Chapter 1055 การต่อสู้นี้จบแล้ว!
นอกเมืองเจิ้นเหว่ยพันลี้.
ห้วงมิติที่แยกออกจากกัน พร้อมกับเกิดเป็นรอยฉีกขาดกระจายไปทั่ว.
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่!”
บนท้องฟ้า จุนซ่างเซียวและราชันย์เจิ้นเหว่ยที่ยังคงปะทะกัน ร่างกายของพวกเขาที่ปกคลุมด้วยอำนาจกระบี่ที่แหลมคม เข้าฟาดฟันปะทะกันไม่หยุดหย่อน.
การต่อสู้ของพวกเขา ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครด้อยกว่าใคร.
“ราชันย์เจิ้นเหว่ย แม้นว่าจะเป็นปราชญ์สองวิถียุทธ์และกระบี่ ทว่าอำนาจกระบี่ ดูเหมือนว่าอ่อนกว่าเจ้านิกายขุยเล็กน้อย เป็นไปได้ว่าคงยกระดับด้วยวิธีการพิเศษบางอย่างแน่!”เหออู๋ตี้เอ่ย.
“......”
เย่ซิงเฉินที่กลายเป็นเงียบ.
เจ้านี่ รู้เรืองมากมายจริง ๆ!
เขาเป็นใคร มาจากใหนกัน?
กล่าวให้ถูก.
จุนซ่างเซียวก็ยกระดับด้วยน้ำยาพรสวรรค์กระบี่ เพื่อที่จะเข้าใจวิถีกระบี่เช่นกัน ทำไมถึงได้ต่างกันล่ะ?
กล่าวให้ถูกต้อง.
น้ำยาวิถีกระบี่นั้นมีระดับสูงมากนั่นเอง.
ราชันย์เจิ้นเหว่ยถือกระบี่ชี้ไปด้านหน้า กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา“วิถีกระบี่เจ้านิกายจุนไม่ธรรมดา เปิ่นตี้รู้สึกชื่นชมเล็กน้อย.”
“เช่นกัน เช่นกัน.”
แม้นว่าทั้งสองจะมีพูดคุยกันบ้าง ทว่าก็เข้าปะทะกันอย่างหนักหน่วงเป็นระยะ ๆ เช่นกัน.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อย ทั้งสองก็เข้าปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง กล่าวได้ว่าบนท้องฟ้าก่อเกิดคลื่นกระบี่สาดกระจายออกไปรอบ ๆ ไม่หยุดหย่อน!
“นายน้อย!”
เหล่าหลินที่ซ่อนตัวจ้องมองห่างออกไปพันลี้ กล่าวออกมาว่า“ผู้ฝึกยุทธ์ในชุดเกราะทองเอ่ยว่าเปิ่นตี้ บางที...เขาคือราชันย์เจิ้นเหว่ยที่พวกเราจะไปขอพึ่งพา!”
“ปู๊ด!”
นายน้อยหยวนอดไม่ได้ต้องกระอักโลหิตออกมา.
เขาไม่กลัวที่จะหนีข้ามทะเลมา ทว่ายังไม่ถึงเป้าหมาย ก็พบกับจุนซ่างเซียวซะแล้ว แม้แต่ช่วยเหลือเขาอีกด้วย เขาที่คิดจะสร้างอนาคตใหม่ ตัดสินใจเดินทางไปขอที่พึ่งกับราชันย์เจิ้นเหว่ย อีกฝ่ายก็มาถึงก่อนและยังสู้กันอีกด้วย!
สวรรค์!
ทำไมถึงได้จงใจส่งจุนซ่างเซียวมาทำลายแผนการทุกอย่างของข้า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
กล่าวได้ว่า แผนการใดก็ตามที่หยวนเฟิงลงมือ จะต้องถูกอีกฝ่ายทำลายจนย่อยยับ พังทลายไม่เป็นท่า จนมันกลายเป็นเงาที่ฝังแน่นในใจเขาไปแล้ว!
“ตูมมมมมมม ----”
ที่ไกลออกไป พื้นดินแยกออกเป็นทาง ราชันย์เจิ้นเหว่ยที่ล่วงหล่นบนพื้น บนหน้าอกเกราะรบสีทองปรากฏรอยกระบี่.
จุนซ่างเซียวที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า เอ่ยออกมาเล็กน้อย“หากเจ้าประลองกับเปิ่นจั้วด้วยวิธีกระบี่ จะอีกกี่ร้อยกระบวนก็ไม่มีทางชนะหรอก.”
บ้าคลั่ง!
โอหังอย่างที่สุด!
“ฟิ้ว-”
“ฟิ้ว-”
ราชันย์เจิ้นเหว่ยที่ลุกขึ้นมา เกราะรบของเขาเสียหายเล็กน้อย กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน “คิดว่าเหนือกว่าข้าจริง ๆ แล้วอย่างงั้นรึ?”
“.”
เขาที่กุมกระบี่อำนาจมังกร เอ่ยออกมาว่า“ความแข็งแกร่งของเจ้า เปิ่นตี้พอเข้าใจแล้ว จากนี้จงยอมรับความตายซะ.”
“ฟิ้ว!”
เขาที่ยกมือขึ้น อำนาจกระบี่ที่ลุกโชนโผทะยานทันที.
“วึ้ง วึ้ง วูซซซซ!”
กระบี่ในเมือง ด้านหลังทหารตอนนี้สั่นไปมา ควบคุมไม่ได้บินออกมาในทันที.
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
กระบี่นับแสนเล่มบินออกมารวมตัวกัน เรียงตัวอยู่บนท้องฟ้า พร้อมกับแผ่อำนาจที่ยิ่งใหญ่ไพศาล!
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ดูคล้ายกับหมื่นกระบี่หวนคืนสู่ต้นกำเนิดของข้า!”
ความแข็งแกร่งของพลังปราชญ์สองวิธีที่เท่ากัน ดังนั้นจึงต้องตัดสินกันที่วิชา หากแต่เป็นเรื่องที่บังเอิญ วิชาลับกับดูคล้ายกัน?
ระบบที่กล่าวหยุดความคิดเพ้อเจ้อของจุนซ่างเซียว“ยอดฝีมือระดับปราชญ์กระบี่ที่มีอำนาจรวมกระบี่เป็นเรื่องที่แสนธรรมดา โฮสน์หยุดความคิดงี่เง่านั่นไปซะ.”
“ฟู่ ฟู่!”
ในเวลานั้น กระบี่ที่แหลมคมที่ลอยขึ้นบนอากาศก็หายไป.
“วูซซซ! วูซซซซ! วูซซซซ!”
มันได้มาปรากฏที่ด้านหลังราชันย์เจิ้นเหว่ย แผ่คลื่นอำนาจกระบี่หมุนวน สร้างวงแหวนสีทอง กระบี่หนึ่งแสนเล่ม ที่ลอยอยู่บนอากาศ เรียงตัว อย่างเป็นระเบียบดูยิ่งใหญ่อลังการเป็นอย่างมาก!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมมม!”
ในเวลานั้นสายลมที่ระเบิดพวยพุ่งร้องหวีดหวิวขึ้นมาในทันที.
“เจ้านิกายจุน.”
ราชันย์เจิ้นหยางที่เงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิ เอ่ยออกมาว่า“กระบวนท่าของเปิ่นตี้นี้คือมังกรเหินร่ายรำ ดูสิว่าเจ้าจะรับมืออย่างไร?”
“มังกรเหินร่ายรำ?”
จุนซ่างเซียวที่เงยหน้าขึ้นเอ่ยออกมาว่า“ก็แค่เพียงแค่ใช้อำนาจกระบี่ให้มากมายกว่าปกติ กับเอ่ยกล่าวเป็นชื่อที่ดูน่าเกรงขามไปซะอย่างนั้น รู้สึกผิดหวังจริง ๆ.”
“ฟิ้ว!”
กระบี่มังกรหยกถามสวรรค์ของเขาที่ชี้ไปด้านหน้า ในเวลานั้นคมกระบี่ก็พวยพุ่งหมุนวนอาบไล้ไปทั่วอากาศในทันที.
“หืม?”
ราชันย์เจิ้นเหว่ยที่ขมวดคิ้วไปมา “อำนาจกระบี่ที่เจ้าปล่อยออกมาแค่นั้น คิดจะใช้มันให้เหมือนกับกระบวนท่ากระบี่มังกรเหินร่ายรำของข้าอย่างงั้นรึ? ก็คงพอเชิญกระบี่มาได้สักหมื่นเล่มเท่านั้นล่ะ”
“เรียกหมื่นกระบี่อย่างงั้นรึ?
จุนซ่างเซียวเผยยิ้มเย็นชา เอ่ยออกมาว่า“เปิ่นจั้วยังมีกระบวนท่าที่ยังไม่ได้ใช้อยู่.”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมม ----”
อำนาจกระบี่ที่แผ่ลงไปยังพื้น ปกคลุมเศษหินดินทราย กิ่งไม้ ใบหญ้า ทุกอย่างให้ลอยขึ้นมา พลังที่อาบไร้เปี่ยมล้นด้วยอำนาจกระบี่ที่ทรงพลัง.
เรียกกระบี่ มันธรรมดาไป อำนาจกระบี่ของจุนซ่างเซียวนั้น สามารถเปลี่ยนทุกสรรพสิ่งให้กลายเป็นกระบี่ได้!
กล่าวได้ว่า เป็นระดับที่แตกต่างกัน!
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
เศษหินดินทราย ใบหญ้า ทุกสรรพสิ่งที่ถูกปกคลุมด้วยอำนาจกระบี่ได้ลอยขึ้นมา ลอยอยู่ด้านหลังของจุนซ่างเซียว กำลังเล็งเป้าไปยังทิศทางของราชันย์เจิ้นเหว่ย.
ในเวลานี้.
การประจันกันของทั้งสอง ที่ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก!
“น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!
เหล่าหลินที่อยู่ไกลออกมาจิตใจที่สั่นไหวไปมา นายน้อยหยวนที่ถอยห่างออกมาไกล ไม่ใช่หวั่นเกรงลูกหลงจากการต่อสู้ของทั้งสอง แต่กลัวที่จะถูกเปิดเผยตัวตนออกมา.
หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ ที่ถอยห่างออกมาเช่นกัน.
เซียวจุ้ยจื่อที่เรียกอาวุธเทวะของตัวเองออกมา กระทะ เรือเมฆาวีระบุรุษลับ ที่ขยายใหญ่ปกคลุมไปทั่วเมืองเจิ้นเหว่ยทันที ราวกับภูเขาลูกใหญ่ที่ลอยอยู่บนฟ้า ปกป้องคุ้มครองทุกคนในเมืองเอาไว้.
“วีระบุรุษกระทะ.”
เย่ซิงเฉินเอ่ยออกมาเล็กน้อย “ไม่ใช่มนทลชิงหยางสักหน่อย ทำไมต้องปกป้องคนเหล่านี้ด้วย.”
เซียวจุ้ยจื่อเอ่ย “เพราะ เจ้านิกายไม่หวังให้เด็ก ๆ ต้องตกตายไป.”
“......”
เย่ซิงเฉินที่ลอบคิดในใจ“คิดว่าตัวเองเป็นผู้กล้าจริง ๆ รึไงกัน.”
......
ห่างออกไปนอกเมืองพันลี้.
จุนซ่างเซียวและราชันย์เจิ้นเหว่ยที่ยังคงจับจ้องมองกันและกัน.
อำนาจกระบี่ของทั้งสองที่แข็งแกร่งมากขึ้นและก็มากขึ้น เห็นชัดเจนว่าพวกเขากำลังรวมพลังเตรียมเข้าปะทะ ใหญ่กัน!
“กระบี่มังกรเหินร่ายรำ!”
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
คมกระบี่สีทองที่พวยพุ่งยืนยาวออกไปทันที ระเบิดพุ่งตรงเป็นกลุ่ม เคลื่อนไหวราวกับมังกรทองกำลังเคลื่อนออกไป.
“แปะ!”
จุนซ่างเซียวที่ดีดนิ้วออกมาเช่นกัน.
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
ริ้วแสงกระบี่มากมายที่บินออกไปอย่างอิสระ!
อำนาจกระบี่ที่ใหญ่โตพุ่งออกไปด้วยพลังที่แข็งแกร่งทรงพลัง ราวกับสัตว์ร้ายสองตนที่เคลื่อนเข้าหากัน!
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมม!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมม!”
อำนาจกระบี่ที่ปะทะกันราวกับคลื่น สายฝนสองสายปะทะกันอย่างหนักหน่วงรุนแรง.
ในเวลานั้น บนท้องฟ้าที่กลายเป็นมืดครึ้ม ริ้วแสงเป็นประกายระยิบระยับ แตกออกมาดั่งดอกไม้ไฟทันที แสงประกายไฟที่ทำให้กลางคืนกลายเป็นกลางวันทันที!
ติ๊ง ๆ!
เคร้ง ครืนนนนน
จุนซ่างเซียวและราชันย์เจิ้นหยางที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าด้วยท่าทางอหังการ อำนาจกระบี่ของทั้งสองที่เข้าปะทะกันไม่มีใครยอมใคร.
“......”
นายน้อยหยวนและเหล่าหลินที่หายใจแรงเร็ว.
ในเวลานี้ ในครรลองสายตาของพวกเขา ภาพที่ส่องสว่างวับวาวบนท้องฟ้า ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก.
หากไม่มั่นใจว่าทั้งสองนั้นมีระดับปราชญ์เท่านั้น คงสงสัยว่านี่คือเป็นการต่อสู้ของราชันย์อย่างแน่นอน!
“ฟิ้ว-”
ริ้วแสงกระบี่มากมายที่เข้าปะทะกัน ร่างของราชันย์เจิ้นเหว่ยที่เปล่งแสงสีแดง ก่อนที่จะรวมตัวเข้ากับกระบี่ของตัวเองพุ่งเข้าหาจุนซ่างเซียว ขณะอยู่ห่างจากจุนซ่างเซียวสิบจั้ง!
“เจ้านิกายจุน!”
“การต่อสู้นี้ มันจบแล้ว!”
“ฟู่ ฟู่!”
ริ้วแสงสีทองที่เปล่งประกาย ตัดห้วงมิติพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว.
จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้ว เขามีตัวเลือกอย่างเดียวคือรวมอำนาจกระบี่รอบ ๆ กลับมา กับสร้างม่านพลังขึ้นมาป้องกัน.
ในเวลานั้น ราชันย์เจิ้นเหว่ยที่มุมปากยกยิ้มอย่างมีชัย คมกระบี่ของเขาทันใดนั้นก็มีเพลิงลุกโชนขึ้นปกคลุมทันที พร้อมกับเสียงตะโกนดัง“เพลิงโลหิต อำนาจเผาไหม้มิติ!”
จุนซ่างเซียวดวงตาส่ายไปมา เอ่ยด้วยความตกใจ “เจ้านี่ หรือว่าผู้ฝึกยุทธ์ธาตุเพลิง!”
“ตูมมมมม ----”
เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ท้องฟ้าที่กลายเป็นสีแดงฉาน อำนาจกระบี่ที่ส่องสว่างที่หยุดลง และสลายหายไปในอากาศ.
“ฟิ้ว!”
ราชันย์เจิ้นเหว่ยที่บินออกมาจากพื้นที่เปลวเพลิง ใบหน้าที่เผยยิ้มอย่างผู้มีชัย.
......
“นายน้อย!”
เหล่าหลินเอ่ยด้วยความตกใจ “การต่อสู้จบแล้ว!”
“ผลแพ้ชนะเป็นอย่างไร!”นายน้อยหยวนที่เอ่ยกล่าวสอบถามออกมาทันที.
เปลวเพลิงที่ลุกไหม้ท้องฟ้าเป็นบริเวณกว้าง เหล่าหลินเอ่ยอย่างจริงจัง “บางที่เจ้านิกายจุนคงพ่ายแพ้ ไม่ตายก็คงบาดเจ็บหนัก!”
นายน้อยหยวนที่ดวงตาเบิกกว้าง พร้อมกับยกมือขึ้นปิดหน้าเอาไว้ พร้อมกับหัวเราะเสียงดัง.
ทว่าเสียงหัวเราะนั้นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความเศร้าใจขึ้นมาด้วย “กับศัตรูที่ทรงพลังเช่นนั้น กับไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยพลังของตัวเอง ชีวิตของข้านี้มันช่างน่าอนาถจริง ๆ.”