย่างจริงจัง.
“จุนซ่างเซียว!”
เขากุมกระบี่อำนาจมังกรครึ่งท่อน เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงมืดครึ้ม “เจ้าคิดว่าจบแล้วเหรอ เจ้าคิดว่าเอาชนะเปิ่นตี้แล้วรึ?”
“ไร้เดียงสา!”
“ฟิ้ว!”
ราชันย์เจิ้นเหว่ยที่ยกมือขึ้น เชิดหน้าตะโกนเสียงดัง“เปิ่นตี้จะให้เจ้าได้รู้ในวันนี้ อะไรที่เรียกว่ามนุษย์อะไรที่เรียกว่าเทพ มันแตกต่างกันอย่างไร!”
“วูซซซซซ!”
“วูซซซซซ!”
แสงสว่างเจิดจ้า แผ่แสงสีทองขนาดใหญ่ ร่างกายของเขาที่เปล่งแสงไม่หยุด ก่อนที่จะมีแสงเจ็ดสีรวมตัวกันเป็นหอกยาวที่น่าเกรงขามปรากฏขึ้นที่ด้านหน้า.
“ศิลาเทพ.....”ฟ่านเย่จื่อที่กล่าวเสียงสั่น“นี่เขานำมันมาสร้างเป็นหอกอย่างงั้นรึ?!”
เขาและเหล่าปรมาจารย์ตีเหล็กที่ได้เชิญมา ได้เห็นกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์น่าเกรงขามจากแร่นี้แล้ว ทำให้เขาตื่นตะลึงตกใจอย่างที่สุด.
ศิลาเทพ!
ศิลาเทพจากพิภพเบื้องบน!
ราชันย์เจิ้นเหว่ยต้องการให้ช่างตีเหล็กสร้างเป็นอุปกรณ์ ทว่าปรมาจารย์และคนอื่น ๆ ปฏิเสธไป.
เพราะความแข็งแกร่งของพวกเขา สามารถหลอมแร่ในแผ่นดินนี้ได้ แต่ไม่มีคุณสมบัติหลอมแร่เทพจากพิภพเบื้องบนได้นั่นเอง!
“ไม่หลอม ตาย.”
ด้วยการข่มขู่จากราชันย์เจิ้นเหว่ย ฟ่านเย่จื่อและคนอื่น ๆได้แต่ต้องทำตาม ทว่าขณะทำ ก็มีช่างตีเหล็กหลายคนที่ถูกพลังสะท้อนกลับ เลือดออกเก้าทวารตกตายไปต่อหน้า.
นี่ไม่ใช่ศิลาเทพ แต่เป็นศิลาปิศาจที่น่าหวั่นเกรงนัก!
ราชันย์เจิ้นเหว่ยเหมือนว่าจะตระหนักได้ ด้วยความแข็งแกร่งของช่างตีเหล็กเหล่านี้คงทำไม่สำเร็จ ทำให้เขาเลิกล้มความคิด นำแร่อย่างอื่น มาหลอมกระบี่อำนาจมังกรและเกราะอำนาจมังกรแทน.
ว่าแต่.
ทำไมเขาถึงได้สามารถหลอมศิลาเทพนี้ได้กัน?
เพราะว่าสิ่งนี้เป็นแร่มาจากพิภพเบื้องบน เมื่อหลอมกลายเป็นอาวุธแล้ว จะต้องเป็นอาวุธเหนือเทวะ กลายเป็นอุปกรณ์เทพอย่างแน่นอน!
มีอุปกรณ์เทพในมือ!
อย่าว่าแต่รวมจังหวัดหนานตงยวีเลย ต่อให้รวมเก้าจังหวัดแผ่นดินใหญ่และจัดการสุดยอดราชันย์ยุทธ์ทั้งสิบก็ยังเป็นไปได้!
ผู้ที่ขนานนามตัวเองเป็นมหาราชันย์ การควบคุมแผ่นดินแห่งนี้ไม่ได้ทำให้เขาพึงพอใจแน่นอน เขาต้องการควบคุมทั้งทวีปชิงหยุน แม้แต่เปิดศักราชใหม่แห่งยุคขึ้นมาด้วยซ้ำ!
