บทที่ 6 ทวงคืนความยุติธรรม
หยางเสี่ยวเทียนดึงแขนน้องสาววิ่งออกจากลานฝึกมุ่งหน้าหาคนผิดด้วยอารมณ์เจ็บแค้นเป็นที่สุด
ไม่นาน เขาก็เห็นหยางจงกับเหล่าบรรดาลูกชายของผู้ดูแลตระกูลหยางไม่ไกลจากสนามฝึกซ้อม ทำท่าทางล้อเลียนโดนเฆี่ยนตีแล้วโอบกอดกันจากนั้นหัวเราะอย่างสนุกสนาน
“หยางจง เจ้าทำร้ายน้องสาวข้างั้นหรือ” หยางเสี่ยวเทียนเดินเข้าไปแล้วถามซึ่งหน้า
เขาเพียงเหลือบมองหยางเสี่ยวเทียนที่มีสีหน้าโกรธแค้นชัดเจน ก่อนหัวเราะออกมาแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง “ใช่ ข้าเป็นคนทำร้ายนางเอง ทำไมเจ้าลูกเต่า จะทวงความยุติธรรมให้นางงั้นหรือ”
ทันทีที่เขากล่าวจบ หยางเสี่ยวเทียนก็ไม่รีรออีกต่อไป
เขาหวดฝามือตรงยังแก้มซ้ายของคนเบื้องหน้าด้วยร่างกายที่คล่องแคล่วจากการหมั่นฝึกไทเก๊กเป็นประจำ รวดเร็วจนหยางจงไม่ทันได้ตอบสนอง นอกจากรู้สึกถึงแรงตบที่รุนแรงของอีกฝ่ายประทับยังใบหน้าเข้าอย่างจังจนแทบยันตัวนิ่งไม่ไหว
เป็นไปไม่ได้!
ด้วยความรุนแรงพร้อมเสียงที่คมชัด หยางจงถึงกับเซถอยหลังจนเกือบล้มลงกับพื้น
ความหนักหน่วงจากแรงตบทำเขาเจ็บจนหูอื้อ ก่อนปรากฏความประหลาดใจเต็มบนใบหน้า นับตั้งแต่วันที่เขาปลุกวิญญาณยุทธ์ ท่านปู่ก็รักและมีคนคอยดูแลเอาใจเพราะเป็นความภาคภูมิใจของหมู่บ้านหยางมาโดยตลอด แต่ตอนนี้หยางเสี่ยวเทียนกลับกล้าที่จะลงมือกับเขา
หยางเสี่ยวเทียน ผู้มีแค่วิญญาณยุทธ์ระดับสองกล้าลงมือกับเขา!
“เจ้า! กล้าดียังไงลงมือกับข้า” หยางจงยกมือขึ้นป้องแก้มซ้ายของตนด้วยความเจ็บแสบก่อนตะโกนออกมาด้วยความโกรธ แล้วพาลหันไปตวาดใส่เด็กหลายคนที่อยู่ตรงนั้น “พวกเจ้ามัวยืนบื้ออะไรกัน จัดการเขาซะ!”
เมื่อได้ยินคำสั่ง เหล่าเด็กน้อยตระกูลหยางก็ก้าวไปข้างหน้าพร้อมโอบล้อมหยางเสี่ยวเทียนเอาไว้ ทว่ากับเด็กวัยเดียวกันฝีมือไม่มีใครทัดเทียมเขาได้สักคน ทำให้หยางเสี่ยวเทียนจัดการเด็กพวกนั้นลงไปนอนกองกับพื้นทีละคนได้อย่างรวดเร็ว
หยางจงที่ยืนมองเห็นสถานการณ์เริ่มไม่เข้าท่ารีบหยิบแส้ขึ้นมาเตรียมสบัดฟาดไปยังใบหน้าหยางเสี่ยวเทียน ซึ่งถ้าเขาไหวตัวไม่ทันคงได้รับบาดเจ็บเป็นรอยแผลแตกฉกรรจ์แน่หากถูกโดนตัวเข้า หลังเคลื่อนตัวหลบวงหวดของแส้ได้เขาก็คว้าปลายแส้จากหยางจงไว้ ก่อนใช้แรงฟาดกลับเข้าที่แขนเขาในทันที
หยางจงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดหลังได้ลิ้มรสวงหวดจากแส้ตนเอง “หยางเสี่ยวเทียน หากข้าทะลวงเข้าสู่ขั้นนักยุทธ์ระดับหนึ่งได้เมื่อไหร่ ข้าจะจัดการเจ้าให้ตายในลานประลองของวันหารือประจำตระกูลสิ้นปีนี้”
ในการประลองสิ้นปีประจำตระกูลงั้นหรือ
เวลานั้นเอง เสียงฝีเท้าของคนหลายผู้ก็เดินปรี่ตรงมาที่นี่ เห็นได้ชัดว่าเสียงกรีดร้องของหยางจงทำให้ทุกคนในตระกูลหยางตื่นตระหนก
คนแรกที่มาถึงคือหยางไห่ เขาเห็นทันทีว่าหยางจงกำลังร้องไห้พร้อมกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
เมื่อเห็นว่าพ่อของตนมาถึง เขาจึงรีบชี้นิ้วไปที่หยางเสี่ยวเทียนพร้อมกล่าว “ท่านพ่อ หยางเสี่ยวเทียนตบหน้าข้า” จากนั้นก็ดึงแขนเสื้อตนขึ้นแล้วกล่าวหาต่อ “นั่นยังไม่พอ เขายังใช้แส้โบยข้าอีกด้วย”
พอหยางไห่เห็นใบหน้าบวมแดงและรอยแส้บนแขนลูกชาย เขาก็ถูกความโกรธครอบงำโดยไม่ถามหาเหตุผลเลยด้วยซ้ำ เขากล่าวกับหยางเสี่ยวเทียนด้วยสีหน้าเดือดดาลทันที “ต่ำช้านัก พ่อแม่สั่งสอนเจ้ามาอย่างไรไม่สำคัญ วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าเอง!” กล่าวจบ เขาก็ง้างฝ่ามือขึ้นหมายจะตบหน้าของหยางเสี่ยวเทียน
“พี่ใหญ่ ท่านจะทำอะไร!” หยางเฉาที่รีบวิ่งตามมาทีหลัง ทันเห็นเหตุการณ์จากระยะไกลก่อนจะตะโกนห้ามออกมาได้ทันพอดี
หยางไห่รีบหยุดการกระทำนั้นทันทีเมื่อเห็นหยางเฉากำลังมา แต่ในตอนนั้นเองเขาก็เห็นหยางหมิงพ่อของตนตามหลังมาด้วยเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้น” หยางหมิงตะโกนถามจากระยะไกล
“ท่านพ่อ เสี่ยวเทียนตบหน้าของจงเอ๋อร์ แล้วยังใช้แส้เฆี่ยนตีเขาอีกด้วย” หยางไห่ก้าวไปข้างหน้าแล้วกล่าวเสริมอีกครั้งว่า “ท่านดูใบหน้าที่บวมแดงของจงเอ๋อร์สิ”
“อะไรนะ!” ท่าทางของหยางหมิงเปลี่ยนไป เขารีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อดูใบหน้าที่บวมขึ้นของหยางจงหลานชายหัวแก้วหัวแหวนของตนทันที