Chapter 1051 สร้างความวุ่นวายในเมืองเจิ้นเหว่ย
“วูซซซ!”
“วูซซซ!”
ขณะจุนซ่างเซียวและศิษย์กำลังวางแผนอยู่นั้น บนท้องฟ้าก็ปรากฏริ้วแสงสว่างเจ้า ม่านพลังค่ายกลที่มองไม่เห็นปรากฏขึ้น จากนั้นก็สั่นไหวไปทั่วเมือง.
“นี่มันอะไร?”
“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
คลื่นพลังค่ายกลที่สาดไปทั่วเมือง จากนั้นร่างกายของพวกเขาทั้งห้าก็เปล่งแสงสีแดง.
จุนซ่างเซียวที่คิดอย่างรวดเร็ว กล่าวออกมาด้วยความตกใจ “หรือว่าคือค่ายกลระบุตัวตนอย่างงั้นรึ?”
“มีคนนอกที่ไม่ใช่คนเมืองเจิ้นเหว่ย!”
“ไปจับตัวเร็วเข้า!”
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
เมืองที่เงียบสงบกลายเป็นวุ่นวายขึ้นมาทันที ทหารมากมายที่พุ่งตรงมายังทิศทางของแสงสีแดงทั้งห้าอย่างรวดเร็ว.
พวกเขาที่เร่งรีบเข้ามาจับตัวอย่างรวดเร็ว.
แน่นอนว่าคนที่ลอบเข้าเมือง โดยที่ไม่มีบัตรประจำตัว จะถูกหมายหัวในทันที.
“นี่มัน!”
จุนซ่างเซียวแทบทรุด.“มีค่ายกลตรวจสอบสถานะด้วย?”
เย่ซิงเฉินและเหออู๋ตี้ ภายในใจที่ดีใจขึ้นมาในทันที.
ในเมื่อถูกพบตัวแล้ว ก็ไม่ต้องปลอมตัว คำแนะนำของเจ้านิกายให้ปลอมตัวเป็นสตรีเพื่อสืบข้อมูลก็ไม่ต้องทำแล้ว!
“เจ้านิกาย!”
หลี่ชิงหยางที่เงยหน้าพลางขมวดคิ้วไปมา“พวกเราถูกเปิดเผยแล้ว ควรทำอย่างไร.....”
ในเวลานี้ดูเหมือนว่าไม่มีที่ให้ถอยแล้ว.
จุนซ่างเซียวไม่รู้ว่าหวีผมจัดทรงตั้งชี้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ นอกจากนี้ยังนำแว่นตากันแดดออกมาสวม พร้อมกับปากคีบบุหรี่อีกด้วย “ก็คงทำได้แค่สู้กลับเท่านั้น!”
ระบบแทบล้มตึง เอ่ยออกไปว่า“แล้วมันตัวไหนกันที่บอกว่าไม่ให้ใช้อารมณ์ส่วนตัว เพื่อไม่ให้แผนการใหญ่เสียหาย บางครั้งก็ต้องอดทน ตอนนี้กับจะใช้กำลังซะแล้ว!”
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่! ซูมมมมม!”
เย่ซิงเฉินที่ปะทุพลังบ่มเพาะออกมาทันที!
“ฟิ้ว---”
กระบี่ยาวสามฉื่อที่ชักออกจากฝัก เงาของปราณกระบี่ที่กวาดออกไปยังท้องฟ้าที่มืดครึ้มทันที.
“พรึดซี่!”
“พรึดซี่!”
ริ้วแสงกระบี่ที่สาดออกไป โลหิตที่พุ่งกระฉูดไปทุกที่.
“ฟิ้ว!”
เย่ซิงเฉินที่กระโดดขึ้นไปยืนบนหลังคา กระบี่ที่คมกริบของเขาชโลมด้วยโลหิต.
“โครม! โครม!”
ทหารมากกว่าสิบคนที่ไกลออกไป หัวหลุดลอยนอนเกลื่อนตามทาง.
ตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเขาแทบจะไม่สามารถมองเห็นริ้วแสงที่พุ่งมาเลย สัมผัสได้เพียงแค่ความเย็นยะเยือบ ก่อนที่ศีรษะและร่างจากขาดออกจากกันแล้ว.
ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สลัว ๆ เย่ซิงเฉินที่ยืนอยู่อย่างอหังการ “สังหารพวกขยะเหล่านี้ก็จบแล้ว ไฉนเลยต้องปลอมตัวเป็นสตรีกัน เป็นเรื่องโง่จริง ๆ!”
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่!”
ในเวลาต่อมา ทหารอีกหลายสิบคนทั้งซ้ายและขวาก็ถูกพลังกระแทกกระเด็นออกไปอีก.
