ตอนที่แล้วChapter 1050 เจ้าสามารถ เปิ่นจั้วเชื่อใจอย่างที่สุด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1052 ถึงกับจะทำลายบ้านเมืองตัวเอง

Chapter 1051 สร้างความวุ่นวายในเมืองเจิ้นเหว่ย


“วูซซซ!”

“วูซซซ!”

ขณะจุนซ่างเซียวและศิษย์กำลังวางแผนอยู่นั้น บนท้องฟ้าก็ปรากฏริ้วแสงสว่างเจ้า ม่านพลังค่ายกลที่มองไม่เห็นปรากฏขึ้น จากนั้นก็สั่นไหวไปทั่วเมือง.

“นี่มันอะไร?”

“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

คลื่นพลังค่ายกลที่สาดไปทั่วเมือง จากนั้นร่างกายของพวกเขาทั้งห้าก็เปล่งแสงสีแดง.

จุนซ่างเซียวที่คิดอย่างรวดเร็ว กล่าวออกมาด้วยความตกใจ “หรือว่าคือค่ายกลระบุตัวตนอย่างงั้นรึ?”

“มีคนนอกที่ไม่ใช่คนเมืองเจิ้นเหว่ย!”

“ไปจับตัวเร็วเข้า!”

“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

เมืองที่เงียบสงบกลายเป็นวุ่นวายขึ้นมาทันที ทหารมากมายที่พุ่งตรงมายังทิศทางของแสงสีแดงทั้งห้าอย่างรวดเร็ว.

พวกเขาที่เร่งรีบเข้ามาจับตัวอย่างรวดเร็ว.

แน่นอนว่าคนที่ลอบเข้าเมือง โดยที่ไม่มีบัตรประจำตัว จะถูกหมายหัวในทันที.

“นี่มัน!”

จุนซ่างเซียวแทบทรุด.“มีค่ายกลตรวจสอบสถานะด้วย?”

เย่ซิงเฉินและเหออู๋ตี้  ภายในใจที่ดีใจขึ้นมาในทันที.

ในเมื่อถูกพบตัวแล้ว ก็ไม่ต้องปลอมตัว คำแนะนำของเจ้านิกายให้ปลอมตัวเป็นสตรีเพื่อสืบข้อมูลก็ไม่ต้องทำแล้ว!

“เจ้านิกาย!”

หลี่ชิงหยางที่เงยหน้าพลางขมวดคิ้วไปมา“พวกเราถูกเปิดเผยแล้ว ควรทำอย่างไร.....”

ในเวลานี้ดูเหมือนว่าไม่มีที่ให้ถอยแล้ว.

จุนซ่างเซียวไม่รู้ว่าหวีผมจัดทรงตั้งชี้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ นอกจากนี้ยังนำแว่นตากันแดดออกมาสวม พร้อมกับปากคีบบุหรี่อีกด้วย “ก็คงทำได้แค่สู้กลับเท่านั้น!”

ระบบแทบล้มตึง เอ่ยออกไปว่า“แล้วมันตัวไหนกันที่บอกว่าไม่ให้ใช้อารมณ์ส่วนตัว เพื่อไม่ให้แผนการใหญ่เสียหาย บางครั้งก็ต้องอดทน ตอนนี้กับจะใช้กำลังซะแล้ว!”

“ฟู่ ฟู่!”

“ฟู่ ฟู่! ซูมมมมม!”

เย่ซิงเฉินที่ปะทุพลังบ่มเพาะออกมาทันที!

“ฟิ้ว---”

กระบี่ยาวสามฉื่อที่ชักออกจากฝัก เงาของปราณกระบี่ที่กวาดออกไปยังท้องฟ้าที่มืดครึ้มทันที.

“พรึดซี่!”

“พรึดซี่!”

ริ้วแสงกระบี่ที่สาดออกไป โลหิตที่พุ่งกระฉูดไปทุกที่.

“ฟิ้ว!”

เย่ซิงเฉินที่กระโดดขึ้นไปยืนบนหลังคา กระบี่ที่คมกริบของเขาชโลมด้วยโลหิต.

“โครม! โครม!”

ทหารมากกว่าสิบคนที่ไกลออกไป หัวหลุดลอยนอนเกลื่อนตามทาง.

ตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเขาแทบจะไม่สามารถมองเห็นริ้วแสงที่พุ่งมาเลย สัมผัสได้เพียงแค่ความเย็นยะเยือบ ก่อนที่ศีรษะและร่างจากขาดออกจากกันแล้ว.

ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สลัว ๆ เย่ซิงเฉินที่ยืนอยู่อย่างอหังการ “สังหารพวกขยะเหล่านี้ก็จบแล้ว ไฉนเลยต้องปลอมตัวเป็นสตรีกัน เป็นเรื่องโง่จริง ๆ!”

“ฟู่ ฟู่!”

“ฟู่ ฟู่!”

ในเวลาต่อมา ทหารอีกหลายสิบคนทั้งซ้ายและขวาก็ถูกพลังกระแทกกระเด็นออกไปอีก.

“วูซซซซซ!”

“วูซซซซซ!”

เย่ซิงเฉินที่ใช้ทักษะเคลื่อนย้ายจักรวาล สร้างม่านพลังป้ากั้วขึ้นมา.

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”

พลังมากมายจากหลากหลายสายที่โจมตีมาก ถูกเคลื่อนย้ายตำแหน่งส่งคืนกลับไป เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว.

“ตูมมมมม!”

เซียวจุ้ยจื่อที่ยกมือขึ้นต่อยออกไปทันที.

“ฟิ้ว ฟิ้ว!”

ในเวลานั้นถนนขนาดใหญ่ที่พังทลายลงในทันที พื้นดินแยกออกเป็นสองส่วนตัดทางของเหล่าทหารเอาไว้.

หลังจากต่อสู้กันในเวลาสั้น ๆ เหล่าทหารที่หลั่งไหลมามากขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลานั้นทหารที่ถือคันศรยาวที่ทรงพลังพร้อมกับเริ่มง้างสาย.

อย่างไรก็ตาม.

ขณะที่จะเหนี่ยวสายออกไปนั้น ก็สัมผัสถึงพลังที่กวาดเข้ามาหาทันที.

เหออู๋ตี้ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ก่อนที่จะปล่อยหมัดอากาศลงมา พร้อมกับเผยยิ้ม “ลอบโจมตีด้านหลัง นี่คือการกระทำของวีรบุรุษอย่างงั้นรึ?”

“เจ้าโจรอหังการ!”

“ตายซะ!”

ทหารที่มีพลังกษัตริย์ยุทธ์ขั้นปลายสองคนที่บินมาแต่ไกล พร้อมกับควงขวานใหญ่สับลงในทันที.

“ฟิ้ว!”

“ฟิ้ว!”

ริ้วแสงปราณขวานที่พุ่งจากบนลงล่าง.

เหออู๋ตี้ที่เผยยิ้มออกมา ปราณขวานที่พุ่งมายังหน้าผากของเขา ถูกหยุดเอาไว้ในทันที มีเพียงผมของเขาที่โบกสะบัด.

“รับมันคืนไป!”

“ตูมมม ตูมมมม!”

ปราณขวานของทั้งสองที่พังทะลายกระเด้งคืนกับร่างทั้งสองลอยกระเด็นออกไปในทันที.

เหออู๋ตี้ที่ยกมือสองข้างขึ้น ก่อนที่จะปล่อยแสงเจ็ดสีทำลายล้างโจมตีเหล่าทหารที่ถือคันศรกระเด็นออกไปตาม ๆ กัน.

“แฮก ๆ!”

บนหอคอยกำแพงเมือง เหล่านักรบเพกาซัสที่บินตรงมาทันที ทหารเหล่านี้ล้วนแต่มีระดับกษัตริย์ยุทธ์ทั้งนั้น!

“ฟิ้ว---”

เย่ซิงเฉินที่บินออกไป พร้อมกับเริ่มไล่ล่าสังหารเหล่ากองทหารในทันที.

ริ้วแสงกระบี่ที่ขยับ ศีรษะ แขนขาที่ลอยกระเด็น โลหิตสาดกระจายไปทั่ว.

“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

บนหอคอยประตูเมือง เหล่าทหารมากมาย ที่รวมตัวกันอยู่ เคลื่อนทัพเข้ามาในทันที จำนวนน่าจะมากมายหลายพันหลายหมื่นคน!

ขณะจ้องมองลงไป.

ศิษย์ทั้งสี่ของนิกายนิรันดร เริ่มเข้าสู่การสังหารอย่างบ้าคลั่งทันที!

“ฟู่ ฟู่!”

“ฟู่ ฟู่ ซูมมม-”

พลังมากล้นที่ระเบิดสาดกระจายไปทั่ว เหล่าทหารและสัตว์ขี่ที่ลอยกระเด็นไปทั่วทุกสารทิศ.

ภาพเหตุการณ์ดูอลังการเป็นอย่างมาก ดูแล้วทำให้โลหิตสูบฉีด ความแข็งแกร่งของนิกายนิรันดรนั้นน่าเกรงขามอย่างแท้จริง.

“แปลก.”

บนยอดป้อมปราการณ์ จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ เอ่ยออกมาว่า“การต่อสู้ที่รุนแรงขนาดนี้ ประชาชนที่อยู่รอบ ๆ ไม่ออกมาชมการต่อสู้เลยรึ?”

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”

เขาที่สวมเซ็ตเจิ้นหยาง ชุดสีแดงที่ลอยเด่นสะดุดตาเป็นอย่างมาก.

ภายใต้แสงจันทร์ที่ดูสลัว ๆ ยิ่งทำให้ดูเท่ขึ้นไปอีกขั้น.

“......”

จุนซ่างเซียวที่เงยหน้าจ้องมองไปยังพื้นที่วังหลวงเป็นเขตแดนตั้งห้ามที่มีค่ายกลปิดแยกล้อมเอาไว้ กล่าวด้วยความสงสัย“ราชันย์เจิ้นเหว่ยนอนกอดสนมหลับอยู่งั้นรึ?”

“วูซซ!”

“วูซซ!”

ในเวลานั้น จากภายในเขตแดนวังหลวง ริ้วแสงริ้วหนึ่งก็พุ่งออกมา.

เงาดังกล่าวเคลื่อนที่เร็วเป็นอย่างมาก พริบตาเดียวก็มาอยู่ด้านหลังเย่ซิงเฉินแล้ว ก่อนฟาดฝ่ามือออกไป “เจ้าหนู แส่หาความตาย!”

“ตูมมมม ----”

จากบนท้องฟ้ากระเด็นกระแทกพื้นถนนระเบิดเสียงกึกก้อง.

“ฟิ้ว!”

เย่ซิงเฉินที่กระแทกพื้นจนพลังทลาย แววตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.

ในเวลานั้นปรากฏชายชราที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เพราะว่าเขาไม่เพียงไม่สามารถสังหารเป้าหมายให้ตายได้ ทว่ายังปรากฏชายหนุ่มสวมเกราะรบขวางทางเอาไว้.

“เจ้าแก่.”

จุนซ่างเซียวที่เข้ามาขวาง แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา“คิดจะสังหารศิษย์เปิ่นจั้ว ฝันไปเถอะ!”

“ฟู่ ฟู่!”

กลิ่นอายของปราชญ์ยุทธ์และกระบี่ปะทุขึ้นมาทันที กลิ่นอายที่ราวกับอสุรกายจากโบราณปรากฏกาย.

ครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ที่เห็นรู้สึกขนลุกทั่วร่างก่อนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นดังขึ้นมาทันที!

“ไม่......”

“ตูมมมม!”

เพียงหมัดเดียว เปี่ยมล้นด้วยพลังกระแทกไปที่หน้าอกของชายชรา ร่างกายลอยกระเด็นกระแทกกำแพงเมือง ลอยกระเด็นไปถึงภูเขาลูกใหญ่ หัวปักอยู่ที่ตรงนั้น.

“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

จากภายใตวังหลวงภายในเขตแดนลับ ริ้วแสงอีกหลายเส้นก็ปรากฏขึ้นในทันที.

พริบตาเดียวเหล่ายอดฝีมือ ครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ 20 คนที่ปรากฏขึ้น คนเหล่านี้ดูแตกต่างจากชายชรา แววตาที่มีประกายสีแดง ใบหน้าไร้ความรู้สึก.

สิ่งที่เหมือน ๆ กันคือ ความแข็งแกร่งโดยรวมดูค่อนข้างว่างเปล่า น่าจะยกระดับขึ้นมาด้วยวิธิการบางอย่าง ทำให้พลังบ่มเพาะไม่ค่อยเสถียรนัก.

“หุ่นเชิดรึ?”

จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

“ตูมมมม!”

“ตูมมมม!”

อีกฝั่ง หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อที่ไม่ได้หยุด ยังคงเข้าปะทะกับเหล่าทหารอย่างบ้าคลั่ง.

......

“นายน้อย.”

เหล่าหลินที่ก้าวตามมาเอ่ยออกไปว่า“ได้ยินมาว่าที่เมืองเจิ้นเหว่ยนั้นการคุ้มกันแน่นหนา แล้วพวกเราจะแฝงตัวเข้าไปได้อย่างไร?”

“ไม่มีปัญหา.”

นายน้อยหยวนกล่าวอย่างภาคภูมิ.

เขาที่จ้องมองไปยังทิศทางของเมืองเจิ้นเหว่ย เต็มไปด้วยความคาดหวัง “เมืองแห่งนี้ จะเป็นเวทีให้ข้า สร้างชื่อเสียง!”

“จุนซ่างเซียว อ๊าก จุนซ่างเซียว.”

“ข้าที่ต้องตัดขาดกับนิกายราชันย์มาร ข้าจะต้องกลับมายิ่งใหญ่ยิ่งกว่าเดิม คงต้องขอบคุณเจ้าแล้ว!”

......

เวลากลางคืน.

มากกว่าครึ่งหนึ่งของเมือง.

ภายใต้กลุ่มของหลี่ชิงหยาง ได้ทำให้ทุกอย่างพังทลายเป็นบริเวณกว้าง.

เมื่อนายน้อยหยวนและเหล่าหลิงเดินทางมาถึง เห็นทุกอย่างพังทลายลง จะเผยท่าทางแบบใดออกมากัน?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด