ตอนที่แล้วChapter 1051 สร้างความวุ่นวายในเมืองเจิ้นเหว่ย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1053 เจ้านิกายของแผ่นดินใหญ่

Chapter 1052 ถึงกับจะทำลายบ้านเมืองตัวเอง


ระบบที่ตอนนี้รู้สึกเศร้าใจอย่างมาก.

เพราะว่าโฮสน์เอ่ยออกมาว่าต้องมาอย่างถ่อมตน ท้ายที่สุดหลังจากถูกเปิดเผย เขาก็เข้าโจมตีเมืองเจิ้นเหว่ย ต้องไม่ลืมว่ารอบ ๆ มีคนธรรมดาด้วย.

จุนซ่างเซียววางเผยอย่างถ่อมตนตอนแรก ทว่าเพราะการป้องกันเมืองเจิ้นหยางนั้นเข้มงวดเกินไป แม้แต่ถูกค่ายกลสืบสวน ล๊อกตัวเอาไว้ ในเมื่อไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ ก็คงทำได้แค่สร้างเรื่องใหญ่โต.

ด้วยพลังบ่มเพราะปราชญ์สองวิถี ไม่มีอะไรต้องกวาดกลัวต่อราชันย์เจิ้นเหว่ยที่ไม่รู้จักใด ๆ.

อีกอย่างเหล่าครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ที่ใช้วิธีผิดปรกติเพิ่มพลังที่ปรากฏออกมา ไม่อยู่ในสายตาของเขาด้วยซ้ำ.

อย่างไรก็ตามมีเรื่องที่ทำให้โกวเซิ่งสงสัยเช่นกัน.

ศิษย์ของเขาสร้างเรื่องใหญ่ในเมืองแห่งนี้ ราชันย์เจิ้นเหว่ยกับไม่ปรากฏ อีกอย่างอย่างน้อยก็ควรมียอดฝีมือระดับปราชญ์ปรากฏตัวออกมาบ้าง นี่กับไม่ส่งออกมาเลยรึ?

กล่าวได้ว่า.

มีวิธีการการเพิ่มระดับไปถึงระดับครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์หรือไม่? เป็นไปได้ว่าพวกเขาไม่มีระดับปราชญ์ในการควบคุมรึ?

ระบบเอ่ย ”กล่าวได้ว่าจังหวัดตงไห่จวี พลังฟ้าดินค่อนข้างหนาแน่น ทว่าก็สามารถสร้างยอดฝีมือระดับปราชญ์อย่างมากได้แค่หนึ่งคนเท่านั้น.

“แล้วเจ้าคำนวณจากอะไร?”

“ปริมาณพลังวิญญาณและพื้นที่.”

“เย้ดเข้เจ้าร้ายกาจขนาดนั้นเลย! แล้วจังหวัดซีเหนียนหยางล่ะจะสร้างปราชญ์ยุทธ์ได้กี่คน?”

“เกือบไม่ถึงหนึ่งคน.”

“......”

ระบบกล่าวเพิ่ม “หลายปีมานี้ หลังจากที่ข้าวิเคราะห์แล้ว รวมทั้งจังหวัดโพ้นทะเล ความเป็นไปได้ของจังหวัดซีเหนียนหยางที่จะเกิดปราชญ์ยุทธ์นั้นมีโอกาสต่ำที่สุด.”

จุนซ่างเซียวถึงกับกุมอกเอาไว้ “เจ้าต้องการบอกว่าพื้นที่ที่ข้าอาศัยอยู่ กันดาร แย่ที่สุดอย่างงั้นรึ?”

“ไม่ผิด.”

“......”

ราวกับมีอะไรทิ่มแทงใจ.

“.....”คำพูดที่ทิ่มแทงใจของระบบยังกล่าวต่อ“การที่โฮสน์มาถึงที่นี่ได้ มีโอกาศทำให้คนของจังหวัดซีเหนียนหยางตัดผ่านระดับไปยังปราชญ์ยุทธ์มากขึ้น กล่าวได้ว่าการบ่มเพาะของศิษย์ในนิกายก็จะยกระดับอย่างต่อเนื่อง หรือกล่าวให้ถูกพวกเขาจะเติบโตอย่างมั่นคง!”

กล่าวตามตรรกะก็คงจะเป็นเช่นนั้น ทำให้จุนซ่างเซียวผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย.

“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

ขณะพูดคุยกับระบบอยู่นั้น  20 ครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ดวงตาสีแดง ก็ระเบิดพลังพร้อมกับโจมตีออกมาทันที.

จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

ภายในเมืองมีพื้นที่อาศัยอยู่มากมาย การที่เขารั้งรอไม่ลงมือ เพราะไม่ต้องการให้มีผลต่อคนบริสุทธิ์ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายกับไม่ระงับพลังเลยแม้แต่น้อย.

ระบบเอ่ย “หุ่นเชิดไร้ซึ่งความรู้สึก!”

“ฟู่ ฟู่!”

จุนซ่างเซียวที่ยกมือขึ้นสองข้าง ก่อนที่จะปรากฏเปลวเพลิงสว่างจ้า ส่องสว่างราวกับดอกไม้ไฟในเวลากลางคืน.