“วูซซซซซ!”
“วูซซซซซ!”
เย่ซิงเฉินที่ใช้ทักษะเคลื่อนย้ายจักรวาล สร้างม่านพลังป้ากั้วขึ้นมา.
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
พลังมากมายจากหลากหลายสายที่โจมตีมาก ถูกเคลื่อนย้ายตำแหน่งส่งคืนกลับไป เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว.
“ตูมมมมม!”
เซียวจุ้ยจื่อที่ยกมือขึ้นต่อยออกไปทันที.
“ฟิ้ว ฟิ้ว!”
ในเวลานั้นถนนขนาดใหญ่ที่พังทลายลงในทันที พื้นดินแยกออกเป็นสองส่วนตัดทางของเหล่าทหารเอาไว้.
หลังจากต่อสู้กันในเวลาสั้น ๆ เหล่าทหารที่หลั่งไหลมามากขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลานั้นทหารที่ถือคันศรยาวที่ทรงพลังพร้อมกับเริ่มง้างสาย.
อย่างไรก็ตาม.
ขณะที่จะเหนี่ยวสายออกไปนั้น ก็สัมผัสถึงพลังที่กวาดเข้ามาหาทันที.
เหออู๋ตี้ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ก่อนที่จะปล่อยหมัดอากาศลงมา พร้อมกับเผยยิ้ม “ลอบโจมตีด้านหลัง นี่คือการกระทำของวีรบุรุษอย่างงั้นรึ?”
“เจ้าโจรอหังการ!”
“ตายซะ!”
ทหารที่มีพลังกษัตริย์ยุทธ์ขั้นปลายสองคนที่บินมาแต่ไกล พร้อมกับควงขวานใหญ่สับลงในทันที.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
ริ้วแสงปราณขวานที่พุ่งจากบนลงล่าง.
เหออู๋ตี้ที่เผยยิ้มออกมา ปราณขวานที่พุ่งมายังหน้าผากของเขา ถูกหยุดเอาไว้ในทันที มีเพียงผมของเขาที่โบกสะบัด.
“รับมันคืนไป!”
“ตูมมม ตูมมมม!”
ปราณขวานของทั้งสองที่พังทะลายกระเด้งคืนกับร่างทั้งสองลอยกระเด็นออกไปในทันที.
เหออู๋ตี้ที่ยกมือสองข้างขึ้น ก่อนที่จะปล่อยแสงเจ็ดสีทำลายล้างโจมตีเหล่าทหารที่ถือคันศรกระเด็นออกไปตาม ๆ กัน.
“แฮก ๆ!”
บนหอคอยกำแพงเมือง เหล่านักรบเพกาซัสที่บินตรงมาทันที ทหารเหล่านี้ล้วนแต่มีระดับกษัตริย์ยุทธ์ทั้งนั้น!
“ฟิ้ว---”
เย่ซิงเฉินที่บินออกไป พร้อมกับเริ่มไล่ล่าสังหารเหล่ากองทหารในทันที.
ริ้วแสงกระบี่ที่ขยับ ศีรษะ แขนขาที่ลอยกระเด็น โลหิตสาดกระจายไปทั่ว.
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
บนหอคอยประตูเมือง เหล่าทหารมากมาย ที่รวมตัวกันอยู่ เคลื่อนทัพเข้ามาในทันที จำนวนน่าจะมากมายหลายพันหลายหมื่นคน!
ขณะจ้องมองลงไป.
ศิษย์ทั้งสี่ของนิกายนิรันดร เริ่มเข้าสู่การสังหารอย่างบ้าคลั่งทันที!
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมม-”
พลังมากล้นที่ระเบิดสาดกระจายไปทั่ว เหล่าทหารและสัตว์ขี่ที่ลอยกระเด็นไปทั่วทุกสารทิศ.
ภาพเหตุการณ์ดูอลังการเป็นอย่างมาก ดูแล้วทำให้โลหิตสูบฉีด ความแข็งแกร่งของนิกายนิรันดรนั้นน่าเกรงขามอย่างแท้จริง.
“แปลก.”
บนยอดป้อมปราการณ์ จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ เอ่ยออกมาว่า“การต่อสู้ที่รุนแรงขนาดนี้ ประชาชนที่อยู่รอบ ๆ ไม่ออกมาชมการต่อสู้เลยรึ?”
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
เขาที่สวมเซ็ตเจิ้นหยาง ชุดสีแดงที่ลอยเด่นสะดุดตาเป็นอย่างมาก.
ภายใต้แสงจันทร์ที่ดูสลัว ๆ ยิ่งทำให้ดูเท่ขึ้นไปอีกขั้น.
“......”
จุนซ่างเซียวที่เงยหน้าจ้องมองไปยังพื้นที่วังหลวงเป็นเขตแดนตั้งห้ามที่มีค่ายกลปิดแยกล้อมเอาไว้ กล่าวด้วยความสงสัย“ราชันย์เจิ้นเหว่ยนอนกอดสนมหลับอยู่งั้นรึ?”
“วูซซ!”
“วูซซ!”
ในเวลานั้น จากภายในเขตแดนวังหลวง ริ้วแสงริ้วหนึ่งก็พุ่งออกมา.
เงาดังกล่าวเคลื่อนที่เร็วเป็นอย่างมาก พริบตาเดียวก็มาอยู่ด้านหลังเย่ซิงเฉินแล้ว ก่อนฟาดฝ่ามือออกไป “เจ้าหนู แส่หาความตาย!”
“ตูมมมม ----”
จากบนท้องฟ้ากระเด็นกระแทกพื้นถนนระเบิดเสียงกึกก้อง.
“ฟิ้ว!”
เย่ซิงเฉินที่กระแทกพื้นจนพลังทลาย แววตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.
ในเวลานั้นปรากฏชายชราที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เพราะว่าเขาไม่เพียงไม่สามารถสังหารเป้าหมายให้ตายได้ ทว่ายังปรากฏชายหนุ่มสวมเกราะรบขวางทางเอาไว้.
“เจ้าแก่.”
จุนซ่างเซียวที่เข้ามาขวาง แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา“คิดจะสังหารศิษย์เปิ่นจั้ว ฝันไปเถอะ!”
“ฟู่ ฟู่!”
กลิ่นอายของปราชญ์ยุทธ์และกระบี่ปะทุขึ้นมาทันที กลิ่นอายที่ราวกับอสุรกายจากโบราณปรากฏกาย.
ครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ที่เห็นรู้สึกขนลุกทั่วร่างก่อนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นดังขึ้นมาทันที!
“ไม่......”
“ตูมมมม!”
เพียงหมัดเดียว เปี่ยมล้นด้วยพลังกระแทกไปที่หน้าอกของชายชรา ร่างกายลอยกระเด็นกระแทกกำแพงเมือง ลอยกระเด็นไปถึงภูเขาลูกใหญ่ หัวปักอยู่ที่ตรงนั้น.
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
จากภายใตวังหลวงภายในเขตแดนลับ ริ้วแสงอีกหลายเส้นก็ปรากฏขึ้นในทันที.
พริบตาเดียวเหล่ายอดฝีมือ ครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ 20 คนที่ปรากฏขึ้น คนเหล่านี้ดูแตกต่างจากชายชรา แววตาที่มีประกายสีแดง ใบหน้าไร้ความรู้สึก.
สิ่งที่เหมือน ๆ กันคือ ความแข็งแกร่งโดยรวมดูค่อนข้างว่างเปล่า น่าจะยกระดับขึ้นมาด้วยวิธิการบางอย่าง ทำให้พลังบ่มเพาะไม่ค่อยเสถียรนัก.
“หุ่นเชิดรึ?”
จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
“ตูมมมม!”
“ตูมมมม!”
อีกฝั่ง หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อที่ไม่ได้หยุด ยังคงเข้าปะทะกับเหล่าทหารอย่างบ้าคลั่ง.
......
“นายน้อย.”
เหล่าหลินที่ก้าวตามมาเอ่ยออกไปว่า“ได้ยินมาว่าที่เมืองเจิ้นเหว่ยนั้นการคุ้มกันแน่นหนา แล้วพวกเราจะแฝงตัวเข้าไปได้อย่างไร?”
“ไม่มีปัญหา.”
นายน้อยหยวนกล่าวอย่างภาคภูมิ.
เขาที่จ้องมองไปยังทิศทางของเมืองเจิ้นเหว่ย เต็มไปด้วยความคาดหวัง “เมืองแห่งนี้ จะเป็นเวทีให้ข้า สร้างชื่อเสียง!”
“จุนซ่างเซียว อ๊าก จุนซ่างเซียว.”
“ข้าที่ต้องตัดขาดกับนิกายราชันย์มาร ข้าจะต้องกลับมายิ่งใหญ่ยิ่งกว่าเดิม คงต้องขอบคุณเจ้าแล้ว!”
......
เวลากลางคืน.
มากกว่าครึ่งหนึ่งของเมือง.
ภายใต้กลุ่มของหลี่ชิงหยาง ได้ทำให้ทุกอย่างพังทลายเป็นบริเวณกว้าง.
เมื่อนายน้อยหยวนและเหล่าหลิงเดินทางมาถึง เห็นทุกอย่างพังทลายลง จะเผยท่าทางแบบใดออกมากัน?