ขณะที่ราชันย์เจิ้นเหว่ยรับสมัครปรมาจารย์ฟ่าน เขาก็รับรู้เรื่องนี้ ดังนั้นจึงได้ส่งขวดลอยน้ำเอ่ยถึงแผนการใหญ่ ว่ามีการคุกคามคนเก้าจังหวัดแผ่นดินใหญ่ขึ้นมา.
ในความเห็นของฟ่านเย่จื่อนั้น.
ศิลาเทพจากพิภพเบืองบัน นั้นมีระดับที่เหนือล้ำเป็นอย่างมาก.
หากราชันย์เจิ้นเหว่ยหลอมแร่นี้เป็นอาวุธขึ้นมาได้ ทั่วทั้งทวีปชิงหยุน จะต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน!
การที่ไม่ได้หลอมศิลาเทพ รู้สึกเศร้าใจ.
การไม่ได้หลอมศิลาเทพ รู้สึกพอใจ!
เพียงแต่ว่าไม่ได้มีแค่เขาและเหล่าช่างตีเหล็กที่มีชื่อเสียงที่ไม่มีทางเลือกและไม่สามารถทำได้ แล้วราชันย์เจิ้นเหว่ยหลอมมันออกมาได้อย่างไรกัน!
“หายนะมาแล้ว!”
ฟ่านเย่จื่อที่รู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาทันที.“หายนะมาแล้ว!”
เขาและราชันย์เจิ้นเหว่ยพูดคุยกันมาหลายครั้ง ตระหนักได้ดีว่าคนผู้นี้มีความคิดที่บ้าคลั่งเพียงใด หากว่ามีพลัง โลกจะต้องวุ่นวายไปหลายพันปีแน่ นี่คือหายนะสำหรับปวงชนอย่างแท้จริง!
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมมมม---”
แสงเจ็ดสีที่แผ่ออกมาจากหอก ปรากฏเป็นรูปลักษณ์หอกสีทอง ที่แผ่กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรง ทำให้ห้วงมิติแตกร้าวเป็นระยะ ๆ จากกลิ่นอายของมัน!
พวกหลี่ชิงหยางยังได้รับผลจากมันด้วย สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่หนักหน่วงราวกับขุนเขาใหญ่ที่กดทับลงมา จนไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่น้อย แววตาที่เผยออกมาด้วยความตื่นตระหนก.
เหออู๋ตี้ที่เผยท่าทางเหลือเชื่อออกมา“อาวุธระดับนี้มาอยู่ในโลกนี้ได้อย่างไร นี่ไม่ขัดต่อกฎเกณฑ์ฟ้าดินหรอกรึ?!”
เขาสามารถบอกได้ว่าหอกที่เปล่งกลิ่นอายเจ็ดสีนั้นเป็นอาวุธที่น่าพรั่นพรึงเพียงใด มีเพียงแค่พิภพระดับสูงที่เขาอาศัยอยู่เท่านั้นถึงจะมีได้ ในโลกใบนี้แผ่นดินแห่งนี้มีกฎเกณฑ์ที่จำกัดอยู่ ไม่มีทางที่จะมีอาวุธระดับสูงเช่นนี้จะคงอยู่ได้!
“ฮ่าฮ่าฮ่าอ่า!”
ราชันย์เจิ้นเหว่ยที่ยืนเหนือลมผมสีดำโบกสะบัด ร่างกายที่เผยท่าทางบ้าคลั่งเสียสติออกมา.
“ต่อหน้าอุปกรณ์เทพ เจ้าก็แค่มดปลวก!”
จุนซ่างเซียวเวลานี้ขมวดคิ้วไปมาแน่นเช่นกัน.
แสงเจ็ดสีที่แผ่ออกมาจากหอกยาวดังกล่าวนั้น แรงกดดันที่แผ่ออกมามากมายมหาศาล แม้นว่าจะไม่ทำให้ร่างกายพังทลาย ทว่าแรงกดดันนี้ก็แทบจะทำให้ขยับไม่ได้.
ระบบเอ่ย “ดูเหมือนว่าจะเป็นหอกที่มีระดับเหนือเทวะ!”
“......”
จุนซ่างเซียวที่พูดไม่ออก “แม่น้ำและขุนเขานำทางของข้าก็เป็นระดับเหนือเทวะ ทำไมถึง ไม่ได้มีกลิ่นอายที่ไร้เทียมทานเหมือนกันล่ะ!”
ระบบเอ่ย “ระดับเหนือเทวะ เป็นสิ่งของจากพิภพเบื้องบน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ใช้เรียกขานเท่านั้น บางทีคงมีการจัดระดับสูงต่ำ อีกแบบเป็นแน่!”
จุนซ่างเซียวที่เข้าใจในทันที.
แม้นว่าแม่น้ำและขุนเขานำทางนั้นจะเป็นอาวุธเหนือเทวะ ทว่าหากคำนวณใช้หลักเกณฑ์ของพิภพเบื้องบน อาจจะมีระดับต่ำกว่าหอกยาวด้านหน้าแน่นอน!
“!”
จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ“เป็นปัญหาแล้ว!”
แรงกดทับที่รุนแรงนี้ ทำให้ขยับไม่ถนัดเลย หากศัตรูโจมตีมา เกรงว่าสถานะการณ์คงไม่ดีนัก!
วิกฤติ!
นี่คือความคิดที่เกิดขึ้นในใจ.
ในเมื่อเขาเป็นคนต่างโลกที่มีระบบที่โกงเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาตระหนักได้ว่าตัวเองนั้นมีความสามารถไม่พอ!
ระบบเอ่ย “โฮสน์เจองานง่ายมาตลอด ท้ายที่สุดก็ถูกกดดันบ้างแล้วสินะ.”
“ไสหัวไปเลยท่าน!”
“กลัวหรือยัง!”
ในเวลานั้น ราชันย์เจิ้นเหว่ยที่ยกมือขึ้น พร้อมกับชี้หอกยาวที่แผ่พลังศักดิ์สิทธิ์ออกไปรอบ ๆ พลังอันบ้าคลั่งเสียงดังโหยหวน ห้วงมิติที่สั่นไหวพังทลายลงเป็นแถบ ๆ.
“ฟู่ ๆ ---”
เขาที่ก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว วาดหอกบนอากาศ แรงกดดันที่น่าพรั่นพรึงเพิ่มขึ้นถึงขั้นสุด!
“ปู้ดด!”
“พรึดดด!”
หลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อ ตลอดจนคนอื่น ๆ ที่กระอักโลหิตออกมาทันที!
แม้นว่าพวกเขาจะผ่านประสบการณ์กลั่นร่างกายให้แข็งแกร่ง อาจจะต้านการกดทับได้ แต่กระนั้นชีพจรก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน.
ผู้คนมากมายต่างก็สงสัยว่าศิษย์นิกายนิรันดรที่เพิ่งเข้าสู่ระดับจักรพรรดิยุทธ์ ทำไมถึงได้ต่อสู้กันได้อย่างสู่สีกับยอดฝีมือระดับเหลือง แม้แต่ระดับลึกล้ำ พวกเขายังสามารถจัดการได้.
ทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะอุปกรณ์นั่นเอง.
ตอนนี้ต่อหน้าอุปกรณ์ที่สร้างมาจากศิลาเทพของพิภพเบื้องบน แรงกดดันที่หนักหน่วงนี้ทำให้พวกเขาต้องกระอักโลหิตออกมา เห็นชัดเจนว่าอุปกรณ์อีกฝ่ายนั้นเหนือกว่ามาก!
“ฟิ้ว -----”
อำนาจแสงเจ็ดสีที่น่าพรั่นพรึง กวาดม้วนทับมายังทิศทางของเขา.
แม้นว่าเป้าหมายที่เล็งมานั้นจะเป็นตัวของจุนซ่างเซียว ทว่าระยะโจมตีกับกว้างมาก ไม่เพียงแค่หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ แม้แต่ประตูเมืองเจิ้นเหว่ยกว่าครึ่งยังพังเป็นแถบ ๆ.
ทุกอย่างถูกกดทับลงมา.
พังสลายไปทั้งหมด!
“แก๊ก แก๊ก แก๊ก!”
ร่างกายของจุน่างเซียวที่ปกคลุมด้วยโลหิต ก่อนที่ปีกด้านหลังจะปรากฏขึ้นสะบัด พุ่งออกไปเป็นริ้วแสงทันที.
“ฟิ้ว!”
ในมือขวาของเขาปรากฏดาบหนานโชวขึ้นมาในทันที!
“บังไค!”(ปลดปล่อยสวัสดิกะ!)
“ทุกสิ่งจงกลายเป็นเถ้าถ่าน!”
[มาจากanimeเรือง บีช : “ริวจินจัคคะ (流刃若火 - ) เจ้าของ: ยามาโมโตะ เก็นริวไซ คำเรียกเวลาปลดปล่อยดาบ: ทุกสิ่งจงกลายเป็นเถ้าถ่าน ...]
“เคร้ง ----”
ในเวลานั้น เขาที่บดขยี้ยันต์เปิดผนึกดาบหนานโชวที่ลุกโชนด้วยเปลวเพลิงหลากชนิดขึ้นมาทันที.
ขณะเปลวเพลงลุกโชน อักขระสิบหกตัวก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า แผ่อำนาจที่น่าเกรงขามออกมาในทันที.
ระบบเอ่ยกล่าวด้วยความประหลาดใจ “นี่เป็นครั้งแรกที่โฮสน์ตัดสินใจรวดเร็วขนาดนี้!”
เหลวไหล!
หากไม่เปิดผนึก จะไปสู้อีกฝ่ายได้อย่างไร!
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่ถือดาบที่มีแสงเจ็ดสีเปล่งประกายเช่นกัน ก่อนตะโกนออกมาว่า“บิดาเองก็มีอุปกรณ์เทพเหมือนกัน!”
“แก๊ก แก๊ก แก๊ก!”
“แก๊ก แก๊ก แก๊ก แก๊ก---”
ดาบหนานโชวที่ปะทุพลังออกมาเช่นกัน ห้วงมิติที่รอบอยู่แล้ว พังทลายลงในทันที หากว่ามันสามารถร้องได้คงร้องออกมาอย่างโหยหวนแล้ว.
ในเวลานั้น พลังที่ที่น่าเกรงขามกวาดม้วน แสงเจ็ดสีที่ปะทะกันกัน ทำให้พลังสะกดอยู่ในภาวะสมดุล!
อำนาจสะกดก่อนหน้านี้ไร้ผล.
พลังกดทับก่อนหน้านี้หยุดชะงัก.
อาวุธเหนือเทวะอีกฝั่งได้ปรากฏขึ้นมาแล้ว.
ด้วยอำนาจสะกดของดาบหนานโชว ทำให้จุนซ่างเซียวเข้าใจได้ ในเวลานั้นความเร็วของเขากลับมาเป็นปรกติ พลังของดาบหนานโชวที่แผ่ออกไปรอบ ๆ ไม่หยุด!
“แค๊ก แกกกกก!”
ปราณดาบที่ใหญ่ยิ่ง สะบั้นห้วงมิติลอยออกไป.
“ตูมมมมมม -------”
ในเวลาต่อมา พลังที่รุนแรงสองสายเข้าปะทะกัน พื้นที่รอบ ๆ ที่กลายเป็นหลุมเป็นบ่อ คลื่นพลังที่แตกกระเซ็น กวาดออกไปรอบ ๆ ผืนปฐพีที่สั่นไหวไปมาอย่างรุนแรงบ้าคลั่ง.
“ตูมมมมมม ตูมมมมมม ตูมมมมมม!”
กลุ่มของหลี่ชิงหยางที่กระเด็นกระแทกกำแพงเมืองเสียงดังสนั่น!
“แก๊ก แก๊ก แก๊ก แก๊ก แก๊ก!”
แรงปะทะสะท้อนกวาดออกมาอย่างบ้าคลั่ง กำแพงเมืองที่พังทลายลง ลามเข้าไปด้านใน.
“ครืนนนนนนน!”
ประตูฝั่งตะวันออกพังทลายลง ผนังกำแพงเมืองที่เหลือกำลังแตกร้าวมากขึ้นและก็มากขึ้น.
คลื่นพลังที่สาดซัดแผ่นดินแตกแยก สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่เริ่มพังทลายลง.
“พ่อจ๋า! แม่จ๋า! หนูกลัว......”
เหล่าเด็ก ๆ ที่ตัวสั่นงันงก อยู่ในอ้อมแขนของบิดามารดา.
ทหารหลายแสนคนที่เวลานี้ใบหน้าเปลี่ยนสี หลายคนที่สัมผัสได้ถึงอันตราย ถึงกับถอดหมวกคุกเข่าภาวนาต่อองค์ราชันย์ของตัวเอง.
อย่างไรก็ตาม.
พวกเขาคงไม่รู้!
อันตรายทั้งหมดทั้งมวล ที่ทำให้เมืองเจิ้นเหว่ยเสียหายก็คือพลังของราชันย์เจิ้นเหว่ยนั่นเอง.
อุปกรณ์เทพไม่สงสัยเลยว่าร้ายกาจ มันสามารถทำให้เมืองทั้งเมืองกลายเป็นฝุ่นผงได้ในทันที!
“ฟิ้ว!”
ในเวลานี้ นอกเมืองแสงสีแดงที่สาดส่องสว่างจ้าเป็นระยะ ๆ เซียวจุ้ยจื่อที่ร่อนลงที่ด้านหน้าประตูเมือง แววตาที่กลายเป็นเย็นชา ตะโกนออกมาเสียงดัง“ผนึกต้าหวง ภูเขาศิลา!”
“ฟู่ ฟู่!”
ผืนปฐพีที่แยกออกอย่างรวดเร็วก่อนที่จะพุ่งขึ้นเป็นกำแพงเหนือท้องฟ้า แผ่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วลามเข้ามาด้านใน สานกันไปมาเหมือนกับรังนก!
“วูซซซซซ!”
“วูซซซซซ!”
เย่ซิงเฉินที่บินออกไป มือสองข้างวาดไปบนอากาศสร้างผนึกขึ้นซ้อนทับอีกชั้น.
บนกำแพงศิลาปรากฏผังลวดลายป้ากั้ว ก่อรูปเป็นพลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น!
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
เสียงระเบิดกึกก้องที่ดังขึ้นด้านนอกไม่หยุด เคลื่อนย้ายตำแหน่ง แสงที่สว่างจ้ายังคง สว่างวาบบนท้องฟ้าเป็นระยะ ๆ.
กล่าวได้ว่าแม้นว่าการต่อสู้จะอยู่ห่างออกมานอกเมือง ทว่าคลื่นทำลายล้างที่สาดซัดเข้ามานั้นไม่ธรรมดาเลย!
......
บนสนามรบ
ดาบหนานโชวที่แผ่แสงเจ็ดสีเช่นกัน เข้าปะทะกับอีกฝ่าย ครั้งแล้วครั้งเล่า.
แม้นว่าราชันย์เจิ้นเหว่ยจะตื่นตะลึงที่อีกฝ่ายมีอุปกรณ์เทพเช่นกัน ทว่าตอนนี้ได้แต่เหวี่ยงหอกเข้าปะทะกับอีกฝ่ายไม่ยอมแพ้แต่อย่างใด!
“ตูมมมมมม!”
“ตูมมมมมม!”
“ตูมมมมมม!”
ในเวลานั้น ทั้งสองที่เข้าปะทะกันไม่หยุด สร้างหลุมดำไปทั่วทั้งบนอากาศและพื้นดิน!
อาวุธเทพทั้งสองที่ปะทะกันเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น พลังที่สาดกระเซ็นม้วนกวาดออกมาราวกับพายุใหญ่ ห้วงมิติที่พังทลายเป็นแถบไล่เลียงเป็นระลอกคลื่นสาดซัดออกมา!
การต่อสู้ของจุนซ่างเซียวและราชันย์เจิ้นเหว่ยถึงแม้นว่าพวกเขาจะเป็นระดับปราชญ์ ทว่าด้วยอาวุธเหนือเทวะ ทำให้เทียบชั้นได้กับการปะทะกันของราชันย์!
อย่าว่าแต่ห้วงมิติที่แตกสะบั้น พื้นที่ที่แยกออกจากกันหลายพันจั้ง ตอนนี้กลายเป็นหลุมลึกสุดหยั่ง ฟ้าดินที่ปั่นป่วนอย่างรุนแรง!
“ครืนนนนน!”
“ตูมมมม ครืนนนนนน!”
ความเร็วที่มองไม่เห็น การปะทะกันที่หนักหน่วงรุนแรง.
เย่ซิงเฉินที่ใช้พลังเคลื่อนย้ายจักรวาล แค่คลื่นปะทะที่กวาดม้วนมายังไม่สามารถต้านได้ ตอนนี้เขาที่กระอักโลหิต เอ่ยออกมาว่า“วีระบุรุษกระทะ! ตาเจ้าแล้ว!”
เซียวจุ้ยจื่อที่เวลานั้น ร่างกายแปรเปลี่ยนเป็นสีทอง พร้อมกับตะโกนเสียงดัง “แปลงร่าง!”
“ครืนนนนน!”
พลังของเขาที่ระเบิดออกมา เพิ่มชั้นของผนังศิลาให้หนาขึ้น.
พลังของเซียวจุ้ยจื่อที่มากขึ้นและก็มากขึ้น.
ความแข็งแกร่งของกำแพงศิลาที่ยกระดับขึ้นอีกหลายเท่า กระนั้นคลื่นปะทะของเจ้านิกายและราชันย์เจิ้นเหว่ยก็ยังคงรุนแรงมาก ไม่รู้ว่าปะทะกันไปอีกหลายสิบ หลายร้อยกระบวนท่าถึงจะจบ เกรงว่าเขาจะยังทนได้หรือไม่?
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
หลี่ชิงหยาง เหออู๋ตี้ที่จ้องมองอยู่.
ก่อนที่จะยกมือขึ้นประทับเซียวจุ้ยจื่อด้านหลัง พร้อมกับถ่ายพลังวิญญาณสนับสนุน พลังของเขาในทันที.
เหล่าประชาชนและทหารที่เห็นโจรสี่คน ปกป้องเมืองของตัวเองอย่างสุดกำลัง ตอนนี้ใบหน้าของพวกเขากลายเป็นงงงวย.
“พ่อจ๋า แม่จ๋า.....”
เด็กเล็กไร้เดียงสาเอ่ยออกมาว่า“พี่ชายทั้งสี่กำลังปกป้องพวกเรา!”
คำพูดที่ไม่ได้ตั้งใจนั้น กำลังแทรกเข้าไปในจิตใจของทหารและประชาชนในเมืองนี้.
......
“ตูมมมมมม!”
“ตูมมมมมม!”
นอกเมืองห่างออกไปหลายหมื่นลี้ บนสนามรบ จุนซ่างเซียวและราชันย์เจิ้นเหว่ยยังคงปะทะกัน เพราะว่าพลังที่เหนือล้ำ ความรุนแรงก็เกินจะบรรยายออกมาได้เช่นกัน.
การต่อสู้ระดับนี้ น่าเกรงขามน่ากลัวเป็นอย่างมาก!
“ตูมมมมมม!”
หลังจากเข้าปะทะกันอีกหลายสิบกระบวน หอกของราชันย์เจิ้นเหว่ยที่ยกขึ้นรับที่ด้านหน้า ร่างกายของเขาที่พุ่งกระเด็นล่วงลงบนพื้นทะลวงผืนดินลงไปหลายร้อยจั้ง!
“อัก!”
เขากระอักโลหิตคำโต.
จุนซ่างเซียวที่ไม่ได้หยุดแม้แต่น้อย ดาบหนานโชวของเขาที่ปล่อยปราณดาบพุ่งลงมาจากบนท้องฟ้า กระแทกลงไปในหลุมเกิดระเบิดอย่างรุนแรง.
ราชันย์เจิ้นเหว่ยที่กระตุ้นหอกขึ้นรับการโจมตีดังกล่าวไว้.
“ครืนนนนนน!”
ฝุ่นควันที่ลอยฟุ้งกระจายปกปิดท้องฟ้า!
“ตึก!”
จุนซ่างเซียวที่ร่อนลงบนพื้น ขณะชี้ดาบหนานโชวไปด้านหน้า ผมสีดำที่สะบัดไปตามลมที่พัดโกรก ที่หน้าผากมีเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นเต็มไปหมด ใบหน้าที่อ่อนล้าเล็กน้อย.
ด้วยการใช้ไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุด ทว่ากับไม่ง่ายเลย ต้องใช้พลังไปไม่น้อย!
อย่างไรก็ตาม ถือว่าประสบผล!
เพราะว่าหลังจากฝุ่นสลาย ราชันย์เจิ้นเหว่ยที่ยืนชะงักงัน.
แม้นว่าจะยังคงถือหอกได้ ทว่าร่างกายที่บาดเจ็บเต็มไปด้วยบาดแผล ฝ่ามือที่มีโลหิตไหลอาบ.
“พรึด โครม!”
เขาที่คุกเข่าลงข้างหนึ่ง มือข้างหนึ่งที่ค้ำหอกเอาไว้.
การต่อสู้ก่อนหน้าเขาได้รับบาดเจ็บมาก่อนแล้ว แม้นว่าจะมีอุปกรณ์เทพในมือ ทว่าก็ไม่สามารถที่จะถือมันได้นานนัก ไม่ว่าจะมีพลังใจมากขนาดใหน ทว่าเรี่ยวแรงของเขาก็หมดสิ้นเช่นกัน ตอนนี้อยู่ในสภาพอ่อนแรง.
ด้วยเหตุนี้.
ถึงจะใช้อาวุธเหนือเทวะ เขาก็ยังพ่ายแพ้ต่อจุนซ่างเซียวอีกครั้งแล้ว!
“ครั้งนี้คงจบจริงแล้วสินะ.”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวเข้าไปหา จิตสังหารที่ฟุ้งกระจายไปทั่วทุกสารทิศ“ข้าจะส่งเจ้าไปสวรรค์ชั้นฟ้าให้เอง.”
กับคนบ้าคลั่งเผด็จการเช่นนี้ ไม่สนแม้แต่ชีวิตประชาชน มีเพียงแค่สังหารถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุด!
“จบ....จบอย่างงั้นรึ?”
ราชันย์เจิ้นเหว่ยที่เงยหน้าขึ้นอย่างยากลำบาก ดวงตาที่บ้าคลั่งเป็นประกาย เผยยิ้มอย่างน่าสังเวย “.....ไม่มีทาง!”
“อาจารย์!”
“ร่างของศิษย์ผู้นี้ ท่านนำไปใช้ตามใจเถิด!”
“ฟู่ ฟู่!”
ในเวลานั้น วิชาลับเพลิงโลหิตที่ไม่ระงับอีกต่อไป เขาที่ปลดผนึกวิญญาณออกมาในทันที ร่างกายของเขาที่แผ่อำนาจที่น่าพรั่นพรึงออกมาอย่างรวดเร็ว!
“เย้ดเข้!”
จุนซ่างเซียวที่แทบตะโกนเสียงดัง “เจ้าบ้านี่ ยังมีไม้ตายอยู่อีก!”
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมมม!”
ราชันย์เจิ้นเหว่ยที่แววตากลายเป็นว่างเปล่า จากนั้นก็กลายเป็นเย็นชา และพลังสีเขียวที่มากล้นแผ่ออกจากร่าง ปกคลุมสานกันไปมาเหมือนกับรังไหมกำลังสร้างดักแด้.
กลิ่นอายที่รุนแรงแผ่สาดซัดไปทั่ว!
จุนซ่างเซียวที่ใบหน้าเปลี่ยนสี เอ่ยออกมาด้วยความตกใจ“เผ่าวิญญาณ!”