“เหล่าคนที่มีดวงตาสีแดงนั้น คงจะแข็งแกร่งขึ้นทักษะเพิ่มพลังของราชันย์เจิ้นเหว่ยสินะ.”

“ดังนั้นการที่พวกเขามีพลังบ่มเพาะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็ต้องแลกมาด้วยการถูกควบคุม ไร้ซึ่งการตระหนักรู้ใด ๆ!”

“คนที่ควบคุมอยู่ คงจะเป็นราชันย์เจิ้นเหว่ยหรือไม่?”

“ไม่ผิด!”

“ตูมมม! ตูมมม! ตูมมมม!”

ในเวลานั้นจุนซ่างเซียวที่ควบคุมพลังเข้าปะทะเหล่าครึ่งก้าวปราชญ์ รวมพลังไว้ที่หมัดพร้อมกับต่อยออกไป เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พลังของเขาล้นออกไปทำร้ายผู้บริสุทธิ์.

“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

เทียบกับอีกฝั่งครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ของเมืองเจิ้นเหว่ยแล้ว พวกเขาที่ใช้ทักษะและพลังอย่างหนักหน่วงรุนแรง ไม่สนใจว่าจะส่งผลต่อผู้ใดหรือบ้านเรือนในเมืองแม้แต่น้อย.

จากการกระทำของพวกเขาแล้วไม่ได้สนใจประชาชน ใช้พลังอย่างบ้าคลั่ง ไม่สนใจใครหน้าใหนแม้แต่น้อย.

“กึก ครืนนนนน---”

หมัดเพลิงของจุนซ่างเซียวที่ต่อยออกไป ครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์กระเด็นลอยออกไปนอกเมือง.

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

รอบ ๆ เมืองที่เวลานี้ มีกองทหารขี่เพกาซัสพุ่งตรงมาด้วยความเร็ว รวมตัวกันเต็มถนน.

นอกเมือง ทหารที่กระจายปิดทางตะวันออก ตะวันตก ใต้และเหนือ.

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”

แม่ทัพคนหนึ่งที่กวัดแกว่งกระบี่ยาว ควบคุมทหาร 100,000 คน ในมือของพวกเขาที่เปลี่ยนเป็นคันศร พร้อมกับยิงเข้ามาในเมือง.

จ้องมองลงจากท้องฟ้า จะเห็นทหารหลายแสนคนที่กำลังโจมตีเข้ามาด้านในเห็นเป็นเหมือนกับริ้วแสงที่สานเป็นร่างแหเพื่อจับตัวจุนซ่างเซียวและศิษย์ทั้งสี่คน.

“ตูมมมม!”

“ตูมมมม!”

เซียวจุ้ยจื่อที่เข้าปะทะกับกองกำลังเพกาซัส กวาดตามองไปยังทหารยิงคันศรเข้ามานับแสน กล่าวออกมาด้วยความตกใจ“นี่พวกเขาไม่กลัวว่าจะทำร้ายคนบริสุทธ์ในเมืองอย่างงั้นรึ?”

“บ้าไปแล้ว!”

หลี่ชิงหยางที่ตะโกนเสียงดัง“คนพวกนี้บ้าไปแล้ว!”

ลูกศรที่พุ่งมานั้นส่องประกายแสงวับวว แล้วเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว.

ไม่ได้หวั่นเกรงว่า ใครจะเป็นอะไร หรือแม้แต่สิ่งก่อสร้างด้านในจะพังทลายไปเลยอย่างงั้นรึ?

ภายในเมืองเจิ้นเหว่ยนั้นมีสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ มากมาย.

หากถูกลูกศรระเบิดเข้า จะต้องเสียหายพังทลายอย่างแน่นอน.

“เปิ่นจั้วไม่อยากเชื่อเลยจริง ๆ ว่าคนเหล่านี้จะกล้าทำลายบ้านเรือนเมืองตัวเอง!”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

“เจ้าพวกโจรชั่ว หลีกหนีให้ห่างจากวังหลวงซะ!”

ด้านนอกเมือง แม่ทัพคนหนึ่งที่สวมเกราะหนัก ขี่เพกาซัส ชักกระบี่ออกจากฝัก ตะโกนเสียงดัง“เตรียมคันศรเทวะ!”

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”

ทหารทั้งหนึ่งแสนคนเปลี่ยนคันศรเป็นหน้าไม้ พร้อมกับเตรียมที่จะโจมตีเข้ามา!

“เย้ดเข้!”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “พวกเขากล้าโจมตีเข้ามาจริง ๆ รึ?”

เหล่าทหารที่เตรียมรุกเข้ามาในเมือง หลังจากได้ยินเสียงแม่ทัพสั่งการ ก็เร่งรีบถอยหลังกลับไปในทันที.

ในเวลานั้น จุนซ่างเซียวและพวกหลี่ชิงหยางลอยอยู่บนท้องฟ้าเมืองเจิ้นเหว่ย รอบ ๆ ไม่มีศัตรู ทว่าด้านล่างกับเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชนอยู่หนาแน่น.

กลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้นเป็นคนศรระเบิดอย่างแน่นอน.

รอบ ๆ เมือง ทหารหนึ่งแสนนายที่เตรียมตัวไว้เรียบร้อยแล้ว สายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา เหมือนกับว่าไม่สนใจใคร เมื่อปล่อยลูกศร ประชาชนจำนวนมากในเมืองจะต้องบาดเจ็บล้มตายอย่างแน่ ๆ.

จุนซ่างเซียวที่กล่าวอย่างไม่แยแสเช่นกัน “ในเมื่อกล้ายิง ก็ยิงมาเลย.”

ในเมื่อไม่สนใจพวกเดียวกัน แล้วทำไมเขาต้องสนใจด้วยล่ะ.

“ปล่อยลูกศร!”

แม่ทัพที่สั่งการในที่สุด!

น้ำเสียงที่ไร้ความรู้สึก ราวกับว่าในสานตาของเขา ศัตรูที่บุกวังหลวง พวกเขาพร้อมที่จะโจมตีโดยแลกกับทุกสิ่งทุกอย่างที่มี!

“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

ลูกศรทั้งแสนดอกก็ยิงเข้ามา.

เพราะว่าลูกศรระเบิด จึงเห็นเป็นริ้วแสงลากยาวพุ่งเข้ามา.

หนึ่งลูกศรที่ระเบิด แล้วหนึ่งแสนดอกล่ะ จะระเบิดมากมายเพียงใด.

“......”

จุนซ่างเซียวที่ไม่คาดคิดเลยว่าอีกฝ่ายเพื่อที่จะโจมตีพวกเขาไม่กี่คนก็พร้อมจะสละคนทั้งหมด.

“วูซซซซซ!”

วังหลวง ที่ส่องประกายแสงวับวาว พร้อมกับม่านพลังป้องกันที่หนาแน่นปกป้องพื้นที่ดังกล่าวเอาไว้.

จุนซ่างเซียวที่ยกนิ้วโป้งให้ พร้อมกับกล่าวออกมาว่า“ปกป้องวังหลวงเอาไว้ ส่วนประชาชนคนทั่วไปจะเป็นอย่างไรก็ช่าง ยอดเยี่ยม!”

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”

ลูกศรมากมายที่พุ่งลอยมาราวกับห่าฝน!

หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อ พวกทั้งสี่คนย่อมไม่สนใจนัก เพราะว่าพวกเขามีมากมายหลายวิธีที่จะหลบลูกศรเหล่านั้น.

เพราะการโจมตีก่อนหน้านี้ มีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่พังทลาย บ้านหลังหนึ่งมีเด็กเล็กวิ่งออกมา พร้อมกับยืนอยู่นอกบ้านที่พังทลายพลางตะโกนและร้องไห้โฮ“พ่อ แม่!”

พ่อ แม่ของเขาที่ตอนนี้จมอยู่ในเศษซากของบ้านที่พังทลาย และในอกของแม่นั้นก็มีเด็กอีกคนที่กอดอยู่อย่างทุลักทุเล.

“......”

ราวกับมีดแทงใจความเป็นมนุษย์ของจุนซ่างเซียว เขาที่เห็นเด็กเล็กที่ร้องไห้ ก่อนที่จะเอ่ยออกมว่า“สหายน้อย ไม่ต้องกังวล.”

“วึ้ง วึ้ง วึ้ง!”

เศษบ้านที่พังทลายลอยขึ้นมาในทันที.

ใบหน้าของหลี่ชิงหยางที่เผยยิ้มพลาย เพราะเขาไม่คาดคิดว่าเจ้านิกายจะช่วยสามีภรรยาที่ไม่ใช่ญาติมิตรหรือคนรู้จักของตัวเอง.

ไม่สิ!

เจ้านิกายนับเป็นคนมีเมตตา.

เขาเป็นคนที่ปากไม่ตรงกับใจอยู่แล้ว.

“กึก!

เซียวจุ้ยจื่อที่ร่อนลงบนพื้น ก่อนที่จะยกมือขึ้น พร้อมกับปลดปล่อยพลังธาตุปฐพีออกมา พร้อมกับสร้างกำแพงดินขึ้นมาจากบนพื้น.

“กึก ครืนนน!”

พื้นดินที่ลอยขึ้นไปบนอากาศ ก่อรูปเป็นกำแพงป้องกันลูกศรทั้งหนึ่งแสนดอกที่โจมตีมา.

เสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ ๆ.

กำแพงดินขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนฟ้า.

เซียวจุ้ยจื่อที่มีพลังป้องกันที่ไม่ธรรมดา.

สามารถต้านลูกศรที่ยิงเข้ามาได้อย่างง่ายดาย.

ภาพที่เห็นนั้น ดูน่าปราบปลื้มเป็นอย่างมาก.

ในเวลานี้ทหารเมืองเจิ้นเหว่ยที่กล้าโจมตีมายังประชาชนของตัวเอง ทว่าศิษย์นิกายนิรันดรกับปกป้องบ้านเมืองของพวกเขาเอาไว้!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด